รู้สึกเหนื่อย เบื่อ ท้อ ชีวิตไม่มีความสุข ชีวิตที่แขวนอยู่บนคำว่าหนี้บุญคุณ ที่ใช้ไปด้วยชีวิตก็ยังไม่พอ ชีวิตที่ต้องแสดงว่าครอบครัวอบอุ่น พี่น้องรักกันดี มีครอบครัวคอยซัพพอร์ตกัน มันโคตรจะเหนื่อยกับความสุขปลอมๆนี้เลย
เพราะสาวน้อยคนหนึ่ง ที่พ่อตายตั้งแต่เด็ก จากนั้นแม่ก็มีสามีใหม่ มีพี่น้องที่ดูเหมือนจะรักกัน เหมือนจะหวังดีรู้สึกโดดเดี่ยว พูดอะไรไม่ได้ ทุกอย่างต้องสมบูรณ์ ทุกอย่างต้อง Perfect แกจะมาอ่อนแอไม่ได้หรอกนะ เพราะ”คนอื่นเหนื่อยกว่าอีก” , “ที่กูพูดเพราะหวังดีทั้งนั้น” ,”เพราะไม่เคยให้อะไรคนอื่น” คำว่าสมบูรณ์มันต้องเท่าไรถึงจะพอดี?
ประถม เป็นที่1ตลอด เป็นที่ปรึกษาให้เพื่อนๆได้ เรียนดี มัธยมก็ยังคง The best ในสายตาเพื่อน เพราะอะไรหรอ เพราะไม่มีสิทธิ์เลือกไง แกต้องได้เท่านี้เท่านั้น แกถึงจะไม่ถูกด่า เพราะคนได้หน้าคือครอบครัว Happy ที่มีคนมาสรรเสริญว่าเลี้ยงดี เด็กที่ไม่มีสิทธิ์เลือกทางเดินชีวิตตัวเอง เพราะรู้สึกไม่เก่ง เรียนในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบจนผ่านมันมาได้ สอบเข้าคณะที่ตัวเองไม่อยากได้ แค่เพียงเพราะจบมาแล้วมันได้ตังค์เยอะ จบป.ตรีมา เกรดเฉลี่ยดีเยี่ยม และพร้อมหนี้สินอีกหลายแสน จบมาได้ทำงานเลย จบมาส่งเงินให้ครอบครัวตั้งแต่เดือนเเรก เก็บเงินรับปริญญาที่ครอบครัวรอคอย เงินเก็บทั้งหมดถูกใช้ไปเพราะอยากให้มันสมบูรณ์ เรียนจบมาไม่เคยได้รับความชื่นชม ไม่เห็นมีใครมองเห็นว่าเก่ง พูดแค่ใน part ของตัวเองว่าสามารถส่งให้เรียนจบส่งได้ ทั้งๆที่ซัพพอร์ตตามมีตามเกิด แต่ห้ามดรอปให้ฉันขายหน้านะ แกต้องเรียนให้จบ
ชีวิตที่ไม่มีใครมาถามว่าเป็นยังไง ยังมองว่าไม่สมบูรณ์สักที “เอาเงินไปใช้อะไรหมด” ทำงานมาตั้งเป็นปี ไม่มีเงินเก็บเลยหรอ? ไม่อยากเป็นหนี้เพิ่มไม่สร้างนี้ แต่ขัดไม่ได้ของมันต้องมี “เเกไปซื้อรถให้ฉันสิ” หนี้สินที่เพิ่มพูนพอๆกับความทุกข์ใจ อยากออกไปใช้ชีวิตเจียดเงินเก็บไปเที่ยวบ้าง บางครั้ง “ทำตัวมีตังค์ แทนที่จะให้ครอบครัว” “มีเงินก็ไม่รู้จักเก็บ ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย” แต่พอส่งตังค์เลท โทรมาทวงโดยไม่ถามหาเหตุผล ไม่ถามว่าเดือดร้อนอะไรมั้ย
เอาเรื่องส่วนตัว เอาเรื่องของครอบครัวไปพูดไปเล่าให้คนนอกฟัง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่ชอบ และพูดไปหลายครั้ง
ทำไมพอเป็นตัวฉันถึงไม่มีสิทธิ์อะไรในลมหายใจตัวเองเลย ไม่มีใครมองที่ฉันถูกกระทำบ้างเลย ทั้งๆพยายามอยากส่งให้ฉันเรียนสูงๆ แต่ทำไมกดฉันต่ำแบบนี้ เพราะยอมมาตลอดมันต้องยอมต่อไปเลยหรอ? แล้วเมื่อไรจะได้ใช้ชีวิตเป็นของตัวเองสักที
ชีวิตที่เข้าใกล้ความตายมาแล้ว แต่ที่มีลมหายใจอยู่ยิ่งกว่าตายทั้งเป็นสะอีก
-ตอนเด็กๆตกน้ำบ่อลึกเกือบตาย ไปด้วยกันหลายคนมีแต่เด็กๆ สติที่อยู่ใต้น้ำ หายใจไม่ออก หูอื้อ ตะเกียกตะกายอยากขึ้นจากน้ำ แต่มันไม่ขึ้นสักที จนช่วงลมหายใจ มีคนที่ชื่อว่าพ่อ ทั้งๆที่ตายไปตั้งแต่ลูกสาวตัวเองมีชีวิตแค่1ขวบมาช่วยให้ลูกมีลมหายใจอีกครั้ง ที่ผ่านความตายมา เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ แต่เมื่อไรที่ทุกข์ใจ นึกถึงได้ตลอด เหมือนยังอยู่ด้วยกันตลอดเวลา รู้สึกรักและผูกพันมากกว่า คนที่ชื่อว่าแม่ คนที่มีลมหายใจแต่ไม่เคยให้ความรัก
พออายุ 16 เครียด โดนกดดันหลายทาง เหนื่อย คิดร้ายกับตัวเองอีกครั้ง ขับรถไปบ้านร้าง บ้านที่เกิด บ้านที่พ่อตั้งใจสร้าง แต่กลับต้องปล่อยให้ร้าง เพราะลูกนก ต้องอพยพไปตามแม่นก ขับรถไปพร้อมกับน้ำยาล้างห้องน้ำ แต่ร้องไห้แล้วหลับไปก่อน ตื่นมาขวดหาย บ้านที่ไม่มีคนอยู่ บ้านที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ มีแต่คนพูดว่าเจอผี มีผี แต่เราสารมารถไปนอนเล่นได้ทุกครั้ง ไปทำความสะอาดตลอด จนตอนนี้ไม่ได้ไป ไม่มีคนดูแลแล้ว เพราะต้องจากบ้านพ่อมาเรียนมาทำงาน
จนวันนี้เด็กดีที่ทุกคนข่มแหง กดขี่ มันไม่ยอมอีกต่อไป เอ่ยปากเลย ว่าอึดอัด ว่าอยู่แล้วก็ไม่มีความสุข จะย้ายออก จะไปอยู่ที่อื่น เพราะต่อให้อยู่ไปก็รู้สึกเป็นส่วนเกิน โดดเดี่ยว อ้างว้าง แต่ความคิดของเราไม่เท่ากัน สุดท้ายไม่พ้นเรื่องเงินอยู่ดี กลัวไม่ส่งให้เหมือนเดิม ฉันไม่มีคำบรรยาย ไม่มีความรู้สึก
อายุ 24 ปี ไม่เคยได้รับความรัก ไม่เคยได้กอด ไม่เคยได้รับความเอาใจใส่ ต้องทำเป็นเข้มแข็ง ทั้งๆที่ภายในนั้นบอบช้ำ บอบบางไปแค่ไหน ต้องทำดีแค่ไหนถึงจะพอดี ทำแค่ไหนถึงจะเรียกว่าสมบูรณ์
อยากไปไกลๆ อยากตัดขาดจากทุกสิ่ง ไม่อยากโดนฆ่าด้วยความรู้สึกอีกต่อไป แม้ฉันถูกตราหน้าว่าเป็นเด็ก“เนรคุณ” ก็จะยอม
สุดท้ายแล้ว ความรู้สึกก็ได้แค่ปลดปล่อยผ่านตัวหนังสือ
ความตายสุดท้ายที่ฉันจะพบอีกครั้ง ก็ขอให้เกิดตามโชคชะตา ฉันจะไม่เดินเข้าใกล้มันอีก!
-ข้อความที่มีแต่น้ำตาและใจที่บอบช้ำ
ถ้าเราอยากตัดขาดกับครอบครัวมันจะดู เนรคุณเกินไปมั้ย
เพราะสาวน้อยคนหนึ่ง ที่พ่อตายตั้งแต่เด็ก จากนั้นแม่ก็มีสามีใหม่ มีพี่น้องที่ดูเหมือนจะรักกัน เหมือนจะหวังดีรู้สึกโดดเดี่ยว พูดอะไรไม่ได้ ทุกอย่างต้องสมบูรณ์ ทุกอย่างต้อง Perfect แกจะมาอ่อนแอไม่ได้หรอกนะ เพราะ”คนอื่นเหนื่อยกว่าอีก” , “ที่กูพูดเพราะหวังดีทั้งนั้น” ,”เพราะไม่เคยให้อะไรคนอื่น” คำว่าสมบูรณ์มันต้องเท่าไรถึงจะพอดี?
ประถม เป็นที่1ตลอด เป็นที่ปรึกษาให้เพื่อนๆได้ เรียนดี มัธยมก็ยังคง The best ในสายตาเพื่อน เพราะอะไรหรอ เพราะไม่มีสิทธิ์เลือกไง แกต้องได้เท่านี้เท่านั้น แกถึงจะไม่ถูกด่า เพราะคนได้หน้าคือครอบครัว Happy ที่มีคนมาสรรเสริญว่าเลี้ยงดี เด็กที่ไม่มีสิทธิ์เลือกทางเดินชีวิตตัวเอง เพราะรู้สึกไม่เก่ง เรียนในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบจนผ่านมันมาได้ สอบเข้าคณะที่ตัวเองไม่อยากได้ แค่เพียงเพราะจบมาแล้วมันได้ตังค์เยอะ จบป.ตรีมา เกรดเฉลี่ยดีเยี่ยม และพร้อมหนี้สินอีกหลายแสน จบมาได้ทำงานเลย จบมาส่งเงินให้ครอบครัวตั้งแต่เดือนเเรก เก็บเงินรับปริญญาที่ครอบครัวรอคอย เงินเก็บทั้งหมดถูกใช้ไปเพราะอยากให้มันสมบูรณ์ เรียนจบมาไม่เคยได้รับความชื่นชม ไม่เห็นมีใครมองเห็นว่าเก่ง พูดแค่ใน part ของตัวเองว่าสามารถส่งให้เรียนจบส่งได้ ทั้งๆที่ซัพพอร์ตตามมีตามเกิด แต่ห้ามดรอปให้ฉันขายหน้านะ แกต้องเรียนให้จบ
ชีวิตที่ไม่มีใครมาถามว่าเป็นยังไง ยังมองว่าไม่สมบูรณ์สักที “เอาเงินไปใช้อะไรหมด” ทำงานมาตั้งเป็นปี ไม่มีเงินเก็บเลยหรอ? ไม่อยากเป็นหนี้เพิ่มไม่สร้างนี้ แต่ขัดไม่ได้ของมันต้องมี “เเกไปซื้อรถให้ฉันสิ” หนี้สินที่เพิ่มพูนพอๆกับความทุกข์ใจ อยากออกไปใช้ชีวิตเจียดเงินเก็บไปเที่ยวบ้าง บางครั้ง “ทำตัวมีตังค์ แทนที่จะให้ครอบครัว” “มีเงินก็ไม่รู้จักเก็บ ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย” แต่พอส่งตังค์เลท โทรมาทวงโดยไม่ถามหาเหตุผล ไม่ถามว่าเดือดร้อนอะไรมั้ย
เอาเรื่องส่วนตัว เอาเรื่องของครอบครัวไปพูดไปเล่าให้คนนอกฟัง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่ชอบ และพูดไปหลายครั้ง
ทำไมพอเป็นตัวฉันถึงไม่มีสิทธิ์อะไรในลมหายใจตัวเองเลย ไม่มีใครมองที่ฉันถูกกระทำบ้างเลย ทั้งๆพยายามอยากส่งให้ฉันเรียนสูงๆ แต่ทำไมกดฉันต่ำแบบนี้ เพราะยอมมาตลอดมันต้องยอมต่อไปเลยหรอ? แล้วเมื่อไรจะได้ใช้ชีวิตเป็นของตัวเองสักที
ชีวิตที่เข้าใกล้ความตายมาแล้ว แต่ที่มีลมหายใจอยู่ยิ่งกว่าตายทั้งเป็นสะอีก
-ตอนเด็กๆตกน้ำบ่อลึกเกือบตาย ไปด้วยกันหลายคนมีแต่เด็กๆ สติที่อยู่ใต้น้ำ หายใจไม่ออก หูอื้อ ตะเกียกตะกายอยากขึ้นจากน้ำ แต่มันไม่ขึ้นสักที จนช่วงลมหายใจ มีคนที่ชื่อว่าพ่อ ทั้งๆที่ตายไปตั้งแต่ลูกสาวตัวเองมีชีวิตแค่1ขวบมาช่วยให้ลูกมีลมหายใจอีกครั้ง ที่ผ่านความตายมา เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ แต่เมื่อไรที่ทุกข์ใจ นึกถึงได้ตลอด เหมือนยังอยู่ด้วยกันตลอดเวลา รู้สึกรักและผูกพันมากกว่า คนที่ชื่อว่าแม่ คนที่มีลมหายใจแต่ไม่เคยให้ความรัก
พออายุ 16 เครียด โดนกดดันหลายทาง เหนื่อย คิดร้ายกับตัวเองอีกครั้ง ขับรถไปบ้านร้าง บ้านที่เกิด บ้านที่พ่อตั้งใจสร้าง แต่กลับต้องปล่อยให้ร้าง เพราะลูกนก ต้องอพยพไปตามแม่นก ขับรถไปพร้อมกับน้ำยาล้างห้องน้ำ แต่ร้องไห้แล้วหลับไปก่อน ตื่นมาขวดหาย บ้านที่ไม่มีคนอยู่ บ้านที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ มีแต่คนพูดว่าเจอผี มีผี แต่เราสารมารถไปนอนเล่นได้ทุกครั้ง ไปทำความสะอาดตลอด จนตอนนี้ไม่ได้ไป ไม่มีคนดูแลแล้ว เพราะต้องจากบ้านพ่อมาเรียนมาทำงาน
จนวันนี้เด็กดีที่ทุกคนข่มแหง กดขี่ มันไม่ยอมอีกต่อไป เอ่ยปากเลย ว่าอึดอัด ว่าอยู่แล้วก็ไม่มีความสุข จะย้ายออก จะไปอยู่ที่อื่น เพราะต่อให้อยู่ไปก็รู้สึกเป็นส่วนเกิน โดดเดี่ยว อ้างว้าง แต่ความคิดของเราไม่เท่ากัน สุดท้ายไม่พ้นเรื่องเงินอยู่ดี กลัวไม่ส่งให้เหมือนเดิม ฉันไม่มีคำบรรยาย ไม่มีความรู้สึก
อายุ 24 ปี ไม่เคยได้รับความรัก ไม่เคยได้กอด ไม่เคยได้รับความเอาใจใส่ ต้องทำเป็นเข้มแข็ง ทั้งๆที่ภายในนั้นบอบช้ำ บอบบางไปแค่ไหน ต้องทำดีแค่ไหนถึงจะพอดี ทำแค่ไหนถึงจะเรียกว่าสมบูรณ์
อยากไปไกลๆ อยากตัดขาดจากทุกสิ่ง ไม่อยากโดนฆ่าด้วยความรู้สึกอีกต่อไป แม้ฉันถูกตราหน้าว่าเป็นเด็ก“เนรคุณ” ก็จะยอม
สุดท้ายแล้ว ความรู้สึกก็ได้แค่ปลดปล่อยผ่านตัวหนังสือ
ความตายสุดท้ายที่ฉันจะพบอีกครั้ง ก็ขอให้เกิดตามโชคชะตา ฉันจะไม่เดินเข้าใกล้มันอีก!
-ข้อความที่มีแต่น้ำตาและใจที่บอบช้ำ