ใครเคยมีประสบการณ์ แบบนี้และรับมือกันอย่างไรบ้าง
คือเรื่องมีอยู่ว่า ผมทำงานอยู่บริษัทนึง และสนิทกับน้องเจ้าของบริษัทมาก ทุกๆวันผมจะมีพวกอยู่ 8-10 คน ซึ่งตอนอยู่บริษัท เราจะชอบเกาะกลุ่มกัน เวลามีใครที่ทำให้ไม่พอใจ ก็จะรวมหัวคุยกัน โดยมีน้องเจ้าของบริษัทเป็นแกนนำ และวางแผนกันไปหาเรื่องเค้า เช่น ผู้จัดการแผนกอื่น ทำไรให้ไม่พอใจ ก็จะวางแผนไปกลั่นแกล้งเค้า แล้วสร้างเรื่องขึ้นมาว่า ขับรถปาดหน้าทำไม แล้วก็ต่อยเค้า จนเค้าอยู่ไม่ได้ ผู้จัดการแผนกต้องออกไป และ พนักงานทั่วไปเจอเคสแบบนี้ 5-6 เคส ต้องออกหมด ใครขัดผลประโยชน์ หนือไม่เคารพ หรือไม่เชื่อฟัง หรือต่อต้าน แม้เรื่องนั้นจะถูกหรือไม่ แต่ถ้าเค้าไม่ชอบ ก็จะทำแบบนี้กับทุกคน โดยมีพวกผมอยู่รอบๆตัว ตลอดที่ผ่านมาผมรู้ว่าสิ่งที่เป็นอยู่มันไม่ดี และผมก็ไม่ได้ชอบ แต่การวางตัวของผมมันผิด จนเป็นส่วนนึงของกลุ่ม ทุกๆวันกลุ่มของผมในบริษัท เลิกงาน 17.30 น ต้องไปบ้านน้องเจ้าของบริษัทต่อ โดยห้ามเกิน 18.30 น แต่ถ้าเกินก็จะคุยกันว่าเราไปช้า คนที่มาถึงบ้านเค้าก่อนทำนู้นทำนี่ไปแล้วบ้าง เรามาช้าไม่ยอมช่วยเพื่อนในกลุ่ม ซึ่งผมดูแล้วมันเหมือนทาสรับใช้ ต้องนอนตี 2-3 ทุกๆวัน ย้ำ ทุกๆวัน เพราะต้องนั่งดูหนัง หรือดูบอลเป็นเพื่อนเค้า ผมจึงมีความติดที่จะลาออก เพื่อเปลี่ยนการใช้ชีวิต และอิสสระ หลังเลิกงาน ผมอยากสบายใจไม่ต้องคอยมาหาเรื่องใคร ทำตามคำสั่งเค้า จนผมได้เขียนใบลาออก ล่วงหน้า 30 วัน พอเค้ารู้ข่าวว่าผมลาออกคราวนี้ มีประเด็น 30 ที่ต้องทำงาน กลายเป็นโดนดีด ออกจากกลุ่ม โดนเพื่อนในบริษัทแบน เพราะ แทบทุกคนพวกเค้าหมด ผมก็ไม่สนใจ ทำงานต่อไป เพื่อที่จะให้ครบกำหนด ระหว่างนั้นก็เกิดเรื่องคือ เรียกผมไปคุยไปด่า เสียๆหาย ว่าผมไม่รู้จักบุญคุณคน ทรยศหักหลัง และพิมพ์ไลน์มาด่าผมบ้าง คือง่ายๆผมลาออกแล้ว ผมกลายเป็นคนเลว ทวงบุญคุณผมบ้าง และแรงกดดันที่มหาศาล ทำให้ผมทำงาน ได้ไม่ครบ 30 ผมอึดอัดแบบเสียสุขภาพจิตอย่างมาก ผมจึงตัดสินใจออกเลย พอผมออกแล้ว ก็มีพี่คนสนิทในบริษัท โทรมาเล่าให้ฟัง ว่าน้องเจ้าของบริษัทเข้าไม่ยอม จะตามหาผม ซึ่งเค้าเรียกคนสนิทผมไปเค้น ไปถามจนเค้ารู้สึกกลัว และ พี่คนสนิทผมก็ตอบเค้าไปว่าไม่รู้เลยครับ ผมไม่ได้บอกอะไร เค้าก็ไม่เชื่อ พี่คนสนิทผมจึงบล็อคการติดต่อผมทุกช่องทาง เพราะไม่อยากโดนมองว่าช่วยผมปิดบัง ผมจึงเสียพี่คนสนิทคนนี้ไป
ต่อมาผมทำงานที่ใหม่ได้จะเข้าหนึ่งเดือน มีพี่ๆคนอื่นๆโทรมาบอกผมตลอดเลยว่า เค้าจะตามหาผม เค้นถามคนที่สนิทกับผมทุกคน พยายามรู้ให้ได้ว่าผมอยู่ที่ไหน และขู่ว่าเค้าจะมาตามหาผม พยายามขู่ทุกอย่าง ให้คนโทรมาบ้าง แกล้งมาสืบผมจากช่องทางออนไลน์บ้าง ซึ่งตอนนี้ ผมไม่รู้จะจบปันหานี่อย่างไร
#เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะผมลาออก โดยไม่ขอคำปรึกษาจากเค้าก่อน เค้าะยายามจะบงการชีวิตคนรอบข้างทุกคน บ้าอำนาจ วันนี้ผมเลือกที่จะหันหลังให้กับวงการนี้ ผมเลยโดนตราหน้าว่าทรยศ
มีหลายเหตุการณ์มากครับ เดี่ยวมาต่อให้ฟัง
หัวหน้าที่ทำงานบ้าอำนาจ ตามรังควาน ทำตัวเป็นมาเฟีย
คือเรื่องมีอยู่ว่า ผมทำงานอยู่บริษัทนึง และสนิทกับน้องเจ้าของบริษัทมาก ทุกๆวันผมจะมีพวกอยู่ 8-10 คน ซึ่งตอนอยู่บริษัท เราจะชอบเกาะกลุ่มกัน เวลามีใครที่ทำให้ไม่พอใจ ก็จะรวมหัวคุยกัน โดยมีน้องเจ้าของบริษัทเป็นแกนนำ และวางแผนกันไปหาเรื่องเค้า เช่น ผู้จัดการแผนกอื่น ทำไรให้ไม่พอใจ ก็จะวางแผนไปกลั่นแกล้งเค้า แล้วสร้างเรื่องขึ้นมาว่า ขับรถปาดหน้าทำไม แล้วก็ต่อยเค้า จนเค้าอยู่ไม่ได้ ผู้จัดการแผนกต้องออกไป และ พนักงานทั่วไปเจอเคสแบบนี้ 5-6 เคส ต้องออกหมด ใครขัดผลประโยชน์ หนือไม่เคารพ หรือไม่เชื่อฟัง หรือต่อต้าน แม้เรื่องนั้นจะถูกหรือไม่ แต่ถ้าเค้าไม่ชอบ ก็จะทำแบบนี้กับทุกคน โดยมีพวกผมอยู่รอบๆตัว ตลอดที่ผ่านมาผมรู้ว่าสิ่งที่เป็นอยู่มันไม่ดี และผมก็ไม่ได้ชอบ แต่การวางตัวของผมมันผิด จนเป็นส่วนนึงของกลุ่ม ทุกๆวันกลุ่มของผมในบริษัท เลิกงาน 17.30 น ต้องไปบ้านน้องเจ้าของบริษัทต่อ โดยห้ามเกิน 18.30 น แต่ถ้าเกินก็จะคุยกันว่าเราไปช้า คนที่มาถึงบ้านเค้าก่อนทำนู้นทำนี่ไปแล้วบ้าง เรามาช้าไม่ยอมช่วยเพื่อนในกลุ่ม ซึ่งผมดูแล้วมันเหมือนทาสรับใช้ ต้องนอนตี 2-3 ทุกๆวัน ย้ำ ทุกๆวัน เพราะต้องนั่งดูหนัง หรือดูบอลเป็นเพื่อนเค้า ผมจึงมีความติดที่จะลาออก เพื่อเปลี่ยนการใช้ชีวิต และอิสสระ หลังเลิกงาน ผมอยากสบายใจไม่ต้องคอยมาหาเรื่องใคร ทำตามคำสั่งเค้า จนผมได้เขียนใบลาออก ล่วงหน้า 30 วัน พอเค้ารู้ข่าวว่าผมลาออกคราวนี้ มีประเด็น 30 ที่ต้องทำงาน กลายเป็นโดนดีด ออกจากกลุ่ม โดนเพื่อนในบริษัทแบน เพราะ แทบทุกคนพวกเค้าหมด ผมก็ไม่สนใจ ทำงานต่อไป เพื่อที่จะให้ครบกำหนด ระหว่างนั้นก็เกิดเรื่องคือ เรียกผมไปคุยไปด่า เสียๆหาย ว่าผมไม่รู้จักบุญคุณคน ทรยศหักหลัง และพิมพ์ไลน์มาด่าผมบ้าง คือง่ายๆผมลาออกแล้ว ผมกลายเป็นคนเลว ทวงบุญคุณผมบ้าง และแรงกดดันที่มหาศาล ทำให้ผมทำงาน ได้ไม่ครบ 30 ผมอึดอัดแบบเสียสุขภาพจิตอย่างมาก ผมจึงตัดสินใจออกเลย พอผมออกแล้ว ก็มีพี่คนสนิทในบริษัท โทรมาเล่าให้ฟัง ว่าน้องเจ้าของบริษัทเข้าไม่ยอม จะตามหาผม ซึ่งเค้าเรียกคนสนิทผมไปเค้น ไปถามจนเค้ารู้สึกกลัว และ พี่คนสนิทผมก็ตอบเค้าไปว่าไม่รู้เลยครับ ผมไม่ได้บอกอะไร เค้าก็ไม่เชื่อ พี่คนสนิทผมจึงบล็อคการติดต่อผมทุกช่องทาง เพราะไม่อยากโดนมองว่าช่วยผมปิดบัง ผมจึงเสียพี่คนสนิทคนนี้ไป
ต่อมาผมทำงานที่ใหม่ได้จะเข้าหนึ่งเดือน มีพี่ๆคนอื่นๆโทรมาบอกผมตลอดเลยว่า เค้าจะตามหาผม เค้นถามคนที่สนิทกับผมทุกคน พยายามรู้ให้ได้ว่าผมอยู่ที่ไหน และขู่ว่าเค้าจะมาตามหาผม พยายามขู่ทุกอย่าง ให้คนโทรมาบ้าง แกล้งมาสืบผมจากช่องทางออนไลน์บ้าง ซึ่งตอนนี้ ผมไม่รู้จะจบปันหานี่อย่างไร
#เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะผมลาออก โดยไม่ขอคำปรึกษาจากเค้าก่อน เค้าะยายามจะบงการชีวิตคนรอบข้างทุกคน บ้าอำนาจ วันนี้ผมเลือกที่จะหันหลังให้กับวงการนี้ ผมเลยโดนตราหน้าว่าทรยศ
มีหลายเหตุการณ์มากครับ เดี่ยวมาต่อให้ฟัง