JJNY : ทิชาหัวร้อน ปมจนท.รัฐสภา │‘ธนพร’เชื่อพท.ดึง 2 ลุง│‘หมอเก่ง’ถามในบริบทเพื่อน│‘แอตต้า’ หวังมีรบ.ใหม่เร่งแก้ปัญหา

'ทิชา ถึงกับหัวร้อน ปมจนท.รัฐสภาตอบเคสยื่นร้องสอบจริยธรรม ‘พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์’
https://www.matichon.co.th/politics/news_4123797
 
 
ทิชา ถึงกับหัวร้อน ปมจนท.รัฐสภาตอบเคสยื่นร้องสอบจริยธรรม ‘พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์’
 
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางทิชา ณ นคร ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและเยาวชน อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฎิรูปประเทศ (สปท.) โพสต์เฟซบุ๊กกรณีที่ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ตรวจสอบจริยธรรมนักการเมืองรายหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่ได้รัฐสภาตอบกลับมาแล้ว

ซึ่งนางทิชา ได้โพสต์เรื่องดังกล่าว ระบุว่า จนท.รัฐสภา แจ้งว่าได้รับจดหมายร้องเรียนให้ตรวจสอบจริยธรรมนักการเมืองฯ ของผู้ร้องแล้ว แต่มีระเบียบที่ผู้ร้องต้องปฏิบัติดังนี้

1) ต้องแสดงว่าผู้ร้องมีตัวตนจริง จึงต้องแนบบัตรประชาชน
ตอบ : ยินดี เดี๋ยวส่งให้

2) สาระสำคัญในการร้องต้องมีข้อเท็จจริงประกอบด้วยว่าผู้ถูกร้องมีการกระทำดังกล่าวจริง จึงขอคลิปการให้สัมภาษณ์ของผู้ถูกร้องด้วย
ตอบ : นี่คุณเขียนกติกาให้มันร้องยาก เอาผิดยากขนาดนี้เลยหรือ ผู้ร้องต้องไปซื้อเฟชไดร์ฟเพื่อเซฟคลิปการสัมภาษณ์ส่งให้คุณใช่มั้ย พวกคุณไม่คิดทำอะไรเองหรือ

3) ตอนนี้ยังไม่ต้องส่งก็ได้ เดี๋ยวทางสภาจะส่งข้อบังคับจริยธรรมไปให้
ตอบ : ไม่ต้องส่ง ผู้ร้องได้เสิร์ชอ่านแล้วตั้งแต่คิดจะร้อง และเบื้องต้นผู้ถูกร้องเข้าข่ายผิดฯ ข้อ 13 แต่ที่ไม่ใส่เพราะติดว่าเป็นหน้าที่ เป็นงานคุณไง ฉะนั้นไม่ต้องส่งมาเปลืองกระดาษ หาอ่านได้เอง

นางทิชา ยังโพสต์ด้วยว่า นี่ขนาดแก่เฒ่าแล้วนะ แต่เวลาติดต่อกับรัฐไทย องค์กรแห่งอำนาจ ยังหัวร้อนเอาง่ายๆ เลย แล้ววัยรุ่น คนหนุ่มสาว ที่เขาต้องดีลกับรัฐล่ะ อย่ามาอ้างคำพังเพย อย่าสอนเรื่องระเบียบ อย่าเรียกร้องให้อ่อนน้อมถ่อมตน ในสถานการณ์ที่เรียกร้องความเป็นธรรมเลย
ขอร้อง มันคนเมนูกัน ไม่เข้ากัน กินไม่อร่อย อยากคายทิ้ง รัฐหัดรู้กาละเทศะบ้าง อย่าสอนให้ประชาชนรู้กาละเทศะฝ่ายเดียว
 
อนึ่ง เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม นางทิชาได้ทำหนังสือร้องเรียนถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อขอให้ตรวจสอบจริยธรรมนักการเมือง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ที่ได้ให้สัมภาษณ์พาดพิงถึงเยาวชนนักเคลื่อนไหวรายหนึ่งว่า “ไม่เชื่อฟังครูบาอาจารย์ ปีนกำแพง ไม่ใส่เสื้อผ้าชุดนักเรียน ถ้าเป็นลูกผม ผมฆ่าทิ้งเลย

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid02pXE4Aspx2nVSJgNH6Pv3zXXA9R83KVN8d41QnDnCwK7VbCaDc3NcdNxR5GAGKRXVl&id=100001911932080


 
‘ธนพร’ เชื่อ พท.ดึง 2 ลุง ดันโหวตนายกฯ ม้วนเดียวจบ เหตุเร่งเคลียร์แต่งตั้งโยกย้าย ทหาร-ตร.-ขรก.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4123697

‘ธนพร’ เชื่อ พท.ดึง 2 ลุง ดันโหวตนายกฯ ม้วนเดียวจบ เหตุเร่งเคลียร์แต่งตั้งโยกย้าย ทหาร-ตร.-ขรก. ภายในส.ค. หวั่นรบ.รักษาการชิงทำ
 
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย ให้สัมภาษณ์ในรายการ “เจาะลึกทั่วไทย” ถึง เบื้องหลังเหตุผลความจำเป็น ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ต้องดึงพรรค 2 ลุง ร่วมตั้งรัฐบาล ว่า เรื่องนี้ เป็นเหตุในการจัดตั้งรัฐบาลจริงๆ เพราะในทางเทคนิค ถ้ารัฐบาลจะบริหารงานได้ จะต้องไม่พะว้าพะวังกับเกมในสภา ซึ่งเกมในสภา 4 ปีที่ผ่านมา พรรคก้าวไกล มีแค่ 50 เสียง ก็ออกฤทธิ์ออกเดช เมื่อเรามาดูตัวเลขง่ายๆ ถ้าเอา พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และเอาพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มา ก็จะได้ 295 เสียง สูตรนี้ ส.ว.ล้นอยู่แล้ว แต่จะไม่ได้เสียงถึง 300
  
ขณะเดียวกัน มีอีกสูตรหนึ่ง คือ 238 เสียง บวกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 40 เสียง บวกพรรค ปชป. 21 เสียง ก็จะได้ 299 เสียง แต่ปัญหา คือ สูตร ส.ว.อาจจะไม่พอ ยังไงก็ต้องดึง พรรค รทสช.มาอยู่ดี ดังนั้น หากต้องหารเสียงเกิน 300 ต้องเอาพรรค 2 ลุง มารวมกัน
 
การโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ พรรค พท. และพรรคร่วมรัฐบาล ต้องการม้วนเดียวจบ เพราะวันที่ 24 สิงหาคม สภากลาโหมจะนัดประชุมทำโผโยกย้าย  ผบ.เหล่าทัพ ถ้าไม่ม้วนเดียวจบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นผู้จัดโผทหาร

เพราะฉะนั้น แล้วสำหรับพรรค พท. การโหวตนายกฯ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องม้วนเดียวจบ เพราะถ้าโหวตนายกฯ ยืดเยื้อหลังวันที่ 24 สิงหาคม การกลับบ้านของ นายทักษิณ ขินวัตร จะยุ่งยากมากขึ้น
 
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเลทไปอีก ตามกฎหมายตำรวจแห่งชาติ การแต่งตั้งผบ.ตร. ต้องตั้งภายในเดือนสิงหาคม ดังนั้น ถ้ากลไกเหล่านี้อยู่ภายใต้รัฐบาลรักษาการ ใครขึ้นมาเป็นนายกฯ ก็บริหารไม่ได้ ต่อให้มีเสียง 300 กว่า แต่ถ้า ผบ.เหล่า และ ผบ.ตร. ไม่ใช่คนของตนเอง อย่างอื่นเลิกพูด โดยเฉพาะประเด็นนายทักษิณ กลับบ้าน เลิกพูดไปได้เลย จึงเป็นที่มาของการที่พรรค พท.ออกแถลงการณ์เมื่อเวลา 05.30 น. ที่ผ่านมา โดยภูมิธรรม ได้ออกแถลงการณ์ เบรกรัฐบาลรักษาการ แต่งตั้งโยกย้าย ขรก.  เพราะมองว่าควรให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่
 
ส่วนทำไมต้องออกแถลงการณ์ 05.30 น. รศ.ดร.ธนพร กล่าวว่า  พรรค พท. มองไปถึงการจัดทัพข้าราชการทั้งหมดด้วย กระทั่งวันนี้ การตั้งแต่งระดับรองอธิบดี ผู้อำนวยการกอง ผู้อำนวยการสำนัก หน่วยงานที่ลงท้ายด้วยจังหวัด 9 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ปรับระบบหมดแล้ว เมื่อก่อนตำแหน่งว่างจะต้องสมัคร มีกรรมการคัดเลือก ซึ่งกระบวนการนี้ใช้เวลายาวนาน แต่ตอนนี้เปลี่ยนให้สอบขั้นบัญชีเอาไว้ ใครเป็นหัวหน้าส่วนราชการสามารถจิ้มเลือกคนได้เลย จึงเป็นความจำเป็นของพรรคพท. ที่ต้องโหวตนายกฯ ม้วนเดียวจบ
 
“ ถ้าเลทการโหวตแล้ว อย่าว่าแต่ ผบ.ตร.และ ผบ.เหล่าทัพ เลย เขาตั้งยันตำแหน่งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ดังนั้น นี่คือเกมที่ต้องม้วนเดียวจบ แล้วเราอย่าลืมว่าพรรค พท. ห่างหายจากอำนาจไป 10 กว่าปี ข้าราชการที่เป็นคนของพรรค พท. อาจจะเกษียณอายุ หรือถูกโยกไปหมดแล้ว สองเรื่องนี้จึงสัมพันธ์กัน ทำไม่ถึงจำเป็นต้องเอา 2 ลุง เพราะต้องการให้ม้วนเดียวจบ เพื่อที่จะจัดระบบในกลไกลของรัฐ ในการจะเป็นรัฐบาลต่อไป” รศ.ดร.ธนพร กล่าว
 
โดย ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ พิธีกร กล่าวสรุปว่า ดังนั้นเรื่องนี้ มันมากกว่าเทคนิคการจัดตั้งรัฐบาล มากกว่าการรวมเสียงให้ได้ 300 เสียงขึ้นไป เพราะยังมีปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย เพราะถ้า ลุงป้อม หรือลุงตู่ ถ้าอยู่ในอำนาจ รากของอำนาจ จะลึกและกว้าง ถ้าจะให้คลื่นลมสงบจริงๆ ต้องดึง 2 ลุง มาร่วมด้วย นี่คือที่มาและเหตุผลทำไมต้องข้ามขั้ว รศ.ดร.ธนพร กล่าวว่า ถูกต้องครับ และวันนี้ตั๋วแต่งตั้งโยกย้ายเต็มพรรค พท.ไปหมด แต่ถ้าแต่งตั้งช้าพรรค พท.ทำอะไรไม่ได้
 
ดนัย ถามว่า ที่ต้องดึง 2 ลุง เพื่อที่จะเคลียร์ส.ว. เคลียร์องค์กรอิสระ และเคลียร์บางกลไกอำนาจในระบบราชการ รศ.ดร.ธนพร กล่าวว่า ถูกต้องอย่างยิ่งครับ ถ้าจบโหวตนายกฯ ได้ ความชอบธรรมของ พล.อ.ประยุทธ์ จะลดลง ถ้ายังตั้งแต่งอาจจะเจอกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมได้
 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
  

  
‘หมอเก่ง’ ยอมรับคุย ‘ไผ่’ จริง แต่ถามในบริบทเพื่อน ไม่ได้ดีลให้ร่วมรัฐบาล
https://www.matichon.co.th/politics/news_4123673

‘หมอเก่ง’ ยอมรับคุย ‘ไผ่’ จริง แต่ถามในบริบทเพื่อน ไม่ได้ดีลให้ร่วมรัฐบาล
 
กรณีที่ นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคจะโหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย (พท.) โดยพาดพิงว่าพรรค ก.ก.ก็เคยมาขอคะแนนจากพรรค พปชร.ให้โหวตให้แคนดิเดตนายกฯพรรค ก.ก.เช่นกันนั้น
  
ซึ่งต่อมานายไผ่ ออกมาเปิดเผยว่าคนจากพรรค ก.ก. ที่โทรมาขอคะแนนเสียงจากพรรค พปชร.คือ นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก.  ซึ่งวันที่โทรมาขอนั้น มีมดดำ คชาภา ตันเจริญ อยู่ด้วย
 
ล่าสุด นพ.วาโย เปิดใจในรายการแฉของ มดดำ คชาภา ถึงประเด็นดังกล่าวว่า ต้องตอบว่า จริง แต่ขอเล่าในบริบทวันนั้น ตนอยู่บ้านของมดดำ และเราก็นั่งคุยกันสบายๆ ซึ่งตนก็จำไม่ได้ว่าใครโทรหาใครก่อน เพราะตอนนั้นพรรค ก.ก. สื่อสารกับส.ส. ทุกพรรค เพื่อให้ช่วยกันโหวตนายพิธา เป็นนายกฯ เพราะว่าเราต้องการปิดสวิตช์ ส.ว. โดยพฤติการณ์ตอนนั้น ยอมรับเลยว่า เราต้องการให้ช่วยโหวตนายพิธา เพราะเป็นแคนดิเดตนายกฯที่มาจากพรรคอันดับหนึ่งในการเลือกตั้ง และพรรคอันดับหนึ่งสามารถรวมเสียงได้ 312 เสียง ซึ่งเกินกว่ากึ่งหนึ่งของ สภาผู้แทนราษฎร เราก็เรียกร้องไปกับทุกฝ่ายทั้ง ส.ส. และ ส.ว. เราพยายามคุยกับทุกคนเท่าที่จะคุยได้
 
ซึ่งในส่วนขของพรรค พปชร. คนที่จะพูดคุยด้วยได้มีไม่เยอะมาก หนึ่งในนั้นที่เราคุยเล่นได้ได้ คือ นายไผ่ วันนั้น เราคุยกันแบบเพื่อนคุยกัน แล้วมดดำก็อยู่ด้วย
 
มดดำถามว่า แต่ทางนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ก.ก. ออกมายืนยันว่า พรรคก.ก.ไม่เคยขอให้ พรรค พปชร.โหวตให้ นพ.วาโย กล่าวว่า “ถูกต้อง วันนั้นไม่ใช่การดีลกันเป็นกิจลักษณะเพื่อให้มาโหวตกัน และร่วมรัฐบาลกัน เรียกว่าขอลม ว่างั้นเถอะ เราขอแบบเป็นพี่เป็นน้อง เป็นเพื่อนกันทำงานร่วมกันมาที่มีความสนิทระดับหนึ่ง”
 
ผมไม่ได้เป็นหนึ่งในทีมเจรจาหลัก แต่วันนั้น เราอยู่ในบริบทสบายๆ  เราคุยด้วยความเป็นห่วงเป็นใยกัน ส่วนข่าวที่ออกไปมีผลกระทบอย่างไรนั้น มีระดับหนึ่ง พอพี่ไผ่ ไปให้ถ้อยคำแบบนั้น คนจะสับสนว่าพรรค ก.ก. มีการไปดีลกับพรรค พปชร.มาก่อนหรือไม่ เพื่อที่จะมาร่วมรัฐบาลกัน และดีลก็ล่ม ซึ่งต้องตอบว่ามันไม่ใช่ เพราะบริบทวันนั้น เป็นการจับพลัดจับผลู คุยกัน ซึ่งวันนั้นผมคุยกับนายไผ่ประมาณ 10-15 วินาที ด้วยประโยคแค่ว่า จะเอายังไงพรรคพี่ ช่วยโหวตหรือเปล่า ช่วยโหวตหน่อยได้มั้ย?” นพ.วาโย กล่าว
 
มดดำ ถามว่า วันนี้ผู้ที่เลือกพรรค ก.ก. รู้สึกผิดหวังว่าไปขอคะแนนจากกลุ่มสืบทอดอำนาจมาได้ยังไง นพ.วาโย กล่าวว่า ตอนนั้น เราพยายามรวบรวมเสียงทั้งหมดทั้ง ส.ส. และ ส.ว. เท่าที่จะเป็นไปได้ และตอนนั้นพรรค ก.ก. พยายามสื่อสารไปยัง ส.ส.ทุกคนว่าช่วยกันเถอะ ช่วยกันโหวตนายพิธา จากพรรคอันดับ 1 ที่สามารถรวมเสียงได้ เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว.
 
มดดำ เล่าในมุมของตนว่า ในวันนั้น หมอเก่ง ให้ตนโทรหาไผ่ เพื่อให้จะช่วยโหวต นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งโดยส่วนตัว ตนกับนายไผ่ นั้นเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว วันนั้น ตนก็อยู่กับ หมอเก่ง และได้พูดคุยเหมือนเพื่อนคุยกัน  คือคุยว่า “โหวตให้คุณพิธามั้ย โหวตให้คุณพิธาด้วยนะ”
 
ดูคลิป

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่