ดงเมืองแอม ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำพองซึ่งเป็นสาขาของลำน้ำชี เมืองนี้เป็นเมืองของอาณาจักรอีศานปุระหรือชื่อตามบันทึกของจีนสมัยราชวงศ์สุยเรียกว่าเจนละซึ่งร่วมสมัยกันกับอาณาจักรทราวดี พบหลักฐานเป็นศิลาจารึกที่วัดศรีเมืองแอมเป็นจารึกของพระเจ้าจิตรเสน (พระเจ้ามเหนทรวรมัน) เขียนด้วยอักษรปัลลวะเป็นภาษาสันสกฤต ใจความจารึกเป็นการประกาศชัยชนะของพราะเจ้าจิตรเสนแล้วสร้างสิ่งสักการะบูชาตามคติของศาสนาพราหมณ์ พบจารึกในลักษณะเดียวกันหรือคล้ายกันที่ภาคอีสานทั้งลุ่มน้ำชีและลุ่มน้ำมูลนับ 10 แห่ง ในลาวและเขมรอีกหลายแห่งแสดงให้เห็นถึงขอบเขตของอาณาจักรอีศานปุระว่าครอบครองดินแดนภาคอีสานในแอ่งโคราชทั้งหมด ลาวทางตอนใต้และดินแดนเขมรทั้งหมด
เมืองโบราณเมืองนี้มีการใช้พื้นที่ต่อเนื่องกันมาตลอดจึงเหลือหลักฐานทางโบราณคดีน้อย ในพิพิธภัณฑ์มีข้าวของเครื่องใช้แสดงอยู่น้อยชิ้นและมีปรากฏร่องรอยของหินและศิลาแลงในการก่อสร้างแต่จำพวกอิฐต่างๆ ไม่เหลือแล้ว จุดที่น่าสนใจของเมืองโบราณแห่งนี้คือมีคันน้ำคูเมืองที่มีขนาดใหญ่โตมากคือมีขนาด ยาว 2.4 กิโลเมตร กว้าง 2 กิโลเมตร ใหญ่โตกว่าเมืองโบราณของอาณาจักรทราวดี แม้จะนำมาเทียบกับสุโขทัย อโยธยา เมืองที่ว่าเป็นราชธานีของไทยก็ยังใหญ่กว่าทั้งที่ดงเมืองแอมเก่าแก่ตั้งขึ้นก่อนเกือบพันปี
ในบรรดาเมืองโบราณในประเทศไทยมีเมืองใดบ้างที่มีคูเมืองใหญ่กว่า ดงเมืองแอม จังหวัดขอนแก่น?
เมืองโบราณเมืองนี้มีการใช้พื้นที่ต่อเนื่องกันมาตลอดจึงเหลือหลักฐานทางโบราณคดีน้อย ในพิพิธภัณฑ์มีข้าวของเครื่องใช้แสดงอยู่น้อยชิ้นและมีปรากฏร่องรอยของหินและศิลาแลงในการก่อสร้างแต่จำพวกอิฐต่างๆ ไม่เหลือแล้ว จุดที่น่าสนใจของเมืองโบราณแห่งนี้คือมีคันน้ำคูเมืองที่มีขนาดใหญ่โตมากคือมีขนาด ยาว 2.4 กิโลเมตร กว้าง 2 กิโลเมตร ใหญ่โตกว่าเมืองโบราณของอาณาจักรทราวดี แม้จะนำมาเทียบกับสุโขทัย อโยธยา เมืองที่ว่าเป็นราชธานีของไทยก็ยังใหญ่กว่าทั้งที่ดงเมืองแอมเก่าแก่ตั้งขึ้นก่อนเกือบพันปี