.
**********
https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/item.php?book=20&item=276&items=1&preline=9&pagebreak=0&mode=bracket
...
[๒๗๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๒ อย่างเป็นไปในส่วนแห่งวิชชา
ธรรม ๒ อย่างเป็นไฉน คือ
สมถะ ๑
วิปัสสนา ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
สมถะ
ที่ภิกษุเจริญแล้ว
ย่อมเสวยประโยชน์อะไร
ย่อมอบรมจิต
จิตที่อบรมแล้ว
ย่อมเสวยประโยชน์อะไร
ย่อมละราคะได้
วิปัสสนาที่อบรมแล้วย่อมเสวย
ประโยชน์อะไร
ย่อมอบรมปัญญา
ปัญญาที่อบรมแล้ว
ย่อมเสวยประโยชน์อะไร
ย่อมละอวิชชาได้ ฯ
[๒๗๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตที่เศร้าหมองด้วยราคะ
ย่อมไม่หลุดพ้น
หรือปัญญาที่เศร้าหมองด้วยอวิชชา
ย่อมไม่เจริญด้วยประการฉะนี้แล
ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย เพราะ
สำรอกราคะได้ จึงชื่อว่าเจโตวิมุติ
เพราะ
สำรอกอวิชชาได้
จึงชื่อว่าปัญญาวิมุติ ฯ
จบพาลวรรคที่ ๓
**********
.
.
.
***** สมถะ ที่ภิกษุเจริญแล้ว ..ย่อมอบรมจิต.. ย่อมละราคะได้ l วิปัสสนาที่อบรมแล้ว ..ย่อมอบรมปัญญา.. ย่อมละอวิชชาได้ ฯ
**********
https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/item.php?book=20&item=276&items=1&preline=9&pagebreak=0&mode=bracket
...
[๒๗๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๒ อย่างเป็นไปในส่วนแห่งวิชชา
ธรรม ๒ อย่างเป็นไฉน คือ
สมถะ ๑
วิปัสสนา ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
สมถะ
ที่ภิกษุเจริญแล้ว
ย่อมเสวยประโยชน์อะไร
ย่อมอบรมจิต
จิตที่อบรมแล้ว
ย่อมเสวยประโยชน์อะไร ย่อมละราคะได้
วิปัสสนาที่อบรมแล้วย่อมเสวย
ประโยชน์อะไร
ย่อมอบรมปัญญา
ปัญญาที่อบรมแล้ว
ย่อมเสวยประโยชน์อะไร
ย่อมละอวิชชาได้ ฯ
[๒๗๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตที่เศร้าหมองด้วยราคะ
ย่อมไม่หลุดพ้น
หรือปัญญาที่เศร้าหมองด้วยอวิชชา
ย่อมไม่เจริญด้วยประการฉะนี้แล
ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย เพราะสำรอกราคะได้ จึงชื่อว่าเจโตวิมุติ
เพราะสำรอกอวิชชาได้
จึงชื่อว่าปัญญาวิมุติ ฯ
จบพาลวรรคที่ ๓
**********
.
.
.