ยิ่งชีพ ปิดรับรายชื่อยอด #conforall คาดทะลุ 2 แสน ส่งเสียงให้ ครม.ชุดใหม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_4149351
ยิ่งชีพ ปิดรับรายชื่อยอด #conforall คาดทะลุ 2 แสน ส่งเสียงให้ ครม.ชุดใหม่
จากกรณีแคมเปญ “
เขียนใหม่ทั้งฉบับ เลือกตั้ง 100%” #conforall ซึ่งเป็นกิจกรรมที่รณรงค์เพื่อร่วมผลักดันการเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตั้งเป้าหมายเชิญชวนประชาชนเข้าชื่อให้ครบ 50,000 ชื่อ เพื่อเสนอคำถามสำหรับการทำประชามติ ต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทว่า กกต.ระบุว่า ไม่สามารถนำรายชื่อที่รวบรวมผ่านช่องทางออนไลน์ไปเสนอคำถามประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่ได้ จึงต้องขอแรงประชาชนร่วมกันลงรายชื่อใหม่อีกครั้งบนกระดาษ ตามจุดต่างๆ ที่มีการตั้งบูธ ต้องได้ 50,000 รายชื่อตามเป้า ภายใน 25 สิงหาคมนี้ ซึ่งล่าสุดได้ทะลุเป้าหมายเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม นาย
ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้อำนวยการไอลอว์ (iLaw) โพสต์เฟซบุ๊ก
https://www.facebook.com/pow.ilaw Yingcheep Atchanont ระบุว่า
แถลงการณ์ส่วนตัว 27 สิงหาคม 2566 เริ่มเขียน 10.00 น. นอนไป 8 ชั่วโมงแล้วแต่ยังเบลออยู่ #conforall เริ่มเครียดขึ้น หลังรายชื่อทะลุๆๆๆ แต่คนทำงานตรงกลางไม่รู้จะเอายังไงต่อดี
ขอแจ้งให้ทุกคนที่ร่วมลงชื่อกันมามหาศาลทราบตรงนี้อีกครั้งนะครับ ตอนนี้ปิดรับรายชื่อเพิ่มแล้วนะครับ ประกาศปิดเมื่อคืนวันที่ 25 สิงหาคม เวลา 20.00 น. เพราะต้องให้เวลาในการจัดทำเอกสารหลังบ้านอีกด้วย แต่คนที่ส่งไปรษณีย์วันศุกร์ อัดกันเข้ามาวันเสาร์แล้วมากกว่า 50,000+ และวันนี้จะไปรับเพิ่มน่าจะหลักหมื่น และจากที่ส่ง tracking number มาถามกันใน inbox มากมายจึงคาดว่าจะมีหลงเหลือมาวันจันทร์อีกไม่ใช่น้อย
ผมจะเดาว่า ยอดลงชื่อกระดาษในเวลาสามวัน อาจทะลุ 200,000 ได้
แน่นอนว่าเราต้องการให้ทุกรายชื่อ ทุกเสียง ถูกนับและยื่นเข้าระบบอย่างเป็นทางการ แต่ระบบหลังบ้านของเราที่ออกแบบไว้ก่อนหน้านี้ คือ จังหวะแรก สำหรับรับทั้งออนไลน์ออฟไลน์รวม 50,000+ ต่อมาจังหวะสองออกแบบคร่าวๆ ไว้รองรับกระดาษ 50,000+ เพื่อยื่นให้ทันวันจันทร์ แต่เราไม่มีทางออกแบบระบบสำหรับการรองรับรายชื่อมากกว่าที่คาดหมายไว้ 4 เท่าได้
ทีมหลังบ้าน มีคนนั่งนิ่งๆ คิด ออกแบบ และลงมือหลายชีวิตที่ทำงาน 5 วันที่ผ่านมา มากกว่า 70 ชั่วโมง และพร้อมจะทำไปต่อ มีนักคอมพิวเตอร์หลายศาสตร์หลายสาขา ทำงานทั้งในออนไลน์ ในออฟฟิศไอลอว์ และออฟฟิศอื่นๆ หลายแห่ง เพื่อจัดการระบบ ชนิดที่อาจารย์มะนาว โค้ชคอมพิวเตอร์โอลิมปิกก็ยังมาช่วยตัดซองจดหมายเพราะคิดระบบที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว ขออนุญาตไม่อธิบายละเอียดเพื่อให้เกียรติคนทำงานหลังบ้าน และผมเองก็เข้าใจระบบวันนี้ไม่มากแล้วล่ะ
เมื่อวานมีคนมาช่วยกรอก Excel หน้างานประมาณ 50+ คน เท่าที่ออฟฟิศใหม่ห้าชั้นจะมีพื้นที่รองรับได้ จนแทบจะต้องนั่งในห้องน้ำ และยังมีที่ออฟฟิศเพื่อนๆ อื่นอีกบ้าง จากที่ iLaw เคยซื้อเก้าอี้ไว้เพื่อไปออกงานหน้าสนามกับทำพื้นที่ให้เช่าห้องประชุมรวม 35 ตัว เมื่อวานใช้ครบ และยังซื้อโต๊ะพลาสติกเพิ่มอีก 5 ตัว วางเข้าไปจนไม่มีที่จะตั้งแล้ว
มีคนถามว่า ต้องการอาสาเพิ่มไหม ผมคิดว่าจริงๆ แล้วต้องการแต่พื้นที่รองรับได้จำกัด จึงขอให้ต้องทักมาสอบถามก่อนที่จะเข้ามาทุกคน ยังมีคนมากมายมาถามว่าอยากช่วยอยู่บ้าน ให้ส่งภาพให้ช่วยกันกรอกข้อมูลเป็น Digital ผมตัดสินใจด้วยความยากลำบากใจ และตัดสินใจว่า “ไม่ได้” เพราะข้อมูลเลขบัตรประชาชน ชื่อ นามสกุล เป็นข้อมูลส่วนบุคคลของคนเป็นแสน ถ้าสแกนส่งออนไลน์แล้วข้อมูลรั่วไหล นอกจากเป็นการละเมิดสิทธิของเขาแล้ว นี่คือ-ิบหาย เราทราบและยอมรับว่าจริงๆ ที่ต้องใช้คนหลายสิบมานั่งอ่านข้อมูลเพื่อกรอกที่ออฟฟิศนี่ก็คือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลระดับหนึ่ง แต่ตอนนี้ไม่มีทางเลือกอื่น ก็ต้องขอโทษ และขอความเข้าใจในประเด็นนี้ด้วย เพราะ กกต.มันสั่งมาให้ทำแบบนี้จริงๆ
ตอนนี้ความช่วยเหลือยังคงล้นหลาม แต่เรายังหาวิธีการแปรเปลี่ยนความช่วยเหลือการสนับสนุนให้เป็นความสำเร็จไม่ได้ ซึ่งเราก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด
ประเด็นต่อมาคือ เขาจะตั้ง ครม.เสร็จกันเมื่อไร ไม่มีทางรู้ได้เลยยยยย
เสร็จช้าไม่ดีแน่ และถ้าเขาตั้งเสร็จเร็ว เช่น ต้นสัปดาห์หน้า แล้วรอพระบรมราชโองการแต่งตั้งเริ่มประชุมต้นเดือนกันยายนตามกำหนดนี้จริง แล้วเราจะทำเสร็จได้ยังไง?? ในเมื่อกองเอกสารมากมายขนาดนี้ หรือถ้ามีปาฏิหาริย์ประชาชนอีก ช่วยกันจนเสร็จมันวันพรุ่งนี้เลย ก็ไม่รู้ว่าไรท์ซีดีไปยื่นให้ กกต. แล้ว กกต.จะหาที่เปิดแผ่นเจอวันไหน จะเอาข้อมูลทั้งหมดไปตรวจสอบความครบถ้วนถูกต้องได้เสร็จวันไหน เพราะนี่เป็นเรื่องใหม่ที่เขาเองก็ไม่เคยทำมาก่อน และถ้าให้เราทำออนไลน์ได้ตั้งแต่แรกก็ง่ายทุกฝ่ายไปแล้ว
ดังนั้น สิ่งสำคัญคือต้องให้คนที่กำลังจะเป็น ครม. ใหม่รอบนี้ ได้ยิน รับรู้ และเรื่องนี้อยู่ในหัวสมองของพวกเขา อยู่บนโต๊ะของพวกเขาแม้ว่า กกต.จะไม่ยอมทำให้เสร็จและส่งไปอย่างเป็นทางการ
เขาต้องได้ยินว่าประชาชนเรียกร้องประชามติ ที่ตั้งคำถามอย่างครอบคลุมครบถ้วนสมบูรณ์ ถ้าจะให้เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ก็ต้องเขียนใหม่กัน “ทั้งฉบับ” ถ้าจะให้มี ส.ส.ร. ก็ต้องมาจากการเลือกตั้ง 100%
ถ้าแตกต่างไปจากนี้คือผิดไปจากเจตจำนงที่เกิดบรรทัดฐานใหม่ของสังคมขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
ผมคงไม่มีเวลามากนักในการออกแบบและทำงานสื่อสารรณรงค์สาธารณะ เมื่อวานตัดซองจดหมายอยู่สักพักก็หมดแรงเลยต้องเรียกอาสามาช่วยทำต่อ วันนี้จะเกิดความท้าทายอะไรขึ้นอีกบ้างยังไม่รู้เลย
จึงต้องฝากความหวังไว้ว่า “เขียนใหม่ทั้งฉบับ เลือกตั้ง100%” จะดังขึ้นในสองสามวันนี้ได้ ด้วยแรงพลังการสื่อสารที่เจ้าของ 200,000 รายชื่อ จะลุกขึ้นมาส่งเสียงต่อด้วยกันอีกครั้งนึง เพื่อให้ ครม.ใหม่ได้ยินและรับไปพิจารณา
ขอบคุณครับ
เรามาไกลเกินจะกลับไปนับหนึ่ง
https://www.facebook.com/pow.ilaw/posts/pfbid07isVAdZcBWnVQbwtmT5B1YN2qST8QMu2czApjhdjZ8p8UvP2m9QMFRcyC5VEJeAUl
เสียมหาดไทยค้าขายโคตรขาดทุน “สมชัย”ชี้สูญเสีย5โอกาส
https://www.dailynews.co.th/news/2661120/
“สมชัย”ชี้ “เพื่อไทย”เสีย “มหาดไทย”ค้าขายโครตขาดทุน เป็นครั้งแรกที่พรรคแกนนำที่มี 141 เสียงยอมยกให้พรรครอง ที่มี 71 เสียงเพื่อแลกคมนาคม ชี้สูญเสีย 5 โอกาส
เมื่อวันที่ 27 ส.ค.นาย
สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง ได้โพสต์ข้อความระบุว่า
เสียมหาดไทย ค้าขายโคตรขาดทุน
น่าจะครั้งแรกที่พรรคแกนนำ ที่มีเสียง 141 เสียง ยอมยกมหาดไทยให้พรรครอง ที่มี 71 เสียง เพื่อแลกคมนาคม
แถมคนอยากได้คมนาคม ไม่ใช่เนื้อแท้ของพรรคเพื่อไทย แต่เป็นนักการเมืองที่เพิ่งย้ายจาก พปชร. มาอยู่เพื่อไทย
มหาดไทยที่หลุดมือ ทำให้เสียโอกาสอะไรบ้าง
1. การบริหารราชการส่วนภูมิภาคทั้งหมด เพราะมหาดไทย บังคับบัญชาผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งประเทศ ผู้ว่าฯเป็นผู้นำและกำกับ หัวหน้าส่วนราชการทุกกระทรวงในจังหวัด
2. การบริหารราชการส่วนท้องถิ่น เพราะมหาดไทยโดยนายอำเภอ กำกับดูแลกำนันและผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศ
3. มหาดไทย ยังกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจที่สำคัญ คือ การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าภูมิภาค การประปานครหลวง การประปาภูมิภาค
4. มหาดไทยยังมีหน้าที่จัดการเลือกตั้งท้องถิ่นทั้งหมด คือ อบจ. เทศบาล อบต. กทม. พัทยา โดยการมอบหมายจาก กกต.
5. สูญเสียโอกาสในการเป็นผู้ผลักดันนโยบายการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ซึ่งเป็นนโยบายหลักที่โดดเด่นและสำคัญ
ค้าขายขาดทุนปานนี้ พี่อ้วนเองยังอยากคุมกระทรวงพาณิชย์
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid031bwG7Wsk7i2hnfK8hYNQJaWsVuuQ334z6ZSFEjGXpmS1XUUDVj8XhVBGKFG6Z9T4l
ตลท.เผยครึ่งปีแรก กำไรบจ.ร่วง 26.6%
https://www.innnews.co.th/news/news_604164/
ตลาดหลักทรัพย์ เผย ครึ่งแรกปี 2566 ผลประกอบการ บจ. อ่อนตัว จากผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างมาก
นาย
แมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) จำนวน 764 บริษัท คิดเป็น 92.49% จากทั้งหมด 826 บริษัท (รวม SET และ mai ที่มีกำหนดส่งงบการเงิน ณ สิ้นงวด 30 มิถุนายน 2566 และไม่รวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน) นำส่งผลการดำเนินงานงวดครึ่งแรกปี 2566 พบว่ามี บจ. รายงานกำไรสุทธิ 577 บริษัท คิดเป็น 75.52% ของ บจ. ที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด
ผลการดำเนินงานงวดครึ่งแรกปี 2566 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บจ. ใน SET มียอดขาย 8,339,880 ล้านบาท ลดลง 2.8% ต้นทุนการผลิตปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มสูงขึ้น 7.8% จากการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลังโควิด ซึ่งส่งผลให้ บจ. มีกำไรจากการดำเนินงานหลัก (Core profit) และกำไรสุทธิลดลง สำหรับฐานะการเงินของกิจการ ณ 30 มิถุนายน 2566 บจ. ไทยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน หรือ D/E ratio (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) อยู่ที่ระดับ 1.53 เท่า ลดลงจาก 1.59 เท่าในครึ่งแรกปี 2565
“
ราคาน้ำมันและค่าการกลั่นที่ลดลงอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีให้ยอดขายและกำไรอ่อนตัวลงค่อนข้างมาก แต่หากพิจารณาธุรกิจอื่นไม่รวมธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมี จะพบว่ายอดขายขยายตัวพอประมาณที่ 4.5% โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจภาคบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร และสายการบิน อย่างไรก็ดี บจ. ต้องเผชิญกับความท้าทายในการดำเนินธุรกิจหลากหลายปัจจัย รวมถึง ต้นทุนการผลิตที่ยืนอยู่ในระดับสูง กิจกรรมการขายที่ฟื้นตัวและมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังผ่านพ้นสถานการณ์โควิด และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอีกด้วย” นาย
แมนพงศ์กล่าว
ด้านผลการดำเนินงานของ บจ. ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) งวดครึ่งแรกปี 2566 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มียอดขายรวม 95,183 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.3% ต้นทุนการผลิต 71,014 ล้านบาท ลดลง 0.3% ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 18,619 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.0% ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 5,550 ล้านบาท ลดลง 14.1% และกำไรสุทธิ 1,503 ล้านบาท ลดลง 71.0%
JJNY : #conforall คาดทะลุ 2 แสน│เสียมหาดไทยค้าขายโคตรขาดทุน│ครึ่งปีแรก กำไรบจ.ร่วง│ร้อนจัดในสหรัฐกระทบปชช. 111ล.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4149351
ยิ่งชีพ ปิดรับรายชื่อยอด #conforall คาดทะลุ 2 แสน ส่งเสียงให้ ครม.ชุดใหม่
จากกรณีแคมเปญ “เขียนใหม่ทั้งฉบับ เลือกตั้ง 100%” #conforall ซึ่งเป็นกิจกรรมที่รณรงค์เพื่อร่วมผลักดันการเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตั้งเป้าหมายเชิญชวนประชาชนเข้าชื่อให้ครบ 50,000 ชื่อ เพื่อเสนอคำถามสำหรับการทำประชามติ ต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทว่า กกต.ระบุว่า ไม่สามารถนำรายชื่อที่รวบรวมผ่านช่องทางออนไลน์ไปเสนอคำถามประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่ได้ จึงต้องขอแรงประชาชนร่วมกันลงรายชื่อใหม่อีกครั้งบนกระดาษ ตามจุดต่างๆ ที่มีการตั้งบูธ ต้องได้ 50,000 รายชื่อตามเป้า ภายใน 25 สิงหาคมนี้ ซึ่งล่าสุดได้ทะลุเป้าหมายเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้อำนวยการไอลอว์ (iLaw) โพสต์เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/pow.ilaw Yingcheep Atchanont ระบุว่า
แถลงการณ์ส่วนตัว 27 สิงหาคม 2566 เริ่มเขียน 10.00 น. นอนไป 8 ชั่วโมงแล้วแต่ยังเบลออยู่ #conforall เริ่มเครียดขึ้น หลังรายชื่อทะลุๆๆๆ แต่คนทำงานตรงกลางไม่รู้จะเอายังไงต่อดี
ขอแจ้งให้ทุกคนที่ร่วมลงชื่อกันมามหาศาลทราบตรงนี้อีกครั้งนะครับ ตอนนี้ปิดรับรายชื่อเพิ่มแล้วนะครับ ประกาศปิดเมื่อคืนวันที่ 25 สิงหาคม เวลา 20.00 น. เพราะต้องให้เวลาในการจัดทำเอกสารหลังบ้านอีกด้วย แต่คนที่ส่งไปรษณีย์วันศุกร์ อัดกันเข้ามาวันเสาร์แล้วมากกว่า 50,000+ และวันนี้จะไปรับเพิ่มน่าจะหลักหมื่น และจากที่ส่ง tracking number มาถามกันใน inbox มากมายจึงคาดว่าจะมีหลงเหลือมาวันจันทร์อีกไม่ใช่น้อย
ผมจะเดาว่า ยอดลงชื่อกระดาษในเวลาสามวัน อาจทะลุ 200,000 ได้
แน่นอนว่าเราต้องการให้ทุกรายชื่อ ทุกเสียง ถูกนับและยื่นเข้าระบบอย่างเป็นทางการ แต่ระบบหลังบ้านของเราที่ออกแบบไว้ก่อนหน้านี้ คือ จังหวะแรก สำหรับรับทั้งออนไลน์ออฟไลน์รวม 50,000+ ต่อมาจังหวะสองออกแบบคร่าวๆ ไว้รองรับกระดาษ 50,000+ เพื่อยื่นให้ทันวันจันทร์ แต่เราไม่มีทางออกแบบระบบสำหรับการรองรับรายชื่อมากกว่าที่คาดหมายไว้ 4 เท่าได้
ทีมหลังบ้าน มีคนนั่งนิ่งๆ คิด ออกแบบ และลงมือหลายชีวิตที่ทำงาน 5 วันที่ผ่านมา มากกว่า 70 ชั่วโมง และพร้อมจะทำไปต่อ มีนักคอมพิวเตอร์หลายศาสตร์หลายสาขา ทำงานทั้งในออนไลน์ ในออฟฟิศไอลอว์ และออฟฟิศอื่นๆ หลายแห่ง เพื่อจัดการระบบ ชนิดที่อาจารย์มะนาว โค้ชคอมพิวเตอร์โอลิมปิกก็ยังมาช่วยตัดซองจดหมายเพราะคิดระบบที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว ขออนุญาตไม่อธิบายละเอียดเพื่อให้เกียรติคนทำงานหลังบ้าน และผมเองก็เข้าใจระบบวันนี้ไม่มากแล้วล่ะ
เมื่อวานมีคนมาช่วยกรอก Excel หน้างานประมาณ 50+ คน เท่าที่ออฟฟิศใหม่ห้าชั้นจะมีพื้นที่รองรับได้ จนแทบจะต้องนั่งในห้องน้ำ และยังมีที่ออฟฟิศเพื่อนๆ อื่นอีกบ้าง จากที่ iLaw เคยซื้อเก้าอี้ไว้เพื่อไปออกงานหน้าสนามกับทำพื้นที่ให้เช่าห้องประชุมรวม 35 ตัว เมื่อวานใช้ครบ และยังซื้อโต๊ะพลาสติกเพิ่มอีก 5 ตัว วางเข้าไปจนไม่มีที่จะตั้งแล้ว
มีคนถามว่า ต้องการอาสาเพิ่มไหม ผมคิดว่าจริงๆ แล้วต้องการแต่พื้นที่รองรับได้จำกัด จึงขอให้ต้องทักมาสอบถามก่อนที่จะเข้ามาทุกคน ยังมีคนมากมายมาถามว่าอยากช่วยอยู่บ้าน ให้ส่งภาพให้ช่วยกันกรอกข้อมูลเป็น Digital ผมตัดสินใจด้วยความยากลำบากใจ และตัดสินใจว่า “ไม่ได้” เพราะข้อมูลเลขบัตรประชาชน ชื่อ นามสกุล เป็นข้อมูลส่วนบุคคลของคนเป็นแสน ถ้าสแกนส่งออนไลน์แล้วข้อมูลรั่วไหล นอกจากเป็นการละเมิดสิทธิของเขาแล้ว นี่คือ-ิบหาย เราทราบและยอมรับว่าจริงๆ ที่ต้องใช้คนหลายสิบมานั่งอ่านข้อมูลเพื่อกรอกที่ออฟฟิศนี่ก็คือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลระดับหนึ่ง แต่ตอนนี้ไม่มีทางเลือกอื่น ก็ต้องขอโทษ และขอความเข้าใจในประเด็นนี้ด้วย เพราะ กกต.มันสั่งมาให้ทำแบบนี้จริงๆ
ตอนนี้ความช่วยเหลือยังคงล้นหลาม แต่เรายังหาวิธีการแปรเปลี่ยนความช่วยเหลือการสนับสนุนให้เป็นความสำเร็จไม่ได้ ซึ่งเราก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด
ประเด็นต่อมาคือ เขาจะตั้ง ครม.เสร็จกันเมื่อไร ไม่มีทางรู้ได้เลยยยยย
เสร็จช้าไม่ดีแน่ และถ้าเขาตั้งเสร็จเร็ว เช่น ต้นสัปดาห์หน้า แล้วรอพระบรมราชโองการแต่งตั้งเริ่มประชุมต้นเดือนกันยายนตามกำหนดนี้จริง แล้วเราจะทำเสร็จได้ยังไง?? ในเมื่อกองเอกสารมากมายขนาดนี้ หรือถ้ามีปาฏิหาริย์ประชาชนอีก ช่วยกันจนเสร็จมันวันพรุ่งนี้เลย ก็ไม่รู้ว่าไรท์ซีดีไปยื่นให้ กกต. แล้ว กกต.จะหาที่เปิดแผ่นเจอวันไหน จะเอาข้อมูลทั้งหมดไปตรวจสอบความครบถ้วนถูกต้องได้เสร็จวันไหน เพราะนี่เป็นเรื่องใหม่ที่เขาเองก็ไม่เคยทำมาก่อน และถ้าให้เราทำออนไลน์ได้ตั้งแต่แรกก็ง่ายทุกฝ่ายไปแล้ว
ดังนั้น สิ่งสำคัญคือต้องให้คนที่กำลังจะเป็น ครม. ใหม่รอบนี้ ได้ยิน รับรู้ และเรื่องนี้อยู่ในหัวสมองของพวกเขา อยู่บนโต๊ะของพวกเขาแม้ว่า กกต.จะไม่ยอมทำให้เสร็จและส่งไปอย่างเป็นทางการ
เขาต้องได้ยินว่าประชาชนเรียกร้องประชามติ ที่ตั้งคำถามอย่างครอบคลุมครบถ้วนสมบูรณ์ ถ้าจะให้เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ก็ต้องเขียนใหม่กัน “ทั้งฉบับ” ถ้าจะให้มี ส.ส.ร. ก็ต้องมาจากการเลือกตั้ง 100%
ถ้าแตกต่างไปจากนี้คือผิดไปจากเจตจำนงที่เกิดบรรทัดฐานใหม่ของสังคมขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
ผมคงไม่มีเวลามากนักในการออกแบบและทำงานสื่อสารรณรงค์สาธารณะ เมื่อวานตัดซองจดหมายอยู่สักพักก็หมดแรงเลยต้องเรียกอาสามาช่วยทำต่อ วันนี้จะเกิดความท้าทายอะไรขึ้นอีกบ้างยังไม่รู้เลย
จึงต้องฝากความหวังไว้ว่า “เขียนใหม่ทั้งฉบับ เลือกตั้ง100%” จะดังขึ้นในสองสามวันนี้ได้ ด้วยแรงพลังการสื่อสารที่เจ้าของ 200,000 รายชื่อ จะลุกขึ้นมาส่งเสียงต่อด้วยกันอีกครั้งนึง เพื่อให้ ครม.ใหม่ได้ยินและรับไปพิจารณา
ขอบคุณครับ
เรามาไกลเกินจะกลับไปนับหนึ่ง
https://www.facebook.com/pow.ilaw/posts/pfbid07isVAdZcBWnVQbwtmT5B1YN2qST8QMu2czApjhdjZ8p8UvP2m9QMFRcyC5VEJeAUl
เสียมหาดไทยค้าขายโคตรขาดทุน “สมชัย”ชี้สูญเสีย5โอกาส
https://www.dailynews.co.th/news/2661120/
“สมชัย”ชี้ “เพื่อไทย”เสีย “มหาดไทย”ค้าขายโครตขาดทุน เป็นครั้งแรกที่พรรคแกนนำที่มี 141 เสียงยอมยกให้พรรครอง ที่มี 71 เสียงเพื่อแลกคมนาคม ชี้สูญเสีย 5 โอกาส
เมื่อวันที่ 27 ส.ค.นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง ได้โพสต์ข้อความระบุว่า
เสียมหาดไทย ค้าขายโคตรขาดทุน
น่าจะครั้งแรกที่พรรคแกนนำ ที่มีเสียง 141 เสียง ยอมยกมหาดไทยให้พรรครอง ที่มี 71 เสียง เพื่อแลกคมนาคม
แถมคนอยากได้คมนาคม ไม่ใช่เนื้อแท้ของพรรคเพื่อไทย แต่เป็นนักการเมืองที่เพิ่งย้ายจาก พปชร. มาอยู่เพื่อไทย
มหาดไทยที่หลุดมือ ทำให้เสียโอกาสอะไรบ้าง
1. การบริหารราชการส่วนภูมิภาคทั้งหมด เพราะมหาดไทย บังคับบัญชาผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งประเทศ ผู้ว่าฯเป็นผู้นำและกำกับ หัวหน้าส่วนราชการทุกกระทรวงในจังหวัด
2. การบริหารราชการส่วนท้องถิ่น เพราะมหาดไทยโดยนายอำเภอ กำกับดูแลกำนันและผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศ
3. มหาดไทย ยังกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจที่สำคัญ คือ การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าภูมิภาค การประปานครหลวง การประปาภูมิภาค
4. มหาดไทยยังมีหน้าที่จัดการเลือกตั้งท้องถิ่นทั้งหมด คือ อบจ. เทศบาล อบต. กทม. พัทยา โดยการมอบหมายจาก กกต.
5. สูญเสียโอกาสในการเป็นผู้ผลักดันนโยบายการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ซึ่งเป็นนโยบายหลักที่โดดเด่นและสำคัญ
ค้าขายขาดทุนปานนี้ พี่อ้วนเองยังอยากคุมกระทรวงพาณิชย์
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid031bwG7Wsk7i2hnfK8hYNQJaWsVuuQ334z6ZSFEjGXpmS1XUUDVj8XhVBGKFG6Z9T4l
ตลท.เผยครึ่งปีแรก กำไรบจ.ร่วง 26.6%
https://www.innnews.co.th/news/news_604164/
ตลาดหลักทรัพย์ เผย ครึ่งแรกปี 2566 ผลประกอบการ บจ. อ่อนตัว จากผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างมาก
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) จำนวน 764 บริษัท คิดเป็น 92.49% จากทั้งหมด 826 บริษัท (รวม SET และ mai ที่มีกำหนดส่งงบการเงิน ณ สิ้นงวด 30 มิถุนายน 2566 และไม่รวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน) นำส่งผลการดำเนินงานงวดครึ่งแรกปี 2566 พบว่ามี บจ. รายงานกำไรสุทธิ 577 บริษัท คิดเป็น 75.52% ของ บจ. ที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด
ผลการดำเนินงานงวดครึ่งแรกปี 2566 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บจ. ใน SET มียอดขาย 8,339,880 ล้านบาท ลดลง 2.8% ต้นทุนการผลิตปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มสูงขึ้น 7.8% จากการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลังโควิด ซึ่งส่งผลให้ บจ. มีกำไรจากการดำเนินงานหลัก (Core profit) และกำไรสุทธิลดลง สำหรับฐานะการเงินของกิจการ ณ 30 มิถุนายน 2566 บจ. ไทยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน หรือ D/E ratio (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) อยู่ที่ระดับ 1.53 เท่า ลดลงจาก 1.59 เท่าในครึ่งแรกปี 2565
“ราคาน้ำมันและค่าการกลั่นที่ลดลงอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีให้ยอดขายและกำไรอ่อนตัวลงค่อนข้างมาก แต่หากพิจารณาธุรกิจอื่นไม่รวมธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมี จะพบว่ายอดขายขยายตัวพอประมาณที่ 4.5% โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจภาคบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร และสายการบิน อย่างไรก็ดี บจ. ต้องเผชิญกับความท้าทายในการดำเนินธุรกิจหลากหลายปัจจัย รวมถึง ต้นทุนการผลิตที่ยืนอยู่ในระดับสูง กิจกรรมการขายที่ฟื้นตัวและมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังผ่านพ้นสถานการณ์โควิด และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอีกด้วย” นายแมนพงศ์กล่าว
ด้านผลการดำเนินงานของ บจ. ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) งวดครึ่งแรกปี 2566 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มียอดขายรวม 95,183 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.3% ต้นทุนการผลิต 71,014 ล้านบาท ลดลง 0.3% ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 18,619 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.0% ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 5,550 ล้านบาท ลดลง 14.1% และกำไรสุทธิ 1,503 ล้านบาท ลดลง 71.0%