ศิริกัญญา แจงยิบเหตุไล่บี้คลัง ขายทิ้งหุ้นอาบอบนวด ขออย่าหยิบแค่พาดหัว มาโจมตีกัน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4134729
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม
ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อเขียน เรื่อง
[ คลังลงทุนอาบอบนวด?? ตกลงขายได้มั้ย? ] ชี้แจงกรณีการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อซักถามถึงประเด็นสถานบริหารอาบอบนวด ในรายงานการเงินแผ่นดิน โดยมีเนื้อหาดังนี้
“เมื่อวันพุธ ดิฉันได้อภิปรายซักถามเกี่ยวกับรายงานการเงินแผ่นดินไป ไล่เรียงคำถามตั้งแต่การบริหารจัดการที่ราชพัสดุ งบประมาณที่ลงบัญชีว่าเบิกจ่ายเกินกว่าที่สภาอนุมัติ ไปจนถึงเงินลงทุนประเภทต่างๆ ของแผ่นดินที่กระทรวงการคลังบริหารแทน ซึ่งรวมถึงบริษัทที่ประกอบกิจการอาบอบนวด 5 บริษัท ที่ดิฉันได้สอบถามผู้มาชี้แจงว่าถือไว้ทำไม เมื่อไหร่จะขาย
กลายมาเป็นประเด็นโจมตีตามภาพ จึงขอชี้แจงและให้ข้อมูลที่ถูกต้องดังนี้ค่ะ
คลังไม่ได้ลงทุนในอาบอบนวด
ทราบดีค่ะ ว่ากระทรวงการคลังไม่ได้เข้าซื้อหุ้นโดยตั้งใจ และได้มาจากการยึดทรัพย์ของปปง. ซึ่งได้อภิปรายเรื่องนี้ไปแล้วด้วย สไลด์ก็เขียนอยู่ว่ามาจากยึดทรัพย์ เราไม่ควรอ่านแต่พาดหัวข่าวนะคะ ควรอ่านเนื้อข่าว หรือย้อนฟังการอภิปรายเต็มๆ เพื่อให้เข้าใจการขายทอดตลาดทรัพย์สินใดๆ เมื่อคดีสิ้นสุดเป็นหน้าที่ของกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม
กรณีนี้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำที่ผิดกฎหมายตกเป็นของแผ่นดิน และให้ตกเป็นของกระทรวงการคลัง ตามมาตรา 51 พ.ร.บ. ปปง.
การบังคับคดีสิ้นสุดตั้งแต่ตอนที่โอนหุ้นมาเป็นของกระทรวงการคลังเมื่อ 11 ปีก่อนแล้วค่ะ
อำนาจการจำหน่ายสินทรัพย์ก็อยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ที่ทำหน้าที่หลักทรัพย์
และถ้าฟังจนถึงผู้ชี้แจงจากสคร. ตอบคำถามดิฉัน ก็จะทราบว่าเค้าอยากจะขายค่ะ แต่ขายไม่สำเร็จ ราคาไม่เป็นที่พอใจ
กรมบังคับคดีจะมาขายทอดตลาดได้ยังไงก่อน…!!
เรื่องนี้ไม่ได้เพิ่งทราบ แต่ได้ซักถามกระทรวงการคลังมาหลายปีเกี่ยวกับหุ้นที่ถือเหล่านี้ทั้งที่ได้จากนโยบาย (ในอดีต) และที่ได้จากการยึดทรัพย์ สคร.ก็พูดตลอดว่าจะพยายามจำหน่ายออก แต่จำหน่ายไม่ออกซักที
ที่ต้องมาเร่งรัด เพราะเมื่อต้นปีก็มีข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับบริษัทนี้ ทั้งเรื่องผู้ถือหุ้นใหม่ ที่เกี่ยวพันกับทุนจีน และการจับกุมเพราะเปิดโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จึงไม่อยากให้หน่วยงานรัฐต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องนี้ค่ะ
จึงขออนุญาตชี้แจง เพราะไม่ได้แค่คนเดียวที่เข้าใจผิด คนระดับครูบาอาจารย์ก็ยังกระจายข่าวด้วยอคติไปทั่ว เดี๋ยวประชาชนจะเชื่อข้อมูลที่ผิดๆ ค่ะ”
https://www.facebook.com/photo/?fbid=857045442441520&set=a.495784201900981
สะดุ้งเลย ธงทอง โพสต์ถึงใคร เดินกระย่องกระแย่ง รอคอยเวลา กินรวบทั้งกระดาน
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7820533
ธงทอง จันทรางศุ โพสต์ชวนสะดุ้ง หมายถึงใคร เดินกระย่องกระแย่ง แต่ลงสนามแข่ง รอคอยเวลา หมายจะกินรวบตลอดกระดาน
จากกรณีพรรคเพื่อไทย ประกาศจัดตั้งรัฐบาล 314 เสียง โดยมีพรรค 2 ลุง คือพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมด้วยนั้น
วันที่ 18 ส.ค.2566 ศาสตราจารย์พิเศษ
ธงทอง จันทรางศุ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก Tongthong Chandransu ระบุว่า
“เห็นเดินกระย่องกระแย่ง แต่ลงสนามแข่งอยู่นะจ๊ะ รอคอยวันเวลาโบ๊ะบ๊ะ หมายจะกินรวบตลอดกระดาน”
https://web.facebook.com/nha.chandransu/posts/pfbid021T5ynjc47dfcNP9qRbGgBRXgPxrvHaLSoFMeZqXvU7zZ6ECxEB4wyz5wDWDU2FvRl
ชาวนาจูงวัวควายขายตลาดนัด นำเงินซื้อปุ๋ยไปหว่านข้าวหลังฝนตก
https://www.dailynews.co.th/news/2634674
ชาวนาแห่จูงวัวควายขาย นำเงินซื้อปุ๋ยไปหว่านข้าว หลังฝนตกมีน้ำบ้างแล้ว แม้วัวควายราคาจะถูกเป็นประวัติการณ์ แต่ต้องจำใจหลังเศรษฐกิจย่ำแย่.
โดยเฉพาะที่บริเวณตลาดนัดโคกระบือ ต.ระแงง อ.ศีขรภูมิ (สี-ขอ-ระ-พูม) จ.สุรินทร์ ที่มีขึ้นเมื่อวานนี้ (17 ส.ค. 66) ซึ่งพบว่าได้มี เกษตรกรจากทั่วสารทิศ ได้นำวัวและควายใส่รถกระบะตลอดจนรถบรรทุกขนาดใหญ่ บรรทุกมาขายเป็นจำนวนมาก โดยมีพ่อค้าที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ทั้งภาคกลาง ภาคเหนือ และอีสานตอนล่าง เดินทางมาซื้อและนำมาขายตลอด จนนำมาแลกเปลี่ยนวัวและควายกับพี่น้องเกษตรกรที่นำมาขายในวันนี้อย่างคึกคักเลยทีเดียว
นาย
เขียว (ขอสงวนนามสกุล) นายฮ้อย อายุ 70 ปี เป็นพ่อค้าชาว ต.หนองบัว อ.ศีขรภูมิ ที่รับซื้อ-ขาย ตลอดจนแลกเปลี่ยนวัวควาย บอกว่า ราคาวัวและควายในขณะนี้ราคาถูกลงมาก แต่ก่อนวัวตัวละ 2 ถึง 3 หมื่นบาท ทุกวันนี้จะขายให้ได้ตัวละ 1 หมื่นก็แสนจะลำบาก แต่เกษตรกรก็จำเป็นต้องขาย เพราะว่าในห้วงนี้ บรรดาพี่น้องเกษตรกรที่นำวัวและควายออกมาขาย เพื่อต้องการเงินไปใช้หนี้ ธ.ก.ส. บ้าง และนำไปซื้อปุ๋ยใส่นาข้าวบ้าง เนื่องจากว่าฝนเริ่มตกลงมาบ้างแล้ว พอมีน้ำใส่ปุ๋ย แต่พอนำวัวควายมาขาย กลับไม่มีราคา ซึ่งจะนำไปซื้อปุ๋ย ก็ตกราคากระสอบละ 1,300-1,500 บาท ชนิดอย่างดี ถือว่าแพงมาก ขายวัวได้ 1 ตัว ได้ปุ๋ยไปใส่นาข้าวไม่ถึง 10 กระสอบ ซึ่งมันไม่คุ้มกับราคาที่จะนำไปขายเลย แต่ก็ต้องสู้ทน เพราะมันเป็นอาชีพที่บรรพบุรุษพาทำกันมาจนถึงทุกวันนี้
ทางด้านนาย
สุเทพ ประภาสัย ผู้จัดการตลาดนัดโคกระบือ ต.ระแงง เปิดเผยว่า ตลาดนัดโคกระบือ เราจะเปิดทำการทุกวันพฤหัสบดีวันเดียว ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ไปจนถึง 24.00 น. วัวควายที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่นำมาขายที่ตลาดนัดแต่ละนัด จะมาจากต่างถิ่นกันเป็นจำนวนมาก ทั้งจากภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคอีสานตอนล่างและตอนบน จะขับรถบรรทุกขนาดใหญ่มารับซื้อถึงพื้นที่กันเลยทีเดียว และบางรายจะนำมาแลกเปลี่ยนกัน แล้วเพิ่มราคาค่าขนส่งเล็กน้อย
ในส่วนของตลาด ก็จะมีบรรดาพี่น้องชาวเกษตรกรที่พากันนำวัวและควายมาขาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นวัว เพราะในช่วงนี้พี่น้องเกษตรกรก็ต้องขายไปซื้อปุ๋ยใส่นาข้าว หลังจากที่ฝนได้ตกลงมา ทำให้มีปริมาณน้ำในพื้นที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งราคาวัวและควายจะถูกมาก บางตัวก็จะตกราคา 1 หมื่นถึง 2 หมื่นบาท ถือว่าถูกมากในช่วงนี้ เพราะบรรดาผู้ซื้อก็ไม่ค่อยมีกำลังซื้อเท่าไหร่ เกิดจากภาวะเศรษฐกิจแบบนี้
นาย
สุเทพ ยังบอกอีกว่า อยากจะให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้านำวัวและควายมาขายภายในตลาดนัด เพราะจะไม่ได้กดราคา ถ้าหากไปรับซื้อข้างนอกกับพ่อค้าคนกลาง แต่ถ้าหากต้องการวัวและควายราคาดีมีคุณภาพ ไม่มีโรคภัยแล้ว ก็ขอให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าเข้ามาชมและซื้อขายที่ตลาดนัดโคกระบือบ้านเราจะดีกว่า
JJNY : ศิริกัญญาแจงยิบเหตุไล่บี้คลัง│สะดุ้งเลย ธงทองโพสต์ถึงใคร│จูงวัวควายขาย นำเงินซื้อปุ๋ย│เปิดภาพใช้“คลัสเตอร์บอมบ์”
https://www.matichon.co.th/politics/news_4134729
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อเขียน เรื่อง [ คลังลงทุนอาบอบนวด?? ตกลงขายได้มั้ย? ] ชี้แจงกรณีการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อซักถามถึงประเด็นสถานบริหารอาบอบนวด ในรายงานการเงินแผ่นดิน โดยมีเนื้อหาดังนี้
“เมื่อวันพุธ ดิฉันได้อภิปรายซักถามเกี่ยวกับรายงานการเงินแผ่นดินไป ไล่เรียงคำถามตั้งแต่การบริหารจัดการที่ราชพัสดุ งบประมาณที่ลงบัญชีว่าเบิกจ่ายเกินกว่าที่สภาอนุมัติ ไปจนถึงเงินลงทุนประเภทต่างๆ ของแผ่นดินที่กระทรวงการคลังบริหารแทน ซึ่งรวมถึงบริษัทที่ประกอบกิจการอาบอบนวด 5 บริษัท ที่ดิฉันได้สอบถามผู้มาชี้แจงว่าถือไว้ทำไม เมื่อไหร่จะขาย
กลายมาเป็นประเด็นโจมตีตามภาพ จึงขอชี้แจงและให้ข้อมูลที่ถูกต้องดังนี้ค่ะ
คลังไม่ได้ลงทุนในอาบอบนวด
ทราบดีค่ะ ว่ากระทรวงการคลังไม่ได้เข้าซื้อหุ้นโดยตั้งใจ และได้มาจากการยึดทรัพย์ของปปง. ซึ่งได้อภิปรายเรื่องนี้ไปแล้วด้วย สไลด์ก็เขียนอยู่ว่ามาจากยึดทรัพย์ เราไม่ควรอ่านแต่พาดหัวข่าวนะคะ ควรอ่านเนื้อข่าว หรือย้อนฟังการอภิปรายเต็มๆ เพื่อให้เข้าใจการขายทอดตลาดทรัพย์สินใดๆ เมื่อคดีสิ้นสุดเป็นหน้าที่ของกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม
กรณีนี้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำที่ผิดกฎหมายตกเป็นของแผ่นดิน และให้ตกเป็นของกระทรวงการคลัง ตามมาตรา 51 พ.ร.บ. ปปง.
การบังคับคดีสิ้นสุดตั้งแต่ตอนที่โอนหุ้นมาเป็นของกระทรวงการคลังเมื่อ 11 ปีก่อนแล้วค่ะ
อำนาจการจำหน่ายสินทรัพย์ก็อยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ที่ทำหน้าที่หลักทรัพย์
และถ้าฟังจนถึงผู้ชี้แจงจากสคร. ตอบคำถามดิฉัน ก็จะทราบว่าเค้าอยากจะขายค่ะ แต่ขายไม่สำเร็จ ราคาไม่เป็นที่พอใจ
กรมบังคับคดีจะมาขายทอดตลาดได้ยังไงก่อน…!!
เรื่องนี้ไม่ได้เพิ่งทราบ แต่ได้ซักถามกระทรวงการคลังมาหลายปีเกี่ยวกับหุ้นที่ถือเหล่านี้ทั้งที่ได้จากนโยบาย (ในอดีต) และที่ได้จากการยึดทรัพย์ สคร.ก็พูดตลอดว่าจะพยายามจำหน่ายออก แต่จำหน่ายไม่ออกซักที
ที่ต้องมาเร่งรัด เพราะเมื่อต้นปีก็มีข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับบริษัทนี้ ทั้งเรื่องผู้ถือหุ้นใหม่ ที่เกี่ยวพันกับทุนจีน และการจับกุมเพราะเปิดโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จึงไม่อยากให้หน่วยงานรัฐต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องนี้ค่ะ
จึงขออนุญาตชี้แจง เพราะไม่ได้แค่คนเดียวที่เข้าใจผิด คนระดับครูบาอาจารย์ก็ยังกระจายข่าวด้วยอคติไปทั่ว เดี๋ยวประชาชนจะเชื่อข้อมูลที่ผิดๆ ค่ะ”
สะดุ้งเลย ธงทอง โพสต์ถึงใคร เดินกระย่องกระแย่ง รอคอยเวลา กินรวบทั้งกระดาน
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7820533
ธงทอง จันทรางศุ โพสต์ชวนสะดุ้ง หมายถึงใคร เดินกระย่องกระแย่ง แต่ลงสนามแข่ง รอคอยเวลา หมายจะกินรวบตลอดกระดาน
จากกรณีพรรคเพื่อไทย ประกาศจัดตั้งรัฐบาล 314 เสียง โดยมีพรรค 2 ลุง คือพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมด้วยนั้น
วันที่ 18 ส.ค.2566 ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก Tongthong Chandransu ระบุว่า
“เห็นเดินกระย่องกระแย่ง แต่ลงสนามแข่งอยู่นะจ๊ะ รอคอยวันเวลาโบ๊ะบ๊ะ หมายจะกินรวบตลอดกระดาน”
https://web.facebook.com/nha.chandransu/posts/pfbid021T5ynjc47dfcNP9qRbGgBRXgPxrvHaLSoFMeZqXvU7zZ6ECxEB4wyz5wDWDU2FvRl
ชาวนาจูงวัวควายขายตลาดนัด นำเงินซื้อปุ๋ยไปหว่านข้าวหลังฝนตก
https://www.dailynews.co.th/news/2634674
ชาวนาแห่จูงวัวควายขาย นำเงินซื้อปุ๋ยไปหว่านข้าว หลังฝนตกมีน้ำบ้างแล้ว แม้วัวควายราคาจะถูกเป็นประวัติการณ์ แต่ต้องจำใจหลังเศรษฐกิจย่ำแย่.
โดยเฉพาะที่บริเวณตลาดนัดโคกระบือ ต.ระแงง อ.ศีขรภูมิ (สี-ขอ-ระ-พูม) จ.สุรินทร์ ที่มีขึ้นเมื่อวานนี้ (17 ส.ค. 66) ซึ่งพบว่าได้มี เกษตรกรจากทั่วสารทิศ ได้นำวัวและควายใส่รถกระบะตลอดจนรถบรรทุกขนาดใหญ่ บรรทุกมาขายเป็นจำนวนมาก โดยมีพ่อค้าที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ทั้งภาคกลาง ภาคเหนือ และอีสานตอนล่าง เดินทางมาซื้อและนำมาขายตลอด จนนำมาแลกเปลี่ยนวัวและควายกับพี่น้องเกษตรกรที่นำมาขายในวันนี้อย่างคึกคักเลยทีเดียว
นายเขียว (ขอสงวนนามสกุล) นายฮ้อย อายุ 70 ปี เป็นพ่อค้าชาว ต.หนองบัว อ.ศีขรภูมิ ที่รับซื้อ-ขาย ตลอดจนแลกเปลี่ยนวัวควาย บอกว่า ราคาวัวและควายในขณะนี้ราคาถูกลงมาก แต่ก่อนวัวตัวละ 2 ถึง 3 หมื่นบาท ทุกวันนี้จะขายให้ได้ตัวละ 1 หมื่นก็แสนจะลำบาก แต่เกษตรกรก็จำเป็นต้องขาย เพราะว่าในห้วงนี้ บรรดาพี่น้องเกษตรกรที่นำวัวและควายออกมาขาย เพื่อต้องการเงินไปใช้หนี้ ธ.ก.ส. บ้าง และนำไปซื้อปุ๋ยใส่นาข้าวบ้าง เนื่องจากว่าฝนเริ่มตกลงมาบ้างแล้ว พอมีน้ำใส่ปุ๋ย แต่พอนำวัวควายมาขาย กลับไม่มีราคา ซึ่งจะนำไปซื้อปุ๋ย ก็ตกราคากระสอบละ 1,300-1,500 บาท ชนิดอย่างดี ถือว่าแพงมาก ขายวัวได้ 1 ตัว ได้ปุ๋ยไปใส่นาข้าวไม่ถึง 10 กระสอบ ซึ่งมันไม่คุ้มกับราคาที่จะนำไปขายเลย แต่ก็ต้องสู้ทน เพราะมันเป็นอาชีพที่บรรพบุรุษพาทำกันมาจนถึงทุกวันนี้
ทางด้านนายสุเทพ ประภาสัย ผู้จัดการตลาดนัดโคกระบือ ต.ระแงง เปิดเผยว่า ตลาดนัดโคกระบือ เราจะเปิดทำการทุกวันพฤหัสบดีวันเดียว ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ไปจนถึง 24.00 น. วัวควายที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่นำมาขายที่ตลาดนัดแต่ละนัด จะมาจากต่างถิ่นกันเป็นจำนวนมาก ทั้งจากภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคอีสานตอนล่างและตอนบน จะขับรถบรรทุกขนาดใหญ่มารับซื้อถึงพื้นที่กันเลยทีเดียว และบางรายจะนำมาแลกเปลี่ยนกัน แล้วเพิ่มราคาค่าขนส่งเล็กน้อย
ในส่วนของตลาด ก็จะมีบรรดาพี่น้องชาวเกษตรกรที่พากันนำวัวและควายมาขาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นวัว เพราะในช่วงนี้พี่น้องเกษตรกรก็ต้องขายไปซื้อปุ๋ยใส่นาข้าว หลังจากที่ฝนได้ตกลงมา ทำให้มีปริมาณน้ำในพื้นที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งราคาวัวและควายจะถูกมาก บางตัวก็จะตกราคา 1 หมื่นถึง 2 หมื่นบาท ถือว่าถูกมากในช่วงนี้ เพราะบรรดาผู้ซื้อก็ไม่ค่อยมีกำลังซื้อเท่าไหร่ เกิดจากภาวะเศรษฐกิจแบบนี้
นายสุเทพ ยังบอกอีกว่า อยากจะให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้านำวัวและควายมาขายภายในตลาดนัด เพราะจะไม่ได้กดราคา ถ้าหากไปรับซื้อข้างนอกกับพ่อค้าคนกลาง แต่ถ้าหากต้องการวัวและควายราคาดีมีคุณภาพ ไม่มีโรคภัยแล้ว ก็ขอให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าเข้ามาชมและซื้อขายที่ตลาดนัดโคกระบือบ้านเราจะดีกว่า