อยู่ที่ความเร็ว
ทิ้งดิ่งลงมาที่ระยะ200เมตรแบบเปิดอาฟเตอร์เบิร์นอัดมาเต็มที่ด้วยความเร็วมัคจะเอาขึ้นไม่ทัน โหม่งโลกแน่นอน
ถ้าความเร็วไม่มากแค่ครึ่งมัคบินมาปกติแล้วปักหัวลง ถ้าเชิดหัวขึ้นที่ระยะ200เมตรยังทันอยู่

200เมตรคือ656ฟุต
หากบินทิ้งดิ่งเอาหัวลง เครื่องบินจะร้องเตือนว่า altitude ที่ระดับความสูงต่ำกว่า5000ฟุต
หากยังดิ่งหัวลงจนถึงระดับ1000ฟุตเครื่องบินจะร้องเตือนว่า pull up เพื่อบอกให้นักบินเชิดหัวเครื่องขึ้น
ระบบแจ้งเตือนพวกนี้คือเซฟตี้ชั้นแรก ระดับความปลอดภัยเขาทำเผื่อไว้เยอะพอสมควร

การเชิดหัวขึ้นนักบินเขาจะไม่เชิดหัวขึ้นตรงๆในท่าทิ้งดิ่งเพราะต้องใช้ระยะที่ไกลมากกว่าการเลี้ยวธรรมดา และแรงเฉื่อยที่พุ่งลงมามามีกำลังสูง การเชิดหัวขึ้นตรงๆระยะสั้นๆแบบกระทันทันจะทำให้โครงสร้างของเครื่องบินเกิดความเครียดจากแรงจี อายุการใช้งานของเครื่องบินก็จะสั้นลง

หากบินทิ้งดิ่งลง วิธีการที่นักบินจะบังคับให้เครื่องบินเชิดหัวขึ้นโดยเครื่องบินไม่ต้องรับแรงเครียดมากเกินไปและใช้ระยะทางไม่มากคือ การหมุนตัวเครื่องบินไปทางใดทางหนึ่งแล้วหักเลี้ยวออกข้างเพื่อลดแรงกระทำที่มีต่อเครื่องบิน แล้วค่อยหมุนตัวขนานพื้นแล้วดึงเครื่องขึ้นอีกที การทำแบบนี้จะเป็นการช่วยลดแรงเฉื่อยลดแรงจีที่กระทำต่อตัวเครื่องบิน ความเร็วตอนนี้จะลดลงมาก และใช้ระยะทางที่ไม่มากก็สามารถไต่เพดานบินให้สูงขึ้นได้ ระยะ200เมตรหรือ656ฟุตก่อนถึงพื้นดินความเร็วครึ่งมัคยังดึงเครื่องขึ้นทันอยู่ครับ
นักบินจะพลิกตะแคงออกข้างหมุนตัวขนานพื้นแล้วเร่งเครื่องก็ไต่ระดับความสูงได้ทันทีใน2-3วินาที
แต่ถ้าบินปักหัวลงมาด้วยความเร็วมัคที่ระยะ200เมตรจะเอาขึ้นไม่ทัน

นักบินคนไหนทำแบบนี้ หรือทำให้เครื่องบินต้องรับแรงเครียดมากๆก็จะถูกตั้งคำถามจากผู้บังคับบัญชา
เครื่องบินรบเป็นสมบัติของชาติจะต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง จะบินพิเรนทร์ทำแผลงๆนอกตำราไม่ได้ถ้าไม่ได้อยู่ในสถานการณ์รบจริง
นักบินเขาว่ามาแบบนี้ผมฟังมาอีกที