ทอนซินที่เป็นมานานกว่า8ปี ได้ผ่าออกไปแล้ว ดีใจสุดๆไปเลย 😊ถึงจะเจ็บแค่ไหนก็มีความสุข
เคยเป็นหนักถึงขั้นคอเป็นเลือดทั้งคอ ไข้ขึ้นสูง39 ปวดไปหมดทั้งตัว นอนร้องโอดควรด้วยความปวดไปถึงกระดูก หนาวสั่น ทำอะไรก็ไม่ได้เหมือนหัวโดนบีบ ตาพล่ามัว กินก็ลำบาก ต้องกินยาแก้ปวด หรือกลั่วยาชาก่อนกินอาหาร ต้องกินยาฆ่าเชื้อแรงๆ จนสุดท้ายใหม่ก็ดื้อยา ต้องเปลี่ยนเป็นยาแรงขึ้นเรื่อยๆ ต้องให้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือดค่อยดีขึ้น
เสียใจที่สุดก็คือตอนเรียนมาหาลัย ใหม่ซ้อมเต้นรำเพื่อไปเเสดงงานคริสมาส อยู่ๆเจ้าทอนซินก็มาจึงอดแสดงไป
ยิ่งมาตอนทำงานก็ป่วยบ่อย ยิ่งเราเครียดกับงานหรือไม่ค่อยได้พักผ่อนแล้วละก็จะเป็นทันที พลอยเสียเวลาการทำงานไปด้วย โคตรรู้สึกแย่เลย
เวลาต้องเดินทางไปไหนไกลๆถ้าได้เป็นทอนซินแล้วละก็ต้องอัดยาหนักกว่าเดิมจาก พารา2เม็ด จะเป็น 3เม็ด หรือต้องแก้ปวดชนิดรุนแรง เพื่อให้เป็นผู้เป็นคนสามารถใช้ชีวิตได้ปกติ เรียกได้ว่ากินเป็นขนม มันก็ช่วยได้ในเวลานึงเท่านั้น พอหมดฤทธิ์ก็กินยาอีกรอบ
ฮัลโหล น้องไต เป็นไงบ้างน่ะตอนนี้ ?😂
ก่อนผ่าต้องปรึกษาคุณหมอก่อน ใหม่ผ่าที่ โรงพยาบาลเปาโลโชคชัย 4 ใช้สิทธิ์ประกันสังคมในการผ่านะคะ ไม่เสียเงินสักบาท เย้! คุณหมอถามว่า 1 ปีเป็นทอนซิลบ่อยแค่ไหน ตอบได้เลยว่า ไม่ต่ำกว่า 5 ครั้งแน่นอนค่ะ ก็มีการตรวจในคอ ส่งเรื่องอนุมัติให้ผ่า เสร็จแล้วคุณหมอก็นัดวันมาฟังผลอีกทีว่าจะได้ผ่าช่วงไหน สรุปได้ผ่าวันที่ 10 มค 2562 เวลา บ่าย 3
ก่อนวันผ่า 1 สัปดาห์ หมอนัดเจาะเลือดไปตรวจ และสแกนปอดด้วย ตอนเจาะเลือดใหม่เป็นลมไป 2 รอบ เพราะไม่ได้ทานข้าวไป บวกกับเครียด อยู่ๆก็กลัวเลือดซะงั้น สายตาเหมือนจอทีวีไม่มีสัญญาณ พล่าๆ หายใจเร็วขึ้น เหงื่อแต่พลั่กๆท่วมตัวไปไหม เหมือนจะวูบลงไปให้ได้เลย เจาะครั้งแรก ไม่ได้เลือด พยาบาลบอกใหม่เกร็ง ในใจตอนนั้น ตายห่าละนึกว่าจะเสร็จแล้ว เลยต้องเจาะอีกรอบ พยาบาลดูเส้นเลือดอีกที แล้วบอกว่า เส้นเลือนเรามันเฉียงไปทางนี้ ในใจก็ อ้าวแล้วเมื่อกี้เส้นเราไปทางไหนเนี่ยะ พอเจาะอีกรอบยิ่งกว่าเดิมอีก จะเป็นลม5555 ต้องร้องเพลงในหัวเพื่อไม่ให้คิดมาก แต่ไม่ช่วยเลย ถึงกับฟุบลงบนโตะ พยาบาลช่วยกันเอาแอมโมเนียมาให้กันใหญ่ พี่พยาบาลเลยให้นั่งรถเข็นไปวัดความดัน สรุปความดันต่ำ 79 แน่นอนล๊ะ เป็นลมขนาดนี้
พี่พยาบาลบอกว่าให้ไปทานข้าวก่อน แล้วพี่ผู้ชายก็ช่วยเข็นรถไปส่งถึงที่ร้าน แบคแคนยอนเลย ซึ่งอยู่อีกตึกนึง ประทับใจมากๆ ถึงใช้สิทะฺประกันสังคมก็ยังดูแลดี พอทานข้าวเสร็จก็รู้สึกดีขึ้น กลับไปวัดความดันอีกรอบ ขึ้นมา 100 แล้วก็ได้บัตรนัดมา admit ตอน 9.20-9.40น วันที่ 10 มค 2562
และแล้ววันผ่าก็มาถึง ก่อนผ่าเราต้องงดน้ำงดอาหาร 8 ชั่วโมง คือ หลัง 6 โมงเช้าห้ามกินจ้าา ไปถึง รพ ตามเวลานัด เนื่องจากก่อนที่แพทย์จะทำการผ่าตัด จะต้องให้คนไข้ดมยาสลบเพื่อจะได้ไม่ต้องทน เจ็บปวดทรมานในระหว่างการผ่าตัดนั้นๆ และด้วยเหตุนี้ หากไม่มีการให้คนไข้งดน้ำ และอาหารก่อน ก็อาจจะทำให้คนไข้เกิดอาการสำลักเศษอาหาร หรือน้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปเข้าปอดได้ ซึ่งความรุนแรงจะมากน้อยแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณของอาหารที่สำลัก หากรุนแรงมากอาจทำให้คนไข้ขาดออกซิเจน หรือระบบการหายใจของคนไข้มีปัญหาได้ ฉะนั้นจึงควรงดน้ำ งดอาหารก่อนการผ่าตัดเป็นดีที่สุด ต้องทำตามอย่างเคร่งคัดนะคะ เพื่อความปลอดภัย
ก่อนผ่าก็มีการสอบถามประวัติอย่างระเอียดอีกรอบว่า ก่อนหน้านี้เราเคยผ่าตัดอะไรมาบ้าง ผ่าตอนอายุเท่าไหร่ แล้วก็วัดความดัน วัดไข้ ใหม่อยากได้ห้องพักเดี่ยวพิเศษ คืนละ 3700กว่าบาท ถ้ามีประกันสังคมช่วยก็จะเหลือ คืนละ 2000กว่าบาท ไม่แน่ใจตัวเลขที่แน่นอนนะคะ เพราะนอนหลับยากถ้านอนรวม
กับคนเยอะๆ แค่มีเสียงนิดหน่อยก็ตื่น แต่ว่าวันนั้นไม่มีห้องพิเศษไม่ว่างเลย ต้องรอคิว 1 คิว ถ้าเค้าออกค่อยได้ห้องนั่นเอง ก็ช่วยไม่ได้นะคะ ก็ต้องยอมรับ
ต่อมาพยาบาลก็พาไปเจาะให้น้ำเกลือ เอาแล้วววว เข็มมม ฉันจะเป็นลมไหม งื่อออออ บอกพี่พยาบาลว่า เบาๆนะคะนู๋พึ่งเป็นลมไปรอบที่แล้ว พี่พยาบาลบอกว่า เข็มนี้จะใหญ่หน่อยนะคะ เพราะให้น้ำเกลือ ใหม่ถึงกับตกใจหันไปมองที่เข็มทันที อาการหน้ามืดก็เริ่มมาวิบๆวับๆ555 แต่พอถึงเวลาเจาะ ก็เจ็บแปปนึงก็ได้แล้วคะ พี่พยาบาลเห็นหน้าเราเริ่มซีดๆเลยให้ไปนอนพักรอเรียกไปห้องที่จะต้องหลังผ่าแทน กลัวเราจะวูบไป และได้แอมโมเนียอีกตามเคย
ประมาณ 11 โมงเกือบเที่ยง ก็มีรถเข็นมารับไปที่ห้องพัก ได้นอนเตียงแรก ในความคิดตอนแรกห้องคงจะเก่าๆ น่ากลัวๆ คิดถึงฉากในหนังผีอะคะ 5555 แต่พอไปถึงก็ไม่เป็นอย่างที่คิดนะคะ ค่อนข้างดีอยู่คะ มีแอร์ ทางฝั่งที่ใหม่อยู่ มี่แค่ 2 เตียง แล้วก็เป็นห้องน้ำ ห้องน้ำ กับห้องอาบน้ำ สะอาดดีคะ ปกติจะไม่ชอบห้องน้ำสกปรกๆมาก แต่ถือว่าที่นี่สะอาด จะบอกว่าปุ่มที่เรียกพยาบาลของเราเสีย คิดถึงตอนหลังผ่าซิคะ เสียงไม่มี จะเรียกยังไง พี่ผู้ช่วยพยาบาลก็บอก เราอยู่เตียงแรกใกล้ประตู สามารถเดินออกมากวักมือเรียกได้ 5555555 โอเคๆ เอางั้นนะ
นอนกลิ้งไปกลิ้งมา สักพักพยาบาลก็เอาชุดมาใหเปลี่ยนเป็นชุดเตรียมไปผ่าตัด คิดขำๆ เสื้อแฟชั่นผูกโบว์น่ารักกรุบกริบสีฟ้าละกันน๊าา
รอเวลา ก็มีพี่พยาบาลเข้ามาวัดไข้เรื่อยๆ ถามประวัติว่าเคยผ่าอะไรมาอีกรอบ พอถึงเวลา 14.30 เตรียมตัวไปห้องผ่าคะ แล้วก็ได้นั่งรถเข็นไปห้องผ่าตัด ฉากเหมือนในหนังที่มีไฟเลื่อนผ่านบนเพดานก็มา เลยบอกพี่พยาบาลว่า ขอสลบเลยได้ไหม 55
ก่อนเข้าห้องผ่าตัดก็มีพยาบาลมาอธิบายว่าจะผ่าตัดทอนซิลออกทั้งสองข้าง จะมีการดมยาสลบ และฉีดยาที่ทำทำให้สลบด้วยมั้งคะ เราเรียกไม่ถูก และพยายามอย่าไออย่าจาม ค่อยๆหายใจหลังได้สตินะคะ คนไข้จะได้อยู่ที่ห้องพักฝื้นก่อน 1 ชม หลังผ่าก็ให้ทานแต่น้ำเย็นๆ อาหารอ่อนๆเหลวๆ
เรียบร้อยแล้วก็สู่เวลาเข้าห้องผ่าตัด มีการแปะที่วัดหัวใจ มีการห่อตัวด้วยผ่าสีเขียว กันเราดิ้นมั้ง 555 คาดด้วยเข็มขัดเหมือนนักมวยอีกอันที่บริเวณขา ให้หยอดยากันผนังในจมูกเราเจ็บมั้ง เป็นน้ำสีใสๆหยอดใส่จมูก ให้เรากลั้นไว้นานๆกว่าที่เราจะทนได้ สักพักก็ถึงเวลาฉีดยาในสายน้ำเกลือให้เราสลบ มันแสบมากกกกกกกก แต่นี่กลั้นยาที่จมูกไว้ด้วยถึงกับน้ำตาซึม แล้วพี่พยาบาลก็บอก “จะให้ดมยาสลบแล้วนะคะ “ เท่านั้นแหละ ก็ครอบยาสลบมาเลย ถึงกับสำลักเพราะยังไม่ทันได้ซูดยาที่ใส่ในจมูกเข้าไป เอาละหลังซูดเข้าไปแล้วดมยาอีกรอบ คำสุดท้ายที่ได้ยินคือ พี่ๆพยาบาล 3 คนบอก ฝันดีน๊าาาาาาาาาาา 55555555 เสียงสุดท้ายก่อนสลบ
พอรู้สึกตัวแต่ยังรู้สึกลืมตาไม่ขึ้น ก็ถามออกไปว่าผ่าออกรึยังคะ ได้ยินเสียงตัวเองแล้วถึงกับตกใจ เสียงแปลกมาก เหมือนมีก้อนอะไรในคอ พี่พยาบาลเดินมาใกล้ๆแล้วบอกว่า ผ่าออกทั้งสองแล้วนะคะ ปวดไหม เราก็น้ำตาไหลออกมา ไม่รู้ทำไม พี่พยาบาลเลยฉีดยาแก้ปวดเข้าสายน้ำเกลือให้ แล้วก็หลับๆตื่นๆไปอีก สักพัก พอ บ่าย 4 กว่าๆ ก็ได้กลับห้องพัก วัดไข้ก็ไม่มีไข้ พอพูดออกเสียงได้ตอนพยาบาลถามชื่อ แต่ไม่ถนัด กลืนน้ำลายเหมือนมีช่องลมในคอ อาการเหมือนกลืนน้ำไม่ลง น้ำลายเหนียวขึ้นได้ทานน้ำหล่อฮังก่วย กับน้ำเขียว เย็นๆ อย่างละแก้ว กับนมจืด 1 กล่อง
ช่วงเย็นก็มีเพื่อนมาเยี่ยมก็คุยได้บ้างอยู่ สงสัยเพราะฤทธิ์ยาแก้ปวดยังมีอยู่เลยไม่รู้สึกปวดเท่าไหร่
คืนแรกหลังผ่า นอนไม่หลับเลย หลับๆตื่นๆ พยาบาลเดินตรวจไข้ทั้งคืน ก็ไม่มีไข้ เราก็ฉี่บ่อยมาก เกือบทุกชมได้เลย และฉี่เยอะ นอนกรนเฉยเลย ตื่นมาก็ได้ยินเสียงกรนตัวเอง น้ำลายเหนียวขึ้นๆกลืนก็ไม่ลง พยายามนอนไปทั้งอย่างนั้น แต่ก็ไม่หลับ ตี 4 กว่าๆ ตื่นมาเห็นถุงน้ำเกลือจะหมด ก็ต้องลุกจากเตียงมาเปิดประตูเรียกพยาบาล พยายามเปล่งเสียงบอก น้ำเกลือหมด 555 รู้สึกเหมือนเด็กหัดพูดเลยคะ มีให้ยาซ่าเชื้อผ่านสายน้ำเกลือ อยากจะถามว่า ค่อยๆกดได้ไหมคะ พยาบาลรีบไปไหน กดอัดพรวดเดียว แสบเส้นมากกกกกกกก น้ำตานี้ไหลเลย
เช้าวันต่อมา เรียกว่าแทบไม่ได้นอน แล้วก็ได้อาหาร เป็น น้ำเขียว 2 แก้ว กับน้ำหล่อฮังก้วย 1 แก้ว งดน้ำแดง สงสัยกลัวคิดว่าเลือด แล้วก็ตรวจไข้เรื่อยๆจนเที่ยง ก็ได้นั่งรถเข็นไปหาหมอให้ดูในคอหลังผ่า
หมอตรวจดูแล้ว ทุกอย่างโอเค เห็นว่าเรากินได้ ก็บอกให้กลับบ้านได้เลย รู้สึกงงๆ อ้าวเสร็จแล้วหรอ พอกลับมาที่ห้องพัก พี่พยาบาลก็บอกให้อยู่ต่อถึงเย็นได้ไหม เพราะยังไม่ได้ให้ลองทานไอศครีมเลย กลัวว่าจะมีเลือดออก เราก็โอเค สักพักก็มีไอติมวอลวนิลา มา 1 ถ้วย กับน้ำเขียว คอก็เหนียวกินไปกลืนไม่ลงไป ปวดไปด้วย เลยขอยาแก้ปวด แต่ได้เป็นยาแก้ปวดแบบเด็กมา รสส้ม ก็จิบๆแล้วก็พยายามกินน้ำไปด้วย กินไอศครีมไปด้วย ก็มีแอบสำลัก แต่ต้องกลั้นไว้
แล้วก็นอนกลิ้งไปกลิ้งมาดูซีรี่ หลับไปกรนไป ที่กรนเพราะคอน่าจะบวม บวกกับน้ำลายเรามันเหนียวมาก ไม่ได้คายทิ้งเลย เราก็พยายามบอกพยาบาลนะว่าเหนียวคอ เค้าคงฟังไม่รู้เรื่องเลยไม่สนใจ
เวลา5 โมงก็เสริฟ ไอศครีมอีกรอบ ครั้งนี้ปวด กินยากกว่าเดิม บอกเลยว่ายาแก้ปวดเด็กไม่สามารถช่วยอะไรเราได้ เพราะอย่างที่บอกปกติเรากินยาแก้ปวดแรง แค่ยาแก้ปวดเด็กก็คงเป็นแค่น้ำเชื่อม
รอเวลาจะกลับบ้าน รอทำเอกสารถึง ทุ่มนึงก็ได้กลับพยาบาลมาเอาสายน้ำเกลืออกให้ เราก็บอก เบาๆนะคะ ตอนเอาแผ่นกาวแปะออกอะเบา แต่เค้าลืมดูว่าสายมันห้อยลงพื้น สายเลยดีดงั้นขึ้นมรมือเราอยู่เลย เพื่อนเราเห็นนี่ถึงกับหน้าซีด แต่ดีที่เราไม่รู้สึกอะไร พยาบาลก็ตกใจรีบเอาสายขึ้นมาเอาสายน่ช้ำเกลือออก เลือดก็ไหล แปะผ้าก๊อต เราก็รีบกลับ ไม่ทันได้กดผ้าก๊อด ใส่เสื้อเอามือลงต่ำ เลือดนี่พุ่งออกมาเลยจ้าา ไหลลงพื้นหยุดแหม่ะๆๆ เลือดชุ่มเต็มผ้าก๊อต เอาเป็นว่าใครที่ได้ถอดสายแล้ว ควรกดไว้ก่อน เอามือไว้สูงๆนะจ๊ะ ไม่งั้นได้สยองแบบเราแน่ๆ เลือดสาดเต็มเตียง
ได้ยามา 2 อย่าง คือ AMK แบบน้ำ ต้องมาเติมน้ำในขวด คือยาฆ่าเชื้อ (ปกติเราทานแบบเม็ดตอนเป็นทอนซิล แต่เหมือนจะดื้อยาไปแล้ว) แล้วก็ได้ยาแก้ปวด รสส้มของเด็กมาสองขวด ไม่น่าช่วยอะไร ทานหลังอาหารอย่างละ 2 ช้อนชา นี่ไม่รู้ กระดกไป 2 ช้อนโต๊ะ 5555 น่าจะเบลอ
คืนที่สอง กลับมานอนที่ห้องตัวเอง ลองชงโจ๊กคัพทานก็ทานไม่ได้ ไม่รู้รสชาติอะไรเลย นอนไปน้ำลายเหนียวไป หายใจไม่สะดวก เลยลองบ้วนล้ำลายทิ้งรู้สึกดีขั้น แต่ก็มีตลอดคืนรู้สึกตัวทีก็ค่อยๆบ้วนทิ้งที กินยาแก้ปวดเด็กก็ไม่ช่วย โอเคคงได้แค่นี้ ก็เป็นแบบนี้ทั้งคืน
ตอนเช้ามาก็พยายามกินโจ๊กอีกที สั่งนมเย็นมากินก็กินลำบากเจ็บคอเวลากลืน เป็นแบบนี้กินได้แค่น้ำเย็นพอจิบกลืนได้บ้างไม่ได้บ้าง เพื่อนเรียกกินมะม่วงน้ำปลาหวานก็กินไม่ได้ เฮ้อออทรมาน คิดหาวิธีให้หายปวดคือ เอาละ ลอง Gofen ยาแก้ปวดแบบเจล ที่ฟ้าๆ เจาะเอาแต่เจลด้านในผสมกับยาแก้ปวดรสส้มดีกว่า ว่าแล้วก็ไปซื้อ เอามาผสม พอผสมเรียบร้อย กินเข้าไปได้นิดหน่อยถึงกับแสบในคอทั้นที สำลัก อ้วก น้ำตาไหล แต่ก็กลับมาทำใจเอาน้ำผสมแล้วพยายามกลืน ก็รู้สึกลิ้นชาๆ ไม่เกิน20 นาที รู้สึกอาการเจ็บคอดีขึ้น ไม่ค่อยเจ็บมาเวลากลืน แต่กินโจ๊กก็ไม่รู้รส คืนนี้ก็นอนไปตื่นไป มาบ้วนน้ำลายเป็นระยะๆตอนรู้สึกตัว แต่ไม่ค่อยกรนแบบวันก่อน เจ็บน้อยกว่าเมื่อวานหน่อย
เช้าวันนี้ตื่นขึ้นเราลองจะพยายามกินเจล Goffen แก้ปวดเพรียวๆดู คิดว่าจะหวาน แต่เปล่าเลย แค่แตะไปที่ลิ้นก็แสบร้อนไปทั้งลิ้น เราเลยคิดได้ว่า เมื่อวานน่าจะแสบยานี้แน่ๆ ถึงกับทิ้งไปเลย ยามันแรงมากนั้นเอง ส่องคอดูก็มีผ่าขาวแผ่นหนาๆเต็มช่องคอไปหมด ไปเปิดอ่านดูเค้าบอกเป็นปกติทั่วไปในการรักกษาตัวของร่างกาย อาการผ่าขาวจะหายไป ภายใน 5-10 วัน เครเปลี่ยนวิธี ไป 7-11 ซื้อ ไทรินอล กับโกโก้เย็น กับโจ๊กมากิน เอาไทลินอล ผสมโกโก้กิน อาการปวดก็ดีขึ้น กินโจ๊กได้บ้าง แต่รับรู้รสชาติโจ๊กได้น้อยตามเคย แต่ดูดโกโก้เย็นปั่นได้หมดแก้วเลย แล[i
รีวิว ผ่าทอนซิลอย่างระเอียดมากกกกกกกกกก
เคยเป็นหนักถึงขั้นคอเป็นเลือดทั้งคอ ไข้ขึ้นสูง39 ปวดไปหมดทั้งตัว นอนร้องโอดควรด้วยความปวดไปถึงกระดูก หนาวสั่น ทำอะไรก็ไม่ได้เหมือนหัวโดนบีบ ตาพล่ามัว กินก็ลำบาก ต้องกินยาแก้ปวด หรือกลั่วยาชาก่อนกินอาหาร ต้องกินยาฆ่าเชื้อแรงๆ จนสุดท้ายใหม่ก็ดื้อยา ต้องเปลี่ยนเป็นยาแรงขึ้นเรื่อยๆ ต้องให้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือดค่อยดีขึ้น
เสียใจที่สุดก็คือตอนเรียนมาหาลัย ใหม่ซ้อมเต้นรำเพื่อไปเเสดงงานคริสมาส อยู่ๆเจ้าทอนซินก็มาจึงอดแสดงไป
ยิ่งมาตอนทำงานก็ป่วยบ่อย ยิ่งเราเครียดกับงานหรือไม่ค่อยได้พักผ่อนแล้วละก็จะเป็นทันที พลอยเสียเวลาการทำงานไปด้วย โคตรรู้สึกแย่เลย
เวลาต้องเดินทางไปไหนไกลๆถ้าได้เป็นทอนซินแล้วละก็ต้องอัดยาหนักกว่าเดิมจาก พารา2เม็ด จะเป็น 3เม็ด หรือต้องแก้ปวดชนิดรุนแรง เพื่อให้เป็นผู้เป็นคนสามารถใช้ชีวิตได้ปกติ เรียกได้ว่ากินเป็นขนม มันก็ช่วยได้ในเวลานึงเท่านั้น พอหมดฤทธิ์ก็กินยาอีกรอบ
ฮัลโหล น้องไต เป็นไงบ้างน่ะตอนนี้ ?😂
ก่อนผ่าต้องปรึกษาคุณหมอก่อน ใหม่ผ่าที่ โรงพยาบาลเปาโลโชคชัย 4 ใช้สิทธิ์ประกันสังคมในการผ่านะคะ ไม่เสียเงินสักบาท เย้! คุณหมอถามว่า 1 ปีเป็นทอนซิลบ่อยแค่ไหน ตอบได้เลยว่า ไม่ต่ำกว่า 5 ครั้งแน่นอนค่ะ ก็มีการตรวจในคอ ส่งเรื่องอนุมัติให้ผ่า เสร็จแล้วคุณหมอก็นัดวันมาฟังผลอีกทีว่าจะได้ผ่าช่วงไหน สรุปได้ผ่าวันที่ 10 มค 2562 เวลา บ่าย 3
ก่อนวันผ่า 1 สัปดาห์ หมอนัดเจาะเลือดไปตรวจ และสแกนปอดด้วย ตอนเจาะเลือดใหม่เป็นลมไป 2 รอบ เพราะไม่ได้ทานข้าวไป บวกกับเครียด อยู่ๆก็กลัวเลือดซะงั้น สายตาเหมือนจอทีวีไม่มีสัญญาณ พล่าๆ หายใจเร็วขึ้น เหงื่อแต่พลั่กๆท่วมตัวไปไหม เหมือนจะวูบลงไปให้ได้เลย เจาะครั้งแรก ไม่ได้เลือด พยาบาลบอกใหม่เกร็ง ในใจตอนนั้น ตายห่าละนึกว่าจะเสร็จแล้ว เลยต้องเจาะอีกรอบ พยาบาลดูเส้นเลือดอีกที แล้วบอกว่า เส้นเลือนเรามันเฉียงไปทางนี้ ในใจก็ อ้าวแล้วเมื่อกี้เส้นเราไปทางไหนเนี่ยะ พอเจาะอีกรอบยิ่งกว่าเดิมอีก จะเป็นลม5555 ต้องร้องเพลงในหัวเพื่อไม่ให้คิดมาก แต่ไม่ช่วยเลย ถึงกับฟุบลงบนโตะ พยาบาลช่วยกันเอาแอมโมเนียมาให้กันใหญ่ พี่พยาบาลเลยให้นั่งรถเข็นไปวัดความดัน สรุปความดันต่ำ 79 แน่นอนล๊ะ เป็นลมขนาดนี้
พี่พยาบาลบอกว่าให้ไปทานข้าวก่อน แล้วพี่ผู้ชายก็ช่วยเข็นรถไปส่งถึงที่ร้าน แบคแคนยอนเลย ซึ่งอยู่อีกตึกนึง ประทับใจมากๆ ถึงใช้สิทะฺประกันสังคมก็ยังดูแลดี พอทานข้าวเสร็จก็รู้สึกดีขึ้น กลับไปวัดความดันอีกรอบ ขึ้นมา 100 แล้วก็ได้บัตรนัดมา admit ตอน 9.20-9.40น วันที่ 10 มค 2562
และแล้ววันผ่าก็มาถึง ก่อนผ่าเราต้องงดน้ำงดอาหาร 8 ชั่วโมง คือ หลัง 6 โมงเช้าห้ามกินจ้าา ไปถึง รพ ตามเวลานัด เนื่องจากก่อนที่แพทย์จะทำการผ่าตัด จะต้องให้คนไข้ดมยาสลบเพื่อจะได้ไม่ต้องทน เจ็บปวดทรมานในระหว่างการผ่าตัดนั้นๆ และด้วยเหตุนี้ หากไม่มีการให้คนไข้งดน้ำ และอาหารก่อน ก็อาจจะทำให้คนไข้เกิดอาการสำลักเศษอาหาร หรือน้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปเข้าปอดได้ ซึ่งความรุนแรงจะมากน้อยแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณของอาหารที่สำลัก หากรุนแรงมากอาจทำให้คนไข้ขาดออกซิเจน หรือระบบการหายใจของคนไข้มีปัญหาได้ ฉะนั้นจึงควรงดน้ำ งดอาหารก่อนการผ่าตัดเป็นดีที่สุด ต้องทำตามอย่างเคร่งคัดนะคะ เพื่อความปลอดภัย
ก่อนผ่าก็มีการสอบถามประวัติอย่างระเอียดอีกรอบว่า ก่อนหน้านี้เราเคยผ่าตัดอะไรมาบ้าง ผ่าตอนอายุเท่าไหร่ แล้วก็วัดความดัน วัดไข้ ใหม่อยากได้ห้องพักเดี่ยวพิเศษ คืนละ 3700กว่าบาท ถ้ามีประกันสังคมช่วยก็จะเหลือ คืนละ 2000กว่าบาท ไม่แน่ใจตัวเลขที่แน่นอนนะคะ เพราะนอนหลับยากถ้านอนรวม
กับคนเยอะๆ แค่มีเสียงนิดหน่อยก็ตื่น แต่ว่าวันนั้นไม่มีห้องพิเศษไม่ว่างเลย ต้องรอคิว 1 คิว ถ้าเค้าออกค่อยได้ห้องนั่นเอง ก็ช่วยไม่ได้นะคะ ก็ต้องยอมรับ
ต่อมาพยาบาลก็พาไปเจาะให้น้ำเกลือ เอาแล้วววว เข็มมม ฉันจะเป็นลมไหม งื่อออออ บอกพี่พยาบาลว่า เบาๆนะคะนู๋พึ่งเป็นลมไปรอบที่แล้ว พี่พยาบาลบอกว่า เข็มนี้จะใหญ่หน่อยนะคะ เพราะให้น้ำเกลือ ใหม่ถึงกับตกใจหันไปมองที่เข็มทันที อาการหน้ามืดก็เริ่มมาวิบๆวับๆ555 แต่พอถึงเวลาเจาะ ก็เจ็บแปปนึงก็ได้แล้วคะ พี่พยาบาลเห็นหน้าเราเริ่มซีดๆเลยให้ไปนอนพักรอเรียกไปห้องที่จะต้องหลังผ่าแทน กลัวเราจะวูบไป และได้แอมโมเนียอีกตามเคย
ประมาณ 11 โมงเกือบเที่ยง ก็มีรถเข็นมารับไปที่ห้องพัก ได้นอนเตียงแรก ในความคิดตอนแรกห้องคงจะเก่าๆ น่ากลัวๆ คิดถึงฉากในหนังผีอะคะ 5555 แต่พอไปถึงก็ไม่เป็นอย่างที่คิดนะคะ ค่อนข้างดีอยู่คะ มีแอร์ ทางฝั่งที่ใหม่อยู่ มี่แค่ 2 เตียง แล้วก็เป็นห้องน้ำ ห้องน้ำ กับห้องอาบน้ำ สะอาดดีคะ ปกติจะไม่ชอบห้องน้ำสกปรกๆมาก แต่ถือว่าที่นี่สะอาด จะบอกว่าปุ่มที่เรียกพยาบาลของเราเสีย คิดถึงตอนหลังผ่าซิคะ เสียงไม่มี จะเรียกยังไง พี่ผู้ช่วยพยาบาลก็บอก เราอยู่เตียงแรกใกล้ประตู สามารถเดินออกมากวักมือเรียกได้ 5555555 โอเคๆ เอางั้นนะ
นอนกลิ้งไปกลิ้งมา สักพักพยาบาลก็เอาชุดมาใหเปลี่ยนเป็นชุดเตรียมไปผ่าตัด คิดขำๆ เสื้อแฟชั่นผูกโบว์น่ารักกรุบกริบสีฟ้าละกันน๊าา
รอเวลา ก็มีพี่พยาบาลเข้ามาวัดไข้เรื่อยๆ ถามประวัติว่าเคยผ่าอะไรมาอีกรอบ พอถึงเวลา 14.30 เตรียมตัวไปห้องผ่าคะ แล้วก็ได้นั่งรถเข็นไปห้องผ่าตัด ฉากเหมือนในหนังที่มีไฟเลื่อนผ่านบนเพดานก็มา เลยบอกพี่พยาบาลว่า ขอสลบเลยได้ไหม 55
ก่อนเข้าห้องผ่าตัดก็มีพยาบาลมาอธิบายว่าจะผ่าตัดทอนซิลออกทั้งสองข้าง จะมีการดมยาสลบ และฉีดยาที่ทำทำให้สลบด้วยมั้งคะ เราเรียกไม่ถูก และพยายามอย่าไออย่าจาม ค่อยๆหายใจหลังได้สตินะคะ คนไข้จะได้อยู่ที่ห้องพักฝื้นก่อน 1 ชม หลังผ่าก็ให้ทานแต่น้ำเย็นๆ อาหารอ่อนๆเหลวๆ
เรียบร้อยแล้วก็สู่เวลาเข้าห้องผ่าตัด มีการแปะที่วัดหัวใจ มีการห่อตัวด้วยผ่าสีเขียว กันเราดิ้นมั้ง 555 คาดด้วยเข็มขัดเหมือนนักมวยอีกอันที่บริเวณขา ให้หยอดยากันผนังในจมูกเราเจ็บมั้ง เป็นน้ำสีใสๆหยอดใส่จมูก ให้เรากลั้นไว้นานๆกว่าที่เราจะทนได้ สักพักก็ถึงเวลาฉีดยาในสายน้ำเกลือให้เราสลบ มันแสบมากกกกกกกก แต่นี่กลั้นยาที่จมูกไว้ด้วยถึงกับน้ำตาซึม แล้วพี่พยาบาลก็บอก “จะให้ดมยาสลบแล้วนะคะ “ เท่านั้นแหละ ก็ครอบยาสลบมาเลย ถึงกับสำลักเพราะยังไม่ทันได้ซูดยาที่ใส่ในจมูกเข้าไป เอาละหลังซูดเข้าไปแล้วดมยาอีกรอบ คำสุดท้ายที่ได้ยินคือ พี่ๆพยาบาล 3 คนบอก ฝันดีน๊าาาาาาาาาาา 55555555 เสียงสุดท้ายก่อนสลบ
พอรู้สึกตัวแต่ยังรู้สึกลืมตาไม่ขึ้น ก็ถามออกไปว่าผ่าออกรึยังคะ ได้ยินเสียงตัวเองแล้วถึงกับตกใจ เสียงแปลกมาก เหมือนมีก้อนอะไรในคอ พี่พยาบาลเดินมาใกล้ๆแล้วบอกว่า ผ่าออกทั้งสองแล้วนะคะ ปวดไหม เราก็น้ำตาไหลออกมา ไม่รู้ทำไม พี่พยาบาลเลยฉีดยาแก้ปวดเข้าสายน้ำเกลือให้ แล้วก็หลับๆตื่นๆไปอีก สักพัก พอ บ่าย 4 กว่าๆ ก็ได้กลับห้องพัก วัดไข้ก็ไม่มีไข้ พอพูดออกเสียงได้ตอนพยาบาลถามชื่อ แต่ไม่ถนัด กลืนน้ำลายเหมือนมีช่องลมในคอ อาการเหมือนกลืนน้ำไม่ลง น้ำลายเหนียวขึ้นได้ทานน้ำหล่อฮังก่วย กับน้ำเขียว เย็นๆ อย่างละแก้ว กับนมจืด 1 กล่อง
ช่วงเย็นก็มีเพื่อนมาเยี่ยมก็คุยได้บ้างอยู่ สงสัยเพราะฤทธิ์ยาแก้ปวดยังมีอยู่เลยไม่รู้สึกปวดเท่าไหร่
คืนแรกหลังผ่า นอนไม่หลับเลย หลับๆตื่นๆ พยาบาลเดินตรวจไข้ทั้งคืน ก็ไม่มีไข้ เราก็ฉี่บ่อยมาก เกือบทุกชมได้เลย และฉี่เยอะ นอนกรนเฉยเลย ตื่นมาก็ได้ยินเสียงกรนตัวเอง น้ำลายเหนียวขึ้นๆกลืนก็ไม่ลง พยายามนอนไปทั้งอย่างนั้น แต่ก็ไม่หลับ ตี 4 กว่าๆ ตื่นมาเห็นถุงน้ำเกลือจะหมด ก็ต้องลุกจากเตียงมาเปิดประตูเรียกพยาบาล พยายามเปล่งเสียงบอก น้ำเกลือหมด 555 รู้สึกเหมือนเด็กหัดพูดเลยคะ มีให้ยาซ่าเชื้อผ่านสายน้ำเกลือ อยากจะถามว่า ค่อยๆกดได้ไหมคะ พยาบาลรีบไปไหน กดอัดพรวดเดียว แสบเส้นมากกกกกกกก น้ำตานี้ไหลเลย
เช้าวันต่อมา เรียกว่าแทบไม่ได้นอน แล้วก็ได้อาหาร เป็น น้ำเขียว 2 แก้ว กับน้ำหล่อฮังก้วย 1 แก้ว งดน้ำแดง สงสัยกลัวคิดว่าเลือด แล้วก็ตรวจไข้เรื่อยๆจนเที่ยง ก็ได้นั่งรถเข็นไปหาหมอให้ดูในคอหลังผ่า
หมอตรวจดูแล้ว ทุกอย่างโอเค เห็นว่าเรากินได้ ก็บอกให้กลับบ้านได้เลย รู้สึกงงๆ อ้าวเสร็จแล้วหรอ พอกลับมาที่ห้องพัก พี่พยาบาลก็บอกให้อยู่ต่อถึงเย็นได้ไหม เพราะยังไม่ได้ให้ลองทานไอศครีมเลย กลัวว่าจะมีเลือดออก เราก็โอเค สักพักก็มีไอติมวอลวนิลา มา 1 ถ้วย กับน้ำเขียว คอก็เหนียวกินไปกลืนไม่ลงไป ปวดไปด้วย เลยขอยาแก้ปวด แต่ได้เป็นยาแก้ปวดแบบเด็กมา รสส้ม ก็จิบๆแล้วก็พยายามกินน้ำไปด้วย กินไอศครีมไปด้วย ก็มีแอบสำลัก แต่ต้องกลั้นไว้
แล้วก็นอนกลิ้งไปกลิ้งมาดูซีรี่ หลับไปกรนไป ที่กรนเพราะคอน่าจะบวม บวกกับน้ำลายเรามันเหนียวมาก ไม่ได้คายทิ้งเลย เราก็พยายามบอกพยาบาลนะว่าเหนียวคอ เค้าคงฟังไม่รู้เรื่องเลยไม่สนใจ
เวลา5 โมงก็เสริฟ ไอศครีมอีกรอบ ครั้งนี้ปวด กินยากกว่าเดิม บอกเลยว่ายาแก้ปวดเด็กไม่สามารถช่วยอะไรเราได้ เพราะอย่างที่บอกปกติเรากินยาแก้ปวดแรง แค่ยาแก้ปวดเด็กก็คงเป็นแค่น้ำเชื่อม
รอเวลาจะกลับบ้าน รอทำเอกสารถึง ทุ่มนึงก็ได้กลับพยาบาลมาเอาสายน้ำเกลืออกให้ เราก็บอก เบาๆนะคะ ตอนเอาแผ่นกาวแปะออกอะเบา แต่เค้าลืมดูว่าสายมันห้อยลงพื้น สายเลยดีดงั้นขึ้นมรมือเราอยู่เลย เพื่อนเราเห็นนี่ถึงกับหน้าซีด แต่ดีที่เราไม่รู้สึกอะไร พยาบาลก็ตกใจรีบเอาสายขึ้นมาเอาสายน่ช้ำเกลือออก เลือดก็ไหล แปะผ้าก๊อต เราก็รีบกลับ ไม่ทันได้กดผ้าก๊อด ใส่เสื้อเอามือลงต่ำ เลือดนี่พุ่งออกมาเลยจ้าา ไหลลงพื้นหยุดแหม่ะๆๆ เลือดชุ่มเต็มผ้าก๊อต เอาเป็นว่าใครที่ได้ถอดสายแล้ว ควรกดไว้ก่อน เอามือไว้สูงๆนะจ๊ะ ไม่งั้นได้สยองแบบเราแน่ๆ เลือดสาดเต็มเตียง
ได้ยามา 2 อย่าง คือ AMK แบบน้ำ ต้องมาเติมน้ำในขวด คือยาฆ่าเชื้อ (ปกติเราทานแบบเม็ดตอนเป็นทอนซิล แต่เหมือนจะดื้อยาไปแล้ว) แล้วก็ได้ยาแก้ปวด รสส้มของเด็กมาสองขวด ไม่น่าช่วยอะไร ทานหลังอาหารอย่างละ 2 ช้อนชา นี่ไม่รู้ กระดกไป 2 ช้อนโต๊ะ 5555 น่าจะเบลอ
คืนที่สอง กลับมานอนที่ห้องตัวเอง ลองชงโจ๊กคัพทานก็ทานไม่ได้ ไม่รู้รสชาติอะไรเลย นอนไปน้ำลายเหนียวไป หายใจไม่สะดวก เลยลองบ้วนล้ำลายทิ้งรู้สึกดีขั้น แต่ก็มีตลอดคืนรู้สึกตัวทีก็ค่อยๆบ้วนทิ้งที กินยาแก้ปวดเด็กก็ไม่ช่วย โอเคคงได้แค่นี้ ก็เป็นแบบนี้ทั้งคืน
ตอนเช้ามาก็พยายามกินโจ๊กอีกที สั่งนมเย็นมากินก็กินลำบากเจ็บคอเวลากลืน เป็นแบบนี้กินได้แค่น้ำเย็นพอจิบกลืนได้บ้างไม่ได้บ้าง เพื่อนเรียกกินมะม่วงน้ำปลาหวานก็กินไม่ได้ เฮ้อออทรมาน คิดหาวิธีให้หายปวดคือ เอาละ ลอง Gofen ยาแก้ปวดแบบเจล ที่ฟ้าๆ เจาะเอาแต่เจลด้านในผสมกับยาแก้ปวดรสส้มดีกว่า ว่าแล้วก็ไปซื้อ เอามาผสม พอผสมเรียบร้อย กินเข้าไปได้นิดหน่อยถึงกับแสบในคอทั้นที สำลัก อ้วก น้ำตาไหล แต่ก็กลับมาทำใจเอาน้ำผสมแล้วพยายามกลืน ก็รู้สึกลิ้นชาๆ ไม่เกิน20 นาที รู้สึกอาการเจ็บคอดีขึ้น ไม่ค่อยเจ็บมาเวลากลืน แต่กินโจ๊กก็ไม่รู้รส คืนนี้ก็นอนไปตื่นไป มาบ้วนน้ำลายเป็นระยะๆตอนรู้สึกตัว แต่ไม่ค่อยกรนแบบวันก่อน เจ็บน้อยกว่าเมื่อวานหน่อย
เช้าวันนี้ตื่นขึ้นเราลองจะพยายามกินเจล Goffen แก้ปวดเพรียวๆดู คิดว่าจะหวาน แต่เปล่าเลย แค่แตะไปที่ลิ้นก็แสบร้อนไปทั้งลิ้น เราเลยคิดได้ว่า เมื่อวานน่าจะแสบยานี้แน่ๆ ถึงกับทิ้งไปเลย ยามันแรงมากนั้นเอง ส่องคอดูก็มีผ่าขาวแผ่นหนาๆเต็มช่องคอไปหมด ไปเปิดอ่านดูเค้าบอกเป็นปกติทั่วไปในการรักกษาตัวของร่างกาย อาการผ่าขาวจะหายไป ภายใน 5-10 วัน เครเปลี่ยนวิธี ไป 7-11 ซื้อ ไทรินอล กับโกโก้เย็น กับโจ๊กมากิน เอาไทลินอล ผสมโกโก้กิน อาการปวดก็ดีขึ้น กินโจ๊กได้บ้าง แต่รับรู้รสชาติโจ๊กได้น้อยตามเคย แต่ดูดโกโก้เย็นปั่นได้หมดแก้วเลย แล[i