JJNY : ‘เวิลด์แบงก์’ชี้ซ้ำเติมฟื้น ศก.│“สมชัย” ไม่เชื่อ ไม่มีพรรคลุง│ส.ส.ฐิติมาวอนเพื่อไทย ยึดสัจจะ│ฟิลิปปินส์ประท้วงจีน

‘เวิลด์แบงก์’ชี้ ทางตันการเมือง“ไทย” ซ้ำเติมฟื้น ศก.ช้าสุดในอาเซียน
https://www.bangkokbiznews.com/world/1082300
 
 
“เวิลด์แบงก์ ประจำประเทศไทย” มองไทยฟื้นเศรษฐกิจช้าสุดในอาเซียน ซ้ำร้ายเจอโรคเลื่อนระบาด กับภาวะทางตันการเมือง และสถานการณ์เศรษฐกิจโลกผันผวน ฉุดรั้งพัฒนาประเทศ
 
นายฟาบริซิโอ ซาร์โคเน ผู้จัดการธนาคารโลก ประจำประเทศไทย กล่าวในงานสัมมนา ThaiLand Economic Resilience and Opportunities” จัดโดยเดอะเนชั่น ที่โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ สุขุมวิท โดยได้วิเคราะห์การฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยและความท้าทายในอนาคตว่า ถ้ามองในมุมโอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศไทย รวมถึงความเสี่ยงต่างๆ ซึ่งเวิลด์แบงก์เห็นไทยมีความมุ่งมั่นบรรลุการเร่งสร้างความเติบโตและพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น 
 
เวิลด์แบงก์มองเห็นความท้ายของประเทศไทย มี 3 เรื่องใหญ่ๆ ได้แก่
 
1.ความท้าทายภายด้านโครงสร้างของประเทศ ที่เกิดจากจำนวนประชากรวัยทำงานที่ลดลง และการลงทุนจากภาคเอกชนที่ชะลอตัว และอัตราการเติบโตทางการผลิตที่ลดลง ล้วนเป็นอุปสรรคต่อแนวโน้มการเติบโตในระยะยาว แม้การนำพาประเทศให้เติบโตสูงขึ้น จะไม่ง่าย แต่สามารถทำได้ หากปรับปรุงโครงสร้างประเทศ
 
วันนี้ ไทยฟื้นทางเศรษฐกิจล่าช้ากว่าประเทศในอาเซียน ซึ่งคาดว่า การเติบโตในระยะกลางจะชะลอตัวไปถึง 3% หากไม่มีการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญจากผลปัญหาจำนวนประชากรวัยทำงานที่ลดลง จะส่งผลให้แนวโน้มการไปสู่เป้าหมายบรรลุรายได้สูง  เกิดขึ้นหลังปี 2593 จากเดิมที่กำหนดไว้ปี 2579” ผู้จัดการเวิลด์แบงก์ประจำประเทศไทยกล่าว 

2. ความท้าทายระดับโลก สิ่งที่จะช่วยฟื้นเศรษฐกิจในปี 2566 - 2567 มาจากช่องทางการเงินและการค้า หลังจากที่การเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 3.1% เมื่อปีที่แล้ว ขณะนี้ยังคงอยู่ในช่วงยากลำบาก จากภาวะเงินเฟ้อ มาตรการการเงินที่เข้มงวด และระดับหนี้แตะระดับสูงสุด ทำให้เศรษฐกิจโลกเติบโตจะชะลอลงอย่างมีนัยสำคัญ 2.1% ในปีนี้ และ 2.4% ในปี 2567 
 
การเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกคาดว่า จะเพิ่มขึ้นจากการที่จีนเปิดประเทศ ถือว่าเป็นแรงกระตุ้นหลัก อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนยังไม่มีความแน่นอน เนื่องจากตัวเลขการเติบโตล่าสุด ไม่เป็นไปตามคาดการณ์” ซาร์โคเนกล่าว และชี้อัตราการเติบโตของเอเชียอาจมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย
 
3. ทางตันการเมือง นับเป็นประเทศท้าทายภายในประเทศจากสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน ส่งผลต่อการฟื้นตัวของไทย และกำหนดเป้าหมายในอนาคต ขณะนี้ภาคเอกชนของไทยได้เริ่มส่งสัญญาณไม่สบายใจ ด้านตลาดต่างประเทศอาจส่งสัญญาณเดียวกันนี้ตามมา ท้ายที่สุดแล้ว แม้ความท้าทายต่างๆ จะหนักอึ้ง แต่ยังมีโอกาสมากมายรออยู่ข้างหน้าด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม นายซาร์โคเนกล่าวย้ำในตอนท้ายว่า เวิลด์แบงก์มุ่งมั่นสนับสนุนแผนการพัฒนาของไทย เตรียมพร้อมรับมือเศรษฐกิจใหม่ อย่างคิดวิเคราะห์และวางแผนกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน 



“สมชัย” ไม่เชื่อ ไม่มีพรรคลุงร่วม รบ. มั่นใจ เดี๋ยว 2 ลุงก็มา
https://www.matichon.co.th/politics/news_4118013

“สมชัย” ไม่เชื่อ ไม่มีพรรคลุงร่วม รบ. มั่นใจ เดี๋ยว 2 ลุงก็มา
 
ภายหลังการแถลงข่าวจับมือข้ามขั้วจัดตั้งรัฐบาล ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมไปแล้วนั้น และมีตอนหนึ่งที่พูดถึงเรื่องหาเสียงว่า เป็นแคมเปญ

ล่าสุด นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ใจความว่า 

หากบอกสิ่งที่พูดในการหาเสียงนั้นไม่มีสาระ เป็นเพียงเพื่อการแข่งขันทางการเมือง
 
1. ที่บอกจะแก้รัฐธรรมนูญ โดยมี ส.ส.ร.ทันที อันนั้นก็หาเสียง
2. ที่บอกจะยังปฏิรูปกองทัพ กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น กำจัดธุรกิจผูกขาด ให้มีสุราเสรี อันนั้นก็พูดเพื่อให้ยังดูดี
3. ที่บอกว่า จะให้เงินดิจิทัล 10,000 บาท ก็คงพูดไปงั้นๆ
4. ที่บอกว่า ไม่เอา 2 ลุง เดี๋ยวลุงแกก็มา เชื่อเหอะ
 
ยังจะเหลืออะไรให้เชื่อได้บ้าง
 
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid031tdmoeMkAgTDTCfu1kkhiLsLJX8TWP1uCoudowV1fHsgw1hWLDdrswHy2xj78u1Jl
 

 
ส.ส.ฐิติมา วอนเพื่อไทย ยึดสัจจะไม่เอา 2 ลุง อย่าโลเล เผยฉีกเอ็มโอยู ไม่บอกลูกพรรค
https://www.matichon.co.th/politics/news_4117834

เปิ้ล “ฐิติมา ฉายแสง” ยืนกรานไม่เอา 2 ลุง ยึดมั่นประชาธิปไตย หวั่นตอบถำถามสังคมคนที่เลือกมาไม่ได้ ระบุทำเพื่อรักษาพรรคให้คงอยู่ต่อไป เผยฉีกเอ็มโอยูเดินหน้าเตรียมจัดตั้งรัฐบาลผสมข้ามขั้วไม่บอกลูกพรรค ระบุไร้การประชุมร่วมหารือภายในมายาวนาน พร้อมยอมรับกระแสโซเชียลที่มีทั้งคนเห็นด้วยและเห็นต่างในการออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้
 
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม นางฐิติมา ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 1 พรรคเพื่อไทย ได้กล่าวถึงกรณีที่ออกมาโพสต์ในโซเชียลเกี่ยวกับการที่ไม่เห็นด้วยกับทางพรรคเพื่อไทย หลังจากมีกระแสข่าวว่า จะจัดตั้งรัฐบาลโดยที่มีพรรค 2 ลุงเข้ามาร่วมด้วยนั้นว่า จากกระแสดังกล่าว ได้ทำให้รู้สึกเครียดจนนอนไม่หลับ เนื่องจากในช่วงตอนที่หาเสียงมาก่อนการเลือกตั้งนั้น ได้มีการหาเสียงไว้อย่างชัดเจน เต็มที่ว่า เราไม่เอา 2 ลุง คนที่สืบทอดอำนาจเผด็จการ อีกทั้งพรรคเพื่อไทยยังได้เคยออกไปหาเสียงว่า จะไม่เอาพรรคที่สืบทอดอำนาจ โดยที่ทางเรานั้น เป็นนักประชาธิปไตย เป็น ส.ส.ในพรรคก็ต้องบอกกล่าว

แต่ว่าที่ผ่านมายังไม่มีประชุมพรรค จึงได้บอกออกไปแบบนั้น เมื่อมีคนมาถามว่า เราไม่เห็นด้วยที่จะร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ในการจัดตั้งรัฐบาล โดยในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ จะมีการประชุมพรรคเพื่อไทย ซึ่งเชื่อหลายคนน่าจะมีการแสดงออก ถือว่าเป็นเรื่องปกติ จากความคิดที่หลากหลาย และมีการถามกัน เนื่องจากพรรคไม่ได้มีการประชุมมานานมากแล้ว โดยเฉพาะทิศทางของพรรคว่า จะไปทางไหน โดยเฉพาะตนต้องการความชัดเจนว่า จะเอาอย่างไร เนื่องจากมีคนในพื้นที่สอบถามกันมามาก รวมทั้งทางสื่อโซเชียลก็ได้มีการไถ่ถามกันเข้ามา โดยมีทั้งถูกต่อว่า มาจากประชาชนก็มาก ในฐานะที่เป็น ส.ส.เขต นั้นรู้สึกลำบากใจ
 
หลังจากโพสต์ลงโซเชียลก็ย่อมมีทั้งคนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย แต่ส่วนใหญ่นั้นเห็นด้วย เนื่องจากคนที่รักประชาธิปไตยนั้น จะสนใจในการเมืองมาก จึงได้เข้ามาสอบถามแสดงความคิดเห็น เท่าที่ดูนั้นส่วนใหญ่ล้วนแต่เห็นด้วยกับเรา ที่ยังคงมีจุดยืนประชาธิปไตย และเมื่อมีโอกาสได้พบปะกับประชาชนในพื้นที่ ก็ต่างพากันสอบถามกันว่า จะร่วมกับใคร จะเอา 2 ป.หรือไม่ และบอกว่า 2 ป.ไม่เอานะ เป็นสิ่งที่ประชาชนพูดมา ซึ่งเวลาหาเสียงเรารู้อยู่แล้วว่า ประชาชนเขาต่อว่าเยอะ เพราะเขาไม่ชอบ แนวทางส่วนใหญ่ที่ตอบกลับมาคือไม่เอา และถ้าหากพรรคยังไปดึงเอา 2 ลุงมาก็คงจะส่งผลกระทบต่อเรา ซึ่งเป็น ส.ส.เขต ที่อยู่ในพื้นที่ใกล้ชิดกับประชาชน เพราะผู้คนมีความคิดที่หลากหลาย และสนใจการเมืองกันมากขึ้น จนเขาอาจไม่มาพูดคุยกับเราอีกเลยก็ได้
 
นางฐิติมา กล่าวว่า ฉะนั้น หากเราไปเห็นด้วย และให้การสนับสนุน ฉะนั้น จุดยืนความเป็นประชาธิปไตยของเราจึงยังคงอยู่ตลอดกาล จึงคิดว่า เรามีความจำเป็นที่ต้องบอกกับพรรค บอกกับสังคมในการที่จะบอกว่า เราไม่เอาด้วย แต่หากท้ายสุดแล้วทางพรรคไปร่วมกับ 2 ลุง จะทำให้รู้สึกผิดหวังมาก และเมื่อถึงเวลาโหวตเราคงไม่พูดออกมาจากปากแน่ๆ ว่า เราเห็นชอบให้กับ “ประวิตร วงษ์สุวรรณ” หรือ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” หรืออะไรก็แล้วแต่ คงไม่มีออกมาจากปากของ “ฐิติมา ฉายแสง” แน่นอน

เมื่อถามว่า มีแนวคิดที่เป็นทางออกอย่างไรในการจัดตั้งรัฐบาลบ้างหรือไม่ นางฐิติมา กล่าวว่า จริงๆ แล้วมันก็ตันอยู่เหมือนกัน ในเมื่อรัฐธรรมนูญฉบับนี้ กำหนดมาตรา 272 ให้อำนาจ สว.ร่วมโหวตนายกฯด้วย ซึ่งในอดีตนั้น ไม่เคยมีมาก่อน และสว.ยังมีมากถึง 250 เสียงนั้นถือว่า เยอะมาก การที่เราเองไม่ได้คะแนนเสียงเด็ดขาด เราไม่ได้แลนด์สไลด์ จึงทำให้ไม่สามารถที่จะไปรวบรวมคะแนนออกมาเกิน 375 เสียงได้ จึงต้องไปอาศัย สว. และเมื่อ สว.ไม่เอาด้วยจึงตันกันอยู่อย่างนี้
 
เมื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากพรรคก้าวไกล นั้นตกไปจากญัตติที่เสนอชื่อเพื่อโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรีได้ครั้งเดียว ก็หวังว่า นายเศรษฐา ทวีสิน จะไม่โดนหักหลังทำให้ล่มลงไปอีก แล้วจะเป็นใครถูกเสนอต่อไปเรื่อยๆ หรือจะกลายมาเป็นคนชื่อ “ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ในที่สุดหรือไม่ ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่า บ้านเมืองจะเป็นอย่างไรต่อไป เมื่อถามว่าจะหาทางออกอย่างไรนั้น ก็ขอให้ยึดจุดยืนเดิมไว้ดีกว่าโดยงบประมาณของชาตินั้น ยังใช้งบประมาณของปีนี้ไปพรางๆ ก่อนได้ ประเทศชาติยังคงเดินต่อไปได้
 
แต่หากเราเสียจุดยืนเรามีความโลเลเหมือนไม้หลักปักเลนมันจะทำให้เราอยู่ไม่ได้อีกเลย จึงต้องขอให้ยึดมั่นในหลักประชาธิปไตย โดยให้ประเทศเดินไปแบบนี้ก่อน เมื่อประเทศไทยได้รัฐบาลที่ถูกต้องชัดเจนดีแล้ว จึงเชื่อว่าประเทศจะพุ่งไปข้างหน้าได้อย่างแน่นอน เพราะพรรคเพื่อไทยเก่งในเรื่องเศรษฐกิจ เมื่อรวมกับอีก 7 พรรคที่เก่งกันไปคนละด้าน คิดว่าเมื่อเป็นประชาธิปไตยแล้วประชาชนจะเห็นด้วยทั้งหมด ก็จะไม่มีคนออกมาประท้วง ประเทศชาติย่อมไปรอดได้แน่นอน
 
นางฐิติมา กล่าวว่า โดยสิ่งที่โพสต์ออกไปทางสื่อโซเชียลนั้น เพราะเป็นห่วงพรรค โดยเกรงว่าในอนาคตพรรคอาจจะไปไม่รอด หรือตามคอมเมนต์ต่างๆที่ว่า “สูญพันธุ์แน่” หรือ “ไปไม่รอดแน่” หรือ “อย่ามีอีกเลย” หรืออะไรก็แล้วแต่ทำนองนี้ ซึ่งเราเป็นห่วงมากจริงๆ และอยากฝากถึงกลุ่มผู้สนับสนุน คนเสื้อแดง หรือด้อมต่างๆ ว่าขอให้ใจเย็นๆ ไม่ใช่ทุกคนในพรรคเพื่อไทยที่จะคิดหนีออกจากความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง เรายังคงมีจุดยืน มีหลักยึดตามที่ ส.ส.หลายคนยังพูดกันอยู่เสมอ ที่อยากจะให้ประเทศชาติเจริญ อยากจะเข้าไปแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชน
 
ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ทางพรรคได้มีการประชุมบ่อยครั้งมาตลอด และยังมีการอธิบายให้ ส.ส.ได้เข้าใจ รวมถึงยังมีการแสดงความคิดเห็นโต้แย้งกันภายใน ต่อการที่จะพัฒนาพรรคไปอย่างไร แต่ก่อนที่จะมีการฉีกเอ็มโอยู 8 พรรคร่วม ที่เตรียมพร้อมจัดตั้งรัฐบาล กลับไม่ได้มีการประชุมพรรค และมีการเลื่อนมาโดยตลอด ทำให้ ส.ส.ในพรรคไม่รู้เรื่องเลยว่า ได้มีการทำอะไรกันไปบ้าง และมีแนวคิดอย่างไร จะไปถึงขั้นไหน จะไปรวมกับใคร หรือหาเสียง สว.สนับสนุนได้มากเพิ่มขึ้นหรือยัง เพื่อที่จะได้เป็นรัฐบาล โดยอยากให้ไปพูดคุยกับทาง สว.ให้มากๆ เพื่อให้ สว.นั้นหันมาอยู่ข้างเรา เพื่อให้ประเทศชาติเดินไปได้
 
ในส่วนความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันกับทางพรรคนั้น ที่ผ่านมาทางพรรคยังไม่เคยว่า ที่ใครจะแสดงความคิดเห็นอย่างไร เพราะเวลาประชุมพรรคก็มีความคิดเห็นที่หลากหลาย โดยต่างคนต่างคิดกันไป แล้วก็รับฟัง นี่คือความเป็นประชาธิปไตยอยู่ภายในพรรค จากการที่ไม่มีการประชุมพรรคมานาน เมื่อถูกถามจึงได้บอกไปในจุดยืนของเรา ว่าคิดเห็นอย่างไร ซึ่งจะไปตรงหรือไม่ตรงกับทางพรรคอย่างไรนั้นไม่ทราบ แต่เป็นจุดยืนประชาธิปไตยที่เราคิดว่าเราหาเสียงมาไว้แบบนี้ โดยเราคิดและทำตัวแบบนี้มาตลอด ถ้าไปร่วมกับผู้สืบทอดอำนาจก็จะมีแต่จะถอยหลังลงคลอง และจมธรณีไปในที่สุด
 
“จึงอยากบอกว่า ที่ผ่านมานั้นทางพรรคขาดการติดต่อกันมาเกินไป และเป็นช่วงที่การเมืองมีการเปลี่ยนกันในทุกชั่วโมง หรือเร็วมากในทุกวัน หากไม่มีการสื่อสารบอกล่าวกันเลยก็ลำบาก ไม่รู้จะทำอย่างไร จนอาจถูกมองว่าเป็นคนกล้าที่จะพูดอยู่คนเดียวที่พูดออกไปหรือไม่นั้นไม่รู้ แต่เชื่อว่าคงจะมีอีกหลายคนที่อยากจะพูดในการประชุมพรรคพรุ่งนี้ 8 สิงหาคม” นางฐิติมา กล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่