ถามคนที่แต่งงานแล้ว การย้ายไปอยู่บ้านแฟน มันแย่ในทุกๆกรณีเลยมั้ย ถ้าเลือกได้จะทำแบบเดิมมั้ยคะ

แฟนที่คบมา 5 ปี ได้สร้างบ้านที่จะเป็นบ้านที่เราจะต้องย้ายเข้าไปอยู่เมื่อแต่งงาน ซึ่งบ้านนี้มันอยู่ห่างจากบ้านปัจจุบันเค้าแค่ 2 กม ใกล้มากๆ (บ้านปัจจุบันก็คือบ้านที่แฟน พ่อแม่ และพี่สาวเค้า อยู่ด้วยกัน) แฟนฐานะปานกลางยังต้องผ่อนบ้านนี้อยู่ แต่ทีนี้บ้านใหม่เค้าอยู่ในรั้วเดียวกันกับบ้านญาติๆ ซึ่งถึงแม้จะแยกบ้าน เรายังรู้สึกกังวลในความเป็นส่วนตัว การที่เราต้องต้อนรับขับสู้ครอบครัวและญาติเค้าทุกคน (7 คน โดยประมาณ) เพราะน่าจะต้องเจอหน้ากันบ่อยมากแน่นอน 

เรื่องแต่งงานนี้ยังไม่ได้พูดกันเป็นกิจลักษณะ แต่ผู้ใหญ่ฝั่งนู้นก็มีเปรยๆมา ทำให้เราคิดมากขึ้นว่าถ้าเกิดแต่งงานแล้วจะเป็นยังไงต่อ กลัวเหมือนกัน คิดถึงขั้นจะเลิกกับแฟนต่างคนต่างจะได้ไปเริ่มใหม่ (ยังไม่เคยบอกแฟนเรื่องที่คิดจะเลิก) 
ตอนที่แฟนสร้างบ้านเค้าเคยมาถามว่าเราชอบอะไร แต่เราก็ไม่ได้ให้ความเห็นจริงจังเพราะคิดอยู่เสมอว่า 1. มันเป็นบ้านเค้า-เงินเค้า ไม่ใช่บ้านเรา 2. ไม่มีอะไรในชีวิตแน่นอนเสมอ 

เคยไปเที่ยวกับพ่อแม่แฟน คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่นั่นมันครั้งคราว ใครจะรู้ถ้าต้องเจอหน้ากันบ่อยขนาดนั้น และญาติๆอีก ซึ่งบางคนอยู่ในวัยเกษียณแล้วก็ว่าง กรณีแย่สุดคือทุกคนเข้านอกออกในบ้านที่เราอยู่ได้เลย เพราะมีกุญแจ และอยู่ในรั้วเดียวกันแบบห่างกันแค่เดิน 2 ก้าวก็ถึงแล้ว แค่เคาะประตูขอมานั่งกินข้าวด้วยยังไงก็ต้องเปิดให้ เรากลัวว่าต่อไปถ้าเราไปอยู่ ต้องถึงขั้นซื้อและทำกับข้าวเผื่อหลายๆคนเลยมั้ย คิดถึงขนาดนั้น
แต่ถ้ามองในข้อดีคือมีคนช่วยดูแลบ้าน มีคนช่วยเลี้ยงลูกเวลาเราไปทำงาน รึเปล่า?

ส่วนใหญ่มันคือกังวลในความไม่สะดวกใจมากกว่า เราไม่ได้คิดถึงขั้นจะไปทะเลาะกับครอบครัวแฟน แต่เราก็มีตัวตนมีเหตุผลของตัวเองชัดเจนพอสมควร พูดตรง การจะให้เราไปรับคำสั่งใครเป็นหุ่นยนต์ไม่ใช่ตัวเราเลย เราเป็นคนมีความเป็นผู้นำสูง บางครั้งสูงกกว่าแฟน ในขณะที่แฟนจะเป็นแนวประณีประนอม

ในบ้านใหม่ของแฟนนี้ยังมีห้องนอนของพ่อแม่เค้า และห้องนอนพี่สาวเค้า(ยังไม่แต่งงาน) และย้ายของๆพี่สาวเค้าบางส่วนมาแล้วด้วย สรุปก็คือ มันไม่ใช่บ้านของเราแค่ 2 คนนั่นเอง และที่เรากังวลเราก็เคยเปรยๆกับแฟนว่าถ้าทุกคนเลือกได้ก็คงอยากไปอยู่เองข้างนอก แต่แฟนเหมือนไม่ได้คิดอะไร ฟังแล้วก็ลืม และเราก็พูดมากไม่ได้เพราะมันไม่ใช่เงินเราตั้งแต่ต้น ในอนาคตก็นับเป็นแค่ผู้อยู่อาศัย

ถ้าเกิดแต่งงานแล้วจริงๆ เราเป็นมนุษย์ทำงานข้างนอกแน่นอน เพราะไม่ได้รวย ยังต้องหาเงิน คงไม่ได้อยู่บ้านทั้งวัน เรื่องทำความสะอาด งานบ้าน เราก็คงทำบ้างเท่าที่พอมีเวลา แต่ก็คงจ้างแม่บ้านรายวันด้วย 

กำลังคิดหาทางออกกรณีไม่เลิกกัน แต่สุดท้ายต้องแต่งงาน ไม่รู้ในความเป็นจริงจะเป็นไปได้แค่ไหน คือ เราอาจจะต้องไปๆมาๆนอนค้างระหว่างบ้านเรา(บ้านพ่อแม่เรา) บ้านแฟน ซึ่งห่างกัน 28 กม สลับไปมาทุกอาทิตย์ แต่คือบ้านเราใหญ่กว่า สวยกว่า สภาพแวดล้อมดีกว่า (ด้วยระยะทาง ความเคยชิน อาจกลายเป็นว่าย้ายไปมาทุกอาทิตย์ไม่ได้ กลายเป็นนานขึ้นยาวขึ้น แย่ที่สุดจะถึงขั้นเลิกกันเลยมั้ย หรือเราคิดลบมากไป)

ในทางกลับกันเราไม่ได้คาดหวังให้แฟนแต่งงานแล้วมาอยู่บ้านเราเช่นกัน เพราะเค้าก็ต้องมาเจอพ่อแม่เรา (ทุกวันนี้เรายังมีทะเลาะกับแม่อยู่เลย ขนาดแม่เราเอง เราก็ไม่ได้คาดหวังให้คนอื่นมาอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข) ถ้าเลือกได้คงอยากไปอยู่กันเอง แต่ประเด็นนี้มันเป็นไปไม่ได้แล้ว เพราะแฟนได้สร้างบ้านหลังนี้ของเค้าไปแล้ว มีภาระการผ่อนด้วย

เราเคยคิดอยากมีลูก (ตอนนี้ 30 แล้ว แฟนอายุมากกว่า 5 ปี) แต่ถ้าต้องเลิกกันจริงๆ คิดว่าอยู่เป็นโสดไม่มีลูกก็คงไม่แย่อะไร(มั้ง) แค่เหงา ไม่มีเพื่อนคู่คิด แต่เป็นอิสระกว่า ใช้เวลาดูแลพ่อแม่ตัวเองไป ไปมุ่งที่การทำงานแทน
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
แต่งงานแล้ว แยกครอบครัวดีที่สุด
ความคิดเห็นที่ 2
อ่านแล้วเข้าใจจขกทค่ะ

เราก็สร้างบ้านในที่ดินของพ่อแม่สามี โดยจะมีบ้านเรา บ้านพ่อแม่สามี บ้านน้องสาวสามี

โดยปกติ จะไม่มีใครเดินเข้าออกบ้านเราเลย ถ้าจะมาก็จะแค่นั่งหน้าบ้าน หรือเปิดประตูหลังบ้านเอาอาหารมาวางไว้ให้แล้วกลับ

บางวันพ่อหรือแม่ก็เดินมาหลายรอบ ถ้าเรานั่งดูทีวีอยู่ เราก็จะดูต่อ ถ้าไม่มีใครคุยกับเค้า เดี๋ยวเค้าก็กลับไปเอง บางวันก็จะมาแค่ช่วงเย็นๆ แต่จะมาทุกวัน

ช่วงแรกๆเราก็อึดอัดบ้าง แต่ยังดีที่เค้าไม่เดินเข้านอกออกในบ้าน ไม่มาจัดแจงเรื่องในบ้านเรา ถ้าวันไหนเราไม่อยากเจอก็แค่อยู่ในบ้าน ปล่อยให้พ่อแม่ลูกเค้าคุยกันไปหน้าบ้าน ซึ่งแปบๆเค้าก็กลับกันไปล่ะ แต่ถ้าวันไหนได้คุยเราก็ยิ้มแย้มปกติ เราจะมีพื้นที่ให้ตัวเอง ไม่ยอมเกินไป และไม่บึ้งตึงเกินไป

ดีแล้วค่ะที่ จขกท ยังทำงาน มีรายได้เป็นของตัวเอง เราเชื่อว่าทุกความสัมพันธ์มันจะมีชนชั้นวรรณะอยู่ ถ้าเรายังมีรายได้ มีบ้านพ่อแม่ให้กลับ ก็จะยังมีคนเกรงใจอยู่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่