ศาลปัดตกคำร้องขอยกเลิกสัญญาของวง FIfty Fifty โดยให้สาเหตุว่า "ไม่พบเหตุด่วนหรือร้ายแรงอันใดที่จำเป็นที่ต้องยกเลิกสัญญา" หลังจากพิจารณาข้อกล่าวหาทั้งหมดที่ทาง Fifty Fifty ได้ยื่นประกอบร่วมกับหลักฐานจากทั้ง 2 ฝ่าย โดยทางทนายของวงกำลังอยู่ในขั้นตอนการพูดคุยและเตรียมที่จะยื่นคัดค้านคำตัดสินต่อไป โดยก่อนหน้านี้ทางวงยืนยันว่าสถานการณ์อยู่ในจุดที่ไม่สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยได้ และต้องการยกเลิกสัญญาอันเนื่องมาจากปัญหาเรื่องเอกสารทางการเงินและเรื่องสุขภาพ โดยทั่วไปแล้วคำสั่งศาลประเภทนี้เป็นคำสั่งชั่วคราว โดยทางศาลจะปัดตกคำร้องในกรณีที่ไม่พบหลักฐานที่สามารถชี้หรือเอื้อประโยชน์ต่อคำร้องดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายที่มากขึ้นในชั้นศาล
ความเห็นของเนติเซนเกาหลีเห็นด้วยกับผลการตัดสินดังกล่าว โดยส่วนใหญ่มีความเห็นว่า Fifty Fifty ได้ทิ้งโอกาสที่เกิดขึ้นครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต บ้างก็โยงไปถึงรายการ Unanswered Questions ที่ออกอากาศไปก่อนหน้าว่า "นี่พวกคุณออกอากาศก่อนที่ศาลจะตัดสินเสียอีก"
ทั้งนี้มีเนติเซนท่านหนึ่งได้ตั้งข้อสังเกตว่า เคสนี้มีการตัดสินคล้าย ๆ กับเคสของ Son Seungyon (Sonnet) ผู้ชนะรายการ The Voice Korea ที่ทาง The Givers เคยแย่งตัวมาจากค่ายเก่า และกังวลว่าทาง Fifty Fifty จะกระทำแบบเดียวกัน คือไม่ยอมโปรโมทกับค่ายเก่าจนกระทั่งสิ้นสุดสัญญา แล้วจึงย้ายค่ายมาที่ค่าย Givers
ในขณะที่ทาง Jun Hong Joon ประธษนค่าย ATTRAKT ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากที่ผลการตัดสินออกว่า "ในช่วงเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา ทุกวันล้วนเต็มไปด้วยความเจ็บปวด หลังจากที่เห็นผลการตัดสิน ผมรู้สึกว่าอย่างน้อยพวกเขาจะรู้สึกถึงความอยุติธรรมที่ผมได้รับก่อนหน้านี้ ผมรู้สึกทราบซึ้งที่แฟน ๆ หลายคนให้การสนับสนุนผมและค่าย ซึ่งถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ผมอยากจะสนับสนุนผู้ที่ได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม แม้ว่าจะเพียงเล็กน้อย ผมคิดว่าผมไม่ควรที่จะละเลย"
นอกเหนือจากนี้ Hing Joon ยังกล่าวว่า "ผมต้องการให้สมาชิกวงทุกคนกลับมายังค่าย ผมคิดว่านี่จะเป็นการส่งสัญญาณเตือนที่ดีให้กับผู้ที่มีส่วนร่วมในการหมิ่นประมาทและพยายามที่จะแย่งศิลปิน ซึ่งเป็นปัญหาต่อการพัฒนาวงการเพลงเกาหลี"
[FIFTY FIFTY] ศาลปัดตกคำร้องขอยกเลิกสัญญา ชี้ไม่พบเหตุด่วนหรือร้ายแรงให้ยกเลิกสัญญา
ศาลปัดตกคำร้องขอยกเลิกสัญญาของวง FIfty Fifty โดยให้สาเหตุว่า "ไม่พบเหตุด่วนหรือร้ายแรงอันใดที่จำเป็นที่ต้องยกเลิกสัญญา" หลังจากพิจารณาข้อกล่าวหาทั้งหมดที่ทาง Fifty Fifty ได้ยื่นประกอบร่วมกับหลักฐานจากทั้ง 2 ฝ่าย โดยทางทนายของวงกำลังอยู่ในขั้นตอนการพูดคุยและเตรียมที่จะยื่นคัดค้านคำตัดสินต่อไป โดยก่อนหน้านี้ทางวงยืนยันว่าสถานการณ์อยู่ในจุดที่ไม่สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยได้ และต้องการยกเลิกสัญญาอันเนื่องมาจากปัญหาเรื่องเอกสารทางการเงินและเรื่องสุขภาพ โดยทั่วไปแล้วคำสั่งศาลประเภทนี้เป็นคำสั่งชั่วคราว โดยทางศาลจะปัดตกคำร้องในกรณีที่ไม่พบหลักฐานที่สามารถชี้หรือเอื้อประโยชน์ต่อคำร้องดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายที่มากขึ้นในชั้นศาล
ความเห็นของเนติเซนเกาหลีเห็นด้วยกับผลการตัดสินดังกล่าว โดยส่วนใหญ่มีความเห็นว่า Fifty Fifty ได้ทิ้งโอกาสที่เกิดขึ้นครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต บ้างก็โยงไปถึงรายการ Unanswered Questions ที่ออกอากาศไปก่อนหน้าว่า "นี่พวกคุณออกอากาศก่อนที่ศาลจะตัดสินเสียอีก"
ทั้งนี้มีเนติเซนท่านหนึ่งได้ตั้งข้อสังเกตว่า เคสนี้มีการตัดสินคล้าย ๆ กับเคสของ Son Seungyon (Sonnet) ผู้ชนะรายการ The Voice Korea ที่ทาง The Givers เคยแย่งตัวมาจากค่ายเก่า และกังวลว่าทาง Fifty Fifty จะกระทำแบบเดียวกัน คือไม่ยอมโปรโมทกับค่ายเก่าจนกระทั่งสิ้นสุดสัญญา แล้วจึงย้ายค่ายมาที่ค่าย Givers
ในขณะที่ทาง Jun Hong Joon ประธษนค่าย ATTRAKT ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากที่ผลการตัดสินออกว่า "ในช่วงเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา ทุกวันล้วนเต็มไปด้วยความเจ็บปวด หลังจากที่เห็นผลการตัดสิน ผมรู้สึกว่าอย่างน้อยพวกเขาจะรู้สึกถึงความอยุติธรรมที่ผมได้รับก่อนหน้านี้ ผมรู้สึกทราบซึ้งที่แฟน ๆ หลายคนให้การสนับสนุนผมและค่าย ซึ่งถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ผมอยากจะสนับสนุนผู้ที่ได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม แม้ว่าจะเพียงเล็กน้อย ผมคิดว่าผมไม่ควรที่จะละเลย"
นอกเหนือจากนี้ Hing Joon ยังกล่าวว่า "ผมต้องการให้สมาชิกวงทุกคนกลับมายังค่าย ผมคิดว่านี่จะเป็นการส่งสัญญาณเตือนที่ดีให้กับผู้ที่มีส่วนร่วมในการหมิ่นประมาทและพยายามที่จะแย่งศิลปิน ซึ่งเป็นปัญหาต่อการพัฒนาวงการเพลงเกาหลี"