สมชัย-บก.ลายจุด รุมแย้งโฆษก ยันรัฐบาลนี้ ไม่ใช่รัฏฐาธิปัตย์ คำสั่งนายกฯ ≠ มติครม.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4179618
สมชัย-บก.ลายจุด รุมแย้งโฆษก ยันรัฐบาลนี้ ไม่ใช่รัฏฐาธิปัตย์ คำสั่งนายกฯ ≠ มติครม.
จากกรณีที่ นายสัตวแพทย์
ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก ถึงกรณีวิธีการจะยกเลิกคำสั่งคสช.ว่า สามารถใช้ มติคณะรัฐมนตรีก็ยกเลิกได้ เพราะตอนนี้รัฐบาลนี้เป็นรัฏฐาธิปัตย์ ยกเลิกได้อยู่แล้วนั้น
ล่าสุด ( 14 ก.ย.) นาย
สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า
“
ขออภัยจริง เห็นข่าวท่านโฆษกแล้ว สงสารรัฐบาลทันที
ท่านบอกว่า คำสั่งนายกรัฐมนตรี เทียบเท่า มติ ครม. และ มติ ครม. สามารถเหนือคำสั่งคสช.
ใจจริงก็อยากจะเชียร์ให้ทำเช่นนั้นได้ จะได้ใช้คำสั่งนายกรัฐมนตรี ล้างคำสั่งคสช. ที่แย่ๆ ให้หมด
แต่ในทางกฎหมาย คำสั่งคสช.มีฐานะ เทียบเท่า พ.ร.บ. การจะแก้หรือยกเลิกคำสั่ง คสช. ต้องเสนอเป็น กม.เข้าสภาฯ ไม่สามารถใช้มติครม.ได้
อีกทั้งคำสั่ง หรือ การสั่งการของนายกรัฐมนตรี ไม่เท่ามติครม. ไม่เช่นนั้น จะเสียเวลาประชุมครม.ทำไม นายกรัฐมนตรีสั่งเลยไม่ดีกว่าหรือ
อีกทั้งการกล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฏฐาธิปัตย์ ก็เป็นความเข้าใจผิด เพราะรัฏฐาธิปัตย์ หรือการเป็นผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่สุดในรัฐ นั้น คือ คณะรัฐประหาร ที่รวมอำนาจบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการไว้ที่เดียว สถานะปัจจุบันของรัฐบาล เป็นแค่หนึ่งในสามของอำนาจอธิปไตย หาใช่เป็นรัฏฐาธิปัตย์ไม่
ทั้งหมดนี้ คือเหตุผลว่า ทำไมเราจึง ต้องมีรองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย และไม่ควรมีสัตวแพทย์เป็นโฆษกรัฐบาล”
ด้าน นาย
สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด นักกิจกรรมทางการเมือง โพสต์ว่า
“ขออนุญาตมีความเห็นแย้งโฆษกรัฐบาล ประกาศ คสช. มีสถานะแตกต่างกันไป บางประกาศมีสถานะเทียบเท่า พ.ร.บ. บางประกาศมีสถานะเทียบเท่า มติครม. หรือ ประกาศกฎกระทรวง ขึ้นอยู่กับว่าประกาศนั้นเป็นประกาศอะไร
“
รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไม่ใช่รัฎฐาธิปัตย์ ไม่สามารถใช้อำนาจเบ็ดเสร็จได้ เพราะบางเรื่องต้องผ่านสภาและถูกตรวจสอบผ่านองค์กรอิสระหรือแม้แต่ฟ้องร้องในศาลได้”
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid0gHnAbwfjcbpJPSodx6QsytUxk53w8Q6qzE9dKsUmHETvAadhQ8dqd3tt8uKLism9l
https://www.facebook.com/nuling/posts/pfbid02aZEWVbbqJ5Lm7S6477kBgKP1FyZinpSn4BUCFiGUUF8r6QBcXbN9b7sAVDPQzcWJl
รัฐบาลจ่อถอย จ่ายเงินเดือนราชการ 2 รอบ ให้เป็นทางเลือก ชี้เป็นข้อเรียกร้องของขรก.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4179663
รัฐบาลจ่อถอย จ่ายเงินเดือนราชการ 2 รอบ ให้เป็นทางเลือก ชี้เป็นข้อเรียกร้องของขรก.
เมื่อวันที่ 14 กันยายน นายสัตวแพทย์
ชัย วัชรรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “กรรมกรข่าว คุยนอกจอ” ของ นาย
สรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดัง ถึงกรณีการวิพากษณ์วิจารณ์นโยบายการจ่ายเงินเดือนราชการ 2 งวดว่า ที่มาของนโยบายจ่ายล่วงหน้า 50% ของเงินเดือน หรือจ่ายกลางเดือน 50% ปลายเดือนอีก 50 มาจากวิธีคิดที่ว่า แนวคิด ของข้าราชการจำนวนหนึ่งบอกว่า เงินเดือนไปรอรับสิ้นเดือน 100% หมุนเงินไม่ทัน ขอให้รัฐบาลจ่ายล่วงหน้ากลางเดือนมา 50% ก่อนได้หรือไม่ เพื่อเสริมสภาพคล่อง
นายสัตวแพทย์
ชัย กล่าวว่า รัฐบาลคำนวณแล้ว ข้อเสียมีสองข้อ ข้อที่หนึ่ง กรมบัญชีกลางปวดหัว ต้องหาวิธีมาบริการประชาชนเพิ่มขึ้น ข้อสอง รัฐบาลต้องเอาเงินเดือนครึ่งหนึ่งมาจ่ายเร็วขึ้น 15 วัน แต่เราดูแล้วเพื่อให้ข้าราชการมีสภาพคล่องมากขึ้น ชีวิตมีคุณภาพขึ้น นายกรัฐมนตรีจึงยินดีและออกมาเป็นนโยบาย ปรากฏว่าพอประกาศออกไป เข้าใจที่วิจารณ์กันอยู่ คงเข้าใจว่ารอยต่อของการเปลี่ยนแปลงจะกลายเป็น 50-50 หมายถึงสิ้นเดือนได้เงินเดือน 50% กลางเดือนถัดไปได้ 50% ปลายเดือนถัดไปได้ 50% จริงๆ เข้าใจผิด มันจะเป็น 100-50-50
“
ยกตัวอย่างหากข้าราชการคนหนึ่งเงินเดือน 20,000 จะเริ่มจ่าย 2 รอบเดือนมกราคมปีหน้า สิ้นเดือนธันวาคม ก็ยังจะได้เงินเดือน 20,000 เต็มอยู่ รอบหน้า สิ้นเดือนมกราคม จะได้อีกรอบ ถ้าระบบเดิม จะได้ปลายเดือนมกราคมทีเดียว แต่ระบบใหม่ ไม่ต้องรอ 30 วัน 15 วันของเดือนมกราค รับไป 10,000 บาท สิ้นเดือนก็ยังได้อีกหมื่น ก็คือ ได้เท่าเดิม”
นายสัตวแพทย์
ชัย กล่าวอีกว่า คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยคุยกันแล้วว่า ไม่มีข้อเสียอะไรเลย มีข้อเสียเพียงแต่ฝั่งรัฐบาล 2 ข้อดังกล่าว จึงเป็นที่มา แต่เมื่อเสียงสะท้อนเป็นแบบนี้ กรมบัญชีกลางก็บอกว่า เอาแบบเดิมก็แฮปปี้ ไม่ต้องเปลี่ยนอะไร รัฐบาลก็ง่าย ไม่ต้องหาเงินมาจ่ายล่วงหน้า 15 วัน ในที่สุด ถ้าปรารถนาดีแล้วคนไม่เข้าใจ ก็ไม่มีปัญหา ก็เป็นทางเลือก เราพร้อมจะดูแลคนที่มีปัญหา อยากได้เงินเดือนล่วงหน้า 15 วัน ใครที่บอกว่าไม่ต้องการ รอปลายเดือน ก็ไม่มีปัญหา ระบบการจ่ายเงินเดือนล่วงหน้า บริษัทเอกชนก็ทำ
เมื่อถามย้ำว่า จะทำแบบเป็นทางเลือกใช่หรือไม่ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถูกต้อง ยืนยันว่าคนที่จะรับเงินเดือน 2 รอบ จะไม่มีปัญหา เพราะเงินเดือนไม่น้อยลง ได้เท่าเดิมแต่เร็วขึ้น สมมติว่าโอนเงินเข้าไปบัญชี ก็อย่าเพิ่งไปแตะ เอาไว้อย่างนั้น พอสิ้นเดือนเข้ามาอีก 50 ก็เป็นร้อยเปอร์เซนต์ ก็ตัดจากบัญชีท่านเหมือนเดิม ไม่เห็นต้องทำอะไร ถ้าท่านใดคิดว่าจะห้ามใจไม่อยู่ ก็รับสิ้นเดือนเหมือนเดิม ไม่มีปัญหา
“
ไม่ได้คิดเอง เราตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของข้าราชการ เรียกร้องมานานก็รับฟัง คิดว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลควรให้บริการ”
น้ำท่วมลาม เกษตรเลี้ยงวัว ส่งผลกระทบสัตว์เลี้ยง ไม่มีหญ้ากิน ต้องอาศัยกินฟางตามคันนา
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7865743
ยโสธร น้ำท่วมลาม เกษตรเลี้ยงวัว ส่งผลกระทบสัตว์เลี้ยง ไม่มีหญ้ากิน ต้องอาศัยกินฟางตามคันนา ส่วนพื้นที่เกษตรเสียหาย มากกว่า 3,000 ไร่
14 ก.ย. 66 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนบ้านม่วงอ่อน หมู่ที่ 8 ต.ดู่ทุ่ง อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร ได้นำสัตว์เลี้ยง (วัว) ออกไปกินหญ้าและใบไม้ตามข้างถนน
เนื่องจากพื้นที่สาธารณะที่เคยนำสัตว์เลี้ยงออกไปกินหญ้าได้ถูกน้ำท่วมจม จนไม่มีหญ้า จะมีก็ตามไหล่ทางเท่านั้น โดยสัตว์เลี้ยงของประชาชนจะหากินหญ้าเดินกินไปตามไหล่ทางของถนนทั้งวันจนถึงเวลาเย็น
เจ้าของสัตว์ก็จะนำสัตว์เลี้ยงกินหญ้ากลับมาตามถนนเหมือนเดิม และเลี้ยงแบบนี้ทุกวันตั้งแต่เกิดน้ำท่วม ส่วนวัวตัวเมียที่มีลูก เมื่อจะให้ลูกกินนมก็ขึ้นไปยืนอยู่กลางถนนเพื่อให้ลูกได้ดูดนม จากนั้นก็หากินหญ้าตามไหล่ทางเหมือนเดิม ดังนั้นผลจากสถานการณ์น้ำท่วมได้รับความเสียหายทั้งพื้นที่การเกษตรและกระทบสัตว์เลี้ยงของประชาชนไปด้วย
ส่วน ที่ถนนลาดยางระหว่างบ้านม่วงอ่อน หมู่ที่ 8 ต.ดู่ทุ่ง อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร ไปบ้านโพธิ์ชัน ตำบลนางาม อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด นายสรวุฒิ ปาลาวัตน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยโสธร นายสรชาย ครองยุทธ นายอำเภอเมืองยโสธร พร้อม ปลัดอำเภอ และนายเกียรติศักดิ โตพุ่ม นายก อบต.ดู่ทุ่ง และ รองนายก อบต.ดู่ทุ่ง
ร่วมลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำและถนนที่ถูกน้ำท่วมความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ที่รับมวลน้ำไหลมาจาก อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ไหลเชี่ยวหนุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นมีเพียงพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียเป็นบริเวณกว้าง มากกว่า 3,000 ไร่
นายเกียรติศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้พื้นที่การเกษตรของประชาชนคาดว่าจะได้รับความเสียมากกว่า 3,000 ไร่ ประกอบด้วยพื้นที่การเกษตร บ้านสามเพีย บ้านโนนจำปา บ้านม่วงอ่อน และบ้านผือ แต่ก็ต้องรอดูน้ำที่ท่วมอยู่ในขณะนี้ว่าจะลดลงหรือไม่หากน้ำยังท่วมอยู่ 7-15 วัน นาข้าวอาจเสียหายแต่ก็ต้องรอดูระดับน้ำก่อน จึงจะสำรวจความเสียหายอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนสภาพความเป็นอยู่ของชาวบ้านจากหลายหมู่บ้าน ทั้งจากตัวเมืองยโสธร และชาวบ้านผือ บ้านม่วงอ่อน บ้านใหม่ชุมพร ตำบลเดิด อ.เมืองยโสธร ได้พากันออกหาปลาตามไหล่ทางที่ถูกน้ำท่วม ได้มากก็นำมาขายให้แม่ค้าในตัวเมือง ที่ออกไปรับซื้อถึงที่ และเพื่อนบ้านก็จะขายให้ในราคาถูก กิโลละแค่ 20 บาท ส่วนมากจะเป็น ปลานางฟ้า ปลาอีตุ ปลาเนื้ออ่อน เป็นต้น ที่เหลือก็จะตั้งวงกินข้าวปลากันริมถนนแถวพื้นที่น้ำท่วม
ผู้สื่อข่าวรายงานผลกระทบทางด้านลำน้ำเซบาย นายภาณุมาศ แก้วพิลึก นายก อบต.นาคำ อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร ได้ขึ้นป้ายสั่งปิดถนนสาย บ้านปักแฮด ต.นาคำ อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร ไป อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ เนื่องจากเกิดน้ำท่วมถนนสูง 50 เซนติเมตร รถเล็กและรถใหญ่ไม่สามารถใช้สัญจรได้
นาย
ภาณุมาศ แก้วพิลึก นายก อบต.ตำบลนาคำ อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร เปิดเผย ต.นาคำ มีน้ำลำเซบายไหลผ่าน ซึ่งขณะนี้น้ำจากลำเซบายได้ไหลล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรของประชาชน และไหลเอ่อท่วมถนนสาย บ้านปักแฮด ตำบลนาคำ อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร ไป อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ เกิดน้ำท่วมสูงถึง 50 เซ็นติเมตร
จึงได้นำป้ายไปปิดประกาศห้ามผ่านที่เส้นทางดังกล่าวเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบจะได้หลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวส่วนสถานการณ์น้ำในขณะนี้ก็มีมวลน้ำไหลมาอย่างต่อเนื่องคาดว่าระดับน้ำถนนสายบ้านปักแอด-หัวตะพานจะสูงขึ้นไปอีกจึงขอให้ประชาชนที่จะใช้เส้นทางดังกล่าวหลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทนจนกว่าน้ำจะลดและเข้าสู่ภาวะปกติ
JJNY : รุมแย้งโฆษก│รบ.จ่อถอย จ่ายเงินเดือน 2 รอบ│น้ำท่วมลาม เกษตรเลี้ยงวัว│อินโดนีเซียซื้อเรือกู้ภัยเรือดำน้ำจากอังกฤษ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4179618
สมชัย-บก.ลายจุด รุมแย้งโฆษก ยันรัฐบาลนี้ ไม่ใช่รัฏฐาธิปัตย์ คำสั่งนายกฯ ≠ มติครม.
จากกรณีที่ นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก ถึงกรณีวิธีการจะยกเลิกคำสั่งคสช.ว่า สามารถใช้ มติคณะรัฐมนตรีก็ยกเลิกได้ เพราะตอนนี้รัฐบาลนี้เป็นรัฏฐาธิปัตย์ ยกเลิกได้อยู่แล้วนั้น
ล่าสุด ( 14 ก.ย.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า
“ขออภัยจริง เห็นข่าวท่านโฆษกแล้ว สงสารรัฐบาลทันที
ท่านบอกว่า คำสั่งนายกรัฐมนตรี เทียบเท่า มติ ครม. และ มติ ครม. สามารถเหนือคำสั่งคสช.
ใจจริงก็อยากจะเชียร์ให้ทำเช่นนั้นได้ จะได้ใช้คำสั่งนายกรัฐมนตรี ล้างคำสั่งคสช. ที่แย่ๆ ให้หมด
แต่ในทางกฎหมาย คำสั่งคสช.มีฐานะ เทียบเท่า พ.ร.บ. การจะแก้หรือยกเลิกคำสั่ง คสช. ต้องเสนอเป็น กม.เข้าสภาฯ ไม่สามารถใช้มติครม.ได้
อีกทั้งคำสั่ง หรือ การสั่งการของนายกรัฐมนตรี ไม่เท่ามติครม. ไม่เช่นนั้น จะเสียเวลาประชุมครม.ทำไม นายกรัฐมนตรีสั่งเลยไม่ดีกว่าหรือ
อีกทั้งการกล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฏฐาธิปัตย์ ก็เป็นความเข้าใจผิด เพราะรัฏฐาธิปัตย์ หรือการเป็นผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่สุดในรัฐ นั้น คือ คณะรัฐประหาร ที่รวมอำนาจบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการไว้ที่เดียว สถานะปัจจุบันของรัฐบาล เป็นแค่หนึ่งในสามของอำนาจอธิปไตย หาใช่เป็นรัฏฐาธิปัตย์ไม่
ทั้งหมดนี้ คือเหตุผลว่า ทำไมเราจึง ต้องมีรองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย และไม่ควรมีสัตวแพทย์เป็นโฆษกรัฐบาล”
ด้าน นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด นักกิจกรรมทางการเมือง โพสต์ว่า
“ขออนุญาตมีความเห็นแย้งโฆษกรัฐบาล ประกาศ คสช. มีสถานะแตกต่างกันไป บางประกาศมีสถานะเทียบเท่า พ.ร.บ. บางประกาศมีสถานะเทียบเท่า มติครม. หรือ ประกาศกฎกระทรวง ขึ้นอยู่กับว่าประกาศนั้นเป็นประกาศอะไร
“รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไม่ใช่รัฎฐาธิปัตย์ ไม่สามารถใช้อำนาจเบ็ดเสร็จได้ เพราะบางเรื่องต้องผ่านสภาและถูกตรวจสอบผ่านองค์กรอิสระหรือแม้แต่ฟ้องร้องในศาลได้”
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid0gHnAbwfjcbpJPSodx6QsytUxk53w8Q6qzE9dKsUmHETvAadhQ8dqd3tt8uKLism9l
https://www.facebook.com/nuling/posts/pfbid02aZEWVbbqJ5Lm7S6477kBgKP1FyZinpSn4BUCFiGUUF8r6QBcXbN9b7sAVDPQzcWJl
รัฐบาลจ่อถอย จ่ายเงินเดือนราชการ 2 รอบ ให้เป็นทางเลือก ชี้เป็นข้อเรียกร้องของขรก.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4179663
รัฐบาลจ่อถอย จ่ายเงินเดือนราชการ 2 รอบ ให้เป็นทางเลือก ชี้เป็นข้อเรียกร้องของขรก.
เมื่อวันที่ 14 กันยายน นายสัตวแพทย์ชัย วัชรรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “กรรมกรข่าว คุยนอกจอ” ของ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดัง ถึงกรณีการวิพากษณ์วิจารณ์นโยบายการจ่ายเงินเดือนราชการ 2 งวดว่า ที่มาของนโยบายจ่ายล่วงหน้า 50% ของเงินเดือน หรือจ่ายกลางเดือน 50% ปลายเดือนอีก 50 มาจากวิธีคิดที่ว่า แนวคิด ของข้าราชการจำนวนหนึ่งบอกว่า เงินเดือนไปรอรับสิ้นเดือน 100% หมุนเงินไม่ทัน ขอให้รัฐบาลจ่ายล่วงหน้ากลางเดือนมา 50% ก่อนได้หรือไม่ เพื่อเสริมสภาพคล่อง
นายสัตวแพทย์ชัย กล่าวว่า รัฐบาลคำนวณแล้ว ข้อเสียมีสองข้อ ข้อที่หนึ่ง กรมบัญชีกลางปวดหัว ต้องหาวิธีมาบริการประชาชนเพิ่มขึ้น ข้อสอง รัฐบาลต้องเอาเงินเดือนครึ่งหนึ่งมาจ่ายเร็วขึ้น 15 วัน แต่เราดูแล้วเพื่อให้ข้าราชการมีสภาพคล่องมากขึ้น ชีวิตมีคุณภาพขึ้น นายกรัฐมนตรีจึงยินดีและออกมาเป็นนโยบาย ปรากฏว่าพอประกาศออกไป เข้าใจที่วิจารณ์กันอยู่ คงเข้าใจว่ารอยต่อของการเปลี่ยนแปลงจะกลายเป็น 50-50 หมายถึงสิ้นเดือนได้เงินเดือน 50% กลางเดือนถัดไปได้ 50% ปลายเดือนถัดไปได้ 50% จริงๆ เข้าใจผิด มันจะเป็น 100-50-50
“ยกตัวอย่างหากข้าราชการคนหนึ่งเงินเดือน 20,000 จะเริ่มจ่าย 2 รอบเดือนมกราคมปีหน้า สิ้นเดือนธันวาคม ก็ยังจะได้เงินเดือน 20,000 เต็มอยู่ รอบหน้า สิ้นเดือนมกราคม จะได้อีกรอบ ถ้าระบบเดิม จะได้ปลายเดือนมกราคมทีเดียว แต่ระบบใหม่ ไม่ต้องรอ 30 วัน 15 วันของเดือนมกราค รับไป 10,000 บาท สิ้นเดือนก็ยังได้อีกหมื่น ก็คือ ได้เท่าเดิม”
นายสัตวแพทย์ชัย กล่าวอีกว่า คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยคุยกันแล้วว่า ไม่มีข้อเสียอะไรเลย มีข้อเสียเพียงแต่ฝั่งรัฐบาล 2 ข้อดังกล่าว จึงเป็นที่มา แต่เมื่อเสียงสะท้อนเป็นแบบนี้ กรมบัญชีกลางก็บอกว่า เอาแบบเดิมก็แฮปปี้ ไม่ต้องเปลี่ยนอะไร รัฐบาลก็ง่าย ไม่ต้องหาเงินมาจ่ายล่วงหน้า 15 วัน ในที่สุด ถ้าปรารถนาดีแล้วคนไม่เข้าใจ ก็ไม่มีปัญหา ก็เป็นทางเลือก เราพร้อมจะดูแลคนที่มีปัญหา อยากได้เงินเดือนล่วงหน้า 15 วัน ใครที่บอกว่าไม่ต้องการ รอปลายเดือน ก็ไม่มีปัญหา ระบบการจ่ายเงินเดือนล่วงหน้า บริษัทเอกชนก็ทำ
เมื่อถามย้ำว่า จะทำแบบเป็นทางเลือกใช่หรือไม่ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถูกต้อง ยืนยันว่าคนที่จะรับเงินเดือน 2 รอบ จะไม่มีปัญหา เพราะเงินเดือนไม่น้อยลง ได้เท่าเดิมแต่เร็วขึ้น สมมติว่าโอนเงินเข้าไปบัญชี ก็อย่าเพิ่งไปแตะ เอาไว้อย่างนั้น พอสิ้นเดือนเข้ามาอีก 50 ก็เป็นร้อยเปอร์เซนต์ ก็ตัดจากบัญชีท่านเหมือนเดิม ไม่เห็นต้องทำอะไร ถ้าท่านใดคิดว่าจะห้ามใจไม่อยู่ ก็รับสิ้นเดือนเหมือนเดิม ไม่มีปัญหา
“ไม่ได้คิดเอง เราตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของข้าราชการ เรียกร้องมานานก็รับฟัง คิดว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลควรให้บริการ”
น้ำท่วมลาม เกษตรเลี้ยงวัว ส่งผลกระทบสัตว์เลี้ยง ไม่มีหญ้ากิน ต้องอาศัยกินฟางตามคันนา
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7865743
ยโสธร น้ำท่วมลาม เกษตรเลี้ยงวัว ส่งผลกระทบสัตว์เลี้ยง ไม่มีหญ้ากิน ต้องอาศัยกินฟางตามคันนา ส่วนพื้นที่เกษตรเสียหาย มากกว่า 3,000 ไร่
14 ก.ย. 66 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนบ้านม่วงอ่อน หมู่ที่ 8 ต.ดู่ทุ่ง อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร ได้นำสัตว์เลี้ยง (วัว) ออกไปกินหญ้าและใบไม้ตามข้างถนน
เนื่องจากพื้นที่สาธารณะที่เคยนำสัตว์เลี้ยงออกไปกินหญ้าได้ถูกน้ำท่วมจม จนไม่มีหญ้า จะมีก็ตามไหล่ทางเท่านั้น โดยสัตว์เลี้ยงของประชาชนจะหากินหญ้าเดินกินไปตามไหล่ทางของถนนทั้งวันจนถึงเวลาเย็น
เจ้าของสัตว์ก็จะนำสัตว์เลี้ยงกินหญ้ากลับมาตามถนนเหมือนเดิม และเลี้ยงแบบนี้ทุกวันตั้งแต่เกิดน้ำท่วม ส่วนวัวตัวเมียที่มีลูก เมื่อจะให้ลูกกินนมก็ขึ้นไปยืนอยู่กลางถนนเพื่อให้ลูกได้ดูดนม จากนั้นก็หากินหญ้าตามไหล่ทางเหมือนเดิม ดังนั้นผลจากสถานการณ์น้ำท่วมได้รับความเสียหายทั้งพื้นที่การเกษตรและกระทบสัตว์เลี้ยงของประชาชนไปด้วย
ส่วน ที่ถนนลาดยางระหว่างบ้านม่วงอ่อน หมู่ที่ 8 ต.ดู่ทุ่ง อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร ไปบ้านโพธิ์ชัน ตำบลนางาม อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด นายสรวุฒิ ปาลาวัตน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยโสธร นายสรชาย ครองยุทธ นายอำเภอเมืองยโสธร พร้อม ปลัดอำเภอ และนายเกียรติศักดิ โตพุ่ม นายก อบต.ดู่ทุ่ง และ รองนายก อบต.ดู่ทุ่ง
ร่วมลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำและถนนที่ถูกน้ำท่วมความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ที่รับมวลน้ำไหลมาจาก อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ไหลเชี่ยวหนุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นมีเพียงพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียเป็นบริเวณกว้าง มากกว่า 3,000 ไร่
นายเกียรติศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้พื้นที่การเกษตรของประชาชนคาดว่าจะได้รับความเสียมากกว่า 3,000 ไร่ ประกอบด้วยพื้นที่การเกษตร บ้านสามเพีย บ้านโนนจำปา บ้านม่วงอ่อน และบ้านผือ แต่ก็ต้องรอดูน้ำที่ท่วมอยู่ในขณะนี้ว่าจะลดลงหรือไม่หากน้ำยังท่วมอยู่ 7-15 วัน นาข้าวอาจเสียหายแต่ก็ต้องรอดูระดับน้ำก่อน จึงจะสำรวจความเสียหายอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนสภาพความเป็นอยู่ของชาวบ้านจากหลายหมู่บ้าน ทั้งจากตัวเมืองยโสธร และชาวบ้านผือ บ้านม่วงอ่อน บ้านใหม่ชุมพร ตำบลเดิด อ.เมืองยโสธร ได้พากันออกหาปลาตามไหล่ทางที่ถูกน้ำท่วม ได้มากก็นำมาขายให้แม่ค้าในตัวเมือง ที่ออกไปรับซื้อถึงที่ และเพื่อนบ้านก็จะขายให้ในราคาถูก กิโลละแค่ 20 บาท ส่วนมากจะเป็น ปลานางฟ้า ปลาอีตุ ปลาเนื้ออ่อน เป็นต้น ที่เหลือก็จะตั้งวงกินข้าวปลากันริมถนนแถวพื้นที่น้ำท่วม
ผู้สื่อข่าวรายงานผลกระทบทางด้านลำน้ำเซบาย นายภาณุมาศ แก้วพิลึก นายก อบต.นาคำ อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร ได้ขึ้นป้ายสั่งปิดถนนสาย บ้านปักแฮด ต.นาคำ อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร ไป อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ เนื่องจากเกิดน้ำท่วมถนนสูง 50 เซนติเมตร รถเล็กและรถใหญ่ไม่สามารถใช้สัญจรได้
นายภาณุมาศ แก้วพิลึก นายก อบต.ตำบลนาคำ อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร เปิดเผย ต.นาคำ มีน้ำลำเซบายไหลผ่าน ซึ่งขณะนี้น้ำจากลำเซบายได้ไหลล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรของประชาชน และไหลเอ่อท่วมถนนสาย บ้านปักแฮด ตำบลนาคำ อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร ไป อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ เกิดน้ำท่วมสูงถึง 50 เซ็นติเมตร
จึงได้นำป้ายไปปิดประกาศห้ามผ่านที่เส้นทางดังกล่าวเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบจะได้หลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวส่วนสถานการณ์น้ำในขณะนี้ก็มีมวลน้ำไหลมาอย่างต่อเนื่องคาดว่าระดับน้ำถนนสายบ้านปักแอด-หัวตะพานจะสูงขึ้นไปอีกจึงขอให้ประชาชนที่จะใช้เส้นทางดังกล่าวหลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทนจนกว่าน้ำจะลดและเข้าสู่ภาวะปกติ