สวัสดีครับ อยากเขียนกระทู้เรื่องนี้เป็นแนวทางให้คนที่กำลังตัดสินใจว่าจะผ่าดีไม่ผ่าดี เพราะตอนที่ตัดสินใจผ่าผมไม่คิด
หาข้อมูลใดให้จิตตกเพราะโดยส่วนตัวเคยผ่าตัดแบบหนักมาหลายครั้ง เป็นพวกไม่กลัวการนอนโรงพยาบาล ไม่กลัวการผ่าตัด
การผ่าตัดใหญ่2ครั้งแรก คือการผ่าอุบัติเหตุการการโดนลูกหลงจากการตีกัน เป็นการผ่าตัดลำไส้ต้องเอาลำไส้มาพักไว้ที่หน้าท้องอยู่6เดือน ครั้งที่2คือผ่าเก็บลำไส้ ผ่าครั้งที่3น่าจะหมอนรองกระดูก โดยปกติเลยไม่ค่อยกลัวการผ่าตัดเท่าไหร่
เหตุผลถึงตัดสินใจผ่าทอลซิลครั้งนี้
ปัจจุบันผมอายุ 34 ปี โดยพื้นฐานเป็นคนนอนกรนแบบมากๆ เคยแบบตื้นมาลิ้นไก่บวมห้อยจบนอนแตะอยู่บนลิ้น แล้วแบบเป็นบ่อยมาก
แต่ปัญหาจริงๆที่ตัดสินใจไปพบแพทย์ คทอช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีการหลับแล้วเหมือนหยุดหายใจ อยู่ๆก็แบบสะดุ้งเฮือกขึ้นมาเหมือนคนหายใจไม่ออกแบบคนจมน้ำ เป็นแบบนี้มา5-6ครั้งด้วยความที่ตัวเองเป็นคนอ้วนด้วยกลัวตัวเองจะนอนไหลตายเลยไปหาหมอ วันที่พบหมอได้สอบถามอาการคุณหมอว่าอย่างเรามีลิ้นไก่ยาวกว่าปกติ แล้วผนังช่องคอหย่อนคล้อย อาจทำให้เวลานอนแล้วหยุดหายใจเป็นไปได้ แต่คุณหมอไม่ได้ให้ผ่านะ แต่เรากลัวเองเลยขอหมอผ่า คุณหมอก็ผ่าให้โดยจะผ่าลิ้นไก่รวมถึงต่อมทอลซิลออกไปด้วยเลย
เริ่มเข้าขั้นตอนการผ่าเลยนะ
ก่อนอื่นมีการนัดเจาะเลือดก่อนผ่า1สัปดาห์
ถ้าผลเลือดปกติคุณหมอจะนัดผ่าเลยของเราผ่าวันที่20 คุณหมอนัดมานอนโรงพยาบาลก่อน1วัน ช่วงนี้เรากินอะไรได้หมดรอหลังเที่ยงคืนคุณหมอจะงดน้ำงดอาหาร เพราะเรามีผ่าตอนเช้า8.00น. พอได้เวลาเปลี่ยนชุดผ่สตัดเดียวมีเตียงมารับเราเข้าไปที่ห้องผ่า พอไปถึงเริ่มบรรเลงเลยจำไมาได้ว่ามีพยาบาลกี่คนแต่รู้ว่ามีเยอะมาก แต่คนมาติดนู้นนี้นั้น จากนั้นให้ดมยาสลบ 5วิ หลับเลย ตื่นมาอีกที พูดไม่ได้ลิ้นคับปาก ปวดคอ เจ็บคอไปหมด ได้แต่หลับผลอาจจะปวดหรือเป็นเพราะยายังไม่หมดฤทธิ์ ตื่นมาอีกทีบ่ายพยาบาลเอาน้ำเอายาเเก้ปวดเด็กมาให้กิน คุณพระพอมันกลืนน้ำลายเท่านั้นแหละมันเจ็บทรมานมาก ปวดไปถึงกกหู ไปถึงหัวปวดไปหมด แต่เราต้องกินยาไงเอาว่ะเป็นไงเป็นกันลองจิบยากินโอ้โห้ยามันหวานแล้วเหนียวพอเรากลืนมันแสบคอ แล้วนามันเหนียวไปติดอยู่ที่แผลมันเป็นอะไรที่สุดๆมาก เราไม่ไหวจริงๆบอกเลย จากที่ผ่านการผ่าทั้งหมดมาเราว่าอันนี้ทรมานมาก นี้ยังไม่พ้นวันเเรกเลยนะ ถึงขนาดต้องไลน์ให้แฟนมานอนเฝ้าเพราะพูดไม่ได้
พอเข้าวันที่2ไม่ต้องพูดเรื่องการกินอาหารขนาดน้ำลายเวลากลืนยังทรมาน เรานอนที่โรงพยาบาลอีก1คืนหลังผ่า วันนั้นไม่ได้กินอะไรเลย กินแค่ยาอย่างเดียว โรงพยาบาลมีแต่น้ำหวานให้ทาน บอกเลยกินไม่ได้ ได้แต่น้ำเกลืออย่างเดียว (หมอให้ออกโรงบาลวันที่2)
เข้าวันที่3พูดได้แค่นิดหน่อยเพราะลิ้นคับปาก อาการเจ็บเหมือนเดิมต้องกินยาแก้ปวดตลอดวันนี้ทานได้แต่น้ำแล้วก็ของเหลวน้ำข้าว แต่จะบอกว่าตั้งแต่วันแรกเวลากินอะไรจะมีอาการสำลัก
วันที่4อาการปวดไม่เท่าไฟร่แต่เวลากินน้ำจะมีอาการเจ็บคอ วันนี้เริ่มกินโจ๊กแต่ต้องแบบเป็นน้ำเลยนะแตาเศษหมูพอเข้าปากรู้สึกว่ากลืนยากมาก หิวนะอยากกินทุกอย่างแต่กินไม่ได้ เวลานอนต้องนอนหมอนสูงหรือนอนตะแคงไม่งั้นจะหายใจไม่ออก
วันที่5แผลยุบลงแล้วพอพูดได้แต่เสียงเปลี่ยนมาก กินข้าวต้มแบบเละๆได้กินน้ำพอจับทางให้ไม่สำลักได้แล้ว วันนี้เริ่มหาพวกวุ้นไอติมกิน มันกินได้นะแต่เหมือนมันกลืนไม่สุดต้องกินน้ำตาม
วันที่6(วันนี้) แผลยุบไปเยอะแต่เวลากินน้ำหรือกลืนน้ำลายยังเจ็บอยู่วันนี่เช้ามาเริ่มอยากกินข้าวแล้ว แต่ลองกินมาม่าก่อนแต่ว่ามันเคียวพอได้นะแต่กลืนไม่ได้เราต้องกินน้ำตามถึงกลืนได้ ด้วยความที่เราไม่ได้กินอาไรเลยมันเหมือนไม่มีเเรงเวลาลุกก็หน้ามืดแล้วเราเลยลองกินกล้วยใข่ดูมันน่าจะได้นะ พอกินไปเท่านั้นแหละปวดมากปวดขึ้นมาถึงกกหูเลย
วันที่7(พรุ่งนี้เรามีนัดติดตามอาการ)เดียวจะมาอัปเดตให้ฟัง
ว่าด้วยเรื่องการรักษาอาการนอนกรนแล้วหยุดหายใจ โดยการผ่าตัดลิ้นไก่และต่อมทอลซิล
หาข้อมูลใดให้จิตตกเพราะโดยส่วนตัวเคยผ่าตัดแบบหนักมาหลายครั้ง เป็นพวกไม่กลัวการนอนโรงพยาบาล ไม่กลัวการผ่าตัด
การผ่าตัดใหญ่2ครั้งแรก คือการผ่าอุบัติเหตุการการโดนลูกหลงจากการตีกัน เป็นการผ่าตัดลำไส้ต้องเอาลำไส้มาพักไว้ที่หน้าท้องอยู่6เดือน ครั้งที่2คือผ่าเก็บลำไส้ ผ่าครั้งที่3น่าจะหมอนรองกระดูก โดยปกติเลยไม่ค่อยกลัวการผ่าตัดเท่าไหร่
เหตุผลถึงตัดสินใจผ่าทอลซิลครั้งนี้
ปัจจุบันผมอายุ 34 ปี โดยพื้นฐานเป็นคนนอนกรนแบบมากๆ เคยแบบตื้นมาลิ้นไก่บวมห้อยจบนอนแตะอยู่บนลิ้น แล้วแบบเป็นบ่อยมาก
แต่ปัญหาจริงๆที่ตัดสินใจไปพบแพทย์ คทอช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีการหลับแล้วเหมือนหยุดหายใจ อยู่ๆก็แบบสะดุ้งเฮือกขึ้นมาเหมือนคนหายใจไม่ออกแบบคนจมน้ำ เป็นแบบนี้มา5-6ครั้งด้วยความที่ตัวเองเป็นคนอ้วนด้วยกลัวตัวเองจะนอนไหลตายเลยไปหาหมอ วันที่พบหมอได้สอบถามอาการคุณหมอว่าอย่างเรามีลิ้นไก่ยาวกว่าปกติ แล้วผนังช่องคอหย่อนคล้อย อาจทำให้เวลานอนแล้วหยุดหายใจเป็นไปได้ แต่คุณหมอไม่ได้ให้ผ่านะ แต่เรากลัวเองเลยขอหมอผ่า คุณหมอก็ผ่าให้โดยจะผ่าลิ้นไก่รวมถึงต่อมทอลซิลออกไปด้วยเลย
เริ่มเข้าขั้นตอนการผ่าเลยนะ
ก่อนอื่นมีการนัดเจาะเลือดก่อนผ่า1สัปดาห์
ถ้าผลเลือดปกติคุณหมอจะนัดผ่าเลยของเราผ่าวันที่20 คุณหมอนัดมานอนโรงพยาบาลก่อน1วัน ช่วงนี้เรากินอะไรได้หมดรอหลังเที่ยงคืนคุณหมอจะงดน้ำงดอาหาร เพราะเรามีผ่าตอนเช้า8.00น. พอได้เวลาเปลี่ยนชุดผ่สตัดเดียวมีเตียงมารับเราเข้าไปที่ห้องผ่า พอไปถึงเริ่มบรรเลงเลยจำไมาได้ว่ามีพยาบาลกี่คนแต่รู้ว่ามีเยอะมาก แต่คนมาติดนู้นนี้นั้น จากนั้นให้ดมยาสลบ 5วิ หลับเลย ตื่นมาอีกที พูดไม่ได้ลิ้นคับปาก ปวดคอ เจ็บคอไปหมด ได้แต่หลับผลอาจจะปวดหรือเป็นเพราะยายังไม่หมดฤทธิ์ ตื่นมาอีกทีบ่ายพยาบาลเอาน้ำเอายาเเก้ปวดเด็กมาให้กิน คุณพระพอมันกลืนน้ำลายเท่านั้นแหละมันเจ็บทรมานมาก ปวดไปถึงกกหู ไปถึงหัวปวดไปหมด แต่เราต้องกินยาไงเอาว่ะเป็นไงเป็นกันลองจิบยากินโอ้โห้ยามันหวานแล้วเหนียวพอเรากลืนมันแสบคอ แล้วนามันเหนียวไปติดอยู่ที่แผลมันเป็นอะไรที่สุดๆมาก เราไม่ไหวจริงๆบอกเลย จากที่ผ่านการผ่าทั้งหมดมาเราว่าอันนี้ทรมานมาก นี้ยังไม่พ้นวันเเรกเลยนะ ถึงขนาดต้องไลน์ให้แฟนมานอนเฝ้าเพราะพูดไม่ได้
พอเข้าวันที่2ไม่ต้องพูดเรื่องการกินอาหารขนาดน้ำลายเวลากลืนยังทรมาน เรานอนที่โรงพยาบาลอีก1คืนหลังผ่า วันนั้นไม่ได้กินอะไรเลย กินแค่ยาอย่างเดียว โรงพยาบาลมีแต่น้ำหวานให้ทาน บอกเลยกินไม่ได้ ได้แต่น้ำเกลืออย่างเดียว (หมอให้ออกโรงบาลวันที่2)
เข้าวันที่3พูดได้แค่นิดหน่อยเพราะลิ้นคับปาก อาการเจ็บเหมือนเดิมต้องกินยาแก้ปวดตลอดวันนี้ทานได้แต่น้ำแล้วก็ของเหลวน้ำข้าว แต่จะบอกว่าตั้งแต่วันแรกเวลากินอะไรจะมีอาการสำลัก
วันที่4อาการปวดไม่เท่าไฟร่แต่เวลากินน้ำจะมีอาการเจ็บคอ วันนี้เริ่มกินโจ๊กแต่ต้องแบบเป็นน้ำเลยนะแตาเศษหมูพอเข้าปากรู้สึกว่ากลืนยากมาก หิวนะอยากกินทุกอย่างแต่กินไม่ได้ เวลานอนต้องนอนหมอนสูงหรือนอนตะแคงไม่งั้นจะหายใจไม่ออก
วันที่5แผลยุบลงแล้วพอพูดได้แต่เสียงเปลี่ยนมาก กินข้าวต้มแบบเละๆได้กินน้ำพอจับทางให้ไม่สำลักได้แล้ว วันนี้เริ่มหาพวกวุ้นไอติมกิน มันกินได้นะแต่เหมือนมันกลืนไม่สุดต้องกินน้ำตาม
วันที่6(วันนี้) แผลยุบไปเยอะแต่เวลากินน้ำหรือกลืนน้ำลายยังเจ็บอยู่วันนี่เช้ามาเริ่มอยากกินข้าวแล้ว แต่ลองกินมาม่าก่อนแต่ว่ามันเคียวพอได้นะแต่กลืนไม่ได้เราต้องกินน้ำตามถึงกลืนได้ ด้วยความที่เราไม่ได้กินอาไรเลยมันเหมือนไม่มีเเรงเวลาลุกก็หน้ามืดแล้วเราเลยลองกินกล้วยใข่ดูมันน่าจะได้นะ พอกินไปเท่านั้นแหละปวดมากปวดขึ้นมาถึงกกหูเลย
วันที่7(พรุ่งนี้เรามีนัดติดตามอาการ)เดียวจะมาอัปเดตให้ฟัง