ตัวผมเองทำงานเป็น QC อยู่ในโรงงานขนมปังชื่อดังแห่งนึง เคยทำงานด้วยความสนุกและมีความสุข ตอนผมเข้ามาใหม่ๆ แต่ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปหลังจากที่หัวหน้างานได้ตำแหน่งรองหัวหน้าแผนก และเป็นหัวหน้าแผนกใน 1 ปี นิสัยของเขาก็เปลี่ยนไปจากคนที่ร่าเริงแจ่มใสใจกว้าง กลายเป็นขี้หงุดหงิด บ้าอำนาจ ขี้นินทา อิจฉาลูกน้องของตัวเองบีบจนทำให้คนๆนั้นต้องลาออกเพราะอิจฉาที่เขาไปเที่ยวเมืองนอกปีละ 2 ครั้งและเขาก็ใช้พักร้อนไปเที่ยว ไม่ได้เกี่ยวกับการขาดงานอะไรเลย ส่วนอีกคนนึงเป็นคนอีกแผนกซึ่งไปทะเลาะกับเขาหาว่าเขาโพสเฟสด่าตัวเองซึ่งจริงๆแล้วในเฟสก็ไม่ได้เป็นเพื่อนกับเขา แล้วไปรู้เรื่องราวในเฟสเขาได้ยังไง สุดท้ายแล้วก็ไปฟ้องผู้จัดการแถมเอาเฟสไปให้ผู้จัดการดูและผู้จัดการก็บีบให้เขาลาออก ส่วนตัวผมเองเจอมาสดๆร้อนๆวันนี้กับเรื่องราวไร้สาระคือ เมื่อสามวันก่อน เขาคุยให้คนในแผนกฟังว่าแฟนเขา(หัวหน้าผมเป็น ผญ.) เมื่อคืนสามารถลง Windows 8 ใส่โน๊ตบุ๊คเขาได้เขาดีใจใหญ่เลย พอพูดถึงประโยคนี้เพื่อนในที่ทำงานก็เลยหันมาหาผมแล้วพูดว่า พี่........เขาก็ลองลงในเครื่องเขาดูแล้วนะ แล้วยังลงให้หนูด้วย แต่พี่......เขาว่าไม่เวิร์คต้องใช้กับจอสัมผัสถึงจะดี และแล้วบทสนทนาก็ได้ถูกตัดลงด้วยอารมณ์ที่ไม่พอใจ ด้วยคำถามที่ว่า.....งานที่ให้ทำเสร็จรึยัง หลังจากวันนั้นผมก็โดนแกล้งต่างๆนาๆ หาทางจับผิดผมมาตลอดก็ไม่ได้หลักฐาน สุดท้ายเอาไปฟ้องผู้จัดการและใส่ข้อกล่าวหาว่าผมไม่รับผิดชอบงานซึ่งมีโทษหนักกว่าขาดงาน 3 วันจึงให้ใบเตือนผมมา ซึ่งการเรียกผมเข้าพบและบีบให้ผมลาออกหรือย้ายแผนก โดยคำพูดที่พูดในห้องประชุมนั้นพูดได้เลยครับว่า ฟังหมาเห่ายังจะสุภาพกว่า โดยส่วนตัวผมนั้นได้เลือกย้ายแผนก เป็นการชั่วคราวเพราะถ้าออกตอนนี้ผมคงอดโบนัส แต่ผมพูดได้เลยว่าองค์กรเขาดีนะดีมากเลยแหละ แต่ที่ทำให้องค์กรเสีย คือบุคลากรในแผนกแบบหัวหน้าผมกับผู้จัดการนี่แหละ (หัวหน้าผมเขาเด็กเส้นผู้จัดการซึ่งหัวหน้าแผนกคนเก่าก็โดนบีบออกเหมือนกัน) มีใครเคยเจอแบบไหนยังไงบ้างครับ
คนที่ทำงานตำแหน่งสูงๆเนี่ยเขาต้องทำนิสัยทรามๆใส่ลูกน้องแบบนี้กันทุกคนหรอหรือมันเป็นวัฒนธรรมไปแล้ว