[CR] รีวิวเช่ารถขับเที่ยวแอฟริกาใต้

ปีนี้ได้มีโอกาสไปเที่ยวเมืองโจฮันเนสเบิร์ก และเคปทาวน์ เพื่อไปส่องสัตว์ (Game Drive) ล่องซาฟารี แล้วก็เที่ยวเมืองสวยๆ ไปมาเกือบครึ่งเดือน ช่วงกลางปีที่ผ่านมา เป็นช่วงหน้าหนาวของที่นั่น ตอนก่อนไป ด้วยสไตล์ชอบไปเที่ยวเอง เช่ารถขับเอง ทริปนี้ก็เหมือนกัน ก่อนไปเที่ยวก็มีหาข้อมูล ดูไปแล้วข้อมูลภาษาไทย พวกสถานที่ท่องเที่ยว ต่างๆ ส่วนใหญ่มีเยอะอยู่แล้ว แต่ข้อมูลอื่นๆ หลายอย่าง ก็ไม่ค่อยมี หรือไม่ค่อยได้อัพเดตเท่าไหร่ ก็เลยว่ามาลงไว้ให้ เผื่อคนที่ขยันเที่ยวด้วยตัวเอง เหมือนกัน ไว้ใช้เป็นข้อมูลเตรียมทริปกัน ลงให้แบบว่า ไม่เน้นแนะนำที่เที่ยว แต่แนะนำการเตรียมการไปเที่ยวแทน รูปอาจจะน้อย แต่ข้อมูลลงให้แน่นๆ เลย
 
ขอเริ่มด้วยการีวิว การเช่ารถขับเอง ที่แอฟฟริกาใต้ ทริปนี้ เที่ยว 2 เมือง เลยมีการเช่ารถทั้งสองเมือง คือ โจฮันเนสเบิร์ก และ เคปทาวน์ เช่าแยกตามเมือง เลยมีใช้บริการบริษัทเช่ารถ 2 แห่ง ก็ขอนำข้อมูล และประสบการ์ณ การเช่ารถ สองเจ้านี้ มาแบ่งปันกัน แต่ก่อนอื่น ขอแนะนำข้อมูลเบื้องต้น เกี่ยวกับขับรถเที่ยว แอฟริกาใต้กันก่อน
 
ขับรถเที่ยว แอฟริกาใต้ ไม่ได้เป็นเรื่องยากเย็นอะไรนัก เพราะถนนหนทาง นั้นดีทีเดียว มีทางด่วน หลายเส้นทาง Google Maps ก็สามารถใช้นำทางได้ไม่พาหลง ไม่ต้องพึ่ง GPS Navigator ให้ยุ่งยาก แต่การเช่ารถขับที่ แอฟริกาใต้ ก็มีข้อแตกต่างจากที่ไทยในรายละเอียดอยู่บ้าง เลยจะมาขอแนะนำทริค & ทิป และประสบการณ์ที่เช่ารถขับ 10 กว่าวัน 
 
การเช่ารถที่นู่น ก็มีหลายแบรนด์มากมายให้เลือก ทั้ง world wide brand อย่าง Hertz, Europcar, Avis และอีกสารพัด แล้วก็ยังมีบริษัทท้องถิ่นอยู่อีกหลายแบรนด์เลยทีเดียว ก็จะขอลงรายละเอียดข้อมูลรถเช่า ที่มีประสบการณ์ตรงก็แล้วกัน 

รีวิว First Car Rental
เจ้านี้ เป็นแบรนด์ท้องถิ่น ที่เป็นเจ้าใหญ่มีหลายสาขา เห็นนักท่องเที่ยวคนไทย นิยมใช้กันอีกด้วย เพราะบริการดี รถใหม่ มีหลายจุดรับรถ ไม่ต่างกับ แบรนด์เช่ารถดังๆอื่นๆ เลย แต่ก็มีข้อแตกต่างอยู่บ้าง จุดเด่นของ การเช่ารถของเจ้านี้ นอกจากเป็นเจ้าถิ่นมีรถเยอะแล้ว ตอนเช็คอิน ที่นี่มีหน้าจอเสริมให้ดูข้อมูลชัดเจน ว่าพนักงาน เก็บข้อมูลอะไรเราไปบ้าง และเช็คข้อมูลที่เราให้ไปว่าถูกต้องได้สะดวก ก็ยังมีข้อดีอีกอย่างก็คือ จะมีโปรโมชัน แถมคนขับเพิ่มได้ฟรี 1 คน สนนราคาเกือบ 800 บาท ทีเดียว ซึ่งอันนี้สำคัญทีเดียว ถ้ารถมีปัญหาต้องเรียกประกัน  ถ้าคนขับ ไม่ตรงตามที่ระบุไว้ ก็อาจจะมีปัญหาการเคลมประกันได้ เพิ่มคนขับไว้อีกคน เพิ่มไว้สลับกันขับ คนขับก็ไม่ต้องเหนื่อยมาก เวลาวิ่งทางไกล หลายชั่วโมง 

สำหรับใครที่จะขับไป Kruger National Park เพื่อจะไป Game Drive ส่องสัตว์ท่องซาฟารี อาจจะต้องไม่เหมาะ เพราะเจ้านี้ จะมีกำจัดระยะทาง ส่วนใหญ่จะเป็น 200 KM ต่อวัน มากสุดก็ 300 KM ต่อวัน ซึ่งขับ จาก โจเบิร์ก ไป ครูเกอร์ ระยะทางมันจะเกินอยู่แล้ว  และถ้าเกิน ก็จะ โดนคิดค่าระยะทางเพิ่ม กิโลเมตรละ 2 RAND อันนี้ก็ต้องคำนวนดีๆ ก่อนการจอง แต่ถ้า จองผ่านเว็บ agency รวมรถเช่า แล้วเจอแบบ unlimited milage ค่อยเลือกถ้าจะไป Kruger เจ้านี้เราเช่าตอนขับรถเที่ยวที่ Cape Town เพราะวิ่งไปนอกเมืองไม่ไกล ระยะไม่เกินอยู่แล้ว 

อันนี้ไปรับรถในเมือง เพราะไม่ได้เช่า รถตั้งแต่วันแรก ที่ถึงเคปทาวน์ ไปรับรถที่อยู่ในเมือง เป็นศูนย์รวมรถ อยู่จาก CBD ไปนิดเดียว เดินเก่งๆ ก็เดินไปได้ รถที่ได้ ก็ใหม่มาก พนักงานบอกว่า คุณพี่เป็นคนแรกที่ขับเลยครับ ฟังแล้วไม่รู้ดีใจดีไหม แอบเสียว ทำรถเขาเป็นรอย ฮ่าๆๆ ตอนส่งรถ พนักงานก็มาตรวจรถพร้อมกับเรา แต่รถใหม่มาก ก็ไม่ได้ต้องดูอะไรเยอะ ตอนมาคืน เขาก็มาเช็ครถ รอบๆ ดูในรถนิดหน่อย ก็คืนรถเรียบร้อยดี ของเจ้านี้ เป็นระบบ เติมน้ำมันเต็มถังคืนเต็มถัง ง่ายๆ ไม่ต้องปวดหัวอะไร

รีวิว Tempest Car Hire 
รถไฟท้าย ด้านขวา ไม่ติด แต่ตอนคืนก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ่ายรูปเก็บหลักฐานไว้ก่อน

บริษัทนี้เป็นเจ้าท้องถิ่นเหมือนกัน เช่าตอนอยู่โจฮันเนสเบิร์ก เพื่อจะไป Kruger National Park เหตุผลที่เลือกเพราะตอนนั้น First Car จำกัดระยะทาง ไม่พอวิ่งไป Kruger แล้วเจ้านี้ ก็มีรถขนาดกลาง ที่พอจะยัดกระเป๋าได้ เจ้าอื่น รถขนาดที่ต้องการ จะแพงกว่าเยอะเลย ก็เลยเลือกเจ้านี้ ซึ่งก็มีทริค แนะนำ ก็คือ อย่าจองตรงกับเว็บ Tempest เพราะจะจำกัดระยทาง เริ่มต้นแค่ 100 KM ต่อวัน เท่านั้นเอง ให้จองผ่าน Agency อย่าง Rentalcars หรือ Discovercars แทน เพราะจะได้ unilimited mileage 
 
จองตรงจะจำกัดระยะทาง
จองผ่านเว็บ Agency จะได้ unlmited mileage

ตอนเช่าไปที่ OR Tambo Airport ที่เช่ารถ จะไปอยู่ในอาคารจอดรถ เขาจะรวมบริษัทเช่ารถ ทุกยี่ห้อไว้ที่เดียวกันเลย ของ Tempest จะไปรวมอยู่กับ Hertz ด้วยความเป็นเจ้าเล็ก หลายๆ อย่างก็จะง่ายไปหมดเลย ตรวจเอกสารเสร็จ ก็ให้กุญแจเรา แล้วให้เราไปที่รถเองเลย เพราะเจ้านี้ใช้ระบบเช็ครถล่วงหน้า พนักงานไม่ได้มาส่งรถ ให้เราไปที่จอดรถเอง ก็จะเป็นลานจอดรถเช่าเลย รถเราก็ไปอยู่โซนของ Hertz ตอนนี้ก็แนะนำให้เช็ครถให้ดีก่อน เห็นรอย เห็นอะไรเสีย ก็ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน หรือเรียกเจ้าหน้าที่มาเพื่อความชัวร์ รถที่ได้ก็สภาพดีอยู่ไม่เก่า ใหม่ สะอาด แต่เจอไฟท้ายดวงหนึ่งไม่ติด ก็มีบอกเจ้าหน้าที่ ไว้ ซึ่งเขาบอกไม่เป็นไร แต่ก็ไม่ชัวร์ เลยถ่ายวิดีโอเก็บไว้ เพราะสาขานี้ ไปอ่านรีวิว เขาบอกเจอปัญหาเรียกเก็บเงินย้อนหลังบ่อย ทั้งเรื่องน้ำมัน ซึ่งใช้ระบบเติมน้ำมันเจ้านี้ เป็นแบบมีเท่าไหร่เติมคืนเท่านั้น (same to same) อย่างเช่น มีอยู่ครึ่งถัง ให้เติมคืนครึ่งถัง หลายคนเคยโดนเก็บค่าน้ำมันเพิ่ม ซึ่งชาร์จบัตรเครดิตมาแพง กว่าราคาน้ำมันปกติ (สงสัยมีคิดค่าเติม) หรือมีเก็บค่าใช้จ่าย พวกรอย หรือค่าซ่อมแซม ตามหลังมา ส่วนของเรานั้น รอดปลอดภัย ไม่โดนชาร์จอะไรเพิ่ม เพราะเติมน้ำมันคืนที่สนามบินเลย เต็มถังแน่นอน ตอนคืนรถ ของเจ้านี้ ก็แทบไม่เช็คอะไรเลย ขอเอกสารแค่นั้นเอง แล้วก็บอกเรียบร้อยแล้ว
สำหรับเจ้านี้ จะไม่มีโปรโมชั่นแบบ First car เวลาจะเพิ่มคนขับที่ 2 ต้องเสียเงินเพิ่ม ซึ่งคิด 480 RAND เลยทีเดียว  ตอนจองให้ลงชื่อ Driver เป็นคนขับจริง ไม่ใช่ชื่อคนจอง ไม่งั้นอาจจะต้องมาเพิ่มชื่อ เสียเงินเพิ่ม เวลารถเกิดมีปัญหา ต้องเคลมประกัน จะมานั่งปวดหัวเอาได้ 

เรื่องน่ารู้ก่อนการเช่ารถเที่ยวเองที่แอฟริกาใต้
1. บริการเช่ารถที่ แอฟริกาใต้ ส่วนใหญ่ จะไม่รับเงินสด ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่ารถหรือ ค่าประกันก็ตาม ดังนั้น เตรียมบัตรเครดิต พร้อมวงเงิน ให้เพียงพอ
2. เอกสารส่วนใหญ่ก็คล้ายๆ กันคือ พาสปอร์ต, ใบขับขี่ หรือใบขับขี่สากล และใบจองรถ ใบจองแนะนำให้พิมพ์เป็นกระดาษไป 
3. ประกันให้ซื้อไปให้ครบ เพราะขโมยโจร เยอะ ส่วนตัว มีไม่ได้ซื้ออย่างเดียวคือ ประกันลูกเห็บ (hail damage waiver) นอกนั้นซื้อไว้หมด 
4. น้ำมันที่ใช้กับรถเช่า ส่วนใหญ่จะมี สติกเกอร์แปะให้ที่ ตัวฝาถังน้ำมัน น้ำมันที่นู่นมีอยู่ไม่กี่แบบ ไม่ค่อยงง
5. ศึกษา / สอบถาม การใช้งานเบื้องต้นให้ดีก่อน ออกรถ อย่างเช่นไฟตัดหมอก เปิดตรงไหน ช่วงที่ไปมีฝนตกตลอด บางวันก็หมอกหนามาก , วิธีเปิดฝาถังน้ำมัน
6. เอกสารที่ทางบริษัทรถเช่า ให้ไว้ ให้เก็บไว้ให้ดี เพราะต้องใช้ตอนคืนรถ ใส่เก๊ะหน้ารถไว้เลย
7. แนะนำให้เอาม่านบังแดดไปด้วย แดดที่นั่นแรงทีเดียว นอกจากช่วยบังแดดแล้ว ยังช่วยบังไม่ให้โจรส่องเห็นภายในรถได้อีกด้วย
8. ถ้าใช้สมาร์ทโฟนเป็น GPS รถรุ่นใหม่จะรองรับ CarPlay, Andriod Auto เสียบสายชาร์จก็แสดงผลขึ้นหน้าจอได้เลย แต่บางยี่ห้อ ก็ไม่มี เช่น Proton อาจจะต้องพกที่ดูดมือถือกับกระจกหน้ารถไป จะได้ดูการนำทางได้สะดวก
9.  เช็ครายละเอียดให้ดี เช่นนโยบายการเติมน้ำมัน บางเจ้าเขาจะเป็นระบบเหลือเท่าไหร่ เติมคืนเท่านั้น (same to same) ไม่ได้เป็นแบบบ้านเราคือ เต็มถังคืนเต็มถัง (Full to full)
10. ขับรถออกนอกเมือง จะมีการเก็บค่าผ่านทาง และค่าทางด่วน ซึ่งส่วนใหญ่ รถเช่าจะมี Toll Tag ติดรถมาให้เรา (คล้ายๆ easypass บ้านเรา) ซึ่งส่วนนี้ บริษัทเช่ารถ จะมาหักกับเงินที่เรียกเก็บกับเราไว้ หลังคืนรถ สัก 7 วัน 
11. สามารถเช็คค่าผ่านทางพิเศษ ค่าทางด่วน (E-Toll) ได้จากเว็บไซต์ของบริษัทเช่ารถ
12. เวลาไปรับรถ บริษัทเช่ารถ มักจะขายประกันเพิ่ม ถ้าเราซื้อมาครบและคิดว่าครอบคลุมเพียงพอแล้ว ก็ปฎิเสธไป จะได้ไม่ต้องซื้อซ้ำซ้อน ยิ่งถ้าซื้อผ่าน เว็บรวมจองรถทั้งหลายประกันเขาจะครอบคลุมครบแล้ว 
13. ดูค่าใช้จ่าย เงินมัดจำ ค่าประกันความเสี่ยง ให้ดี บางแห่ง ขอชาร์จเงินเป็นประกันไว้ค่อนข้างเยอะ 

การขับรถในแอฟริกาใต้
- การขับรถเป็นพวงมาลัยขวา เกจเป็น Km/hr แบบบ้านเรา ดังนั้นไม่ต้องเสียเวลาทำความคุ้นเคย 
- ระเบียบการขับรถก็คล้ายบ้านเรา ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย, ไม่ใช่มือถือระหว่างขับรถ, เมาไม่ขับ
- ที่แอฟริกา มารยาทขับรถดีกว่าบ้านเราเยอะ ส่วนใหญ่เขาจะให้ทางเรา ไม่มีบีบแตรด่า หรือปาดซ้ายปาดขวา ให้หวาดเสียว 
- ป้ายต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษ ทางออกส่วนใหญ่จะเป็นตัวเลขไล่เรียงกัน ออกตามที่ กูเกิลแมพ บอกได้เลย
- ที่นู่นไม่ค่อยมีคนขี่มอเตอร์ไซค์ ดังนั้น ไม่ค่อยต้องพะวงจะไปเกี่ยวมอไซค์ซักเท่าไหร่นัก 
- บนทางหลวง ระวังเรื่องความเร็ว จะมีตำรวจดักจับความเร็วให้เห็นอยู่เป็นระยะ ๆ ส่วนตัวจะขับความเร็วตามป้ายกำหนด 
- บางจุดอาจจะมีไฟแดงเสีย หรือปิดไม่ใช้ดื้อๆ ก็ใช้สกิลแยกวัดใจบ้านเรา เอาแล้วกัน 
- อย่าขับตามหลังรถใหญ่ เพราะอาจจะโดนหินดีด ใส่กระจกรถได้ 
- เวลาขับข้ามเมือง จุดที่แวะได้คือ ปั้มน้ำมัน ไม่ควรแวะไปเรื่อย บางทีเห็นปั้มน้ำมันเยอะฝั่งตรงข้าม แต่ฝั่งเราอาจจะไม่มีเลยก็ได้ ถ้าคิดจะแวะ เจอก็แวะก่อนได้เลย นี่เจอมาแล้ว งง เหมือนกัน ต้องขับไปอีกเป็นชั่วโมง ถึงจะเจอปั้ม ไม่ได้เหมือนบ้านเรา ที่ช่วงไหนมีปั้ม ก็มักจะมีสองฝั่ง
- ปั้มน้ำมันนอกเมืองส่วนใหญ่จะมีร้านอาหาร สามารถแวะเข้าห้องน้ำ และหาอะไรทานป็นแนว FAST FOOD  
- การเติมน้ำมัน มีเด็กปั้มเติมให้แบบบ้านเรา ปกติควรให้ทิป เด็กปั้มก็จะรู้งาน เติมน้ำมัน ให้มีเศษต้องถอนอยู่แล้ว
- ตะวันใกล้ลับฟ้าเมื่อไหร่ นั่นแปลว่าถึงเวลาควรเข้าที่พักแล้ว เพื่อความปลอดภัย 
- กลางคืนบางจุดอาจจะมืด และอยู่ในช่วง load shredding จะยิ่งมืด
- จอดรถข้างถนน เวลากลางคืน ต้องเอาของลงจากรถให้หมด อย่าวางกระเป๋าล่อโจร แม้ในกระเป๋าจะไม่มีอะไรก็ตาม เสี่ยงโดนทุบ
- จอดรถ ตามที่ท่องเที่ยวในเมือง ตามข้างถนน จะมีคนโบกรถดูรถให้ ให้เลือกคนที่ใส่ชุดส้ม ชุดเขียว (car guard) จะไว้ใจได้ แต่ต้องเสียค่าบริการแล้วแต่ละเรียก เริ่มต้น 5 RND สำหรับ 2-3 ชั่วโมง ที่โดนแพงสุดคือ 20 RAND 

- จอดรถในห้าง ส่วนใหญ่คิดค่าจอดเป็นระบบอัตโนมัติ ก่อนจะเอารถออกต้องเอา ticket ไปจ่ายที่ตู้อัตโนมัติรับเหรียญ,ธนบัตร มากน้อยแล้วแต่ห้าง 
- ที่นี่ไม่มีเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด ให้รอสัญญาณไฟจราจร 
- ระหว่างทางจะเห็น คนโบกรถขอติดรถไปด้วย ไม่ควรรับ ล็อครถตลอดเวลา 
- ส่วนใหญ่สนามบินจะมีปั้มน้ำมันบริการอยู่ สามารถเติมก่อนไปคืนรถได้ แต่เด็กปั้มจะบริการแย่หน่อย

จบแล้วสำหรับ การเช่ารถขับเองแอฟริกาใต้  ข้อมูลทั้งหมดเป็นประสบการณ์ตรง ไว้มาต่อกัน หัวข้อถัดไป

ชื่อสินค้า:   เช่ารถ เที่ยว เดินทางเอง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่