เมื่อปลายปีที่แล้วเรามีโอกาสแวะรับประทานบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างสไตล์เกาหลีเปิดใหม่ล่าสุดตั้งอยู่บริเวณพุทธมณฑลสาย 2 ภายในซอยศาลาธรรมสพน์โดยปัจจุบันได้รับคะแนนนิยมอันดับ 1 จากทั้งหมด 3,392 แห่งทั่วกรุงเทพฯซึ่งมีนักชิมจากทุกสารทิศเข้าไปรีวิวแสดงถึงความอร่อยคุ้มค่าไม่ธรรมดา ตอนนี้เขากำลังสร้างแบรนด์ "Sinsa Shabu" จำหน่ายชาบูวัตถุดิบจัดลงจานแบบ A La Carte ราคาประหยัดเริ่มต้นแค่รายการละ 89-199 บาทลองกระแสกันอยู่พักจนประกาศโปรโมชั่นพิเศษ All You Can Eat สั่งไม่อั้นเพียงหัวละ 399-699 บาท++ จึงตัดสินใจว่ายังไงก็ต้องมาลองทานสักครั้ง วิธีการเดินทางถ้าใช้รถยนต์ส่วนตัวกดค้นหาชื่อภัตตาคารปักหมุดขับตามระบบแผนที่บนมือถือด้านหน้ามีลานขนาดใหญ่โตกว้างขวางสงวนสิทธิ์เฉพาะลูกค้าจอดฟรีตลอดทั้งวัน สำหรับบริการขนส่งสาธารณะแนะนำว่าลง SRT สายสีแดงสถานีชุมทางตลิ่งชันค่อยเรียกแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างอีกประมาณ 10 กิโลเมตรก็จะถึงจุดหมาย (ขากลับควรใช้แอปพลิเคชัน Grab - Bolt เรียกเพราะแทบไม่มีรถประจำวิ่งผ่าน) รอบก่อนแวะมาช่วงกลางคืนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าเลยไม่ได้สำรวจบริเวณอื่นๆเห็นว่าตกแต่งร้านเพิ่มจุดชวนให้ถ่ายรูปแลดูสวยงามอลังการอีกหลายมุมคล้ายจำลอง Korean Town เอาไว้แถวชานเมืองจะน่าสนใจแค่ไหนเดี๋ยวคอยชมพร้อมกันครับ
ครั้งก่อนกว่าเราจะเดินทางมาถึงร้านก็พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าจึงมืดสนิทไม่ได้ถ่ายบรรยากาศโดยรอบเพิ่งเห็นว่าสวยงามอลังการ เริ่มกันด้วยซุ้มประตูมุงหลังคาสีเขียวศิลปะสไตล์วังยุคเกาหลีโบราณคุ้นตาเหมือนเคยเจอตั้งอยู่ใจกลาง Korean Town ซ. สุขุมวิท 12 / ป้ายรอรถเมล์ "Sinsa Station" จำลองการจราจรด้วยขนส่งสาธารณะของดินแดนโสมขาว / ตุ๊กตากบตัวสีเขียวน่ารักมาสคอตจากแบรนด์โซจูยี่ห้อ Jinro นั่ง,ยืนกระจายตามจุดต่างๆทั่วทั้งบริเวณ / กำแพงขนาดกว้างวาดรูปลายเส้นแบบ Webtoon ชื่อดังลักษณะคล้ายเมืองหลวงกรุงโซลซึ่งประชากรทุกคนกลายร่างเป็นแมวยามค่ำคืนพร้อมคำคมภาษาไทยเล็กน้อยให้โพสท่าถ่ายรูปเต็มตา / บริเวณพื้นที่ว่างข้างหลังทำสวนขุดบ่อน้ำย้อมสีฟ้าสดใสแนวบลูลากูนชวนฝันเมื่อก่อนเคยทำบ่อปลาคราฟต์ให้ลูกค้าร่วมซื้ออาหารป้อนแต่ได้ย้ายออกไปเพิ่มกรงนก,ไก่ฟ้าแต่เหมือนว่าจะยังสร้างไม่เสร็จดี เปิดประตูเข้าสู่ด้านในร้านแบ่งออกเป็น 2 โซนตามรูปแบบการให้บริการนั่นก็คือ "SINSA Korean BBQ" ปิ้งย่างแนวผับกลิ่นอาย K-Pop เต็มเปี่ยม (อ่านรีวิวฉบับเก่าได้เลยตรงลิงก์นี้ >
https://citly.me/pke6P < ) ปัจจุบันยกเลิกเวทีร้องเพลงเก็บโต๊ะสนุกเกอร์/ลูกดอกปาเป้า/บอร์ดเกมอีกมากมายเอาไว้เหมือนเดิมและจัดโต๊ะใหม่เพื่อทำบุฟเฟ่ต์ "Sinsa Shabu" ที่เราตั้งใจมากินกันวันนี้ครับ
มาถึงร้านก็คัดเลือกได้เลยว่าจะรับประทานบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างหรือว่าชาบูๆเพราะแยกห้องให้บริการกันอย่างชัดเจนสำหรับวันนี้เราตั้งใจจะลุยแบรนด์ "Sinsa Shabu" น้องพนักงานได้นำเล่มรายการอาหารวางไว้พร้อมคำอธิบายยืดยาวเนื่องจากปัจจุบันมีแต่เมนู A La Carte ส่วน All You Can Eat จะต้องสแกนผ่าน QR Code ระบบหลังบ้านเท่านั้นจึงจะทราบว่ามีอะไรให้ทานบ้าง แบ่งออกเป็น 3 ระดับราคาได้แก่ Standard 399 บาท ต้องเริ่มต้นด้วยการเลือกซุปได้ 2 จากทั้งหมด 5 สูตรมีน้ำเปล่า,คัตสึโอะดาชิ,กระดูกหมู,หม่าล่าจีน,น้ำดำญี่ปุ่น / น้ำจิ้ม 5 แบบทั้งพอนสึ,สุกี้ไทย,ซอสงา,ซีฟู้ด,ผงพริกหม่าล่า / อาหารเกาหลีสำหรับทานเล่นๆคือไก่ทอดซอสเผ็ด,หัวหอม,การ์ลิก,คิมมาริต๊อกบกกี,ไส้กรอกผัด,จับแช,คิมบับ,ชูม็อกบับ,สลัดมันฝรั่ง,ไข่ม้วนย่าง / วัตถุดิบสดลงหม้อแค่สันนอก,สันคอ,สามชั้น,หมูสับไม้ไผ่,ข้าวโพดหวาน,ข้าวโพดอ่อน,แครอท,เห็ดเข็มทอง,เห็ดหอม,เห็ดออเร็นจิ,ผักกาดขาว,ผักบุ้ง,ฟักทองญี่ปุ่น,วากาเมะ,กะหล่ำฝอย,ต้นหอมญี่ปุ่น,ปวยเล้ง,กวางตุ้ง,ไข่สด,เต้าหู้ไข่,ปูอัด,เต้าหู้ปลา,ฟองเต้าหู้,ชิกูวะ,ลูกชิ้นลาวาไข่กุ้ง,เต้าหู้ชีส,ข้าว,มาม่า,วุ้นเส้น,บุก,อุด้ง,ราเมน ระดับ Premium 499 บาท เพิ่มเสือร้องไห้ไทย-แองกัส,ใบพาย,ลิ้นวัว,กุ้งแม่น้ำ,กุ้งขาว,ปลาหมึก,ปลาดอลลี่ ขั้นสูงสุด Super Premium 699 บาท เนื้อวากิว 4 ส่วนและหมูสเปนพรีเมียมใหม่ล่าสุด ยังไม่รวมค่าน้ำรีฟิลคนละ 39 บาท พร้อม Vat.7% / Service Charge อีก 10% ครับผม
นั่งรอสักพักหม้อน้ำซุปถูกวางเสิร์ฟบนเตาแก๊สชนิดพกพาพร้อมน้ำจิ้มรวม 5 สูตรและเหล่าอุปกรณ์ช่วยอำนวยความสะดวกถูกวางเรียงเต็มโต๊ะอย่างสวยงาม เริ่มต้นจากแผ่นรองจานมีการอธิบายถึงเนื้อวากิวที่ทางร้าน "Sinsa Shabu" เลือกนำมาใช้เพราะเมื่อก่อนเน้นขายสไตล์ A La Carte จึงต้องสร้างเรื่องราวเพิ่มมูลค่าสินค้าก่อนจะเพิ่มบริการบุฟเฟ่ต์ภายหลังเพื่อตอบโจทย์สายกินจุแบบเรา/ถ้วยจานแบ่งประจำส่วนตัว/ช้อนซดน้ำซุปเซรามิก/ตะเกียบไม้ชนิดใช้แล้วทิ้ง/กล่องใส่กระดาษทิชชู่/ขวดโหลแก้วบรรจุพริกขี้หนูสด,กระเทียมจีนสับ,ต้นหอมซอยแช่เย็นๆรักษาอุณหภูมิสดใหม่ สำหรับน้ำซุปวันนี้เราเลือกมาลองชิม 2 สูตรได้แก่ "น้ำดำสุกี้ยากี้ญี่ปุ่น" รสชาติเค็มซีอิ๊วโชยุหวานมิรินผสมเหล้าสาเกหอมคอมบุกับคัตสึโอะดาชิกลมกล่อมกำลังดีจิ้มเนื้ออร่อยซดก็ยังไหว / "หม่าล่าตำรับจีนเสฉวน" น้ำมันลอยหน้าสีแดงสดใสกลิ่นเครื่องสมุนไพรรุนแรงตีขึ้นจมูกเผ็ดร้อนแสบชาลิ้นชวนเสาะท้องไม่แนะนำให้ซดอย่างเด็ดขาดถือว่าเตือนแล้วนะ เครื่องดื่มรีฟิลราคาคนละ 39 บาทเดินมาเติมได้เองตรงเคาน์เตอร์ตลอด 2 ชั่วโมงทั้งชาข้าวบาร์เลย์เย็น,ร้อน,โค้ก,ซีโร่,สไปร์ทไร้น้ำตาล,แฟนต้าน้ำแดง ส่วนวัตถุดิบที่เรากล่าวเบื้องต้นไว้สแกนสั่งผ่าน QR Code ด้วยตนเอง บุฟเฟ่ต์เด็กส่วนสูงต่ำกว่า 100 ซม. กินฟรี 101-120 ซม. ราคา 249/299/399 บาท++ ครับ
ตอนที่เราไปรีวิวทางร้านกำลังจัดโปรโมชั่นพิเศษถ้ารับประทานบุฟเฟ่ต์ระดับ Super Premium 699 บาท คิดรวมน้ำรีฟิลพร้อม Vat 7% และ Service Charge อีก 10% ปกติแล้วต้องจ่ายราคาคนละ 869 บาทสุทธิลดเหลือเพียงแค่ 777 บาทถ้วน (อีกยาวยังไม่มีกำหนด) รีบสั่งเลยทันทีแบบไม่ต้องคิดเยอะ เพราะจะได้ฟินกับเนื้อวากิวรวม 4 ชนิดได้แก่ "Aus Wagyu Karubi MB6-7" ออสเตรเลียลูกครึ่งญี่ปุ่นพัฒนาสายพันธุ์โดยนำข้อดีของพ่อกับแม่มาผสมกันอย่างลงตัวปริมาณแทรกไขมันเยอะพิเศษแทบไม่เห็นเนื้อสีแดงเพราะมันคือส่วนคารูบิหรือซี่โครงช่องด้านในท้องสไลซ์แผ่นบางเรียงลงจานแลดูอลังการสัมผัสตอนเคี้ยวนุ่มกลิ่นเด่นชัดคุณภาพสูง / "Black Opal Wagyu Outside Flat MB4-5" แบล็คแองกัสอเมริกามีเชื้อสายดินแดนอาทิตย์อุทัยเลี้ยงบนทุ่งหญ้าอุดมสมบูรณ์อารมณ์ดีส่งผลให้เนื้อแดงไขมันแทรกกำลังพอดีราวกับก้อนหินอ่อนเรียงอย่างดูสม่ำเสมอรสชาติเข้มเฉพาะตัวยิ่งเคี้ยวก็เกิดความอร่อยแน่นเต็มปากสมบูรณ์แบบ / "Carrara Australian Wagyu Outside Flat" บริเวณพับนอกวัวส่วนเดียวกันเหมือนรายการก่อนหน้าแต่ถูกเลี้ยงในฟาร์มควบคุมมาตรฐานให้ธัญพืชจำนวนมากแทนหญ้าธรรมชาติจึงให้รสชาติ,กลิ่นหอม,สัมผัสแตกต่าง / "Aus Black Angus Grain Fed Oyster Blade" แองกัสขนสีดำอเมริกาไปผสมจับคู่ท้องถิ่นออสเตรเลียช่วงใบพายมันน้อยแต่นุ่มด้วยเส้นเอ็นคอลลาเจนเคี้ยวสนุกที่สุดในบรรดาทุกๆจานครับ
อีกหนึ่งวัตถุดิบราคาสุดแพงโดยจัดเสิร์ฟเฉพาะบุฟเฟ่ต์ระดับ Super Premium เท่านั้นนั่นก็คือ "Pork Belly Spanish" หรือหมูไอเบอริโก้ของประเทศสเปนถูกเลี้ยงบนภูเขาสูงแถวคาบสมุทรไอบีเรียปล่อยให้ออกกำลังกายรับประทานเฉพาะผลโอ๊กจากธรรมชาติเท่านั้นใช้เวลานานถึง 5 ปีจึงจะพร้อมวางจำหน่ายรสชาตินุ่มอร่อย,ไร้กลิ่นเหม็นสาบมีกรดไขมันดีเทียบชั้นน้ำมันมะกอกจึงดีต่อสุขภาพกว่าหมูทั่วไป All You Can Eat เกรดรองลงมาก็ใช้เนื้อไทยเฟรนซ์,ออสเตรเลีย,หมูอนามัยพร้อมซีฟู้ดมากมายทั้ง "เสือร้องไห้" ชั้นเนื้อสีแดง-ไขมันสลับกันเหมือนเบคอนเคี้ยวนุ่มอร่อยเข้มข้นนอกจากนี้ยังมีใบพาย,ลิ้นวัวให้สลับเปลี่ยนเรื่อยๆ / "กุ้งก้ามกราม" หรือกุ้งแม่น้ำไซส์ขนาดกลางมันเยอะเต็มหัวเนื้อเด้งเปลือกแข็งไม่หลุดขาดออกจากกันแสดงถึงความสดใหม่ / "กุ้งขาว" ดึงหัวเปลือกทิ้งเหลือเพียงปลายหางผ่าเส้นสีดำกลางหลังออกทานง่ายไม่เสียเวลาแกะเองอย่างเปล่าประโยชน์ / "ปลาหมึก" หมึกฮัมโบล์ตนำเข้าจากอเมริกาใต้แช่แข็งไม่ค่อยมีรสชาติคล้ายของปลอมแต่ข้อดีคือเมื่อต้มลงหม้อนานไม่เหนียวแถมยังซึมซับน้ำซุปเข้าไปอร่อยจึงได้รับความนิยมช่วงหลังๆ / "ปลาดอลลี่" ชื่อทางการค้าของปลาสวายเวียดนามไขมันน้อย,โปรตีนสูงไร้กลิ่นคาว / "หมูสันคอ-สามชั้น" วัตถุดิบสามัญทั่วไปจัดเสิร์ฟใส่ถาดพลาสติกสีขาวแยกกับสีดำที่เป็นเนื้อวัวอย่างชัดเจน ส่วนที่เหลือก็เป็นลูกชิ้น,ผักสด,เห็ดชนิดต่างๆ,เต้าหู้,ไข่ไก่สดจัดเรียงอลังการแลดูน่ารับประทานมากครับผม
******* เกิน 10,000 ตัวอักษร ขออนุญาตเขียนรีวิวต่อในช่อง Comment แทนนะครับ *******
[CR] รีวิว "Sinsa Shabu" (ศาลาธรรมสพน์) บุฟเฟ่ต์ชาบู 3 สัญชาติวัตถุดิบสุดพรีเมี่ยมเริ่มต้นแค่คนละ 399 ฿++
ครั้งก่อนกว่าเราจะเดินทางมาถึงร้านก็พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าจึงมืดสนิทไม่ได้ถ่ายบรรยากาศโดยรอบเพิ่งเห็นว่าสวยงามอลังการ เริ่มกันด้วยซุ้มประตูมุงหลังคาสีเขียวศิลปะสไตล์วังยุคเกาหลีโบราณคุ้นตาเหมือนเคยเจอตั้งอยู่ใจกลาง Korean Town ซ. สุขุมวิท 12 / ป้ายรอรถเมล์ "Sinsa Station" จำลองการจราจรด้วยขนส่งสาธารณะของดินแดนโสมขาว / ตุ๊กตากบตัวสีเขียวน่ารักมาสคอตจากแบรนด์โซจูยี่ห้อ Jinro นั่ง,ยืนกระจายตามจุดต่างๆทั่วทั้งบริเวณ / กำแพงขนาดกว้างวาดรูปลายเส้นแบบ Webtoon ชื่อดังลักษณะคล้ายเมืองหลวงกรุงโซลซึ่งประชากรทุกคนกลายร่างเป็นแมวยามค่ำคืนพร้อมคำคมภาษาไทยเล็กน้อยให้โพสท่าถ่ายรูปเต็มตา / บริเวณพื้นที่ว่างข้างหลังทำสวนขุดบ่อน้ำย้อมสีฟ้าสดใสแนวบลูลากูนชวนฝันเมื่อก่อนเคยทำบ่อปลาคราฟต์ให้ลูกค้าร่วมซื้ออาหารป้อนแต่ได้ย้ายออกไปเพิ่มกรงนก,ไก่ฟ้าแต่เหมือนว่าจะยังสร้างไม่เสร็จดี เปิดประตูเข้าสู่ด้านในร้านแบ่งออกเป็น 2 โซนตามรูปแบบการให้บริการนั่นก็คือ "SINSA Korean BBQ" ปิ้งย่างแนวผับกลิ่นอาย K-Pop เต็มเปี่ยม (อ่านรีวิวฉบับเก่าได้เลยตรงลิงก์นี้ > https://citly.me/pke6P < ) ปัจจุบันยกเลิกเวทีร้องเพลงเก็บโต๊ะสนุกเกอร์/ลูกดอกปาเป้า/บอร์ดเกมอีกมากมายเอาไว้เหมือนเดิมและจัดโต๊ะใหม่เพื่อทำบุฟเฟ่ต์ "Sinsa Shabu" ที่เราตั้งใจมากินกันวันนี้ครับ
มาถึงร้านก็คัดเลือกได้เลยว่าจะรับประทานบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างหรือว่าชาบูๆเพราะแยกห้องให้บริการกันอย่างชัดเจนสำหรับวันนี้เราตั้งใจจะลุยแบรนด์ "Sinsa Shabu" น้องพนักงานได้นำเล่มรายการอาหารวางไว้พร้อมคำอธิบายยืดยาวเนื่องจากปัจจุบันมีแต่เมนู A La Carte ส่วน All You Can Eat จะต้องสแกนผ่าน QR Code ระบบหลังบ้านเท่านั้นจึงจะทราบว่ามีอะไรให้ทานบ้าง แบ่งออกเป็น 3 ระดับราคาได้แก่ Standard 399 บาท ต้องเริ่มต้นด้วยการเลือกซุปได้ 2 จากทั้งหมด 5 สูตรมีน้ำเปล่า,คัตสึโอะดาชิ,กระดูกหมู,หม่าล่าจีน,น้ำดำญี่ปุ่น / น้ำจิ้ม 5 แบบทั้งพอนสึ,สุกี้ไทย,ซอสงา,ซีฟู้ด,ผงพริกหม่าล่า / อาหารเกาหลีสำหรับทานเล่นๆคือไก่ทอดซอสเผ็ด,หัวหอม,การ์ลิก,คิมมาริต๊อกบกกี,ไส้กรอกผัด,จับแช,คิมบับ,ชูม็อกบับ,สลัดมันฝรั่ง,ไข่ม้วนย่าง / วัตถุดิบสดลงหม้อแค่สันนอก,สันคอ,สามชั้น,หมูสับไม้ไผ่,ข้าวโพดหวาน,ข้าวโพดอ่อน,แครอท,เห็ดเข็มทอง,เห็ดหอม,เห็ดออเร็นจิ,ผักกาดขาว,ผักบุ้ง,ฟักทองญี่ปุ่น,วากาเมะ,กะหล่ำฝอย,ต้นหอมญี่ปุ่น,ปวยเล้ง,กวางตุ้ง,ไข่สด,เต้าหู้ไข่,ปูอัด,เต้าหู้ปลา,ฟองเต้าหู้,ชิกูวะ,ลูกชิ้นลาวาไข่กุ้ง,เต้าหู้ชีส,ข้าว,มาม่า,วุ้นเส้น,บุก,อุด้ง,ราเมน ระดับ Premium 499 บาท เพิ่มเสือร้องไห้ไทย-แองกัส,ใบพาย,ลิ้นวัว,กุ้งแม่น้ำ,กุ้งขาว,ปลาหมึก,ปลาดอลลี่ ขั้นสูงสุด Super Premium 699 บาท เนื้อวากิว 4 ส่วนและหมูสเปนพรีเมียมใหม่ล่าสุด ยังไม่รวมค่าน้ำรีฟิลคนละ 39 บาท พร้อม Vat.7% / Service Charge อีก 10% ครับผม
นั่งรอสักพักหม้อน้ำซุปถูกวางเสิร์ฟบนเตาแก๊สชนิดพกพาพร้อมน้ำจิ้มรวม 5 สูตรและเหล่าอุปกรณ์ช่วยอำนวยความสะดวกถูกวางเรียงเต็มโต๊ะอย่างสวยงาม เริ่มต้นจากแผ่นรองจานมีการอธิบายถึงเนื้อวากิวที่ทางร้าน "Sinsa Shabu" เลือกนำมาใช้เพราะเมื่อก่อนเน้นขายสไตล์ A La Carte จึงต้องสร้างเรื่องราวเพิ่มมูลค่าสินค้าก่อนจะเพิ่มบริการบุฟเฟ่ต์ภายหลังเพื่อตอบโจทย์สายกินจุแบบเรา/ถ้วยจานแบ่งประจำส่วนตัว/ช้อนซดน้ำซุปเซรามิก/ตะเกียบไม้ชนิดใช้แล้วทิ้ง/กล่องใส่กระดาษทิชชู่/ขวดโหลแก้วบรรจุพริกขี้หนูสด,กระเทียมจีนสับ,ต้นหอมซอยแช่เย็นๆรักษาอุณหภูมิสดใหม่ สำหรับน้ำซุปวันนี้เราเลือกมาลองชิม 2 สูตรได้แก่ "น้ำดำสุกี้ยากี้ญี่ปุ่น" รสชาติเค็มซีอิ๊วโชยุหวานมิรินผสมเหล้าสาเกหอมคอมบุกับคัตสึโอะดาชิกลมกล่อมกำลังดีจิ้มเนื้ออร่อยซดก็ยังไหว / "หม่าล่าตำรับจีนเสฉวน" น้ำมันลอยหน้าสีแดงสดใสกลิ่นเครื่องสมุนไพรรุนแรงตีขึ้นจมูกเผ็ดร้อนแสบชาลิ้นชวนเสาะท้องไม่แนะนำให้ซดอย่างเด็ดขาดถือว่าเตือนแล้วนะ เครื่องดื่มรีฟิลราคาคนละ 39 บาทเดินมาเติมได้เองตรงเคาน์เตอร์ตลอด 2 ชั่วโมงทั้งชาข้าวบาร์เลย์เย็น,ร้อน,โค้ก,ซีโร่,สไปร์ทไร้น้ำตาล,แฟนต้าน้ำแดง ส่วนวัตถุดิบที่เรากล่าวเบื้องต้นไว้สแกนสั่งผ่าน QR Code ด้วยตนเอง บุฟเฟ่ต์เด็กส่วนสูงต่ำกว่า 100 ซม. กินฟรี 101-120 ซม. ราคา 249/299/399 บาท++ ครับ
ตอนที่เราไปรีวิวทางร้านกำลังจัดโปรโมชั่นพิเศษถ้ารับประทานบุฟเฟ่ต์ระดับ Super Premium 699 บาท คิดรวมน้ำรีฟิลพร้อม Vat 7% และ Service Charge อีก 10% ปกติแล้วต้องจ่ายราคาคนละ 869 บาทสุทธิลดเหลือเพียงแค่ 777 บาทถ้วน (อีกยาวยังไม่มีกำหนด) รีบสั่งเลยทันทีแบบไม่ต้องคิดเยอะ เพราะจะได้ฟินกับเนื้อวากิวรวม 4 ชนิดได้แก่ "Aus Wagyu Karubi MB6-7" ออสเตรเลียลูกครึ่งญี่ปุ่นพัฒนาสายพันธุ์โดยนำข้อดีของพ่อกับแม่มาผสมกันอย่างลงตัวปริมาณแทรกไขมันเยอะพิเศษแทบไม่เห็นเนื้อสีแดงเพราะมันคือส่วนคารูบิหรือซี่โครงช่องด้านในท้องสไลซ์แผ่นบางเรียงลงจานแลดูอลังการสัมผัสตอนเคี้ยวนุ่มกลิ่นเด่นชัดคุณภาพสูง / "Black Opal Wagyu Outside Flat MB4-5" แบล็คแองกัสอเมริกามีเชื้อสายดินแดนอาทิตย์อุทัยเลี้ยงบนทุ่งหญ้าอุดมสมบูรณ์อารมณ์ดีส่งผลให้เนื้อแดงไขมันแทรกกำลังพอดีราวกับก้อนหินอ่อนเรียงอย่างดูสม่ำเสมอรสชาติเข้มเฉพาะตัวยิ่งเคี้ยวก็เกิดความอร่อยแน่นเต็มปากสมบูรณ์แบบ / "Carrara Australian Wagyu Outside Flat" บริเวณพับนอกวัวส่วนเดียวกันเหมือนรายการก่อนหน้าแต่ถูกเลี้ยงในฟาร์มควบคุมมาตรฐานให้ธัญพืชจำนวนมากแทนหญ้าธรรมชาติจึงให้รสชาติ,กลิ่นหอม,สัมผัสแตกต่าง / "Aus Black Angus Grain Fed Oyster Blade" แองกัสขนสีดำอเมริกาไปผสมจับคู่ท้องถิ่นออสเตรเลียช่วงใบพายมันน้อยแต่นุ่มด้วยเส้นเอ็นคอลลาเจนเคี้ยวสนุกที่สุดในบรรดาทุกๆจานครับ
อีกหนึ่งวัตถุดิบราคาสุดแพงโดยจัดเสิร์ฟเฉพาะบุฟเฟ่ต์ระดับ Super Premium เท่านั้นนั่นก็คือ "Pork Belly Spanish" หรือหมูไอเบอริโก้ของประเทศสเปนถูกเลี้ยงบนภูเขาสูงแถวคาบสมุทรไอบีเรียปล่อยให้ออกกำลังกายรับประทานเฉพาะผลโอ๊กจากธรรมชาติเท่านั้นใช้เวลานานถึง 5 ปีจึงจะพร้อมวางจำหน่ายรสชาตินุ่มอร่อย,ไร้กลิ่นเหม็นสาบมีกรดไขมันดีเทียบชั้นน้ำมันมะกอกจึงดีต่อสุขภาพกว่าหมูทั่วไป All You Can Eat เกรดรองลงมาก็ใช้เนื้อไทยเฟรนซ์,ออสเตรเลีย,หมูอนามัยพร้อมซีฟู้ดมากมายทั้ง "เสือร้องไห้" ชั้นเนื้อสีแดง-ไขมันสลับกันเหมือนเบคอนเคี้ยวนุ่มอร่อยเข้มข้นนอกจากนี้ยังมีใบพาย,ลิ้นวัวให้สลับเปลี่ยนเรื่อยๆ / "กุ้งก้ามกราม" หรือกุ้งแม่น้ำไซส์ขนาดกลางมันเยอะเต็มหัวเนื้อเด้งเปลือกแข็งไม่หลุดขาดออกจากกันแสดงถึงความสดใหม่ / "กุ้งขาว" ดึงหัวเปลือกทิ้งเหลือเพียงปลายหางผ่าเส้นสีดำกลางหลังออกทานง่ายไม่เสียเวลาแกะเองอย่างเปล่าประโยชน์ / "ปลาหมึก" หมึกฮัมโบล์ตนำเข้าจากอเมริกาใต้แช่แข็งไม่ค่อยมีรสชาติคล้ายของปลอมแต่ข้อดีคือเมื่อต้มลงหม้อนานไม่เหนียวแถมยังซึมซับน้ำซุปเข้าไปอร่อยจึงได้รับความนิยมช่วงหลังๆ / "ปลาดอลลี่" ชื่อทางการค้าของปลาสวายเวียดนามไขมันน้อย,โปรตีนสูงไร้กลิ่นคาว / "หมูสันคอ-สามชั้น" วัตถุดิบสามัญทั่วไปจัดเสิร์ฟใส่ถาดพลาสติกสีขาวแยกกับสีดำที่เป็นเนื้อวัวอย่างชัดเจน ส่วนที่เหลือก็เป็นลูกชิ้น,ผักสด,เห็ดชนิดต่างๆ,เต้าหู้,ไข่ไก่สดจัดเรียงอลังการแลดูน่ารับประทานมากครับผม
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น