อยากดึงดูดพนักงาน Gen Z ต้องทำยังไง?

อย่างที่รู้กันว่าคนวัย Gen Z หรือคนที่เกิดในช่วงปี ค.ศ. 1997 – 2010 ได้ทยอยก้าวเข้าสู่โลกของการทำงานแล้ว และในอนาคต สัดส่วนของคนกลุ่มนี้ก็จะเพิ่มจำนวนขึ้นอีกเรื่อย ๆ จนกลายเป็นกลุ่มแรงงานหลักในตลาดแรงงาน ทำให้หลาย ๆ องค์กรต้องพากันปรับตัวและหันมาทำความเข้าใจคนทำงาน Gen Z มากขึ้นเพื่อดึงดูดคนทำงานกลุ่มนี้เข้ามาในบริษัท รวมถึงรักษาพนักงานในวัยนี้ให้ทำงานกับองค์กรไปนาน ๆ วันนี้ JobThai Tips เอาเคล็ดลับในการมัดใจคนกลุ่มนี้มาฝาก 
 
สิ่งที่คน Gen Z มองหาจากการทำงานและองค์กร 
 
1. องค์กรที่มีอุปกรณ์และเทคโนโลยีทันสมัย 
คน Gen Z ชินกับการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่และถนัดที่จะทำกิจกรรมหลาย ๆ อย่างผ่านหน้าจอ ทั้งการจดบันทึก การสื่อสาร ไปจนถึงการจัดการงานและเอกสารต่าง ๆ ส่งผลให้คนกลุ่มนี้ต้องการทำงานในองค์กรที่มีเทคโนโลยีทันสมัย สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง และส่ายหัวให้กับองค์กรที่ใช้อุปกรณ์ล้าสมัย ไม่รองรับการทำงาน หรือไม่ยอมนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยพนักงานในองค์กร  
  
สิ่งที่องค์กรควรทำ 
- ปรับรูปแบบการทำงานจากออฟไลน์ให้เป็นแบบออนไลน์มากขึ้น
- ลงทุนกับอุปกรณ์และเทคโนโลยีต่าง ๆ ในออฟฟิศ รวมถึงนำซอฟต์แวร์ต่าง ๆ มาใช้เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน เช่น ซอฟต์แวร์สำหรับจัดการเรื่องลางานและออกสลิปเงินเดือนให้พนักงาน ซอฟต์แวร์สำหรับสื่อสารภายในองค์กร ซอฟต์แวร์สำหรับอัปเดตงานภายในทีม
- เสนออุปกรณ์หรือ Gadgets ที่เหมาะสมกับการทำงานให้พนักงาน เช่น คอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปที่มีสเปคเครื่องสูง ๆ สำหรับตำแหน่งงานสายออกแบบหรือตัดต่อวิดีโอ
- มีสวัสดิการเบิกอุปกรณ์อื่น ๆ เพิ่มเติมตามรูปแบบการทำงาน เช่น หากบริษัททำงานแบบ Hybrid ที่ไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน พนักงานสามารถเบิกหูฟังไปใช้เวลาประชุมงานที่บ้านได้ 
 
2.งานที่ช่วยพัฒนาความสามารถและมีโอกาสให้เติบโต 
ทุกวันนี้ค่าครองชีพสูงขึ้น  ทำให้คนรุ่นใหม่สร้างตัวได้ยากกว่าแต่ก่อน คน Gen Z จึงค่อนข้างให้ความสำคัญกับการเรียนรู้และการพัฒนาตัวเองเป็นพิเศษ เพราะพวกเขามองว่าถ้าอยากก้าวหน้าในการทำงานและมีรายได้มากขึ้นก็ต้องผลักดันตัวเองให้เก่งขึ้น จะได้มีโอกาสเลื่อนตำแหน่งหรือสมัครงานใหม่ในตำแหน่งสูง ๆ เพื่อให้ได้ค่าตอบแทนมากขึ้น เพราะฉะนั้นงานที่คน Gen Z มองหาจึงเป็นงานที่ทำแล้วได้พัฒนาตัวเองและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ สามารถเพิ่มพูนทักษะที่ช่วยในการต่อยอดอาชีพได้ 
  
สิ่งที่องค์กรควรทำ 
- เพิ่มสวัสดิการสนับสนุนการเรียนรู้ของพนักงาน เช่น ทุนการศึกษาต่อ ค่าคอร์สเรียนออนไลน์ โปรแกรม Training พัฒนาศักยภาพในด้านต่าง ๆ 
- สนับสนุน Career Growth หรือเส้นทางการเติบโตของพนักงาน โดยอาจจัด 1-on-1 Session เพื่อพูดคุยและรีวิวการทำงานกับพนักงานแบบตัวต่อเป็นระยะ ๆ ว่างานที่ทำอยู่นั้นท้าทายมากพอหรือเปล่า อยากปรับเปลี่ยนการทำงานในจุดไหนบ้าง หรือยากทดลองโปรเจกต์ใหม่ ๆ ดูไหม เพราะถ้าพนักงานรู้สึกว่างานที่ทำอยู่นั้นหมดความน่าสนใจ ไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ เพิ่มเติม และตัวเองไม่สามารถเติบโตในองค์กรไปมากกว่านี้ได้แล้ว ก็อาจทำให้พนักงานเบื่อ หมดไฟและเริ่มมองหางานใหม่ที่ท้าทาย ได้พัฒนาตัวเองมากกว่างานปัจจุบัน 
  
3.เสถียรภาพทางการเงินและความมั่นคงในชีวิต 
คน Gen Z นั้นเติบโตมาในสภาวะที่เศรษฐกิจเกิดความผันผวนค่อนข้างมาก  ทั้งวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยจากสถานการณ์น้ำท่วม ความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้คนกลุ่มนี้จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้ดี แต่ก็มีความกังวลในเรื่องของเงินและรู้สึกไม่มั่นใจกับความไม่แน่นอนในชีวิต เพราะเมื่อเริ่มต้นเข้าสู่วัยทำงานเจอกับสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่หลายองค์กรปลดคนทำงานกันยกใหญ่ รายได้ก็ไม่แน่นอน เงินเก็บสำรองก็ยังมีไม่มากนักเมื่อเทียบกับคนวัยอื่น ๆ ที่ทำงานมานานกว่า คน Gen Z จึงกังวลกับการล้มโดยไม่มีฟูกรองรับและต้องการงานที่มีความมั่นคง ช่วยให้พวกเขามีเสถียรภาพทางการเงิน รู้สึกอุ่นใจกับการใช้ชีวิตมากขึ้น 
  
สิ่งที่องค์กรควรทำ 
- มีการันตีโบนัส นโยบายการปรับเงินเดือนประจำปีหรือปรับเงินเดือนตามค่าครองชีพ 
- มีสวัสดิการประกันต่าง ๆ ที่ช่วยเสริมความมั่นคงให้กับพนักงาน เช่น ประกันอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพ 
- มีการจัดอบรมเรื่องการวางแผนด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นแนวทางการออมเงิน วิธีการบริหารเงิน รวมถึงให้คำแนะนำด้านการลงทุนแบบต่าง ๆ เพื่อช่วยให้พนักงาน Gen Z มีความรู้ด้านการเงินมากขึ้นและสามารถวางแผนสร้างความมั่นคงให้ชีวิตได้ 
- มีการช่วยเหลือหรือเยียวยาพนักงานในช่วงวิกฤตต่าง ๆ เช่น เงินช่วยเหลือค่าไฟในช่วงที่มีการปรับค่าไฟขึ้น 
  
4.การทำงานแบบยืดหยุ่น มีอิสระและมี Work-life Balance 
Gen Z ให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลระหว่างเวลางานและเวลาส่วนตัวมากกว่าคนรุ่นก่อน ๆ ต้องการมีเวลาพักผ่อน ไปเที่ยว หรือทำงานอดิเรกที่ตัวเองชื่นชอบ และไม่เห็นด้วยกับการทำงานหนักจนเกินเวลา ทุ่มเทแรงกายแรงใจแบบสุดโต่งจนไม่ได้ไปทำอย่างอื่น ดังนั้น Work-life Balance จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่คน Gen Z ใช้พิจารณาเลือกงาน นอกจากนี้งานที่ยืดหยุ่นและมีอิสระในเรื่องของเวลากับสถานที่ก็เป็นอีกสิ่งที่ดึงดูด Gen Z ได้ดี เพราะสามารถจัดสรรเวลาและสถานที่ในการทำงานให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้ ช่วยให้มีเวลาไปทำอย่างอื่นได้มากขึ้น 
  
สิ่งที่องค์กรควรทำ 
- ปรับการทำงานในองค์กรให้มีความยืดหยุ่น เช่น ใช้ระบบเวลาทำงานแบบ Flexible Working Hours สามารถเข้างานตอนกี่โมงก็ได้ แค่ทำให้ครบชั่วโมงที่กำหนดก็พอ, นโยบายทำงานแบบ Hybrid Working หรือ Remote Working ที่ให้พนักงานทำงานจากที่บ้านได้ ไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน 
- มีสวัสดิการที่เกี่ยวข้องกับการลางานหรือวันหยุดพิเศษ ช่วยให้พนักงานได้มีเวลาทำกิจกรรมส่วนตัวมากขึ้น เช่น มีวันลาพักร้อนให้พนักงานเพิ่มขึ้นทุกปี สามารถทบวันลาไปปีถัดไปได้ หรือมีวันหยุดพิเศษให้ในวันเกิดของพนักงาน 
 
5.องค์กรที่เคารพในความแตกต่างของพนักงาน 
Gen Z เป็นเจเนอเรชันที่มีทัศนคติและมุมมองความคิดเปิดกว้าง เนื่องจากคนกลุ่มนี้เติบโตมาในช่วงที่คนเริ่มตระหนักถึงความหลากหลายทางเพศ เชื้อชาติ ศาสนา รูปลักษณ์ และอายุ ทำให้คนวัยนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องของความหลากหลาย (Diversity) เคารพสิทธิ ตัวตนและความชอบของผู้อื่น ดังนั้นคน Gen Z จึงมองหาองค์กรที่ให้คุณค่ากับคนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม มีแนวคิดแบบ Inclusive ที่ยอมรับความแตกต่าง ไม่กีดกันใครออกไป รวมถึงไม่ยอมรับองค์กรที่มีแนวคิดหรือการกระทำเหยียดคนกลุ่มน้อย ดูถูก กลั่นแกล้ง หรือแสดงออกว่าไม่ชอบพนักงานจากรูปร่างหน้าตา เพศสภาพ หรืออายุ 
  
สิ่งที่องค์กรควรทำ 
- สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างให้กับความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายทางเพศ อายุ หรือเชื้อชาติ ทุกคนสามารถแสดงออกทางความคิดและตัวตนได้อย่างเปิดเผย ไม่มีการเหยียด รังแก ดูถูก หรือใช้อำนาจข่มกัน 
- มีสวัสดิการที่สนับสนุนพนักงานในบริษัทแบบครอบคลุมคนทุกกลุ่ม เช่น สวัสดิการวันลาเพื่อผ่าตัดแปลงเพศสำหรับพนักงาน LGBTQ+, สิทธิในการลาคลอดสำหรับพนักงานทั้งฝั่งคุณพ่อและคุณแม่ (Parental Leave) 
- ถ้าเป็นองค์กรขนาดใหญ่หรือมีพนักงานเยอะ องค์กรอาจเปิดชมรมหรือสร้างคอมมูนิตี้ต่าง ๆ ให้พนักงานได้รวมกลุ่มเพื่อแสดงออกถึงตัวตนและความชอบ รวมถึงมีพื้นที่พูดคุย แชร์ประสบการณ์ และทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น คอมมูนิตี้สำหรับพนักงานที่ชอบเล่นเกมหรือกีฬา หรือคอมมูนิตี้สำหรับพนักงานที่เลี้ยงสัตว์ 
  
นอกจากจะปรับนโยบายการทำงานให้ตอบโจทย์ความต้องการของพนักงาน Gen Z แล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างที่องค์กรต้องทำถ้าอยากดึงดูดคนทำงานวัยนี้เข้ามาคือการทำ Employer Branding เพื่อสื่อสารวัฒนธรรมองค์กร สวัสดิการ และกิจกรรมภายในบริษัทออกไปให้คนนอกรับรู้ผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ โดยเฉพาะทางโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok, Instagram หรือ Facebook ดังนั้นถ้าอยากให้คน Gen Z สนใจองค์กร ก็ต้องโปรโมตและนำเสนอสิ่งที่บริษัทเรามีให้พวกเขาเห็นด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่