ครอบครัวที่เห็นแก่เงิน เห็นแก่ตัว เห็นแก่เงินจนมองไม่เห็นความดีในสิ่งที่ทำ

กระทู้คำถาม
หัวข้ออาจจะดูรุนแรงหน่อยนะคะ แต่มันคือความจริง! ที่เกิดขึ้นขอพื้นที่นี้ระบาย ความในใจ พูดกับใครไม่ได้ ยิ่งในครอบครัวยิ่งไม่ใช่เลย อย่าเรียกง่าครอบครัวเลย ให้เรียกผลประโยชน์ทางธุรกิจดีกว่า

ก่อนอื่น เราชื่อ แก้ว ของใช้นามสมมตินะคะ ครอบครัวเรามี พ่อ แม่ น้องชาย และแก้ว เอง พ่อแม่ แก้วแยกทาง กันตั้งแต่แก้ว อยู่ ม.3 ไปกันคนทิศคนละทาง บ้านที่อยู่ก้ต้องขายไป  น้องไปอยู่กับย่า แก้วไปอยู่กับน้า ทีแรกเราก้อยู้กับย่า ( แม่เค้าฝากให้ย่าดูแลเราด้วย ) แต่ด้วยความที่ย่าไม่ชอบแม่เรา เลยผลักให้เราไปอยู่ที่อื่น เราเลยต้องไปอยู่กับน้า จน ถึง มอ ปลาย และแยกออกไปอยู่ มหาลัย 

ตอน มหาลัยเรามีความสุขมาก ไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน ไม่ต้องเจ้บปวดกับทุกๆอย่างที่ ผ่านมา เราตั้งใจว่าจะต้องสร้างฐานะขึ้นมาใหม่ให้ได้ ตั้งใจเรียน จนจบ จนออกมาทำงาน หาเงิน ส่งตัวเองจนจบ ปโท และเริ่มทำงานในกรุงเทพ ทำทุกอย่าง ทั้งงานกลางวันและกลางคืน เหนื่อยมากกก วันๆแถบไม่ได้นอน ถึงขนาดลูกค้าเอายาให้เล่น ตอนนั้นไม่เคยเล่น ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร ปรากฎว่าแพ้ หนักจน ล้ม หัวฟาดพื้น นอนรพ ออกมาจำไรไม่ได้ ไม่กล้าบอกที่บ้าน ไม่กล้าบอกใครว่าเป็นอะไร บอกแต่หมอที่ทำการรักษา อย่างเดียว ทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้เงิน รอดตายมาได้ ทีว่าโคตรรโชคดีมากก 

ทำทุกอย่างถึงขั้นไหนอ่ะเหรอ ก้ทุกอย่างที่เป็นเงิน ทำอย่างว่า ขายบริการก้ทำ แต่ป้องกัน จนวันหนึ่งเราท้อง ประจำเดือนไม่มาไปตรวจรพ ท้องได้3 เดือน คิดอยู่นานว่าจะทำอย่างไร กำลังสร้างฐานะ สร้างทุกอย่าง แต่มาพลาดโดยไม่ตั้งใจ ตอนนั้นคิดว่าจะเอาออก หรือจะทำไม่ทำ สุดท้ายสั่งยามากิน เด็กออก เสียใจมาทุกวันนี้ แต่ตอนนั้นเราอยากทำฝันให้เป็นจริง เราอยากมีบ้านให้แม่ อยากรับน้องมาอยู่ด้วย ขอโทษคนที่อ่านนะจุดนี้ มันอาจเป็นความคิดโง่ๆของคนโง่ๆแบบเรา แต่เราต้องเลือกทางเดิน สิ่งที่สูญเสียไป งั้นก้อย่าให้เสียเปล่า 

สุดท้ายเราก้เก็บเงินซื้อบ้าน ซื้อรถให้แม่ ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ มีแต่คนว่าเราเก่ง ที่สร้างฐานะได้ แต่เรามองย้อนไป เราไม่ได้สุขหรืออะไรเลย ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ที่บ้านฟัง แค่บอกว่าทำงาน หาเงิน ไม่มีใครรู้ว่าเราต้องเสียอะไรไปบ้าง ไม่มีเลย 

จนเราทำงานเก็บเงินไปซื้อที่ดิน ขายบ้านหลังที่เราซื้อ ไปสร้างบ้านอีกหลัง และคุยว่าจะเปิดร้านทำกิจการในที่ดินด้วย และนี่คือจุดเริ่มต้นของความหายนะ ทุกๆๆอย่างๆ เมื่อทำกิจการมีเงินมากขึ้น ชีวิตทุกคนดีขึ้น ทุกคนต้องการมากกว่าเดิม แต่เราก้ยังหาเงินเหมือนเดิม มีช่วงโควิดตอนหนึ่ง เรารับพ่อมาช่วงงานที่บ้าน ปกติ ให้เงินเดือนแก 10,000 เราขอว่า ขอลดเหลือ 7,000 ได้ไหม รายจ่ายเยอะมาก ลูกค้ามาที่ร้านก้น้อย เค้าโกดเราเป็นฟืนเป็นไฟ ไม่ลดศอกลดวา บอกว่า ปัญหาของเราเอง ทำไมเค้าต้องลากไป เค้าจะเอาเท่าเดิม เราแบบ.... ตอนนั้นน้ำตาตกใน บอกเค้าว่าเค้าคิดแค่เพียง แค่นั้นจริงๆ จนให้แม่ไปคุย เค้าถึงยอม 

ส่วนแม่เรา ก้เหมือนกัน จะบอกว่าไม่เคยเห็นเราเป็นลูกก้ได้ ไม่เคยถามนะ ว่ากินข้าวหรือยัง หรืออะไร เราจำได้ว่าตอนเราเป็นโควิด ออกไปข้างนอก ยังซื้อข้าวเข้ามาให้พ่อกะแม่กินเลย เวลาเค้าไม่สบายนะ เราก้กายาดีๆมาให้ กิน ยาพวกยานอก ยาสมุนไพร แต่กับเราเวลาเราป่วย หมายังไม่มองเลย  จริงๆมันมีหลายเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่นี้หรอก 

ยิ่งกับน้องเรา ไม่รู้ทำไม ยกตัวอย่าง สมมติเราเคยให้เงินจ้างกรอกน้ำ 500 พอดียอดมันตก ลงมา คนสักออดเดอรน้อยลง เราเลยให้400 ด่าเรา แบบเสียๆหายๆเช่น ไอ้ ยิ้ม เมงมาลดเงินกูทำไม เดี้ยวเมงกลับมากูจะด่าให้ไอ้เหร้ย เราบอกก้ยอดมันตก นี่กิจการในครอบครัวอ่ะ นี่ก้ต้องหาเงินมาหมุนในครอบครัวอีก นี่ยังให้ไม่ใช่ไม่ให้ คนอื่นที่มาช่วยได้แค่ 350 นี่ให้มากกว่าคนอื่นอีก (หมายถึงคนที่จ่งมาช่วยงาน) ด่ากลับแบบเสียๆหายๆ  อีกอย่างมันไม่เคยเห็นเราเป็นพี่หรอก มันชอบด่า ขึ้นกูขึ้นเมง นี่ไม่เคยขึ้นกูเมงกับน้องเลย 

อีกอย่าง ย่าเราไปก่อหนี้นอกระบบอีก เอาตึกที่อยู่ที่บ้านแกไปจำนอง แก ไม่ส่งต้นส่งดอก กลายเป็นหนี้ 2 ล้าน !! จะบอกว่าเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องที่เค้าไปเอาหนี้มา ไม่เคยได้จับเงินหรือไปขอแกใช้  เราก้อ่ะหาเงินใช้หนี้ให้อีก แต่เราก้ชั่งใจว่า ถ้าไถ่ถอนมาเป็นชื่อแกอีก เดี้ยวเราก้ต้องไปตามใช้หนี้อีก เราจะเอามาเป็นชื่อเรา แต่เค้าเคยพูดว่าเค้าจะยกบ้านให้พ่อ ตอนที่พ่อทะเลาะกะเราเรื่องเงิน เค้าบอกว่าเราให้เงินเค้าน้อย โทดนะ แกชอบกินข้าวข้างนอก ไม่ยอมทำข้าวกินในบ้าน เล่นหวย สูบบุหรี่ มันจะไม่เหลือได้ไง แล้วความผิดเราเหรอ  คือเราชีวิตเรา ให้ๆๆอย่างเดียว ไม่ต้องมีเงินเก็บบ้างเลย เหรอ ให้ทั้ง พ่อ แม่ น้อง ย่าอีก เค้าด่าเราว่า ระวังเวรกรรมจะตามทัน เราบอกว่าเราผิดอะไร ทำอะไรผิด รู้หรือเปล่าว่า ทุกวันนี้ หาเงินมาหมุนในร้านยังไม่พอ ต้องหาเงินไปใช้หนี้ย่า ที่เราไม่ได้ก่ออีก พ่อไม่รู้ว่า หนูผ่านอะไรมาบ้าง ต้องแลกมากะอะไรบ้างในชีวิต แม่ก้สวนมาว่า อย่ามาพูดเบยว่าทุ่มเท อ่ะ ทุกวันนี้ ไม่ได้อะไรเลยบ้านก้ชื่อเรา เราแบบ โห...! เอาจริงๆนะ แม่ เอาบ้านชื่อแม่กะน้องยังได้เลย ทุกวันก้ให้เงินไหม ค่าน้ำ ค่าไฟ ก้จ่ายให้ ค่ากิน ยันค่านำมันรถ ออกไปไหน นี่ก้ต้องเติมให้ และการที่พ่อ พูดว่าเวรกรรมจะตามทัน อ่ะ คิดใหม่นะ รู้ป่าวว่าหาเงินไปไถ่บ้าน อยากให้ย่ากะพ่อ อยู่ที่นั่น ไม่ได้เอาเวินไปเที่ยวเล่น ซื้อของ ทุกวันขับรถก้คันเก่าๆ เอาเงินไปทำอย่างอื่นก้ได้ ไปซื้อรถใหม่ก้ได้ ทำไมอ่ะ ไม่เคยเห็นสิ่งที่ทำกันเลยเหรอ ทุกอย่างมองเป้นธุรกิจหมด 

บางทีเราก้อยากจะหายๆไปนะ ถ้าเราไม่ดีพอ ก้อยากไปยืนเลยจุดนั้น จุดที่มันไม่ใช่ save zone จุดที่ใครๆคิดว่า กลับมาบ้านแล้วคือ save zone ไม่ใช่นะ การที่คนเรานะ ทุ่มเทไป ยอมเสียอะไรไปเพื่อแลกกับอะไร เราจะบอกว่า ให้เราทำเพื่อตัวเอง รักตัวเอง ก้อนจะรักคนอื่น สุดท้ายสิ่งที่ทำ มันไม่ได้มีค่าในสายตาใคร ไม่มีใครรู้ว่า เราผ่านอะไรมาบ้าง เอาจริงๆนะ เราเหนื่อยนะ เคยจะคิดสั้นหลายๆครั้งนะ มีวิธีที่ตายเลยไหม บางทีการตาย อาจจะดีกว่ามีชีวิตอยู่ก้ได้นะ ..... ขอบคุณทุกคนที่เข้ามานะ เราอาจจะไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว เราขอบคุณทุกคนที่เข้าใจเรานะ เราแค่อยากระบาย  ถ้าเราไม่อยู่แล้ว เราขอทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เราบ้างนะ ชาติหน้า เราไม่อยากเกิด อีกแล้วขอชาตินี้ ชาติเดียว ส่วนที่ผ่านมา เราว่า เราชดใช้ให้ทุกๆคนหมดแล้ว จริงๆ ขอโทษที่ ยังดีไม่พอ ขอโทษที่ เป็นลูกที่ดีไม่ได้ ขอโทษที่เป็นพี่ที่แย่ ขอโทษที่เกิดมาทำได้แค่นี้.... ขอโทษ อโหสิกรรม ด้วยนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่