JJNY : 5in1 บก.ลายจุดเล่าเหตุผล│ศาลสั่งชดใช้ ‘ลูกนัท-ฐนกร’│ไอติมขอโทษปชช.│ชาวนาฝากนายกคนใหม่│‘พริโกซิน’ โพสต์วิดีโอ

บก.ลายจุด เล่าเหตุผล ‘ไม่สามารถใช้คำว่ายินดี’ แม้กาปาร์ตี้ลิสต์พท. เคยหวังเศรษฐานั่งนายกฯ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4142164
  
 
บก.ลายจุด เล่าเหตุผล ‘ไม่สามารถใช้คำว่ายินดี’ แม้กาปาร์ตี้ลิสต์ พท. เคยหวังเศรษฐานั่งนายกฯ
 
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม สืบเนื่องกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ได้รับการเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30
 
นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ตนไม่สามารถใช้คำว่า ‘ยินดี’ กับนายเศรษฐาได้ แม้ตอนเลือกตั้งตนจะเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และคาดหวังว่านายเศรษฐาจะได้เป็นนายกฯ
 
ความดังนี้
 
ผมคงไม่สามารถใช้คำว่ายินดีกับคุณเศรษฐา ทวีสินแม้ว่าตอนที่ลงคะแนนเลือกตั้ง ผมเลือกปาร์ตี้ลิสต์เพื่อไทยและคาดหวังว่าคนที่จะเป็นนายกคือคุณเศรษฐา ซึ่งก็ได้ดังที่ตั้งใจไว้แต่ต้น
 
การที่ต้องแลกกับการที่เพื่อไทยต้องถอนตัวจากพรรคฝ่ายประชาธิปไตยแล้วไปจับมือกับพรรคสืบทอดอำนาจ ผมมองว่าเป็นความเสียหายในระดับที่ไม่สามารถแสดงความยินดีกับคุณเศรษฐาได้ และยังมีความเป็นห่วงต่อการผลักดันนโยบายที่ทางเพื่อไทยได้เสนอไว้ก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะนโยบายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปกองทัพ
 
แต่อย่างน้อยที่สุดผมไม่ต้องมาลุ้นเรื่องนายกฯที่ชื่อพลเอกประวิตร แต่อาจต้องลุ้นว่าใน ครม. จะมีชื่อแกเหรือเปล่า
 
คดีคุณทักษิณคงมีวิธีการจัดการตามดีลที่ได้ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ และอาจรวมถึงคุณยิ่งลักษณ์ด้วย ที่ผมลุ้นคือ คดีการเมืองอื่นๆ จะอยู่ในนี้ด้วยหรือไม่ โดยเฉพาะคดีที่เกิดขึ้นกับนักกิจกรรมทางการเมือง มันจะเป็นการสมานฉันท์เฉพาะชนชั้นนำ หรือมันจะรวมถึงประชาชนด้วย
 
อนาคตพรรคก้าวไกลที่ถูกผลักออกมาเป็นตัวอันตรายของชนชั้นนำ แม้ว่าจะพิงหลังอยู่กับประชาชนจะรับมือกับการทำลายล้างรอบใหม่นี้อย่างไร กำลังใจของผู้คนจะยังคงหนักแน่นและดำรงความมุ่งหมายต่อไปได้หรือไม่
 
ได้แต่หวังว่ารัฐบาลเพื่อไทยจะสร้างความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญ เมื่อเทียบกับรัฐบาลภายใต้พลเอกประยุทธใน 9 ปีที่ผ่านมา ทุ่มเทสรรพกำลังฟื้นฟูประเทศและเยียวยาความบอบช้ำ คุณไม่มีตัวช่วยหรือเครื่องมืออื่นแล้ว นอกจากลงมือทำให้เป็นที่ประจักษ์ และประชาชนจะตัดสินคุณอีกครั้งในการเลือกตั้งครั้งหน้า
 
ขอให้ทุ่มเท ทำจริง

https://www.facebook.com/nuling/posts/pfbid0cQ8zfrLaDJfdhRcBveSLzU2K6FKCEHHE4W7YpswpnvPps4rz1tLTYjD7WbgkoCWrl
 


ศาลสั่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชดใช้ ‘ลูกนัท-ฐนกร’ บาดเจ็บจากการสลายการชุมนุม
https://www.matichon.co.th/politics/news_4141560

ศาลสั่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชดใช้ ‘ลูกนัท-ฐนกร’ บาดเจ็บจากการสลายการชุมนุม
 
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัท ได้โพสต์ เฟซบุ๊ก เปิดเผยว่าศาลได้สั่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชดใช้ กรณีได้รับบาดเจ็บในคดีสลายการชุมนุม 3.05 ล้านบาท โดยมีเนื้อหาว่า
 
ข่าวดีของวันนี้ ผมดีใจจนพูดไม่ออก บอกไม่ถูก ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้ คิดมาตลอดว่าเสียเงินฟรีแน่ๆ ทั้งค่าธรรมเนียมศาลเอย อะไรเอย ที่สำคัญที่สุด พี่หนึ่ง ได้รับค่าชดเชยมากกว่าผม เค้าจำเป็นต้องใช้เงินส่วนนั้นมากๆ จริงๆ นอกจากนั้น ผมหวังว่าต่อไปนี้ เมื่อมีการละเมิดสิทธิ์ของประชาชนโดยเจ้าหน้าที่รัฐ หน่วยงานที่ออกคำสั่ง จะต้องรับผิดชอบ! ต่อไปนี้จะต้องไม่มีคำว่า “นายสั่ง” จาก เจ้าหน้าที่ผู้น้อย อีกต่อไป!
 
ผมขอขอบคุณ ทนาย พิชัย พืชมงคล, ทนาย เมธา และทนาย ธรรมนาถ จากสำนักทนายความธรรมนิติ อาจารย์มุนินทร์ พงศาปาน จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขอบคุณ มุกเก้, พี่แหวน ที่มาเป็นพยานให้ปากคำ ขอบคุณเพื่อนๆ ที่เคยต่อสู้เคียงข้างกันมา และทุกๆ กำลังใจ จากประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุด ขอบคุณครับ
 
ทั้งยังได้โพสต์ภาพข้อความแชท ที่แจ้งผลคำพิพากษาคดีฟ้องสำนักนายกรัฐมนตรี โดย ลูกนัท และ ฐนกร ผ่านพินิจ ชนะคดี โดยศาลพิพากษาให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำเลยที่ 2 ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ลูกนัท จำนวน 3,055,305 บาท และชดใช้ค่าเสียหายให้กับ ฐนกร 4,207,535.50 บาท ส่วนสำนักนายกฯ จำเลยที่ 1 ศาลพิพากษาให้ยกฟ้อง

https://www.facebook.com/nat.tanat.democrat/posts/10167670389940648



ไอติม ขอโทษปชช.เข้าคูหา แต่ ‘ไม่ได้ในสิ่งที่เลือก’ ชี้ก้าวไกลทำเต็มที่แล้ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_4142209

ไอติม ขอโทษปชช. สิ่งที่ได้ไม่ใช่สิ่งที่เลือก ชี้ก้าวไกลทำเต็มที่แล้ว สัญญาจะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบรบ.
 
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ภายหลังจากที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล ซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตาม มาตรา 272 รัฐธรรมนูญ โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.)  เป็นผู้เสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค พท. เป็นนายกรัฐมนตรี

ผลการนับคะแนน ปรากฏว่า นายเศรษฐาได้คะแนนเห็นชอบ 482 เสียง ไม่เห็นชอบ 165 เสียง และงดออกเสียง 81 เสียง จึงถือว่า นายเศรษฐาได้รับคะแนนเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งสองสภา เท่ากับว่า มติที่ประชุมเห็นชอบ นายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 วรรคหนึ่ง
 
ทั้งนี้ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้โพสต์หลังการประชุมร่วมรัฐสภาเสร็จสิ้นล ผ่านอินสตาแกรมว่า
 
สำหรับประชาชนที่เข้าคูหาเลือกตั้งด้วยความหวังจะเห็นรัฐบาลแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ก้าวไกลเสนอ
ผมขอโทษที่สิ่งที่ท่านได้ ไม่ใช่สิ่งที่ท่านเลือก

ที่ผ่านมา เราได้พยายามทำเต็มที่ในการจัดตั้งรัฐบาลที่เราเชื่อว่าเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับอนาคตประเทศ
แม้ไม่สำเร็จในวันนี้ แต่เราให้คำมั่นสัญญาว่าในฐานะฝ่ายค้าน เราผู้แทนราษฏรทุกคนจะใช้ทุกกลไกของสภาเพื่อผลักดันวาระที่ก้าวหน้า เพื่อตรวจสอบการทำหน้าที่ของรัฐบาล และเพื่อทำให้เสียงของประชาชนทุกคนยังคงมีความหมาย

https://www.instagram.com/p/CwPqxJ6P6RB/



ชาวนา ชัยนาท ฝากนายกคนใหม่ อยากให้ลดราคา น้ำมัน-ปุ๋ย-ยา ขอราคาข้าวเกินหมื่น
https://www.matichon.co.th/region/news_4142200

ชาวนาชัยนาท ฝาก นายกคนใหม่ อยากให้ลดราคา น้ำมัน-ปุ๋ย-ยา ขอราคาข้าวเกินหมื่น
 
วันที่ 22 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดทจากพรรคเพื่อไทย ได้นั่งตำแหน่งนายกรัฐบานตรีคนที่ 30 ของประเทศไทยไปสดๆร้อนๆนั้น ในส่วนของประชาชนในต่างจังหวัดที่รอผลว่าคณะรัฐบาลชุดใหม่จะคลอดสำเร็จหรือไม่ ได้ออกมาเสนอแนะปัญหาของประชาชนในพื้นที่

โดยที่ จ.ชัยนาท ชาวนา ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของจังหวัด ได้ออกมาสะท้อนข้อเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยขอให้ดูแล 3 ประเด็นหลักที่ส่งผลกระทบต่ออาชีพเกษตรกรโดยตรงคือ 

1. ราคาน้ำมัน ซึ่งเป็นปัจจัยการผลิตสำคัญของชาวนาเพราะต้องนำมาใส่เครื่องยนต์สูบน้ำเข้าพื้นที่เกษตรทั้งแบบเครื่องยนต์เบนซิน และเครื่องยนต์ดีเซล อยากให้รัฐบาลใหม่เข้ามาดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ อาจจะเป็นรูปแบบของเกษตรสวัสดิการที่จำหน่ายน้ำมันราคาพิเศษให้กับชาวนาในลักษณะของโควต้า คำนวณตามจำนวนพื้นที่นาที่ทำการเพาะปลูก
 
2. ปุ๋ยและยาปราบศัตรูพืช ที่ปัจจุบันมีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างไม่มีเหตุผล อยากให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาดูแลกลไกการกำหนดราคาให้เป็นธรรมกับผู้บริโภค เพื่อลดภาระต้นทุนให้กับเกษตรกรผู้ผลิตขั้นต้นของระบบ

และ 3. เรื่องของราคาข้าวเปลือก ที่ชาวนาบอกว่าอยากให้นายกฯสร้างกลไกหรือโครงการที่จะคงราคาข้าวเปลือกให้อยู่สูงกว่า 10,000บาทต่อตันเป็นอย่างน้อย เพื่อที่เกษตรกรจะสามารถดำรงชีพอยู่ได้อย่างมีคุณภาพชีวิตตามที่สมควรจะต้องมี เพราะหากราคาข้าวตกต่ำเกษตรกรก็ตกอยู่ในสภาพที่คุณภาพชีวิตย่ำแย่ นานวันเข้าก็จะต้องเสียที่ดินทำกินเพราะจำใจต้องขายใช้หนี้ กลายเป็นปัญหาสังคมที่หมักหมมยากที่จะแก้ ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ทำทั้ง 3 ประเด็นเร่งด่วนนี้ได้ ก็จะได้รับคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นจากคนรากหญ้าอย่างแน่นอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่