จะบอกก่อนว่าเราเป็นลูกสาวคนสุดท้อง มีแม่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวตั้งแต่เรา2ขวบ เพราะตอนนั้นพ่อเสีย ปัจจุบันอายุ21 อาศัยอยู่กับแม่,พี่สาวและยายมาโดยตลอด จนพี่เราจบม.6ไปเรียนมหาลัยที่กทม.
ช่วงมัธยมปลาย ช่วงปิดเทอม พี่สาวจะไปกทม.บ่อยๆ ไปหาน้า ไปหาพี่สาวอีกคนบ่อยๆ เราเลยอยู่กับแม่และยายมาโดยตลอด
แม่เรามีเราตอนอายุ42 ยายก็อายุเยอะมากแล้ว เท่าที่พอรับรู้ได้ ยายกับแม่ แกค่อนข้างหัวโบราณ ส่วนมากจะชอบห้ามนั่นห้ามนี่ ขี้กลัว ตอนเด็กเราไม่รู้ว่าแกปลูกฝังเราอะไรยังไงบ้าง
ภาพจะย้อนไปตอนเราเป็นเด็กประถมเลย พี่สาวเราค่อนข้างที่จะเกเร้ลยตอนนั้น เลิกเรียนมาจะเข้าห้องเลย ไม่ทานข้าวพร้อมหน้ากัน
ไม่ก็จะกลับบ้านค่ำ ดึกๆจะชอบแอบไปร้านอินเทอร์เน็ต เหมือนพี่เขาจะชอบหาความรู้ จะเอาตัวรอดด้วยตัวเอง ไม่ชอบให้แม่สอน
ในตอนนั้น เรากับพี่สาวก็ไม่ค่อยจะถูกคอกัน เพราะพี่มองว่าแม่ตามใจเรามากกว่า
ตอนนั้นแม่ดุพี่ เอาด้ามไม้กวาด ตีจนด้ามหัก เราก็กลัวณตอนนั้น
พอเรามาถึงวัยรุ่น ก็เป็นเด็กตจว. บ้านนอกๆคนนึง มีหมอลำใกล้บ้านมากๆ ตอนนั้นเราประมาณม.3 เราอยากไปดู เลยขอแม่ไป แม่บอกไม่ต้องไป มันค่ำแล้ว เราก็ถามทำไมเพื่อนที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันไปได้
แล้วแม่เราก็ขึ้นเสียงเลย งั้นก็ไปสิ เหมือนประชดอ่ะ ตอนนั้นเราร้องไห้ ทั้งกลัว ทั้งเสียใจ ไม่กล้าขัดแม่ ทั้งๆที่ใจอยากไปมาก จำได้ว่าร้องไห้จนตัวสั่น เวลามีหนังกลางแปลงที่วัด คือบ้านเราติดวัด เราจะเป็นคนแรกที่ถูกแม่มาตามเสมอ ขนาดรุ่นน้องบ้านตรงข้ามยังงง
จนอายุ18 เรามาท้อง ตอนนั้นใกล้จะจบม.6ละ ก่อนที่จะรู้ ตอนนั้นตัวผู้ชายเขาทำหน้าตกใจ เราเลยถาม เอาออกไม่ทันหรอ เขาก็ตอบไม่มีอะไร หลังจากนั้นก็เลิกรากันไป ก่อนที่จะเป็นเรื่อง เราจะเที่ยวกลางคืนบ่อย แม่จะชอบบอกให้คนนั้นคนนี้โทรตามเรา ขู่จะแจ้งตำรวจบ้าง มาบทดราม่าบ้าง จนเรารู้สึกว่าการไปเที่ยวแบบวัยรุ่นอิสระ มันไม่มีความสุขเลย ตอนม.3 ไปเล่นบ้านเพื่อนที่ห่างกันไม่ถึง3กิโล ตอนนั้น5โมง เรายังไม่กลับ แม่เลยมาตาม ตีเราต่อหน้า
เพื่อน และพ่อแม่เพื่อนจนเราร้องไห้สะอึกสะอื้น หลังจากนั้นก็มีความคิดว่า เวลาจะทำอะไรจะไม่ปรึกษาแม่ อยากไปนั่งกินข้าวร้านอาหารกับเพื่อน ก็ต้องโกหกว่าอยู่บ้านเพื่อน
จะบอกว่าคนที่เป็นพ่อของลูก เป็นพี่ชายของแฟนเพื่อน ตอนนั้นเพื่อนชวนไปวันเกิดแฟน ก็เลยรู้จักเขา หลังจากนั้น เลยไปบ้านเขาบ่อย จะโกหกแม่ตลอดว่าไปทำรายงาน และตอนท้อง พี่สาวทั้งสองก็ทักมาคุยบ้าง ว่า มีอะไรปรึกษาได้ ระบายได้ มีแฟนก็บอกได้ แนะนำบ้าง ซึ่งเราเข้าใจมาตลอดว่า พี่สาวยิ่งไม่ควรจะปรึกษา แต่ตอนนั้นน้ำตาไหลเลย
พอท้องได้ประมาณ5เดือน(ตอนนั้นเลิกกับพ่อเด็กแล้ว) แม่ใช้เราสระผมให้ ก็คุยๆกันไป เราบอกแมาว่า แม่รู้มั๊ย ว่าที่เป็นแบบนี้เพราะแม่ทำให้หนูเป็นคนเก็บกด ทำไรไม่กล้าบอก (พูดไปร้องไห้ไป) แม่บอกจะคิดมากทำไม ทำตัวแท้ๆ จะมาโทษคนอื่นทำไม
เวลาก็ผ่านมาจนคลอด คลอดได้20วัน พี่สาวก็ต้องเอาลูกไปเลี้ยงให้ที่กทม เพื่อให้เราเรียนให้จบม.6 แอบบอกว่า เราถามพี่ว่าทำไมไม่เลี้ยงอยู่บ้าน พี่ตอบว่า ยายจะรำคาญเสียงลูกร้อง และแม่เป็นคนคิดลบ พี่ไม่อยากให้ลูกเราเป็นเหมือนเรา แรกๆเราก็ไม่เข้าใจ จนเวลาผ่านไป ลุกเราครบ8เดือน เราเรียนจบแล้ว พี่เลยเอาลูกมาให้เราเลี้ยงเอง เวลาก็ผ่านไป ก็จะมีช่วงที่เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวกลางคืนบ้าง แต่เราก็โกหกแม่อยู่ดีว่าอยู่บ้านเพื่อน วันนั้นไปกับเพื่อน2คน แม่เราก็โทรตาม ทักมาด่าต่างๆนาๆจนร้องไห้ในร้านเหล้า จนเพื่อนบอกว่าแม่เกินไปป่าว หลังจากนั้นก็กลับบ้าน ตื่นเช้ามา บังเอิญมีน้ามาธุระที่บ้าน แม่ก็ไปเล่าให้น้าฟัง ว่าเมื่อคืนเราไปเที่ยวกินเหล้ามา ขู่จะจ้างรถยนต์น้สไปตามเรา ซึ่งน้าคนนี้เราก็ไม่ค่อยชอบนิสัยเท่าไหร่หรอก แกก็ถาม ออกหากินเป็นแล้วหรอ เราเลยว่าแม่ จะไปบอกคนอื่นทำไม แม่เราบอกก็ยอมรับการกระทำดิ
เวลาก็ผ่านไป เรามีโอกาสได้ทำงาน ทำงานที่บ้าน เป็นแอดมิน ไม่ค่อยได้ออกไปไหน ไม่มีเพื่อนมาเล่นด้วย มีแค่ลูก จนพักหลังๆเรารู้สึกว่าเราอิจฉาเพื่อนตัวเองที่มีเพื่อนใหม่ในมหาลัย อิจฉาอีกคนมีแฟนพาไปนนู่นไปนี่ อิจจฉาพี่สาวตัวเองที่ดูสนิทกันและสนิทกับลูกพี่ลูกน้องที่กทม.เขาได้แฮงค์เอ๊าท์ด้วยกัน กินเหล้าด้วยกันได้โดยที่ไม่ต้องแซวว่าเห้ยกินเป็นหรอ และมีอีกมากมายปัญหาลบๆในหัวเรา เรารู้สึกว่าตัวเองคิดมาก เคยถามแม่นะ กนูเป็นซึมเศร้ารึเปล่า แม่ตอบหรอจะเป็นซึมเศร้า เห็นร้องเพลงไปวันๆ ซึ่งดูเหมือนแม่จะไม่เข้าใจ และไม่ ยากจะเข้าใจ ไม่ใส่ใจความรู้สึกเราเท่าไหร่ เวลาเศร้า มีปัญหาอะไร เราก็จะไม่รับาย ไม่ปรึกษาแม่เลย ได้แต่ระบายให้เพื่อนฟังจนเอือมตัวเอง ค้นหาวิธีจากในเน็ตบ้าง คือมันสะสมมาเรื่อยๆจนบางเรื่องเราลืมบ้าง แต่พอมี ะไรมากระตุ้น เราก็จะเสียใจ เศร้ามากๆจนอารมณ์เสีย จนรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนก้าวร้าว และยากมากที่จะสื่อสารกับแม่ให้แม่เข้าใจเราบ้าง โคตรรู้สึกแย่ เป็นคนที่แย่มากๆ ด้อยค่าสุดๆ โง่ที่สุด ซื่อบื้อที่สุดๆอ ย่างที่แม่เคยบอก ไม่โตสักที อ่อนแอมากๆ
รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่ามากๆ แก้ไขยังไงได้บ้าง ต้องเริ่มจากจุดไหนก่อน ยังไงบ้าง?
ช่วงมัธยมปลาย ช่วงปิดเทอม พี่สาวจะไปกทม.บ่อยๆ ไปหาน้า ไปหาพี่สาวอีกคนบ่อยๆ เราเลยอยู่กับแม่และยายมาโดยตลอด
แม่เรามีเราตอนอายุ42 ยายก็อายุเยอะมากแล้ว เท่าที่พอรับรู้ได้ ยายกับแม่ แกค่อนข้างหัวโบราณ ส่วนมากจะชอบห้ามนั่นห้ามนี่ ขี้กลัว ตอนเด็กเราไม่รู้ว่าแกปลูกฝังเราอะไรยังไงบ้าง
ภาพจะย้อนไปตอนเราเป็นเด็กประถมเลย พี่สาวเราค่อนข้างที่จะเกเร้ลยตอนนั้น เลิกเรียนมาจะเข้าห้องเลย ไม่ทานข้าวพร้อมหน้ากัน
ไม่ก็จะกลับบ้านค่ำ ดึกๆจะชอบแอบไปร้านอินเทอร์เน็ต เหมือนพี่เขาจะชอบหาความรู้ จะเอาตัวรอดด้วยตัวเอง ไม่ชอบให้แม่สอน
ในตอนนั้น เรากับพี่สาวก็ไม่ค่อยจะถูกคอกัน เพราะพี่มองว่าแม่ตามใจเรามากกว่า
ตอนนั้นแม่ดุพี่ เอาด้ามไม้กวาด ตีจนด้ามหัก เราก็กลัวณตอนนั้น
พอเรามาถึงวัยรุ่น ก็เป็นเด็กตจว. บ้านนอกๆคนนึง มีหมอลำใกล้บ้านมากๆ ตอนนั้นเราประมาณม.3 เราอยากไปดู เลยขอแม่ไป แม่บอกไม่ต้องไป มันค่ำแล้ว เราก็ถามทำไมเพื่อนที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันไปได้
แล้วแม่เราก็ขึ้นเสียงเลย งั้นก็ไปสิ เหมือนประชดอ่ะ ตอนนั้นเราร้องไห้ ทั้งกลัว ทั้งเสียใจ ไม่กล้าขัดแม่ ทั้งๆที่ใจอยากไปมาก จำได้ว่าร้องไห้จนตัวสั่น เวลามีหนังกลางแปลงที่วัด คือบ้านเราติดวัด เราจะเป็นคนแรกที่ถูกแม่มาตามเสมอ ขนาดรุ่นน้องบ้านตรงข้ามยังงง
จนอายุ18 เรามาท้อง ตอนนั้นใกล้จะจบม.6ละ ก่อนที่จะรู้ ตอนนั้นตัวผู้ชายเขาทำหน้าตกใจ เราเลยถาม เอาออกไม่ทันหรอ เขาก็ตอบไม่มีอะไร หลังจากนั้นก็เลิกรากันไป ก่อนที่จะเป็นเรื่อง เราจะเที่ยวกลางคืนบ่อย แม่จะชอบบอกให้คนนั้นคนนี้โทรตามเรา ขู่จะแจ้งตำรวจบ้าง มาบทดราม่าบ้าง จนเรารู้สึกว่าการไปเที่ยวแบบวัยรุ่นอิสระ มันไม่มีความสุขเลย ตอนม.3 ไปเล่นบ้านเพื่อนที่ห่างกันไม่ถึง3กิโล ตอนนั้น5โมง เรายังไม่กลับ แม่เลยมาตาม ตีเราต่อหน้า
เพื่อน และพ่อแม่เพื่อนจนเราร้องไห้สะอึกสะอื้น หลังจากนั้นก็มีความคิดว่า เวลาจะทำอะไรจะไม่ปรึกษาแม่ อยากไปนั่งกินข้าวร้านอาหารกับเพื่อน ก็ต้องโกหกว่าอยู่บ้านเพื่อน
จะบอกว่าคนที่เป็นพ่อของลูก เป็นพี่ชายของแฟนเพื่อน ตอนนั้นเพื่อนชวนไปวันเกิดแฟน ก็เลยรู้จักเขา หลังจากนั้น เลยไปบ้านเขาบ่อย จะโกหกแม่ตลอดว่าไปทำรายงาน และตอนท้อง พี่สาวทั้งสองก็ทักมาคุยบ้าง ว่า มีอะไรปรึกษาได้ ระบายได้ มีแฟนก็บอกได้ แนะนำบ้าง ซึ่งเราเข้าใจมาตลอดว่า พี่สาวยิ่งไม่ควรจะปรึกษา แต่ตอนนั้นน้ำตาไหลเลย
พอท้องได้ประมาณ5เดือน(ตอนนั้นเลิกกับพ่อเด็กแล้ว) แม่ใช้เราสระผมให้ ก็คุยๆกันไป เราบอกแมาว่า แม่รู้มั๊ย ว่าที่เป็นแบบนี้เพราะแม่ทำให้หนูเป็นคนเก็บกด ทำไรไม่กล้าบอก (พูดไปร้องไห้ไป) แม่บอกจะคิดมากทำไม ทำตัวแท้ๆ จะมาโทษคนอื่นทำไม
เวลาก็ผ่านมาจนคลอด คลอดได้20วัน พี่สาวก็ต้องเอาลูกไปเลี้ยงให้ที่กทม เพื่อให้เราเรียนให้จบม.6 แอบบอกว่า เราถามพี่ว่าทำไมไม่เลี้ยงอยู่บ้าน พี่ตอบว่า ยายจะรำคาญเสียงลูกร้อง และแม่เป็นคนคิดลบ พี่ไม่อยากให้ลูกเราเป็นเหมือนเรา แรกๆเราก็ไม่เข้าใจ จนเวลาผ่านไป ลุกเราครบ8เดือน เราเรียนจบแล้ว พี่เลยเอาลูกมาให้เราเลี้ยงเอง เวลาก็ผ่านไป ก็จะมีช่วงที่เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวกลางคืนบ้าง แต่เราก็โกหกแม่อยู่ดีว่าอยู่บ้านเพื่อน วันนั้นไปกับเพื่อน2คน แม่เราก็โทรตาม ทักมาด่าต่างๆนาๆจนร้องไห้ในร้านเหล้า จนเพื่อนบอกว่าแม่เกินไปป่าว หลังจากนั้นก็กลับบ้าน ตื่นเช้ามา บังเอิญมีน้ามาธุระที่บ้าน แม่ก็ไปเล่าให้น้าฟัง ว่าเมื่อคืนเราไปเที่ยวกินเหล้ามา ขู่จะจ้างรถยนต์น้สไปตามเรา ซึ่งน้าคนนี้เราก็ไม่ค่อยชอบนิสัยเท่าไหร่หรอก แกก็ถาม ออกหากินเป็นแล้วหรอ เราเลยว่าแม่ จะไปบอกคนอื่นทำไม แม่เราบอกก็ยอมรับการกระทำดิ
เวลาก็ผ่านไป เรามีโอกาสได้ทำงาน ทำงานที่บ้าน เป็นแอดมิน ไม่ค่อยได้ออกไปไหน ไม่มีเพื่อนมาเล่นด้วย มีแค่ลูก จนพักหลังๆเรารู้สึกว่าเราอิจฉาเพื่อนตัวเองที่มีเพื่อนใหม่ในมหาลัย อิจฉาอีกคนมีแฟนพาไปนนู่นไปนี่ อิจจฉาพี่สาวตัวเองที่ดูสนิทกันและสนิทกับลูกพี่ลูกน้องที่กทม.เขาได้แฮงค์เอ๊าท์ด้วยกัน กินเหล้าด้วยกันได้โดยที่ไม่ต้องแซวว่าเห้ยกินเป็นหรอ และมีอีกมากมายปัญหาลบๆในหัวเรา เรารู้สึกว่าตัวเองคิดมาก เคยถามแม่นะ กนูเป็นซึมเศร้ารึเปล่า แม่ตอบหรอจะเป็นซึมเศร้า เห็นร้องเพลงไปวันๆ ซึ่งดูเหมือนแม่จะไม่เข้าใจ และไม่ ยากจะเข้าใจ ไม่ใส่ใจความรู้สึกเราเท่าไหร่ เวลาเศร้า มีปัญหาอะไร เราก็จะไม่รับาย ไม่ปรึกษาแม่เลย ได้แต่ระบายให้เพื่อนฟังจนเอือมตัวเอง ค้นหาวิธีจากในเน็ตบ้าง คือมันสะสมมาเรื่อยๆจนบางเรื่องเราลืมบ้าง แต่พอมี ะไรมากระตุ้น เราก็จะเสียใจ เศร้ามากๆจนอารมณ์เสีย จนรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนก้าวร้าว และยากมากที่จะสื่อสารกับแม่ให้แม่เข้าใจเราบ้าง โคตรรู้สึกแย่ เป็นคนที่แย่มากๆ ด้อยค่าสุดๆ โง่ที่สุด ซื่อบื้อที่สุดๆอ ย่างที่แม่เคยบอก ไม่โตสักที อ่อนแอมากๆ