คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ปัญหาที่ช่างไม่แจ้งอะไร เราว่าปัญหาไม่ได้มาจากการข้ามหัวนะคะ เพราะถ้าข้ามหัวจริงพวกช่างจะตัดสินใจรับงานหรือปฏิเสธงานเอง นัดแนะตกลงกับลูกค้าไม่ผ่านบริษัท ุ ปัญหาของเรื่องนี้น่าจะอยู่ที่ขาดคนประสานงานมากกว่า เอาจริงๆพวกช่างเขาอาจคิดว่ามีหน้าที่ทำงานช่างอย่างเดียว ไม่ได้มีหน้าที่เช็คสต๊อก วางแผนงาน คำนวณงานต่างๆ ึ
อีกอย่างพนักงานบริษัทเขาไม่มาสนใจความเป็นอยู่ของบริษัทหรอกค่ะ ยิ่งเห็นไม่มั่นคงเขายิ่งมองหางานใหม่
ไม่ทราบว่าบริษัทคุณมีปัญหาการจัดการทรัพยากรบุคคลหรือเปล่า อาจมีวิธีทำงานที่ช่วยลดภาระงานบางอย่างลงแล้วไปเพิ่มในส่วนของการวางแผนงาน การสต๊อกอุปกรณ์ที่จำเป็นทดแทน
อีกอย่าง ลองประเมินการทำงานของตัวเองกับแฟนคุณอย่างตรงไปตรงมา ในกรณีของแฟนคุณ ลองคำนวณดูว่าการจ้างคนอื่นมาทำงานในตำแหน่งของเขาจะคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากกว่าไหม
บางคนก็ไม่เหมาะกับงานบริหารนะคะ
อีกอย่างพนักงานบริษัทเขาไม่มาสนใจความเป็นอยู่ของบริษัทหรอกค่ะ ยิ่งเห็นไม่มั่นคงเขายิ่งมองหางานใหม่
ไม่ทราบว่าบริษัทคุณมีปัญหาการจัดการทรัพยากรบุคคลหรือเปล่า อาจมีวิธีทำงานที่ช่วยลดภาระงานบางอย่างลงแล้วไปเพิ่มในส่วนของการวางแผนงาน การสต๊อกอุปกรณ์ที่จำเป็นทดแทน
อีกอย่าง ลองประเมินการทำงานของตัวเองกับแฟนคุณอย่างตรงไปตรงมา ในกรณีของแฟนคุณ ลองคำนวณดูว่าการจ้างคนอื่นมาทำงานในตำแหน่งของเขาจะคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากกว่าไหม
บางคนก็ไม่เหมาะกับงานบริหารนะคะ
แสดงความคิดเห็น
หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก แล้วลูกน้องไม่เห็นหัวเราควรทำยังไง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ ฝั่งช่างไม่เห็นหัวเราเลย ซึ่งเหตุณ์มันมาจากหัวหน้าช่างที่ไม่ชอบการทำงานของเรา ที่เราต้องคอยจู้จี้ เรื่องงาน เอกสารต่างๆ และจะคอยถามตลอดว่ามีงานโปรเจคที่ค้างหรือยังไม่เสร็จ หรือกำลังจะไปทำไหม หรือแต่ละโปรเจคจะเข้าเมื่อไหร่ ใช้สินค้าอะไรบ้าง (เราทำตามหน้าที่)และเราผิดอะไร หากข้อมูลพวกนี้เราไม่รู้เราจะบริหารการเงินยังไง เราจะบริหารคลังยังไง เราจะตอบนัดลูกค้าได้ยังไง เราเข้าใจนะว่าเขางานเยอะแต่ข้อมูลเพียงแค่นี้ทำไมไม่บอกเราหรือแค่ส่ง action plan เอง บางครั้งมีโปรเจคเข้ามา ไม่แจ้งเราเลย พอถึงวันจะเข้าปฏิบัติงานจะใช้สินค้าไม่มีให้ โทษเราอีก แล้วเราก็ต้องรับผิด ซึ่งหลายรอบมาก เราไม่ใช่บริษัทใหญ่อะไรที่จะต้องสต๊อคของเยอะขนาดนั้น เราไม่ได้มีเงินทุนเยอะพอที่จะสต๊อคสินค้าได้ทุกอย่าง หาว่าแฟนเราเข้าข้างเรา แล้วพาน้องๆในบริษัทไม่ชอบเราไปด้วย (ซึ่งแฟนเราไม่เคยเข้าข้างเราเลยนะ แถมว่าเราไม่เข้าใจหน้างาน)
คือแฟนเราแคร์ช่างทุกคนมากๆ อันนี่เราเข้าใจ ก่อนหน้านี่เราก็แคร์มากๆเหมือนกัน มีอะไรเราให้ทุกอย่าง เราหยวนให้ทุกเรื่อง พออยู่ไปมันเริ่มอึดอัดมากขึ้น การที่เขาไม่เห็นหัวเรา ทำงานข้ามหน้าข้ามตาเราข้ามหัวเรา เราเปิดใจคุยเรื่องนี้กับแฟนหลายรอบ เปิดประชุมเพื่อให้ทุกคนเข้าใจหลักการทำงานต่างๆหลายครั้ง ไม่เป็นผลเรย ยิ่งรู้สึกว่าเราเป็นอากาศมากขึ้น ทั้งๆที่เราก็เป็นเจ้าของบริษัทเลยนะ คนที่ควรไปคืเราเหรอ แล้วปล่อยให้แฟนเราบริการเอาเอง แบบนี้นะเหรอ คือเราก็ไม่อยากให้บริษัทของแฟนเราต้องปิดเหมือนกันนะ ซึ่งเราประเมินไว้แล้วหากเราปล่อยมือไม่ทำตรงนี้แล้ว เรากลัวบริษัทมันจะต้องปิด เราพยายามคุยกับแฟนเราแล้วว่าเราอึดอัดจนทนไม่ไหวแล้ว เราไม่รู้ว่าเขารออะไร วันๆเราทำงานเหนื่อยมาก ต้องคุยลูกค้า ต้องตามหนี้ ต้องสั่งสินค้า ต้องทำบัญชี ต้องซื้อสินค้า เรายังมาเจอแบบนี้อีก หรือเราต้องปล่อยมือให้บริษัทนี้มันปิดจริงๆ เพื่อให้เขาได้รู้สึกใช่ไหมว่าที่เราทำอยู่เพื่อเขา เราแบกอะไรไว้ข้างหลังบ้าง (สำหรับเราหากเขารับไม่ได้กับระบบของเราเขาก็ควรออกไป ไม่ใช่ทำอะไรตามใจฉันแบบนี้ เพราะเราก็หาพนักงานใหม่ได้)
คำถามคือ เราควรปล่อยใช่ไหม ไม่ทำอะไรเลยแล้วเดินออกมา(แต่นี้คือธุรกิจที่อุตส่าสร้างมานะ) หรือเราควรอยู่ต่อแบบโดนข้ามหัวทุกวันแบบนี่ เพราะต่อให้คุยหรือประชุมไปทุกอย่างก็เหมือนเดิม(เพราะคุยหลายรอบแล้ว) หรือทุกคนมีทางอื่นไหม