สวัสดีครับผมอยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์การทำงานที่แรกในชีวิตของเด็กจบใหม่ของผมเองว่ารู้สึกยังไง
เริ่มจากผมจบมาได้ประมาณ3เกือบ4เดือนก็เริ่มหางานทำเพราะที่บ้านมีหนี้สินประมาณหนึ่งไม่เยอะมากแล้วผมก็เจอว่าโรงงานหนึ่งที่มีกิจการมากมายในทั้งทั้งอุตสาหกรรม, สะดวกซื้ออะไรพวกนี้เขาเปิดรับพนักงานไลน์ผลิต ผมก็เลยอยากลองทำ ผมจบมาจากสาขาที่เกี่ยวกับการผลิตแต่ไม่ใช่วิศวกรรมนะครับจบแล้วก็อยากทำงานตรงสายเลยสมัครไปแต่HRที่โทรมาให้ไปสัมภาษณ์ตำแหน่งธุรการ... แทนไอ้เราก็คิดว่าอย่างน้องงานก็ไม่นักหรอกมั่งเพราะพี่HRบอกแต่ทำเอกสารนิดหน่อยไม่กี่อย่าง เราก็สัมภาษณ์ผ่าน, แล้วก็สอบอีกรอบนึกปรากฏว่าคะแนนเราน้อยเงินเดือนที่ควรจะได้ของป.ตรีเลยหลือแค่ปวส.ก็ไม่อะไรเพราะมันคือผลสิบของเราเราก็โอเคมาทำงานที่นี้ไม่ไกลบ้านเกินไปแค่คนละอำเภอมาหาห้องพักเสร็จเริ่มทำงานวันนี้พี่ๆในแผนกดีมากเลี้ยงนั้นเลี้ยงนี้สอนงานแต่ด้วยเป็นคนไม่ค่อยพูดเลยจะตอบเฉพาะที่ถาม งานวันนี้พี่เจ้าให้งานเอกสารที่เราต้องทำมีอะไรบ้างทำยังไงเข้าระบบยังไงเอกสารตัวเดียวกันบ้างอัรปริ๊นแบบนี้บ้างอันต้องปริ๊น2แบบทำผิดก็แก้ยากบ้างอันอาจแก้ไม่ได้เลย บอกเลยว่าวันแรกเคลียดมากไม่มีอะไรเข้าสมองเลยแถมกลับห้องมายังปวดหลังอีก วันต่อไปก็ทำเหมือนเดิมแต่ว่าเราไม่ค่อยชอบงานเอกสารเลยจะเข้าใจช้าจุดเล็กจุดน้อยก็ข้ามไปบ้างผิดนั้นผิดนี้แต่ที่ผิดก็นิดๆหน่อยๆไม่ร้ายแรงแต่ที่เราเคลียดก็เพราะว่าเอกสารแต่ละอันเราต้องรับมาจากคนอื่นแล้วค่อยทำทำเสร็จแจ้งคนอื่นต่อพออีดคนทำเสร็จเราก็มาปริ๊นจากนั้นก็เอามาแยกหมวดแล้วก็ส่งต่อไปอีกนี้คือหนึ่งสเต็ปของเอกสาร1ตัวแต่ละวันมี6-8ตัวเอกสารแต่ละอันไม่ใช่ใบ2ใบมันมีหลัก30ใบอัพอัพ ทั้งวันโทรศัพท์ไม่ได้แตะเลย ที่จริงเราคิดว่าวันเวลาที่ต้องทำให้คล่องคือใน2อาทิตย์เพราะด้วยรายละเอียดของไม่มีทางที่เราจะทำได้ใน1อาทิตย์แน่ๆแต่อยู่ๆก็คือเราต้องทำให้ได้ใน1อาทิตย์เท่านั้นเพราะอาทิตย์หน้าจะมีเอกสารที่โรงงานในเคลือเดียวกันเนี้ยทำไม่ทันแผนกเราต้องเอามารับผิดชอบแทนซึ่งเยอะมากจนเราต้องทำโอทีและแผนกต้องรับคนเพิ่มเข้ามาทำกะดึกมันก็ดีที่มีโอทีแต่ตัวงานเองก็เยอะมากขึ้นแบบมากๆกลับห้องมาปวดหลังแล้วดิ่งนิดๆ คิดว่าอยากจะลาออกให้รู้แล้วรู้รอดแต่ก็ไม่กล้าถ้าทำไปเกินเวลาผ่านโปรที่119วันถึงตอนนั้นเราเองก็คงทำได้ดีกว่านี้แต่นะปัจจุบันมันเกินกำลังของเรา เลือกงานแรกในชีวิตไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่านี้คืองานที่เราอยากจะทำต่อไปอีกนานแต่เป็นงานที่เรารู้สึกว่าถ้ามีโอกาสอื่นเข้ามาเราจะไม่ลังเลที่จะไปเลยแม้แต่น้อย
ชีวิตการทำงานที่แรกหลังเรียนจบ(1อาทิตย์แรก)
เริ่มจากผมจบมาได้ประมาณ3เกือบ4เดือนก็เริ่มหางานทำเพราะที่บ้านมีหนี้สินประมาณหนึ่งไม่เยอะมากแล้วผมก็เจอว่าโรงงานหนึ่งที่มีกิจการมากมายในทั้งทั้งอุตสาหกรรม, สะดวกซื้ออะไรพวกนี้เขาเปิดรับพนักงานไลน์ผลิต ผมก็เลยอยากลองทำ ผมจบมาจากสาขาที่เกี่ยวกับการผลิตแต่ไม่ใช่วิศวกรรมนะครับจบแล้วก็อยากทำงานตรงสายเลยสมัครไปแต่HRที่โทรมาให้ไปสัมภาษณ์ตำแหน่งธุรการ... แทนไอ้เราก็คิดว่าอย่างน้องงานก็ไม่นักหรอกมั่งเพราะพี่HRบอกแต่ทำเอกสารนิดหน่อยไม่กี่อย่าง เราก็สัมภาษณ์ผ่าน, แล้วก็สอบอีกรอบนึกปรากฏว่าคะแนนเราน้อยเงินเดือนที่ควรจะได้ของป.ตรีเลยหลือแค่ปวส.ก็ไม่อะไรเพราะมันคือผลสิบของเราเราก็โอเคมาทำงานที่นี้ไม่ไกลบ้านเกินไปแค่คนละอำเภอมาหาห้องพักเสร็จเริ่มทำงานวันนี้พี่ๆในแผนกดีมากเลี้ยงนั้นเลี้ยงนี้สอนงานแต่ด้วยเป็นคนไม่ค่อยพูดเลยจะตอบเฉพาะที่ถาม งานวันนี้พี่เจ้าให้งานเอกสารที่เราต้องทำมีอะไรบ้างทำยังไงเข้าระบบยังไงเอกสารตัวเดียวกันบ้างอัรปริ๊นแบบนี้บ้างอันต้องปริ๊น2แบบทำผิดก็แก้ยากบ้างอันอาจแก้ไม่ได้เลย บอกเลยว่าวันแรกเคลียดมากไม่มีอะไรเข้าสมองเลยแถมกลับห้องมายังปวดหลังอีก วันต่อไปก็ทำเหมือนเดิมแต่ว่าเราไม่ค่อยชอบงานเอกสารเลยจะเข้าใจช้าจุดเล็กจุดน้อยก็ข้ามไปบ้างผิดนั้นผิดนี้แต่ที่ผิดก็นิดๆหน่อยๆไม่ร้ายแรงแต่ที่เราเคลียดก็เพราะว่าเอกสารแต่ละอันเราต้องรับมาจากคนอื่นแล้วค่อยทำทำเสร็จแจ้งคนอื่นต่อพออีดคนทำเสร็จเราก็มาปริ๊นจากนั้นก็เอามาแยกหมวดแล้วก็ส่งต่อไปอีกนี้คือหนึ่งสเต็ปของเอกสาร1ตัวแต่ละวันมี6-8ตัวเอกสารแต่ละอันไม่ใช่ใบ2ใบมันมีหลัก30ใบอัพอัพ ทั้งวันโทรศัพท์ไม่ได้แตะเลย ที่จริงเราคิดว่าวันเวลาที่ต้องทำให้คล่องคือใน2อาทิตย์เพราะด้วยรายละเอียดของไม่มีทางที่เราจะทำได้ใน1อาทิตย์แน่ๆแต่อยู่ๆก็คือเราต้องทำให้ได้ใน1อาทิตย์เท่านั้นเพราะอาทิตย์หน้าจะมีเอกสารที่โรงงานในเคลือเดียวกันเนี้ยทำไม่ทันแผนกเราต้องเอามารับผิดชอบแทนซึ่งเยอะมากจนเราต้องทำโอทีและแผนกต้องรับคนเพิ่มเข้ามาทำกะดึกมันก็ดีที่มีโอทีแต่ตัวงานเองก็เยอะมากขึ้นแบบมากๆกลับห้องมาปวดหลังแล้วดิ่งนิดๆ คิดว่าอยากจะลาออกให้รู้แล้วรู้รอดแต่ก็ไม่กล้าถ้าทำไปเกินเวลาผ่านโปรที่119วันถึงตอนนั้นเราเองก็คงทำได้ดีกว่านี้แต่นะปัจจุบันมันเกินกำลังของเรา เลือกงานแรกในชีวิตไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่านี้คืองานที่เราอยากจะทำต่อไปอีกนานแต่เป็นงานที่เรารู้สึกว่าถ้ามีโอกาสอื่นเข้ามาเราจะไม่ลังเลที่จะไปเลยแม้แต่น้อย