[มีอัพเดทที่ Dispatch โต้กลับทาง Tenasia ทนายของวง และรายการ Unanswered Questions ในคอมเมนต์ที่ 21 นะครับ]
Tenasia ได้เปิดเผยงบประมาณอาหารสำหรับ FIFTY FIFTY โดยในช่วงฟอร์มวงแรก ๆ 1 ทางค่ายไม่มีงบเรื่องอาหารให้ และเมื่อเฉลี่ยงบตั้งแต่ช่วงฟอร์มวงจนถึงเดือนมีนาคม 2022 (เฉลี่ยรวมช่วงที่ไม่งบ และเฉลี่ยคนที่ไม่ได้เดแล้ว) พบว่าสมาชิก FIFTY FIFTY ได้รับงบค่าอาหารเฉลี่ย 55000 วอนต่อเดือน
ทั้งนี้ Tenasia ได้ลงรายละเอียดเพิ่มเติมว่าในช่วงที่เป็นเด็กฝึกแรก ๆ (ช่วงที่มีงบแล้ว) บริษัทได้จัดอาหารที่ไม่หลากหลายนักกับสมาชิก โดยเน้นเป็นอกไก่และกาแฟเนย (กาแฟที่ให้พลังงานสูง) สามเดือนใช้เงินไป 1.72 ล้านวอน อาหารดีทอกซ์ 1.02 ล้านวอน ทั้งนี้พบค่าอาหารสต๊าฟ 36000 วอนในรายจ่ายเมมเบอร์ด้วย
ในครึ่งหลังปี 2021 ครอบครัวเมมเบอร์ได้สะท้อนกลับไปทางค่ายว่าอาหารที่จัดให้นั้นสารอาหารไม่พอ ไม่มีผัก อยากให้มีอาหารเช้า และเยลลี่บุกควรเป็นขนมไม่ใช่อาหารทดแทน นำไปสู่การว่าจ้างนักโภชนาการในเดือนมิถุนายน 2022 ซึ่งผลคือ อนุญาตให้เมมฯไปทานอาหารข้างนอก โดยได้รับงบ 10,000 วอนต่อวัน ทั้งนี้ ทางทนายของค่ายแจ้งว่าค่ายเพียงวางแพลนอาหารให้เฉย ๆ แต่สมาชิกจะต้องออกไปซื้อวัตถุดิบมาเพื่อปรุงอาหารเอง และถ่ายรูปเพื่อรายงานทุกครั้งด้วย
ส่วนในเรื่องที่ Dispatch ออกมาเสนอข่าวว่าคนที่เทขนมลงพื้นนั้นเป็นคนของ The Givers ทางทนายของวงแจ้งว่าเนื่องจากในช่วงนั้นทั้งสองบริษัทได้ทำงานอยู่ที่ตึกของ ATTRAKT จึงอาจทำให้เมมเบอร์สับสนว่าสต๊าฟคนดังกล่าวเป็นคนของบริษัทไหน แต่ทั้งนี้ยืนยันว่าทั้งสองบริษัทต่างควบคุมเด็กจนมากเกินไป โดยเฉพาะถ้าสังเกตในเรื่องของกล้องวงจรปิด ซึ่งมีติดตั้งบันทึกไว้ตลอดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการสอดส่องและควบคุมที่มากเกินกว่าจะคิดได้ว่าเป็นการติดตั้งกล้องแบบทั่ว ๆ ไป โดยกล้องดังกล่าวสามารถดูได้ที่อ๊อฟฟิซของ ATTRAKT เอง
ทั้งนี้ ตัวแทนจากค่ายขนาดเล็ก-กลาง ออกมาให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า เป็นการยากที่ค่ายขนาดที่ไม่ได้ใหญ่จะดูแลเด็กศิลปินในค่ายโดยให้อิสระแก่ศิลปินจนมากเกินไปจนไม่สามารถดูแลจัดการได้ ในมุมมองของค่าย ถ้าไม่สามารถดูแลจัดการศิลปินได้ ความเสี่ยงในการที่จะล้มนั้นค่อนข้างสูง เนื่องด้วยทุกอย่างมีค่าใช้จ่าย สำหรับเรื่องอาหารนั้นเป็นเรื่องปกติที่ค่ายต้องจัดการให้อยู่แล้ว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการจัดการอาหารที่ไม่คำนึงถึงสุขภาพของศิลปินซึ่งเป็นการจัดการแบบในอดีตนั้นดูล้าสมัยไปแล้วในยุคปัจจุบัน
[FIFTY FIFTY] ทนายของวงชี้ "ทั้ง ATTRAKT และ THE GIVERS ต่างควบคุมเด็กจนมากเกินไป"
[มีอัพเดทที่ Dispatch โต้กลับทาง Tenasia ทนายของวง และรายการ Unanswered Questions ในคอมเมนต์ที่ 21 นะครับ]
Tenasia ได้เปิดเผยงบประมาณอาหารสำหรับ FIFTY FIFTY โดยในช่วงฟอร์มวงแรก ๆ 1 ทางค่ายไม่มีงบเรื่องอาหารให้ และเมื่อเฉลี่ยงบตั้งแต่ช่วงฟอร์มวงจนถึงเดือนมีนาคม 2022 (เฉลี่ยรวมช่วงที่ไม่งบ และเฉลี่ยคนที่ไม่ได้เดแล้ว) พบว่าสมาชิก FIFTY FIFTY ได้รับงบค่าอาหารเฉลี่ย 55000 วอนต่อเดือน
ทั้งนี้ Tenasia ได้ลงรายละเอียดเพิ่มเติมว่าในช่วงที่เป็นเด็กฝึกแรก ๆ (ช่วงที่มีงบแล้ว) บริษัทได้จัดอาหารที่ไม่หลากหลายนักกับสมาชิก โดยเน้นเป็นอกไก่และกาแฟเนย (กาแฟที่ให้พลังงานสูง) สามเดือนใช้เงินไป 1.72 ล้านวอน อาหารดีทอกซ์ 1.02 ล้านวอน ทั้งนี้พบค่าอาหารสต๊าฟ 36000 วอนในรายจ่ายเมมเบอร์ด้วย
ในครึ่งหลังปี 2021 ครอบครัวเมมเบอร์ได้สะท้อนกลับไปทางค่ายว่าอาหารที่จัดให้นั้นสารอาหารไม่พอ ไม่มีผัก อยากให้มีอาหารเช้า และเยลลี่บุกควรเป็นขนมไม่ใช่อาหารทดแทน นำไปสู่การว่าจ้างนักโภชนาการในเดือนมิถุนายน 2022 ซึ่งผลคือ อนุญาตให้เมมฯไปทานอาหารข้างนอก โดยได้รับงบ 10,000 วอนต่อวัน ทั้งนี้ ทางทนายของค่ายแจ้งว่าค่ายเพียงวางแพลนอาหารให้เฉย ๆ แต่สมาชิกจะต้องออกไปซื้อวัตถุดิบมาเพื่อปรุงอาหารเอง และถ่ายรูปเพื่อรายงานทุกครั้งด้วย
ส่วนในเรื่องที่ Dispatch ออกมาเสนอข่าวว่าคนที่เทขนมลงพื้นนั้นเป็นคนของ The Givers ทางทนายของวงแจ้งว่าเนื่องจากในช่วงนั้นทั้งสองบริษัทได้ทำงานอยู่ที่ตึกของ ATTRAKT จึงอาจทำให้เมมเบอร์สับสนว่าสต๊าฟคนดังกล่าวเป็นคนของบริษัทไหน แต่ทั้งนี้ยืนยันว่าทั้งสองบริษัทต่างควบคุมเด็กจนมากเกินไป โดยเฉพาะถ้าสังเกตในเรื่องของกล้องวงจรปิด ซึ่งมีติดตั้งบันทึกไว้ตลอดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการสอดส่องและควบคุมที่มากเกินกว่าจะคิดได้ว่าเป็นการติดตั้งกล้องแบบทั่ว ๆ ไป โดยกล้องดังกล่าวสามารถดูได้ที่อ๊อฟฟิซของ ATTRAKT เอง
ทั้งนี้ ตัวแทนจากค่ายขนาดเล็ก-กลาง ออกมาให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า เป็นการยากที่ค่ายขนาดที่ไม่ได้ใหญ่จะดูแลเด็กศิลปินในค่ายโดยให้อิสระแก่ศิลปินจนมากเกินไปจนไม่สามารถดูแลจัดการได้ ในมุมมองของค่าย ถ้าไม่สามารถดูแลจัดการศิลปินได้ ความเสี่ยงในการที่จะล้มนั้นค่อนข้างสูง เนื่องด้วยทุกอย่างมีค่าใช้จ่าย สำหรับเรื่องอาหารนั้นเป็นเรื่องปกติที่ค่ายต้องจัดการให้อยู่แล้ว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการจัดการอาหารที่ไม่คำนึงถึงสุขภาพของศิลปินซึ่งเป็นการจัดการแบบในอดีตนั้นดูล้าสมัยไปแล้วในยุคปัจจุบัน