แชร์ประสบการณ์ผ่าตัดทอนซินค๊าาา~

แชร์ประสบการณ์ผ่าตัดทอนซินค๊าาา~
ผ่าเมื่อ 6 ก.ค. 2561 เราสัญญากับตัวเองว่า ถ้าผ่าแล้วฟื้น รอดตายจะมาเล่าให้ทุกคนฟัง เป็นวิทยาทานนะคะ

ก่อนอื่น เราแนะนำตัวก่อนนะคะ เราอายุ 31 ปี มีลูกเล็กๆ 3 ขวบ(1คน) เราเป็นทอนซิลอักเสบตั้งแต่จำความได้ อักเสบตลอด ทรมาน และหนีการผ่าตัดทอนซินมาตลอดชีวิต

กว่าจะตัดสินใจผ่าได้ก็อาการหนักแล้ว นอนหลับไม่สนิท สะดุ้งหยุดหายใจตอนกลางคืน ทอนซินอักเสบ เป็นหนอง ปวดหัว เป็นไข้ต่ำๆตลอด กินยา อาการไม่ดีขึ้น

วันเดินทางไปผ่าตัดที่โรงพยาบาล หมอนัดแอดมิด 5 โมงเย็น เอ็กซเรย์ปอด+เจาะเลือด แล้วขึ้นไปพักที่ห้อง ประมาณ 3 ทุ่ม พี่พยาบาลวิ่งมาที่เตียง แจ้งผลเลือดว่า เป็นโลหิตจางนะคะ ผ่าตัดค่อนข้างอันตราย เสี่ยงเลือดจะหยุดช้า

พอเที่ยงคืน มีพยายาลมาให้น้ำเกลือ งดน้ำงดอาหาร  สรุปว่า นอนหลับๆตื่นๆ ทั้งคืน กลัวสารพัดเลย กลัวเลือดไม่หยุด กลัวเจ็บปวดหลังผ่า กลัวปวดแผล กลัวไม่ฟื้น กลัวตาย 55

ตี 5 แล้ว ด้วยความที่นอนไม่หลับ ก็ล้างหน้า แปรฟันเรียบร้อย

พอ 6 โมงเช้า พยายาลมีชุดผ่าตัดมาให้ อาบน้ำ เปลี่ยนชุด ในห้องพัก

7 โมงเช้า มีรถเข็นขึ้นมารับ ลงไปห้องผ่าตัด ระหว่างทาง มีลูกสาวตัวเล็ก กับสามีไปส่งด้วย พอเข็นเข้าห้องผ่าตัดปุ๊บ น้ำตาไหลเบย เข้าไปในห้องผ่าตัด มีเจ้าหน้าที่มาสอบถามข้อมูลต่างๆมีคุณป้าหมอวิสัญญี มาคุยด้วยและให้เซ็นเอกสารยินยอม

8 โมงเช้าเป๊ะ เข็นเตียงเข้าห้องผ่าตัด แอร์เย็นมาก มีไฟสว่างมาก เต็มห้องเบย เห็นคุณหมอ เรายิ้มให้คุณหมอและบอกสู้ๆนะคะ คุณป้าหมอวิสัญญี ก็เอาหน้ากากออกซิเจนมาครอบ บอกให้หายใจลึกๆ กลืนน้ำลายด้วยนะ แล้วเราก็หลับไปเลย

ตื่นมาประมาณ 10.00 น. ที่ห้องพักฟื้นในห้องผ่าตัด มีเจ้าหน้าที่มาปลุก พูดว่า มีลมอุ่นๆมาเป่าให้ใต้ผ้าห่มนะคะ หนาวไหมคะ ค่อยๆลืมตานะคะ เราคิดว่า รอดตายล่ะ 55 ภาพเบลอๆมึนๆ ค่อยๆชัดขึ้น ลองกลืนน้ำลายปุ๊บ ไม่เจ็บ แผลก็ไม่ปวด ไม่ปวดหู ดีงามจุงเบย

รอสังเกตุอาการ ประมาณ 30 นาที จากนั้นมีเจ้าหน้าที่มาเข็นรถ ออกจากห้องผ่าตัด

10.30 น. มีลูกสาว คุณแม่ สามี มารอรับหน้าห้องผ่าตัดด้วย ^^ น้ำตาจิไหล (รักน๊าาา~)

ขึ้นไปห้องพัก มีมึนๆยาสลบนิดหน่อย คิดว่าอาการตอนยังไม่ผ่า ยัวปวดทอนซินกว่านี้อีก แต่พอผ่าไม่ปวด ไม่แสบแผลเลย หายใจโล่ง มีพยาบาลมาฉีดยาลดบวม ยาแก้ปวด ยาฆ่าเชื้อ ทุก 4-6 ชม. ยาน้ำพาราเด็กสีแดง ทุก 4 ชม. ยาเม็ดฟู่แก้ไอหลังอาการ ลองจิบยาดู ก็กลืนได้ปกติ มื้อแรก ทานน้ำได้เป็นแก้ว แอบซื้อน้ำใบบัวบกมาใส่ตู้เย็นที่ รพ.ด้วย วันแรกกินน้ำได้เยอะ กินน้ำได้ทุกมื้อ มื้อละเป็นแก้ว ไม่เจ็บเบย สามารถพูดได้นิดหน่อยค่ะ เพราะถ้าพูดเยอะ แผลปริเลือดออกค่ะ

พอตอนกลางคืน มีปัญหาตอนนอน เรานอนไม่ได้ พยายามนอนหงายอย่างเดียวเพราะกลัวเจ็บแผล พอหลับแล้วสะดุ้งตื่น เหมือนคนมาอุดจมูก ขาดอากาศหายใจ พยายามจะนอนตั้งแต่ออกจากห้องผ่าตัด จนถึงเที่ยงคืน พยายามหลับแล้วก็สะดุ้งตื่น พอเที่ยงคืน จุดพีคสุดเกือบตายเลยค่ะ ตอนกำลังเคลิ้มหลับไปสักพัก หายใจไม่ออกจ้า สะดุ้งตื่นขึ้นมา เอามือจับหัวใจเต้นเร็วมาก เกือบตายไปแล้วจริงๆ เรากดออดเรียกพยาบาล ร้องไห้หนักมาก เราบอกพี่พยาบาลว่า นอนไม่ได้จริงๆ หายใจไม่ออก พยาบาลก็มาฉีดยาลดบวม เราลองเปลี่ยนเป็นนอนตะแคงดู ค้นพบว่าไม่เจ็บแผล แถมหายใจสะดวกกว่า แล้วก็หลับไปเลยด้วยความง่วง

วันที่ 1 ของหลังผ่าตัด (ผ่าครบ 24 ชม.)
ตื่นเช้ามาอาบน้ำเรียบร้อย คุณหมอขึ้นเยี่ยมตอนสายๆ มาดูอาการ คุณหมอถามว่า เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น หมอลืมบอกให้นอนตะแคง เพราะลิ้นไก่มันจะบวม หายใจไม่สะดวก วันนี้สามารถกินได้ ไม่เจ็บ ไม่ปวด สามารถพูดตอบโต้คุณหมอได้แล้ว คุณหมอบอกว่าเครื่องไม้เครื่องมือที่รพ.นี้ทันสมัย เลยเจ็บน้อยค่ะ วันนี้อนุญาตให้กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านได้เลย เรานอนรอให้ยาฆ่าเชื้อขวดสุดท้าย ประมาณบ่ายๆ แล้วกลับบ้าน ถึงบ้านกินน้ำซุป กินยา แล้วหลับเลยยาวเลยค่ะ

ตื่นมาวันที่ 2 มึนๆ ไม่ปวด รู้สึกลิ้นไก่บวมน้อยลง หายใจสะดวกขึ้น แต่จะเจ็บตอนกลืนน้ำลายนิดหน่อย แต่ถ้านั่งเฉยๆจะไม่เจ็บ ไม่ปวด หายใจโล่ง รู้สึกลิ้นไก่บวมน้อยลง แต่ต้องกินยาแก้สักเสบแบบเม็ด เอาไปละลายน้ำ ขมมากมาย T^T วันนี้สามารถเล่านิทานสั้นๆ ให้ลูกฟังได้ คุณหมอให้กินน้ำอย่างเดียว แต่เริ่มแอบกินโจ๊กได้แล้วค่ะ

วันที่ 3 ตื่นเช้ามา มีอาการเจ็บคอตอนกลืนน้ำลาย  เหมือนตอนเป็นหวัด แต่ถ้านั่งปกติ ไม่มีอาการเจ็บ ไม่ปวด จะเจ็บเฉพาะเวลากินน้ำหรือกินโจ๊ก วันนี้ออกมาทำงานส่งของให้ลูกค้าได้แล้วค่ะ พูดได้นิดหน่อย แต่ต้องใส่หน้ากากไว้ ป้องกันเชื้อโรคไว้นะคะ

วันที่ 4-6 ตื่นมาเจ็บคอตอนกลืนน้ำลาย กินโจ๊กได้แต่เจ็บเวลากลืนเหมือนเดิมค่ะ

วันที่ 7 ครบกำหนด คุณหมอนัดดูแผลแต่เช้าตรู่ค่ะ แผลดีขึ้น อนุญาตให้กินข้าวต้ม กับก๋วยเตี๋ยวเส้นนิ่มๆได้แล้วค่ะ แต่เวลากลืนก็ยังคงเจ็บเหมือนเดิม แต่เจ็บน้อยกว่าเดิมค่ะ

วันนี้ที่โพส ผ่าตัดครบ 1 เดือนแล้ว แผลหายดีปกติ ไม่เจ็บ ไม่ปวด ไม่มีอาการแทรกซ้อนค่ะ หายใจโล่ง ไม่นอนกรนอีกต่อไป

ปล.เราผ่าที่โรงพยาพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ จ่ายเอง 100% ราคา 94,000+ บาท เป็นทางเลือกให้อีกทาง สำหรับคนขี้กลัว กลัวตาย กลัวการผ่าตัดแบบเรา คุณหมอเก่งมาก เครื่องมือทันสมัย หายไวแน่นอนค่ะ 😘
(ไม่ได้ค่าสปอนเซอร์นะคะ รีวิวด้วยใจค่ะ)

หวังว่ากระทู้นี้ จะมีประโยชน์กับคนที่กำลังจะผ่าตัดนะคะ ไม่ต้องกลัวนะคะ ผ่าแล้วอาการจะดีขึ้นแน่นอน สู้ๆนะคะทุกคน ✌🏻
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่