คือต้องบอกอย่างนี้ก่อนนะเราเป็น
Introvert คือ บุคลิกแบบเก็บตัว คนที่มีบุคลิกเช่นนี้มักจมอยู่กับความคิดและความรู้สึกของตัวเอง รวมถึงรู้สึกสบายใจเมื่อได้อยู่ตามลำพัง หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่โน้มน้าวให้เป็น Extrovert หรือบุคลิกที่ชอบพบปะผู้คน กล้าแสดงออก และเป็นผู้นำ อาจทำให้คนแบบ Introvert รู้สึกเครียดจนส่งผลต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ
คือมันมีหลายปัจจัยมากที่เราเป็นแบบนี้ เริ่มจากการกลั่นแกล้งที่รุนแรงที่โรงโรงเรียนตอนนั้นเราอยู่ป.6 การกลั่นแกล้งก็เริ่มมาจากเราไปเล่นกับเพื่อน
ผู้ชายกลุ่มอื่น ถ้าถามว่าเรามีเพื่อนไหม มี แต่ว่าตอนนั้นตอนกลางวันเราหลงกับกลุ่มเพื่อนแล้วเพื่อนอีกกลุ่มมาเห็นกลุ่มนั้นเลยชวนเราไปเล่นด้วยกัน ความรุนแรงมันเริ่มจากตรงนั้นเราพยายามอธิบายแต่!
มันไม่มีใครฟัง แล้วตอนนั้นไม่เข้าใจนะว่าเราทำผิดไรความรุนแรงมันก็เริ่มขึ้นวันที่2โดนทำร้ายร่างกาย
ครูประจำชั้นรู้นะแต่ไม่ใช้เผลอๆโดนใส่ร้ายว่าทำฝั่งนั้นก่อนโดนทำร้ายร่างกายขนาดถึงที่ว่ามีแผล
เลือดออกกับบ้านแต่ที่บ้านไม่สนใจพ่อเราก็เอาแต่พูดเรื่องเรียนเรื่องสอบ เรื่องนี้ก็กดดันมากพอแล้วมเพราะเราเนี่ยเป็นคนหนึ่งเลยที่เรียนไม่เก่ง
กลับเข้าเรื่องดีกว่า
หลังจากทะเลาะกันเราไม่คุยกับเพื่อนกลุ่มนั้นอีกเลยไม่คุยจนมีสอบ ปัจฉิมนิเทศ จนเรียนจบป.6 เรียนจบแยกย้ายเราขอที่บ้านไปเรียนที่อื่นเรียนนอกระบบนั้นแหละ ก.ศ.น ตอนนั้นที่ขอก็ทะเลาะกันแต่สุดท้ายก็ได้เรียน ตอนนั้นเราหวังแค่ว่าถ้าเราเปลี่ยนที่เรียนมันก็คงจะดีขึ้นเองแต่มันไม่ใช่ไง
(ปัจจุบัน2024เราจบม.6แล้ว)
เรากลายเป็นคนIntrovert ตั้งแต่ตอนนั้นเลยเข้าไปเรียนวันแรกก้มหน้าก้มตาไม่เข้าหาเพื่อนจากเมื่อก่อน เป็นเด็กเข้าสังคมตอนนั้นคือไม่เอาอะไรเลยจนทุกวันนี้ไม่มีเพื่อนไม่กล้าเข้าสังคม วิตก ปี2023วันสงกรานต์วันสุดท้ายพี่สาวเราพาไปเล่นน้ำ(ไม่ใช่พี่แท้ๆนะ)ไปถึงจอดรถตรงนั้นคนมันเยอะพี่เราก็จับมือพาเดินอาการออกละ ก้มหน้า วิตกกังกล ใจสั่น พี่เราถามว่าเป็นอะไรมั้ยเราตอบ ไม่ พี่เห็นเราอาการไม่ดีเลยพากลับ และปี2024 ต้องบอกตรงนี้ก่อนนะเราเป็นคนที่ไม่ถูกกับคนในครอบครัวเลยแม่ทิ้งเราไปพ่อก็เลี้ยงเรา เป็นพ่อที่เก่งคนหนึ่งเลย ตอนนั้นพ่อเราค่อนข้างเอาเรื่องพอตัวนั้นแหละมีเด็กก็คือแม่เรา เอาไปเป็นว่าไม่ได้ตั้งใจเกิดมามันพลาดพ่อเรามีภรรยาอยู่แล้วมีลูกอยู่แล้วก็คือพี่ ซึ่งเรากับฝั่งนั้นไม่ถูกกันโดยเฉพาะพี่สาวไม่ถูกกันสุดพ่อเราเลยเอาเรามาอยู่บ้านย่า ย่าเราก็เสีย17-18มั้งวันนี้22ก็จัดงานศพปกตินั้นแหละ
คือต้องบอกก่อนนะว่าเราก็ไปช้วยงานนะเสริฟน้ำอาหารให้แขกญาติพี่น้องไป2-3วันแต่วันนี้เราไม่ได้ไป พ่อเราLINEมาหาว่า กินข้าวยัง เอาอะไรมั้ย
เรา : ยังไม่กิน ซื้อข้าวมาให้หน่อย พ่อเราก็อยู่วัดช้วยงานเผลอๆเราไปก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดีภาระป่าวๆวันนี้เราเลยตัดสินใจอยู่บ้าน ทีนี้พ่อเราน่าจะมาไม่ได้ติดงานฝั่งนั้นอยู่ พี่เราเลยเข้ามาแทน คือเราไม่คิดว่าเขาจะพูดมันออกมาไง ต้องบอกก่อนนะว่าเราเป็นคนที่อารมณ์อ่อนไหวมากๆๆๆๆๆๆๆๆแค่โดนด่าหรือดุน้ำตามันก็มาแล้วไง แล้วเราสตั๊นท์ไปเลยอ่ะไม่คิดว่าพี่เขาจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา ขับรถมาถึงถามเราประมาณว่า ทำไมวันนี้ไม่ไปช่วยงานศพ อยู่บ้านทำไม เราก็ตอบไปประมาณว่าก็ไปช่วยแล้วแต่เป็นเมื่อวาน พี่เราพูดประมาณว่า คนอื่นเขาออกไปช่วยงานกันหมดนี่นอนอยู่บ้าน แล้วคำต่อไปนี้เรารู้สึกไม่เคยรู้สึกว่านั้นใช้สมองหรืออะไรคิดก่อนพูดนี่ วิเคราะห์มาดียังคือเราอ่อนไหวกับคำนี้มาก ได้ยินกลับเข้าบ้านมาน้ำตาแตกเลย คำประมาณว่านี่ไม่รู้จักคิดไม่รู้จักออกไปช่วยงานเขาเลยนะย่าเลี้ยงมาทำตัวอย่างงี้ คือมันไม่ได้อ่ะใจจริงอยากหันกลับไปสวนนะถ้านี้ไม่คิดว่าเป็นพี่น้องกันนะเข้าบ้านมาน้ำตาแตกเลย คือเราคิดอย่างนี้นะ เขาไม่ได้มานั่งดูแลย่าแบบเรา เหนื่อยนะดูแลคนแก่อ่ะแต่ก็ทำไป
2.เขาไม่ได้รู้จักเราดีไม่ได้มาใช้ชีวิตกับเราแต่เข้าตัดสินไปแล้วอ่ะ
- อีกเรื่องหนึ่งคือ ป้า เรา
เราเนี่ยมาอยู่บ้านย่าเราก็ไม่ได้อยู่ฟรีนะพ่อเราโอนเงินค่าน้ำไฟอาหารการกินชีวิตประจำวันมาให้เราใช้
ก็ปกตินี่แหละแต่เรื่องมันมีอยู่ว่าลูกของป้าเราติดหนี้โดนยึดรถ หนี้ก็ยังไม่หมดนะตอนมีผัวเขาแทบจะไม่ทำงานที่บ้านผัวเขามีปัญหาหนักล้มละลายลูกป้าเราขอห่างเลยพอเลิกกับเขาไม่มีงาน งานการไม่ทำมีลูก2แต่ตัวเองนนำห้องแอร์ป้าเราจ่ายให้ด้วยนะค่าไฟบ้านนั้นพ่อเราซื้อรถให้ป้าเราก็มาขอให้เราเอารถให้ลูกเขาใช้ก่อนเพราะเราไม่มีใบขับขี่เราก็ให้ใช้แต่เอาไปใช้แล้วรถเราเกือบพังรถเป็นลอยคือเยอะอ่ะเราทำอะไรไม่ได้ด้วย ส่วนป้าเราติดหนี้ช่วยญาติพี่น้องที่ติดหนี้ลูกป้าเราคนนี้เป็นหมอขยันมากญาติพี่น้องป้าเราไม่ใช้หนี้ป้าเราเลยต้องใช้แทนพอตัวเองไม่มีปัญญาหาเงินมาพูดกับเราประมาณว่า ช่วยไปทำงานที่ผับได้ไหมหาผัวรวย เราคิดในใจเลย ว่าใช้สมองคิดจริงๆใช้มั้ย ใครเขาจะไปหาแฟนกันที่แบบนั้นกันอ่ะเขาก็คงคิดว่าเราขายกีนั้นแหละ
นี่เลยคิดว่าอายุ19หางานให้มันมั่นคงก่อนแล้วจะย้ายออกไปอยู่คนเดียวไปแล้วไม่กลับมาอีกเลย
ผิดมั้ยที่คิดแบบนี้แล้วผิดมั้ยที่จะเกลียดครอบครัวตัวเอง
ผิดไหมจะเกลียดคนในครอบครัวตัวเอง
Introvert คือ บุคลิกแบบเก็บตัว คนที่มีบุคลิกเช่นนี้มักจมอยู่กับความคิดและความรู้สึกของตัวเอง รวมถึงรู้สึกสบายใจเมื่อได้อยู่ตามลำพัง หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่โน้มน้าวให้เป็น Extrovert หรือบุคลิกที่ชอบพบปะผู้คน กล้าแสดงออก และเป็นผู้นำ อาจทำให้คนแบบ Introvert รู้สึกเครียดจนส่งผลต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ
คือมันมีหลายปัจจัยมากที่เราเป็นแบบนี้ เริ่มจากการกลั่นแกล้งที่รุนแรงที่โรงโรงเรียนตอนนั้นเราอยู่ป.6 การกลั่นแกล้งก็เริ่มมาจากเราไปเล่นกับเพื่อน
ผู้ชายกลุ่มอื่น ถ้าถามว่าเรามีเพื่อนไหม มี แต่ว่าตอนนั้นตอนกลางวันเราหลงกับกลุ่มเพื่อนแล้วเพื่อนอีกกลุ่มมาเห็นกลุ่มนั้นเลยชวนเราไปเล่นด้วยกัน ความรุนแรงมันเริ่มจากตรงนั้นเราพยายามอธิบายแต่!
มันไม่มีใครฟัง แล้วตอนนั้นไม่เข้าใจนะว่าเราทำผิดไรความรุนแรงมันก็เริ่มขึ้นวันที่2โดนทำร้ายร่างกาย
ครูประจำชั้นรู้นะแต่ไม่ใช้เผลอๆโดนใส่ร้ายว่าทำฝั่งนั้นก่อนโดนทำร้ายร่างกายขนาดถึงที่ว่ามีแผล
เลือดออกกับบ้านแต่ที่บ้านไม่สนใจพ่อเราก็เอาแต่พูดเรื่องเรียนเรื่องสอบ เรื่องนี้ก็กดดันมากพอแล้วมเพราะเราเนี่ยเป็นคนหนึ่งเลยที่เรียนไม่เก่ง
กลับเข้าเรื่องดีกว่า
หลังจากทะเลาะกันเราไม่คุยกับเพื่อนกลุ่มนั้นอีกเลยไม่คุยจนมีสอบ ปัจฉิมนิเทศ จนเรียนจบป.6 เรียนจบแยกย้ายเราขอที่บ้านไปเรียนที่อื่นเรียนนอกระบบนั้นแหละ ก.ศ.น ตอนนั้นที่ขอก็ทะเลาะกันแต่สุดท้ายก็ได้เรียน ตอนนั้นเราหวังแค่ว่าถ้าเราเปลี่ยนที่เรียนมันก็คงจะดีขึ้นเองแต่มันไม่ใช่ไง
(ปัจจุบัน2024เราจบม.6แล้ว)
เรากลายเป็นคนIntrovert ตั้งแต่ตอนนั้นเลยเข้าไปเรียนวันแรกก้มหน้าก้มตาไม่เข้าหาเพื่อนจากเมื่อก่อน เป็นเด็กเข้าสังคมตอนนั้นคือไม่เอาอะไรเลยจนทุกวันนี้ไม่มีเพื่อนไม่กล้าเข้าสังคม วิตก ปี2023วันสงกรานต์วันสุดท้ายพี่สาวเราพาไปเล่นน้ำ(ไม่ใช่พี่แท้ๆนะ)ไปถึงจอดรถตรงนั้นคนมันเยอะพี่เราก็จับมือพาเดินอาการออกละ ก้มหน้า วิตกกังกล ใจสั่น พี่เราถามว่าเป็นอะไรมั้ยเราตอบ ไม่ พี่เห็นเราอาการไม่ดีเลยพากลับ และปี2024 ต้องบอกตรงนี้ก่อนนะเราเป็นคนที่ไม่ถูกกับคนในครอบครัวเลยแม่ทิ้งเราไปพ่อก็เลี้ยงเรา เป็นพ่อที่เก่งคนหนึ่งเลย ตอนนั้นพ่อเราค่อนข้างเอาเรื่องพอตัวนั้นแหละมีเด็กก็คือแม่เรา เอาไปเป็นว่าไม่ได้ตั้งใจเกิดมามันพลาดพ่อเรามีภรรยาอยู่แล้วมีลูกอยู่แล้วก็คือพี่ ซึ่งเรากับฝั่งนั้นไม่ถูกกันโดยเฉพาะพี่สาวไม่ถูกกันสุดพ่อเราเลยเอาเรามาอยู่บ้านย่า ย่าเราก็เสีย17-18มั้งวันนี้22ก็จัดงานศพปกตินั้นแหละ
คือต้องบอกก่อนนะว่าเราก็ไปช้วยงานนะเสริฟน้ำอาหารให้แขกญาติพี่น้องไป2-3วันแต่วันนี้เราไม่ได้ไป พ่อเราLINEมาหาว่า กินข้าวยัง เอาอะไรมั้ย
เรา : ยังไม่กิน ซื้อข้าวมาให้หน่อย พ่อเราก็อยู่วัดช้วยงานเผลอๆเราไปก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดีภาระป่าวๆวันนี้เราเลยตัดสินใจอยู่บ้าน ทีนี้พ่อเราน่าจะมาไม่ได้ติดงานฝั่งนั้นอยู่ พี่เราเลยเข้ามาแทน คือเราไม่คิดว่าเขาจะพูดมันออกมาไง ต้องบอกก่อนนะว่าเราเป็นคนที่อารมณ์อ่อนไหวมากๆๆๆๆๆๆๆๆแค่โดนด่าหรือดุน้ำตามันก็มาแล้วไง แล้วเราสตั๊นท์ไปเลยอ่ะไม่คิดว่าพี่เขาจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา ขับรถมาถึงถามเราประมาณว่า ทำไมวันนี้ไม่ไปช่วยงานศพ อยู่บ้านทำไม เราก็ตอบไปประมาณว่าก็ไปช่วยแล้วแต่เป็นเมื่อวาน พี่เราพูดประมาณว่า คนอื่นเขาออกไปช่วยงานกันหมดนี่นอนอยู่บ้าน แล้วคำต่อไปนี้เรารู้สึกไม่เคยรู้สึกว่านั้นใช้สมองหรืออะไรคิดก่อนพูดนี่ วิเคราะห์มาดียังคือเราอ่อนไหวกับคำนี้มาก ได้ยินกลับเข้าบ้านมาน้ำตาแตกเลย คำประมาณว่านี่ไม่รู้จักคิดไม่รู้จักออกไปช่วยงานเขาเลยนะย่าเลี้ยงมาทำตัวอย่างงี้ คือมันไม่ได้อ่ะใจจริงอยากหันกลับไปสวนนะถ้านี้ไม่คิดว่าเป็นพี่น้องกันนะเข้าบ้านมาน้ำตาแตกเลย คือเราคิดอย่างนี้นะ เขาไม่ได้มานั่งดูแลย่าแบบเรา เหนื่อยนะดูแลคนแก่อ่ะแต่ก็ทำไป
2.เขาไม่ได้รู้จักเราดีไม่ได้มาใช้ชีวิตกับเราแต่เข้าตัดสินไปแล้วอ่ะ
- อีกเรื่องหนึ่งคือ ป้า เรา
เราเนี่ยมาอยู่บ้านย่าเราก็ไม่ได้อยู่ฟรีนะพ่อเราโอนเงินค่าน้ำไฟอาหารการกินชีวิตประจำวันมาให้เราใช้
ก็ปกตินี่แหละแต่เรื่องมันมีอยู่ว่าลูกของป้าเราติดหนี้โดนยึดรถ หนี้ก็ยังไม่หมดนะตอนมีผัวเขาแทบจะไม่ทำงานที่บ้านผัวเขามีปัญหาหนักล้มละลายลูกป้าเราขอห่างเลยพอเลิกกับเขาไม่มีงาน งานการไม่ทำมีลูก2แต่ตัวเองนนำห้องแอร์ป้าเราจ่ายให้ด้วยนะค่าไฟบ้านนั้นพ่อเราซื้อรถให้ป้าเราก็มาขอให้เราเอารถให้ลูกเขาใช้ก่อนเพราะเราไม่มีใบขับขี่เราก็ให้ใช้แต่เอาไปใช้แล้วรถเราเกือบพังรถเป็นลอยคือเยอะอ่ะเราทำอะไรไม่ได้ด้วย ส่วนป้าเราติดหนี้ช่วยญาติพี่น้องที่ติดหนี้ลูกป้าเราคนนี้เป็นหมอขยันมากญาติพี่น้องป้าเราไม่ใช้หนี้ป้าเราเลยต้องใช้แทนพอตัวเองไม่มีปัญญาหาเงินมาพูดกับเราประมาณว่า ช่วยไปทำงานที่ผับได้ไหมหาผัวรวย เราคิดในใจเลย ว่าใช้สมองคิดจริงๆใช้มั้ย ใครเขาจะไปหาแฟนกันที่แบบนั้นกันอ่ะเขาก็คงคิดว่าเราขายกีนั้นแหละ
นี่เลยคิดว่าอายุ19หางานให้มันมั่นคงก่อนแล้วจะย้ายออกไปอยู่คนเดียวไปแล้วไม่กลับมาอีกเลย
ผิดมั้ยที่คิดแบบนี้แล้วผิดมั้ยที่จะเกลียดครอบครัวตัวเอง