พอดีได้ไปเที่ยวแอฟริกาใต้ หน้าหนาว ช่วงกลางปี ไปอยู่สองเมืองหลักคือ เคปทาวน์ และ โจฮานเนสเบิร์ด ทริปนี้ไปประมาณ ครึ่งเดือน เลยนำข้อมูลจากประสบการณ์ตรง มาแบ่งปัน เผื่อเป็นประโยชน์ สำหรับใครที่ยังไม่เคยไป แล้วมีแผนจะไปเที่ยวสองเมืองนี้ ที่แอฟริกาใต้ ขอแบ่งเป็นหัวข้อ ๆ เท่าที่นึกออก ใครอยากถามอะไรเพิ่มเติม ก็ลองถามมาได้ ถ้าตอบได้ก็จะแวะมาตอบ แต่ตอบช้าหน่อย อย่าว่ากันนะ
สายการบิน
ตอนไปใช้ บริการ สิงคโปร์แอร์ไลน์ เพราะมีตั๋วโปรโชั่น ราคาดี ประมาณ 25,000 เท่านั้นเอง จองล่วงหน้าไป ครึ่งปี ข้อดีของบินกับสิงคโปร์ คือเวลาเดินทางดี ไม่ต้องไปเปลี่ยนเครื่องนาน มีบินไปทั้งเมือง โจฮานเนสเบิร์ก และเคปทาวน์ ในไฟลท์เดียวกัน ดังนั้น เราสามารถ ลงโจฮานเนสเบิร์กแล้วขากลับ ขึ้นจากเคปทาวน์ได้ หรือจะสลับกันก็ได้ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลานั่งสายการบินภายใน ให้เปลืองเงินเสียเวลาอีกด้วย โดยจะถึง โจเบิร์กก่อน ก็ถ้าจะลงเคปทาวน์ ก็นั่งรถบนเครื่อง นั่นแหละ ให้คนลงโจเบิร์ก เขาลงไปหมดก่อน คุ้มมากๆ
แต่ช่วงที่ไปนั้น คนเยอะมากๆ เต็มลำตลอด ที่นั่งเลยต้องแยกกันกับเพื่อนเลย เพราะต่างคนต่างจองตั๋ว ไม่ได้เสียเงินค่าจองที่นั่งด้วย เพราะตอนแรก พลาดนึกว่า จะไม่แน่นขนาดนี้
บินในประเทศ
ระหว่าง โจเบิร์ก และ เคปทาวน์ ไกลเลยทีเดียว ส่วนใหญ่ก็นั่งเครื่องบินกันสะดวกสุด คนที่นู่นก็นั่งเครื่องบินกัน เหมือนนั่งรถทัวร์เลย เพราะเห็นที่สนามบิน คนมาต่อคิวซื้อตั๋ว เพื่อข้ามเมือง กันเยอะทีเดียว รอบบินเขาถี่มาก ส่วนใหญ่จะเห็นเขานั่ง FlySafair กัน แต่ ส่วนตัวนั่งสายการบิน Lift
สายการบินน้องใหม่ ที่รอบเที่ยวบินอาจจะน้อย แต่เหมาะกับนักท่องเที่ยว เพราะจะให้น้ำหนักกระเป๋าเยอะกว่าสายการบินในประเทศอื่น และตั๋วค่อนข้างยืดหยุ่น ยกเลิก เปลี่ยนแปลงเวลาได้ อย่างยกเลิก ก็ล่วงหน้า 24 ชั่วโมงเท่านั้น บริการก็กันเองๆ แนะนำให้ลองใช้บริการดูกัน
ต้องฉีดวัคซีนไข้เหลืองไหม?
ถ้าไปประเทศแอฟริกาใต้ ไม่ได้เดินป่า ไม่ต้องฉีดไข้เหลือง ๆ ไว้สำหรับประเทศอื่นๆ ในทวีปแอฟริกา ซึ่งจะมีรายชื่อประเทศอยู่ ไปขอหมอเวชศาสตร์เขตร้อนฉีด เขาก็ไม่ฉีดให้ ไม่ต้องไปให้เสียเวลา แต่ควรระวัง มาลาเรีย ไข้เลือดออกอะไรพวกนี้ ดังนั้น พกยากันยุงไปด้วย ถ้ามีเข้าป่า ไปซาฟารี ส่องสัตว์ ระวังไม่ให้ยุงกัด เลือกค่า DEET สูงๆ เข้าไว้ ส่วนพวกแนวธรรมชาติ อย่างตะไคร้หอม เอาไม่ค่อยอยู่ ต้องฉีดบ่อย แนะนำยากันยุงที่มี DEET ดีกว่า ส่วนโรคไข้เหงาหลับ ที่เกิดจากโดน Tsetse fly กัด ก็ไม่จำเป็น ก็ไม่จำเป็นต้องกินยา
แลกเงินที่ไหนดี ?
อันนี้จากประสบการณ์ส่วนตัว Super rich สีเขียว WIN สุด เพราะมีธนบัตรหลายราคา ให้เลือก และมีเงินให้แลกเยอะ แต่ต้องโทรถามล่วงหน้านะ จองไปยังไม่ต้องโอนเงินไปก่อนไปจ่ายหน้าเคาเตอร์ได้ Super rich สีส้ม ไม่ค่อยมีเงิน RAND ให้แลกเท่าไหร่ แต่เขาก็บริการดีนะ ไปเช็คให้ว่ามีไหม ถ้าไม่มีก็โทรแจ้ง ส่วนอีกที่เคยแลกก็ Siam Exchange เขามีเงิน RAND ให้แลกเยอะอยู่
ตอนแลกเงิน ก็เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ว่า South Africa ZAR ที่เป็นตัว Z เพราะจะมีอีกสกุลคือ SAR ที่เป็น Saudi Arbia สะกดคล้ายกัน ตอนไปแลกที่หนึ่ง พนักงานก็มีมึน บอกสกุลเงินเป็น SAR ชื่อสกุลเงินของแอฟริกาใต้คือ RAND (แรนด์) เวลาย่อก็เลยเป็น ZAR (ZA คือ south africa R คือ RAND)
รู้ไหม เขาให้พกเงินสดไปแค่คนละ 25,000 RAND หรือสกุลเงินอื่นที่มูลค่าเทียบเท่า
อันนี้เป็นข้อที่กังขา พอควร เพราะ 25000 RAND สำหรับทริปหลายวันมันไม่พอสักเท่าไหร่ (แต่มารู้ภายหลังว่า เขาไม่ค่อยใช้เงินสดกันอยู่แล้ว) แต่เอาเข้าจริงๆ ตอนลงสนามบิน ผ่าน ตม. ก็ไม่มีการตรวจอะไรเลย แต่รู้ไว้ก่อน ว่าเขามีข้อจำกัดตรงนี้
อ้างอิง
https://www.resbank.co.za/en/home/what-we-do/financial-surveillance/FinSurvFAQ
พกเงินสด หรือบัตรเครดิตดี ?
ด้วยหลายๆ ปัจจัย พกเงินสดไป แค่ส่วนหนึ่ง ที่เหลือรูดบัตรเครดิต ดีกว่า หรือจะบัตรทราเวลการ์ดทั้งหลายก็ได้ ที่นั่นเป็นสังคมไร้เงินสด เน้นรูดบัตร แบบ tap to go แม้แต่บูทร้านอาหาร เขาก็จะมีเครื่องรูดบัตรแบบพกพา แตะจ่ายจบ ส่วนสาเหตุที่ไม่ควรพกเงินสดไปเยอะ เพราะที่นั่นไม่ปลอดภัย อาชาญกรรมเยอะ จะได้ไม่ต้องกังวล เงินสดที่เราต้องพกไปตลอด แบงค์ก็มีใหญ่สุดแค่ 200R จากประสบการณ์ตรง พลาดนึกว่าที่นั่น ไม่ทันสมัย พกแต่เงินสดไป จ่ายค่าโรงแรมที นับแล้วนับอีก มันเยอะมาก บางโรงแรมนี่ เชิญเราไปด้านหลัง counter เลยนะ เพราะไม่อยาก นับเงินเยอะๆ ให้ใครเห็น และมันต้องใช้เวลานับนาน ประการที่สองก็คือ เห็นบางคนเตือนว่า แบงค์ปลอมก็มี ประการที่สาม บางที่เขาก็สะดวกรับแต่บัตรเครดิต อย่างเช่น ร้านเช่ารถ หรือตั๋วเข้าชมสถานที่เที่ยว ดังนั้น ยังไงต้องพกบัตรเครดิต/เดบิต ที่รูดได้ไปด้วย อัตราแลกเปลี่ยน เงิน RAND ไม่ค่อยสวิง เท่าไหร่ ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่อง เรตจะแพง
Load shredding คืออะไร ?
สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องรู้ ถ้าไปเที่ยวที่แอฟริกาใต้ เขาจะมีการ load shredding หรือการดับไฟ เพื่อไม่ให้การผลิตไฟฟ้าเกินกำลัง เนื่องจาก การไฟฟ้าที่นู่น ไม่สามารถผลิตไฟฟ้า ได้เพียงพอตามความต้องการการใช้งานของประชาชน ดับกันทุกวัน ไม่ใช่ดับตอนไม่มีคนใช้นะ ดับกันตอนช่วงคนใช้ไฟเยอะๆ นี่แหละ ดับกันที บางวัน ก็ 4 รอบ บางรอบก็ 4 ชั่วโมง แต่ตามที่พัก และร้านอาหาร เขาจะมีการเตรียมการไว้แล้ว ดังนั้น จะมีไฟ ให้เราใช้ระดับหนึ่ง เช่นไฟส่องสว่างจะทำงาน หรือมีไฟฉุกเฉินให้ อาหาร เขาก็จะเลือกใช้เตาแกส เตรียมไฟฉาย ไปด้วยเป็นสิ่งจำเป็น ถ้าไปหน้าหนาว ก็เตรียมเสื้อหนาวให้พร้อม เพราะบางคืน ดับระหว่างตอนนอน ฮีทเตอร์ ก็ดับไปด้วย หนาวจับใจเลยหละ
ซิมเครือข่ายมือถือแอฟริกาใต้
ถ้าคิดจะซื้อซิมที่นู่นใช้ เพราะอยากได้ DATA เยอะๆ ที่แอฟฟริกาใต้จะมีให้เลือกสองค่าย (ค่ายไหนดี ดูหัวข้อถัดไป) ให้ซื้อที่ สนามบินเลย เพราะชอปที่สนามบิน ถึงจะมี ซิมสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งจะราคาแพงกว่าปกติ แต่สามารถใช้ passport เพื่อทำการลงทะเบียนได้ ถ้าไปเปิดตามสาขาในเมือง จะต้องเป็นซิมของคนที่นู่น จะต้องใช้หลักฐานที่อยู่ถาวร ใช้ที่อยู่โรงแรมไม่ได้ ส่วนการเติมเงิน สามารถไปเติมตามร้านในเมืองได้ มีขั้นต่ำ 10 R ถ้าที่สนามบินขั้นต่ำ 30 R
แนะนำว่า ให้เลือกแพ็กเกจที่มีโทรเข้าออก ได้ด้วย หรือเติมเงินเผื่อโทรเข้าโทรออกได้ด้วย เพราะบางทีจำเป็นต้องใช้ เผื่อฉุกเฉิน ส่วนตัวได้ใช้จริงๆ เพราะเข้าที่พักไม่ได้ เพราะหน้าบ้านล็อคแน่นอน ไม่มีกริ่งให้กด ต้องโทรเข้าไปขอให้เขาเปิดประตูให้ กับเพื่อนทำมือถือหล่น ก็ใช้มือถือโทรหา จนมีคนรับสาย เขาใจดีเก็บไว้ให้
มือถือที่นู่น Vodacom หรือ MTN ดี ?
ใครใช้เครือข่ายเมืองไทย ก็ข้ามไปข้อนี้ แต่ใครอยากใช้ เครือข่ายท้องถิ่น ก็เชิญอ่าน ที่นั่นมี เครือข่ายมือถือเจ้าใหญ่ อยู่ 2 เจ้า (เท่าที่รู้) ค่ายแดง VodaCom กับ ค่ายเหลือง MTN แน่นอนก็จะเกิดคำถามว่า เลือกใช้เจ้าไหนดี ถ้าถามคนที่นู่น คำตอบก็คือ ใช้ดีทั้งสองเจ้า แต่จากที่ตามอ่านข้อมูล และประสบการณ์ตรง ขอเชียร์ไปทาง Vodacom ตอนไปมีใช้ทั้ง 2 เครือข่าย รู้สึกว่า VodaCom สัญญาณจะดีกว่า ไหลลื่นกว่า MTN ชอบหนืดๆ บางทีเน็ตก็ไม่วิ่งทั้งๆ ที่โควต้ายังเหลืออยู่ ปิดเปิดเครื่องใหม่บ่อยเลย เน็ตถึงวิ่ง ส่วนตอนแรกทำไมเลือก MTN เพราะเขามีโปร ให้ DATA เยอะกว่า แต่ทั้งนี้ ลองอย่ประมาณ ครึ่งเดือนเท่านั้น ลองตัดสินใจดูเองว่าอยากใช้ค่ายไหน
เวลาซื้อของลดราคา ตามร้านค้าในห้าง ดูราคาให้ดี
อันนี้ ด้วยความไม่ได้เที่ยวนาน ตั้งแต่มีโควิด เลยเผลอหลงกล กลยุทธ ป้ายลดราคา ร้านค้าที่นี่ โดยเฉพาะร้านที่ SALE ทั้งร้าน มักจะแปะป้ายบอกว่าลดราคาไปกี่ RAND ไม่ใช่ป้ายที่บอกว่า ลดราคาเหลือเท่าไหร่ แบบบ้านเรา อย่างเช่น เสื้อตัวหนึ่ง 1250 RAND แล้วป้ายเขียนว่า 250 OFF ถ้ารีบๆ ไม่ได้สังเกตดีๆ อาจจะนึกไปเองว่า เขาลดเยอะเหลือแค่ 250 RAND แต่จริงๆ คือ ลดไป 250 R เสื้อขายตัวละ 1000 RAND อันนี้โดนมาเอง เจ็บใจมาก
Food court ที่นั่นไม่เหมือนที่ไทย
Food court ตามห้างที่นู่น จะเป็นโซนรวมร้านอาหารที่แยกตามแต่ละร้าน ไว้อยู่ในโซนเดียวกัน ไม่ได้เป็น ศูนย์อาหาร ที่มีแลกคูปอง เพื่อซื้ออาหารแต่ละร้าน แบบบ้านเราส่วนใหญ่ Food court ก็จะเป็น พวกร้านแนว fast food นั่นแหละ
ห้องน้ำที่นั่นสะอาดไหม?
อันนี้เที่ยวมาหลายที่ แอฟริกาใต้ ห้องน้ำสะอาดสะอ้านดีมาก แทบไม่เจอที่สกปรก ไม่อยากใช้บริการเลย แม้เขาจะมีปัญหาเรื่องน้ำก็ตาม จะมีก็แค่ สุขาบางที่ ทิชชูไม่ให้ใช้ หรือหมดแค่นั้นเอง ส่วนใหญ่จะสะอาดน่าใช้
ปลอดภัยไหม ?
แม้จะเป็นเมืองท่องเที่ยว แต่ระดับอาชญากรรม ก็สูงลิ่วระดับโลก บ้านเรือนเขา ยังต้องมีจ้างการ์ดเอกชน คอยตรวจตรา อยู่ตลอด ประตูบ้านเป็นระบบล็อคแน่หนา รั้วจะเป็นรั้วไฟฟ้า คุณคิดว่าปลอดภัยไหมหละ แต่มันก็ไม่ได้อันตราย ขนาดมี ปล้น ฆ่า กลางแสกๆ อะไรแบบนั้น แต่ยามวิกาล และที่เปลี่ยว ไม่ควรอย่างยิ่ง และไม่ควรเดินคนเดียว กระเป๋า / เป้ ควรดูแลให้ดี กระเป๋าเดินทาง ของต่างๆ ไม่ควรวางไว้โดยไม่มีคนดูแล ช่วงกลางคืน ก็ไปได้แต่ห้าง และร้านอาหาร สำหรับร้านอาหาร ก็ต้องแน่ใจว่า จะหารถมารับ แล้วส่งเราไปถึงโรงแรมได้เลย
น้ำดื่มที่นั่น ดื่มได้ไหม ?
น้ำประปา ไม่สามารถใช้ดื่มได้ น้ำที่นี่ ราคาก็แพงเอาเรื่องอยู่ แต่ก็มีขายทั่วไป หาไม่ยาก บางโรงแรมน้ำก๊อก เขากรองแล้ว ก็สามารถใช้ดื่มได้ แนะนำพก กระติกน้ำไป หรือเก็บขวดน้ำไว้ เตรียมตอนพักที่โรงแรม ส่วนใหญ่ จะมีให้ฟรี และขอเพิ่มได้
ส่วนตัวแม้จะระวังดีแล้ว แต่ก็มีท้องเสียระหว่างทริปเหมือนกัน แต่โชคดีที่ ถ่ายไม่กี่หน ก็หาย
ปลั๊กไฟ
ปลั๊กที่นี่แปลกที่สุด ตั้งแต่เคยเที่ยว universal adapter บ้านเราจะใช้ไม่ได้ ต้องไปซื้อ ปลั๊กเปลี่ยนที่นู่น หรือหาเฉพาะที่เขาชัวร์ว่า รองรับ South Africa ซึ่งจริงๆ เขามีรูปลั๊กหลายแบบ บางแบบ ใช้ universal adapter ได้ แต่ก็ไม่เสมอไป ดังนั้น ไปซื้อเอาที่นู่ ง่ายกว่า แล้วเอารางปลั๊กไป เสียบเพิ่ม ไฟใช้ 220 V แบบบ้านเรา
Supermarket
ที่นู่น ที่เห็นบ่อยๆ ก็จะเป็น Pick n Pay, Games (ที่ได้ขายเกม) มีเกือบทุกห้าง จะเป็นแนวโลตัส,บิ๊กซี บ้านเรา แล้วอีกอันก็คือ Woolworths อันนี้ จะไม่เหมือนของฝั่งออสเตรเลีย จะเป็นแนว Mark & Spensor เน้นของแบรนด์ตัวเอง ของที่ขายจะดูเรียบง่าย ดูดี ซึ่งราคาจะสูงกว่า Pick n Pay เท่าที่จำได้ ถ้าจะเอาถุง จะต้องคิดเงินเพิ่ม
ห้าง
ห้างที่นั่นมีมากมาย ส่วนใหญ่ปิดทุ่ม ช้าหน่อยก็ สองทุ่ม ส่วนใหญ่จะมีซุปเปอร์ และโซนร้านอาหาร ฝากท้องได้ ปลอดภัยดี แต่ห้างส่วนใหญ่ เสียค่าจอดรถ เราต้องเอาตั๋วไปจ่ายที่ตู้เอง ก่อนจะออกจากห้าง ไม่ค่อยมีพนักงานเป็นตู้เก็บเงินแบบบ้านเรา
การเดินทางสัญจร
ใช้ Grab, Bolt ได้เลย ปลอดภัยสุดแล้ว ราคาก็แน่นอน ถ้าในเมือง อย่าง Cape Town ก็จะมีรถ Hop รถไฟฟ้า บริการ
[img]
https://f.ptcdn.info/673/081/000/s0v
[CR] รู้ไว้ก่อนไปเที่ยวแอฟริกาใต้
สายการบิน
ตอนไปใช้ บริการ สิงคโปร์แอร์ไลน์ เพราะมีตั๋วโปรโชั่น ราคาดี ประมาณ 25,000 เท่านั้นเอง จองล่วงหน้าไป ครึ่งปี ข้อดีของบินกับสิงคโปร์ คือเวลาเดินทางดี ไม่ต้องไปเปลี่ยนเครื่องนาน มีบินไปทั้งเมือง โจฮานเนสเบิร์ก และเคปทาวน์ ในไฟลท์เดียวกัน ดังนั้น เราสามารถ ลงโจฮานเนสเบิร์กแล้วขากลับ ขึ้นจากเคปทาวน์ได้ หรือจะสลับกันก็ได้ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลานั่งสายการบินภายใน ให้เปลืองเงินเสียเวลาอีกด้วย โดยจะถึง โจเบิร์กก่อน ก็ถ้าจะลงเคปทาวน์ ก็นั่งรถบนเครื่อง นั่นแหละ ให้คนลงโจเบิร์ก เขาลงไปหมดก่อน คุ้มมากๆ
แต่ช่วงที่ไปนั้น คนเยอะมากๆ เต็มลำตลอด ที่นั่งเลยต้องแยกกันกับเพื่อนเลย เพราะต่างคนต่างจองตั๋ว ไม่ได้เสียเงินค่าจองที่นั่งด้วย เพราะตอนแรก พลาดนึกว่า จะไม่แน่นขนาดนี้
บินในประเทศ
ระหว่าง โจเบิร์ก และ เคปทาวน์ ไกลเลยทีเดียว ส่วนใหญ่ก็นั่งเครื่องบินกันสะดวกสุด คนที่นู่นก็นั่งเครื่องบินกัน เหมือนนั่งรถทัวร์เลย เพราะเห็นที่สนามบิน คนมาต่อคิวซื้อตั๋ว เพื่อข้ามเมือง กันเยอะทีเดียว รอบบินเขาถี่มาก ส่วนใหญ่จะเห็นเขานั่ง FlySafair กัน แต่ ส่วนตัวนั่งสายการบิน Lift
สายการบินน้องใหม่ ที่รอบเที่ยวบินอาจจะน้อย แต่เหมาะกับนักท่องเที่ยว เพราะจะให้น้ำหนักกระเป๋าเยอะกว่าสายการบินในประเทศอื่น และตั๋วค่อนข้างยืดหยุ่น ยกเลิก เปลี่ยนแปลงเวลาได้ อย่างยกเลิก ก็ล่วงหน้า 24 ชั่วโมงเท่านั้น บริการก็กันเองๆ แนะนำให้ลองใช้บริการดูกัน
ต้องฉีดวัคซีนไข้เหลืองไหม?
แลกเงินที่ไหนดี ?
ตอนแลกเงิน ก็เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ว่า South Africa ZAR ที่เป็นตัว Z เพราะจะมีอีกสกุลคือ SAR ที่เป็น Saudi Arbia สะกดคล้ายกัน ตอนไปแลกที่หนึ่ง พนักงานก็มีมึน บอกสกุลเงินเป็น SAR ชื่อสกุลเงินของแอฟริกาใต้คือ RAND (แรนด์) เวลาย่อก็เลยเป็น ZAR (ZA คือ south africa R คือ RAND)
รู้ไหม เขาให้พกเงินสดไปแค่คนละ 25,000 RAND หรือสกุลเงินอื่นที่มูลค่าเทียบเท่า
อันนี้เป็นข้อที่กังขา พอควร เพราะ 25000 RAND สำหรับทริปหลายวันมันไม่พอสักเท่าไหร่ (แต่มารู้ภายหลังว่า เขาไม่ค่อยใช้เงินสดกันอยู่แล้ว) แต่เอาเข้าจริงๆ ตอนลงสนามบิน ผ่าน ตม. ก็ไม่มีการตรวจอะไรเลย แต่รู้ไว้ก่อน ว่าเขามีข้อจำกัดตรงนี้
อ้างอิง https://www.resbank.co.za/en/home/what-we-do/financial-surveillance/FinSurvFAQ
พกเงินสด หรือบัตรเครดิตดี ?
Load shredding คืออะไร ?
สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องรู้ ถ้าไปเที่ยวที่แอฟริกาใต้ เขาจะมีการ load shredding หรือการดับไฟ เพื่อไม่ให้การผลิตไฟฟ้าเกินกำลัง เนื่องจาก การไฟฟ้าที่นู่น ไม่สามารถผลิตไฟฟ้า ได้เพียงพอตามความต้องการการใช้งานของประชาชน ดับกันทุกวัน ไม่ใช่ดับตอนไม่มีคนใช้นะ ดับกันตอนช่วงคนใช้ไฟเยอะๆ นี่แหละ ดับกันที บางวัน ก็ 4 รอบ บางรอบก็ 4 ชั่วโมง แต่ตามที่พัก และร้านอาหาร เขาจะมีการเตรียมการไว้แล้ว ดังนั้น จะมีไฟ ให้เราใช้ระดับหนึ่ง เช่นไฟส่องสว่างจะทำงาน หรือมีไฟฉุกเฉินให้ อาหาร เขาก็จะเลือกใช้เตาแกส เตรียมไฟฉาย ไปด้วยเป็นสิ่งจำเป็น ถ้าไปหน้าหนาว ก็เตรียมเสื้อหนาวให้พร้อม เพราะบางคืน ดับระหว่างตอนนอน ฮีทเตอร์ ก็ดับไปด้วย หนาวจับใจเลยหละ
ซิมเครือข่ายมือถือแอฟริกาใต้
ถ้าคิดจะซื้อซิมที่นู่นใช้ เพราะอยากได้ DATA เยอะๆ ที่แอฟฟริกาใต้จะมีให้เลือกสองค่าย (ค่ายไหนดี ดูหัวข้อถัดไป) ให้ซื้อที่ สนามบินเลย เพราะชอปที่สนามบิน ถึงจะมี ซิมสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งจะราคาแพงกว่าปกติ แต่สามารถใช้ passport เพื่อทำการลงทะเบียนได้ ถ้าไปเปิดตามสาขาในเมือง จะต้องเป็นซิมของคนที่นู่น จะต้องใช้หลักฐานที่อยู่ถาวร ใช้ที่อยู่โรงแรมไม่ได้ ส่วนการเติมเงิน สามารถไปเติมตามร้านในเมืองได้ มีขั้นต่ำ 10 R ถ้าที่สนามบินขั้นต่ำ 30 R
แนะนำว่า ให้เลือกแพ็กเกจที่มีโทรเข้าออก ได้ด้วย หรือเติมเงินเผื่อโทรเข้าโทรออกได้ด้วย เพราะบางทีจำเป็นต้องใช้ เผื่อฉุกเฉิน ส่วนตัวได้ใช้จริงๆ เพราะเข้าที่พักไม่ได้ เพราะหน้าบ้านล็อคแน่นอน ไม่มีกริ่งให้กด ต้องโทรเข้าไปขอให้เขาเปิดประตูให้ กับเพื่อนทำมือถือหล่น ก็ใช้มือถือโทรหา จนมีคนรับสาย เขาใจดีเก็บไว้ให้
มือถือที่นู่น Vodacom หรือ MTN ดี ?
เวลาซื้อของลดราคา ตามร้านค้าในห้าง ดูราคาให้ดี
อันนี้ ด้วยความไม่ได้เที่ยวนาน ตั้งแต่มีโควิด เลยเผลอหลงกล กลยุทธ ป้ายลดราคา ร้านค้าที่นี่ โดยเฉพาะร้านที่ SALE ทั้งร้าน มักจะแปะป้ายบอกว่าลดราคาไปกี่ RAND ไม่ใช่ป้ายที่บอกว่า ลดราคาเหลือเท่าไหร่ แบบบ้านเรา อย่างเช่น เสื้อตัวหนึ่ง 1250 RAND แล้วป้ายเขียนว่า 250 OFF ถ้ารีบๆ ไม่ได้สังเกตดีๆ อาจจะนึกไปเองว่า เขาลดเยอะเหลือแค่ 250 RAND แต่จริงๆ คือ ลดไป 250 R เสื้อขายตัวละ 1000 RAND อันนี้โดนมาเอง เจ็บใจมาก
Food court ที่นั่นไม่เหมือนที่ไทย
Food court ตามห้างที่นู่น จะเป็นโซนรวมร้านอาหารที่แยกตามแต่ละร้าน ไว้อยู่ในโซนเดียวกัน ไม่ได้เป็น ศูนย์อาหาร ที่มีแลกคูปอง เพื่อซื้ออาหารแต่ละร้าน แบบบ้านเราส่วนใหญ่ Food court ก็จะเป็น พวกร้านแนว fast food นั่นแหละ
ห้องน้ำที่นั่นสะอาดไหม?
ปลอดภัยไหม ?
แม้จะเป็นเมืองท่องเที่ยว แต่ระดับอาชญากรรม ก็สูงลิ่วระดับโลก บ้านเรือนเขา ยังต้องมีจ้างการ์ดเอกชน คอยตรวจตรา อยู่ตลอด ประตูบ้านเป็นระบบล็อคแน่หนา รั้วจะเป็นรั้วไฟฟ้า คุณคิดว่าปลอดภัยไหมหละ แต่มันก็ไม่ได้อันตราย ขนาดมี ปล้น ฆ่า กลางแสกๆ อะไรแบบนั้น แต่ยามวิกาล และที่เปลี่ยว ไม่ควรอย่างยิ่ง และไม่ควรเดินคนเดียว กระเป๋า / เป้ ควรดูแลให้ดี กระเป๋าเดินทาง ของต่างๆ ไม่ควรวางไว้โดยไม่มีคนดูแล ช่วงกลางคืน ก็ไปได้แต่ห้าง และร้านอาหาร สำหรับร้านอาหาร ก็ต้องแน่ใจว่า จะหารถมารับ แล้วส่งเราไปถึงโรงแรมได้เลย
น้ำดื่มที่นั่น ดื่มได้ไหม ?
น้ำประปา ไม่สามารถใช้ดื่มได้ น้ำที่นี่ ราคาก็แพงเอาเรื่องอยู่ แต่ก็มีขายทั่วไป หาไม่ยาก บางโรงแรมน้ำก๊อก เขากรองแล้ว ก็สามารถใช้ดื่มได้ แนะนำพก กระติกน้ำไป หรือเก็บขวดน้ำไว้ เตรียมตอนพักที่โรงแรม ส่วนใหญ่ จะมีให้ฟรี และขอเพิ่มได้
ส่วนตัวแม้จะระวังดีแล้ว แต่ก็มีท้องเสียระหว่างทริปเหมือนกัน แต่โชคดีที่ ถ่ายไม่กี่หน ก็หาย
ปลั๊กไฟ
ปลั๊กที่นี่แปลกที่สุด ตั้งแต่เคยเที่ยว universal adapter บ้านเราจะใช้ไม่ได้ ต้องไปซื้อ ปลั๊กเปลี่ยนที่นู่น หรือหาเฉพาะที่เขาชัวร์ว่า รองรับ South Africa ซึ่งจริงๆ เขามีรูปลั๊กหลายแบบ บางแบบ ใช้ universal adapter ได้ แต่ก็ไม่เสมอไป ดังนั้น ไปซื้อเอาที่นู่ ง่ายกว่า แล้วเอารางปลั๊กไป เสียบเพิ่ม ไฟใช้ 220 V แบบบ้านเรา
Supermarket
ที่นู่น ที่เห็นบ่อยๆ ก็จะเป็น Pick n Pay, Games (ที่ได้ขายเกม) มีเกือบทุกห้าง จะเป็นแนวโลตัส,บิ๊กซี บ้านเรา แล้วอีกอันก็คือ Woolworths อันนี้ จะไม่เหมือนของฝั่งออสเตรเลีย จะเป็นแนว Mark & Spensor เน้นของแบรนด์ตัวเอง ของที่ขายจะดูเรียบง่าย ดูดี ซึ่งราคาจะสูงกว่า Pick n Pay เท่าที่จำได้ ถ้าจะเอาถุง จะต้องคิดเงินเพิ่ม
ห้าง
ห้างที่นั่นมีมากมาย ส่วนใหญ่ปิดทุ่ม ช้าหน่อยก็ สองทุ่ม ส่วนใหญ่จะมีซุปเปอร์ และโซนร้านอาหาร ฝากท้องได้ ปลอดภัยดี แต่ห้างส่วนใหญ่ เสียค่าจอดรถ เราต้องเอาตั๋วไปจ่ายที่ตู้เอง ก่อนจะออกจากห้าง ไม่ค่อยมีพนักงานเป็นตู้เก็บเงินแบบบ้านเรา
การเดินทางสัญจร
[img]https://f.ptcdn.info/673/081/000/s0v
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้