อานิสงส์ของสมถะและวิปัสสนา
ปัญหา การเจริญสมถะและวิปัสสนา มีอานิสงส์อย่างไร?
พุทธดำรัสตอบ
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๒ อย่างนี้ เป็นธรรมมีส่วนแหงวิชชา
ธรรม ๒ อย่าง คืออะไร
คือ สมถะ ๑
วิปัสสนา ๑
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมถะที่ภิกษุเจริญแล้ว
ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์อะไร? = ย่อมอบรมจิต
จิตที่อบรมแล้วก่อให้เกิดประโยชน์อะไร? = ย่อมละราคะได้
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย วิปัสสนาที่ภิกษุอบรมแล้ว
ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร? = ย่อมอบรมปัญญา
ปัญญาที่อบรมแล้ว ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร? = ย่อมละอวิชชาได้
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
จิตที่เศร้าหมองด้วยราคะย่อมไม่หลุดพ้น
หรือ
ปัญญาที่เศร้าหมองด้วยอวิชชาย่อมไม่เจริญ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เพราะเหตุนี้แล
ความสิ้นราคะ ชื่อเจโตวิมุติ
ความสิ้นอวิชชา จึงชื่อว่าปัญญาวิมุติ.....”
ป. ทุก. อํ. (๒๗๕-๒๗๖)
ตบ. ๒๐ : ๗๗-๗๘ ตท. ๒๐ : ๖๙-๗๐
ตอ. G.S. ๑ : ๕๕-๕๖
อานิสงส์ของ สมถะ และ วิปัสสนา
ปัญหา การเจริญสมถะและวิปัสสนา มีอานิสงส์อย่างไร?
พุทธดำรัสตอบ
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๒ อย่างนี้ เป็นธรรมมีส่วนแหงวิชชา
ธรรม ๒ อย่าง คืออะไร
คือ สมถะ ๑
วิปัสสนา ๑
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมถะที่ภิกษุเจริญแล้ว
ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์อะไร? = ย่อมอบรมจิต
จิตที่อบรมแล้วก่อให้เกิดประโยชน์อะไร? = ย่อมละราคะได้
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย วิปัสสนาที่ภิกษุอบรมแล้ว
ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร? = ย่อมอบรมปัญญา
ปัญญาที่อบรมแล้ว ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร? = ย่อมละอวิชชาได้
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
จิตที่เศร้าหมองด้วยราคะย่อมไม่หลุดพ้น
หรือ
ปัญญาที่เศร้าหมองด้วยอวิชชาย่อมไม่เจริญ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เพราะเหตุนี้แล
ความสิ้นราคะ ชื่อเจโตวิมุติ
ความสิ้นอวิชชา จึงชื่อว่าปัญญาวิมุติ.....”
ป. ทุก. อํ. (๒๗๕-๒๗๖)
ตบ. ๒๐ : ๗๗-๗๘ ตท. ๒๐ : ๖๙-๗๐
ตอ. G.S. ๑ : ๕๕-๕๖