รุ่นน้องที่ทำงานพูดจาแบบนี้กับเรา เราผิดไหมที่โกรธเขา

ขอลบเนื้อหากระทู้ เพราะไม่อยากให้คนรู้จักมาเห็นซะก่อน คิดว่าได้รับความเห็นเพียงพอแล้ว ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ที่ได้แนะนำสิ่งที่มีประโยชน์ให้
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
“ จึงอยากรู้ว่าคนที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จะคิดยังไงกับเรื่องนี้” ?

ถ้าจะพูดตรงๆ ในฐานะคนนอกที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไร  

คิดว่า  คุณเป็นฝ่ายคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ แล้วพาลค่ะ

เขาพูดว่าให้มาช่วยกัน นี่ตู้คุณนะ … ทุกคนที่อยู่ที่นั่น ก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นตู้คุณ  มันคือข้อเท็จจริงค่ะ
มันไม่ได้ทำให้คุณดูแย่ลงจากคำพูดนี้   เพราะทุกคนก็เห็นก่อนหน้านั้นแล้ว ว่า คุณกำลังนั่งพักอยู่ ไม่เรียกก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมาช่วยยก

แต่คุณโกรธ  กระทั่งลืมมารยาท ลืมขอบคุณ ทุกคนที่มาช่วยเมื่อยกเสร็จ  
แถมยังผูกโกรธ ไม่ยอมใช้อ่างล้างมือ
แล้วยังผูกโยงไปเรื่องของใช้สำนักงานต่างๆ ที่คุณ “ไม่ได้ขอให้ใครช่วย” ตอนเอาไปเก็บ  
แต่เก็บมาเป็นอารมณ์กรุ่นอยู่ตลอด

คนที่มีอารมณ์กรุ่นขนาดนี้  จะมีกระแสจิตที่ไม่น่าเข้าใกล้  
และ จะเป็นคนที่มีความสุขน้อยกว่า  ถ้าเทียบกับคนที่พูดจาโผงผาง แต่ปล่อยผ่านเร็วๆ ไม่เก็บอะไรมาสุมในใจนาน

เพราะฉะนั้น … เพื่อความสุขในใจคุณเอง
ลองพิจารณาตามที่เราบอกนานๆ แล้วค่อยๆดูว่า ตอนคุณอารมณ์ดีๆ คุณจะยอมรับความจริงพวกนี้ได้ไหม
คุณจะเข้าใจ ความเจ้าคิดเจ้าแค้นของตัวเองไหม

เราไม่ได้บอกว่า คุณต้องตามไปขอโทษ หรือไปคุยกับสองคนนั้น  
เพียงแต่อยากบอกว่า  เรื่องอะไร ที่เก็บไว้ในใจแล้วทำให้คุณไม่สบายใจ

การปล่อยไป มันมีประโยชน์กว่าการกักเก็บไว้มากนักนะคะ

เทียน
ความคิดเห็นที่ 5
เราเป็นพวกชอบทำทุกอย่างคนเดียวจนเคยชิน แบบอะไรทำได้คนเดียวเราจะไม่รบกวนใครเลยถ้าเค้าเสนอตัวมาช่วย(มันอาจจะทำให้เค้าดูแย่ในสายตาคนอื่น)

กลับกันอะไรที่เราทำไม่ได้ ถึงแม้จะเป็นเรื่องของเรา เราก็กล้าจะขอร้องคนอื่นนะ เพราะมันก็แฟร์ค่ะ เราก็ช่วยคนอื่นเหมือนกัน

**ถ้าคุณช่วยแล้วหวังผล ในขณะที่อยากให้ช่วยแต่ไม่พูด ใครจะตรัสรู้ได้

** ช่างบางคนเค้ามาทำหน้าที่เค้าค่ะ อะไรนอกหน้าที่เค้าก็ไม่ทำ แถมเสียเวลาเค้าอีก ถ้าคุณไม่ดิลช่างล่วงหน้า สมมุติว่าช่างดิลคุณ10โมง ช่างมองว่างานนี้30นาทีเสร็จ ดิลงานอีกที่ขับรถตีสัก40นาที ถึงคิวที่2แต่ถ้าคิวแรกต้องมาเสียเวลาย้ายของ นัานเท่ากับเวลาของเค้าเรทไป //ที่สำคัญช่างบางคนสุขภาพไม่ค่อยดีค่ะ แค่เค้ารับงานทำงานเค้าได้ก็ดีแค่ไหนแล้วจะหวังให้เค้ายกของหนักอีก (ใจร้ายไปนิด)

**คุณควรเคลียร์พื้นที่หน้างานให้เสร็จก่อนช่างมา ไม่ใช่ช่างมาแล้วค่อยเคลียร์

**ทุกคนอยากได้อ่าง มันเป็นประชาธิปไตย ถ้าทุกคนบอกไม่เอาอ่างแล้วแต่ไม่เอาตู้คุณ คุณจะรู้สึกยังไง หรือช่างตู้คุณสิ เอกสารก็ของคุณ จัดการโยกย้ายเองสิ (อันนี้เรียกโหดจริง)

โปรดใช้สติมากกว่าอารมณ์
ความคิดเห็นที่ 12
อ่านจากกระทู้เก่าๆที่คุณตั้ง แล้วก็กระทู้นี้ เพื่อนร่วมงานคุณเขาก็ไม่อยากสนิทกับคุณหรอกค่ะ ทุกเรื่องเหมือนเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล
ความคิดเห็นที่ 8
ผมสวดมนต์ทุกวัน จะมีบทนึงที่ผมใช้สวดทุกวันคือบทนี้ครับ
หลังจากสวดทุกวันและมีบทนี้รู้สึกปล่อยวางเรื่องในอดีตได้
ไม่ค่อยค้างคาเรื่องในอดีตเท่าไหร่แล้วครับ
ความคิดเห็นที่ 9
- เรื่องยกตู้ เรามองว่าเข้าใจไม่ตรงกัน พวกเขาจะช่วยกันย้ายก่อนช่างมา ในขณะที่คุณคิดว่า ช่างมาแล้วให้ช่างทำก็ได้
อันนี้พอไม่ได้คุยกัน แล้วถึงเวลาเขาย้าย คุณไม่ได้ไปช่วยย้าย เขาเลยมองว่าคุณไม่ช่วยส่วนรวม
อ่างเป็นเรื่องส่วนรวมไปแล้ว ถ้าทำเฉย อย่าว่าแต่รุ่นน้องจะพูดเลยค่ะ คนอื่นก็จะมองคุณไม่ดีไปด้วย

- เรื่องยกของหนักคนเดียว ถ้ามันหนักเกินไป เรียกเพื่อนร่วมงานได้ค่ะ เพราะมันคือของในสำนักงาน ไม่ใช่ของส่วนตัว
ไม่ต้องพยายามทำอะไรคนเดียว อะไรที่ทำไม่ไหวก็บอกเลยว่าไม่ไหว คนอื่นเขายังไม่ทำคนเดียวเลยค่ะ
เขายังกล้าที่ใช้คำพูดเพื่อเรียกให้คุณช่วย ต่อไปคุณก็ต้องทำเหมือนกัน ถ้าไม่อยากเสียเปรียบ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่