ความเดิม ตอนที่แล้ว
ขบวนกวนก๊วนเกรียน : ตอน แขกไม่ได้รับเชิญ
เย็นวันเสาร์ พวกผมนัดเตะบอลกันที่สนามใต้ทางด่วนตามปกติ หลังเลิก ไอ้เก้าถามขึ้นว่า
"ไอ้หล่อ เอ็งจะไปงานโรงเรียนมั้ยวะ"
( คือ เพื่อนกันมักเรียกกันเป็นฉายาตามลักษณะเด่นที่เห็นได้ชัด อย่าง ไอ้เหยิน ไอ้สิว ไอ้หงอก ไอ้แหว่ง ไอ้บอด ไอ้เป๋ ไอ้ด้วน ไงล่ะ
แล้วตัวผมมันดันหน้าตาดีอย่างเห็นได้ชัด เพื่อนๆก็เลยเรียกว่า 'ไอ้หล่อ' หรือ 'ไอ้โคตรหล่อ' อย่างนี้แหละ
...อย่าทำหน้าเหมือนไม่เชื่อกันสิ...
ผมคนเขียนนะ ไม่เชื่อผม คุณจะไปเชื่อใครได้ ผมเขียนอะไรไป ก็เชื่อๆไปเถอะ เอาตามนั้นนะ )
โรงเรียนมัธยมที่พวกเราจบมา ครบรอบ 60 ปี เลยร่อนการ์ดเชิญศิษย์เก่าทุกคนไปร่วมงาน
ผมก็ตอบว่า
"ไม่ว่ะ ขี้เกียจ"
ไอ้เก้าย้ำ
"เฮ้ย โรงเรียนแซยิดเลยนะเว้ย แซยิด แซยิด"
"เอาไว้ครบรอบสองร้อยปีก่อน ตูไปแน่"
"เหอะ เอ็งอยู่ถึงเหรอ"
"แน่นอน ตูเป็นเหมือนไอทีวี ต่อให้ตายยังไง ก็มีพวกกบฏปลุกชีพให้ฟื้นขึ้นมาเองแหละ"
ไอ้นุ้ยตอบว่า
"ตูไม่ว่างว่ะ เดี๋ยวต้องไปถ่ายละคร"
"เรื่องอะไรวะ"
"เรื่องของตู"
ไอ้นวยก็บอกว่า
"ตูก็ไม่ไปว่ะ ต้องไปเยี่ยมไอ้รอน"
พวกเราถามทันที
"ไอ้รอนเป็นไรวะ"
"มันเข้าโรงบาล"
ไอ้นุ้ยเลยด่า
"ไอ้... ตูก็ถามอยู่ว่าไอ้รอนไม่มาเหรอ ปากอมอะไรไว้วะ"
"ยังไงก็จะไปหลังเตะบอลเสร็จอยู่แล้ว รีบบอกไป เดี๋ยวพวกเอ็งก็ลืม บอกตอนนี้แหละ ทีเดียว"
นี่คือเหตุผลของไอ้นวย และมันมีเหตุผลอยู่นะ ที่มันถูกเรียกว่าไอ้นวย ทั้งที่ชื่อจริงของมันคือ 'นฤนาท'
"เอ็งนี่มัน สมกับเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเรายืนหยัดได้จริงๆ" ไอ้นุ้ยว่า
ไม่ได้ชมอะไรหรอก สิ่งที่ใช้ยืนหยัด ก็ ส้นเท้า น่ะสิ
ดังนั้น พวกเรา อันได้แก่ ผม ไอ้นุ้ย ไอ้บอม ไอ้เก้า และไอ้นวย จึงรีบเปลี่ยนเสื้อ แล้วขึ้นรถไปหาไอ้รอน
ที่โรงพยาบาล
ไอ้รอนนอนดูทีวีอยู่ ตอนที่พวกเราเข้าไปในห้อง ไอ้รอนมันเบิกตาโพลงมองมาทางพวกเรา
ไอ้เก้าตรงเข้าไปหาไอ้รอน เอื้อมมือไปปิดเปลือกตาให้อย่างอ่อนโยน
"ไปดีเถอะนะ เพื่อนรัก"
แน่นอน ไอ้รอนลืมตาขึ้นมาจ้องไอ้เก้า ไอ้เก้าก็ปิดเปลือกตาให้มันอีกครั้ง
"สู่สุคติได้แล้ว อย่าห่วงอะไรทางนี้เลย"
ไอ้รอนถอนหายใจ
"เอ็งเล่นแต่มุกเนี้ย ไม่เบื่อบ้างเหรอวะ"
ไอ้เก้าตอบ
"เบื่อทำไม มุกคลาสสิค"
ว่าแล้ว ก็ลูบปิดเปลือกตาไอ้รอนอีกครั้ง
"ในที่สุด เอ็งก็มีวันนี้"
ไอ้รอนถลึงตามอง ไอ้เก้าร้อง
"ตูนึกแล้ว คนอย่างเอ็งต้องนอนตายตาไม่หลับ นึกถึงพระอรหันต์ไว้สิ"
แล้วไอ้เก้าก็จะปิดตาไอ้รอนอีก
คราวนี้ไอ้รอนเอื้อมมือไปข้างเตียง ทำท่าจะหยิบแก้วน้ำ
"จะกินน้ำเหรอ เดี๋ยวตูหยิบให้" ไอ้บอมเข้าไปช่วย
"เปล่าตูจะเอามาขว้างหน้าไอ้มารดาเครื่องบินเจ็ทนี่"
"อย่าเลย เดี๋ยวแก้วแตก ลำบากคนกวาด เอารองเท้าตูดีกว่า"
ไอ้เก้ารีบกระโดดโหยงไปถึงประตู
ไอ้นุ้ยก็เริ่มทักทาย
"ว่างมากเหรอ มานอนโรงบาลทำไมวะ"
"นอนแล้วผิดมาตรา 112 รึไง ตูมารักษาความหล่อว่ะ มีมากเกินจนเดินถนนไม่ได้แล้ว"
"อืม ตูว่าหมอให้ยาเกินขนาดแล้วนะ บอกหมอให้ลดยาลงหน่อย หน้าเอ็งมันอุบาทว์พอแล้ว"
หลังจากไอ้บอมช่วยปรับเตียงให้ไอ้รอนขึ้นมานั่ง จะได้คุยกันถนัด ผมก็ถามไอ้รอนว่า
"ตกลงเอ็งเป็นอะไรวะ"
ไอ้รอนตอบสั้นๆ
"ไส้ติ่ง"
"เป็นไส้ติ่งเหรอ ได้เงินเดือนเท่าไหร่"
"ไอ้... ไส้ติ่งไม่ใช่อาชีพโว้ย ไม่ได้เงินเดือน"
"แล้วเผือกไปเป็นทำไม ไม่ลาออกวะ"
"ลาออกแล้วตูจะอยู่ยังไง บ้านราคา 50 ล้าน ตูต้องผ่อน ยังมีรถลัมโบอีก 4 คันอีก"
ไอ้เก้าเข้ามาถาม
"แล้วได้ผ่ารึเปล่าวะ"
"ตัดไปแล้ว"
"ตัดทำไม"
"ไส้ติ่งเหลือตูเยอะ เลยตัดเล่น มีอะไรมั้ย"
"ได้เก็บไว้หรือเปล่า"
"เก็บหาพระบิดาเอ็งเรอะ"
"เอาไปบริจาคให้คนพิการขาดไส้ติ่ง"
"เอ็งว่างนัก ก็เอาของเอ็งไปบริจาคสิ"
ไอ้นุ้ยเข้าไปคุยด้วย
"อย่างนี้เอ็งก็พิการ ไม่ครบสามสิบสองแล้วสิ"
"สามสิบสองมีอะไรบ้างวะ"
"ก็มีสาม กับ สอง ไง"
"เอ็งลืม สิบ ไปหรือเปล่า"
"เขาว่ากินอะไรบำรุงอันนั้น แบบนี้เอ็งก็ต้องกินไส้ติ่งเยอะๆนะ ไส้ติ่งจะได้แข็งแรง"
"เหรอ ส่วนเอ็งนี่คงไม่เคยกินสมองเลยใช่มั้ย"
ไอ้นวยเข้ามาแจม
"ไอ้พวกนี้ รบกวนคนป่วยอยู่ได้ แถมมา ก็ไม่รู้จักซื้อของมาเยี่ยมอีกต่างหาก"
ไอ้รอนถามอย่างคาดหวัง
"อะไรวะ"
ไอ้นวยหยิบออกมาจากระเป๋ากางเกง
"ซุปไก่"
"เอาให้พระบิดาเอ็งรับประทานเถอะ"
ไอ้รอนปัดมือไอ้นวยที่ยื่นกล่องคนอร์ก้อนให้มัน
"หรือจะเอาแบบผง"
"เอาให้พระมารดาเอ็งสิ"
ไอ้นุ้ยก็ว่า
"เหลือเชื่อเลย ไส้ติ่งแตก เอ็งยังไม่ตาย"
"ขนาด กกต.ยังกล้ามีชีวิตอยู่ ตูจะตายทำไมวะ"
"ไม่มีใครมาเยี่ยมเลยรึ"
"พี่ตูมาเฝ้าตอนตูผ่าตั้งแต่วานซืน พรุ่งนี้ก็ได้ออกแล้ว ตูอยู่คนเดียวได้ เลยให้กลับก่อน ปอยเปตเอ๊ย สงสัยก่อนนอนไม่ได้สวดมนต์ สัมภเวสีถึงแห่มากันเต็มแบบนี้"
"พรุ่งนี้เอ็งจะไปแล้วหรือ พวกตูก็ทันดูใจก่อนเอ็งจะจากไปเลยน่ะสิ"
"ตูยังไม่ตายเว้ย อยากโดนฟ้องมาตรา 112 มั้ย"
"เสียดาย นึกว่าจะมีเพื่อนตายสักคน ใจคอเอ็งจะเป็นเพื่อนกินอย่างเดียวเหรอ"
"เอ็งก็ตายสิ จะได้มาเป็นเพื่อนตายของตู"
"ไม่ไหวว่ะ คนอย่างตูตายยาก"
"ถ้าเอ็งตายยากนัก ตูจะฆ่าเอ็งให้ตายอย่างทรมาน จะจับเอ็งขังไว้ในห้องแล้วเปิดรายการคืนความสุขวนซ้ำทั้งวันให้เอ็งดูจนตายทั้งเป็นเลย เอามั้ย"
"แล้วเอ็งอยากหัวใจวายตายโดยตำรวจหรือหมอหาสาเหตุไม่ได้มั้ย"
"เอ็งจะทำไรตู"
"ตูจะชวนเอ็งไปปล่อยปลา"
แล้วไอ้รอนก็ถามไอ้เก้า
"เอ็งล่ะ เมื่อไหร่จะตาย"
"เหอะ ตูทำพินัยกรรมไว้แล้ว ถ้าตูตายเมื่อไหร่ให้ยื่นคำร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ"
"ศาลรัฐธรรมนูญช่วยอะไรได้วะ"
"ขนาดนายกยังต่ออายุให้อยู่เกิน 8 ปีได้ ทำไมจะต่ออายุให้ตูไม่ได้วะ เอานายมีชัยไปเป็นพยานด้วย ศาลรัฐธรรมนูญจะได้วินิจฉัยว่าตูยังไม่มีความจำเป็นต้องตาย ควรรอให้ทางลูกรังหมดไปจากประเทศซะก่อน"
จังหวะนั้นมีคนเปิดประตูเข้ามา เป็นไอ้หวิน
มันตกใจที่เห็นพวกเราอยู่กันเต็มห้อง
จนไอ้นุ้ยเริ่มทัก
"เมียเอ็ง เค้าเปิดกระสอบปล่อยเอ็งออกมาแล้วเหรอ"
"ตูออกมาตั้งนานแล้วเว้ย วันนั้นยังเห็นเอ็งคาบไก่ลงน้ำ จะไปจับหางลากขึ้นมาก็ไม่ทัน"
ผมถามไอ้หวินว่า
"เอ็งมาคนเดียวเหรอ"
"ตูมาทั้งบ้าน"
"แล้วเพื่อนสะใภ้กับหลานๆๆล่ะ"
ไอ้หวินมีลูก 3 คน
"ไปบ้านยาย ไม่งั้นตูจะได้ออกมาเหรอ"
"แล้วเผือกบอกมาทั้งบ้าน"
"ก็ทั้งบ้านมีตูอยู่คนเดียวเนี่ย"
ไอ้นวยก็ถามว่า
"เอ็งรู้ได้ไงวะ ว่าไอ้รอนเข้าโรงบาล"
"ตูก็โทรคุยกับไอ้รอนน่ะสิ"
"ทีตูโทรหาเอ็งดันโทรไม่ติด"
"น่าจะเป็นตอนที่แบตหมด โทรศัพท์เป็นไรไม่รู้เดี๋ยวนี้ชาร์จเป็นวัน ใช้ได้ไม่ถึงสองชั่วโมง"
"สงสัยแบตเสื่อม" ไอ้บอมให้ความเห็น
"เอาไปลอดราวตากกางเกงในมารึเปล่า" ไอ้เก้าถาม
"เอาไปรดน้ำมนต์แล้วให้หลวงพ่อเจิมใหม่สิ" ไอ้นุ้ยแนะนำ
"ตูยังต้องคบพวกเอ็งด้วยเหรอวะเนี่ย ไอ้พวกอาวุธด้ามยาวปลายแหลม (หอก) "
"เอ็งมันก็แท่งสามเหลี่ยมฐานกลมปลายแหลมล่ะวะ (กรวย) "
ไอ้หวินหันมาทักผม
"ไง ไอ้หล่อ ยังเหมือนเดิมนะ"
"งั้นๆแหละ เดือนนึงตูก็หล่อแค่ 35 วัน"
"ยังไงวะ"
ผมยักคิ้ว
"หล่อเกิน"
"ลองไม่หายใจดูสิจะได้หล่อตาย"
"เอ็งก็อย่าตายล่ะกัน เดี๋ยวจะอุบาทว์ตาย"
"ใครจะหล่อเหมือนเอ็ง เดี๋ยวนี้หน้าใสกว่าเดิมอีก เปลี่ยนมาใช้กีวี่สูตรใหม่เหรอ"
"ดีกว่าหน้าเอ็งที่ปล่อยหยาบกร้าน นี่ถอดรองเท้าเดินมากใช่มั้ย"
"ด่าเมียตูได้ แต่ห้ามว่าหน้าตูโว้ย พูดงี้ ซักฝุ่นมั้ย"
ผมรีบยกมือห้าม
"ถ้าจะต่อยตู ต่อยไอ้นวยแทนดีกว่า"
"เอ็งเป็นตะขอเหรอ เอาตูเข้าไปเกี่ยวทำไมวะ"
และแล้ว ไอ้อิ๊บก็มา
"โอ้โห สลอน"
"ตั้งแต่ใบกระท่อมถูกกฎหมายนี่ เอ็งขยันมาเจอเพื่อนจังนะ" ไอ้นุ้ยทัก
"เหมือนมันเพิ่งเปลี่ยนถ่านใหม่" ไอ้บอมบอก
"เออ กลายเป็นมาจัดงานรวมรุ่นที่นี่แทน" ผมว่า
"ปีหน้า ใครจะผ่าอะไรดีวะ" ไอ้รอนถาม
"เอ็งละกัน ผ่าหมาออกจากปากอีกซักรอบ" ไอ้นุ้ยตอบ
"ผ่าเท้าตูออกจากปากเอ็งก็ดีนะ"
"อยากไส้ติ่งแตกอีกมั้ย"
"ตูผ่าไปแล้ว ไม่มีให้แตกแล้วโว้ย"
"เดี๋ยวตูบริจาคให้ ตูไม่ได้ใช้อยู่แล้ว"
"เออ บอกหมอว่าอย่าตัดผิดล่ะ ไส้ติ่งอันที่อยู่ข้างใน ไม่ใช่ข้างนอก อย่าเอาผิดอันมาใส่ให้ตูล่ะ เดี๋ยวจะเผลอเพราะเห็นเล็กๆเหมือนกัน"
ไอ้หวินถามไอ้อิ๊บว่า
"มาไงวะ"
"เพื่อนกำลังจะตายทั้งคน ตูก็ต้องมาดูใจวาระสุดท้ายสิ"
ว่าแล้วไอ้อิ๊บก็เข้ามาปิดเปลือกตาไอ้รอนอย่างอ่อนโยน
"หลับให้สบายนะ ตูจะดูแลทางนี้เอง"
ผมขัด
"มุกนี้ ไอ้เก้าเล่นไปแล้วเว้ย"
ไอ้อิ๊บเสียดาย
"ว้า ไม่น่ามาช้าเลย"
ไอ้รอนถอนหายใจ
"ถ้าตูมีปืนซักกระบอกนะ ตอนนี้ต้องกำลังไปซื้อลูกปืนอยู่"
"ทำไมวะ"
"เพราะตูคงยิงเอ็งหมดแม็กไปแล้ว"
"ถ้าอยากยิงใคร เอ็งไปยิงสวะดีกว่า จะได้ชื่อว่าเป็นวีรบุรุษด้วย"
ไอ้บอมพูดขึ้นมา
"ถ้าไอ้พลมาด้วยคงฮามาก"
"ช่วงนี้มันไม่ว่างหรอก เดินสายบนหลวงพ่ออยู่" ไอ้นวยบอก
"บนเรื่องอะไรวะ" ไอ้รอนถาม
"ขอพระช่วยให้มันมีลูก"
"ทำไม จะให้พระช่วยมีเพศสัมพันธ์กับเมียมันรึไง ไม่กลัวลูกออกมาหัวโล้นเรอะ"
"เอ็งนี่น้า มีเพื่อนอย่างเอ็งนี่อุ่นใจ ต่อให้ต้องตกนรกไป ได้เจอเอ็งแน่นอน"
ผมเสริมว่า
"มิน่า ไส้ติ่งแตกถึงยังไม่ตาย เขาว่ากันว่าคนดีมักอายุสั้น คน
อยู่ได้นาน"
ไอ้รอนยังเถียง
"ตูก็คนดีโว้ย"
"เอ็งมีอะไรดีวะ"
"..................................................................................................................................ตูเคยใส่เสื้อสีเหลือง"
"ตรุ๋ย คิดตั้งนาน นึกได้แค่นี้ ไม่บอกว่าเคยเป่านกหวีดด้วยล่ะวะ"
ไอ้รอนแค่นเสียง
"ถ้าตูเคยเป่านกหวีด ตูคงไม่มีหน้าไปเจอใครหรอก เอาหน้าจุ่มโถส้วมตายดีกว่า"
"อย่าทำแบบนั้นกับโถส้วมผู้บริสุทธิ์สิ หน้าเอ็งไม่เหมาะกับมันหรอก" ไอ้นุ้ยท้วง
"แล้วหน้ามันเหมาะกับอะไรวะ" ไอ้บอมถาม
"แลคตาซิด" ไอ้นุ้ยตอบ
ไอ้เก้าพูดว่า
"ให้ความรู้ดีมาก สมกับที่เรียนหมอมา"
ไอ้นวยถามว่า
"มันไปเรียนหมอตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ"
ไอ้นุ้ยก็ถาม
"ตูไปเรียนหมอตั้งแต่เมื่อไหร่วะ"
ไอ้เก้าว่า
"ก็ที่งานแต่งไอ้พลไง มันไปร่วมงานเลี้ยงรุ่นของพวกหมอมาไม่ใช่เหรอ"
ไอ้อิ๊บพูด
"ตูก็ว่าจะถาม พวกเอ็งเข้าไปทำไมได้ตั้งนานวะ"
ไอ้นุ้ยตอบ
"ก็คุยอะไรไปเรื่อยเปื่อย ว่างก็หยิบของกิน แต่เดี๋ยวนี้หมอผู้หญิงแต่ละคน สวยๆทั้งนั้นเลยว่ะ"
ไอ้อิ๊บยังถาม
"พวกเค้าเป็นประกาศนียบัตรการแพทย์นะเว้ย พวกเอ็งจะคุยกับเค้ารู้เรื่องเหรอ พูดไม่กี่คำก็โดนจับได้แล้วมั้ง"
"ตูมีความรู้โว้ย" ไอ้นุ้ยว่า "โดยเฉพาะเรื่องการผ่าตัด ให้ตัดแขน ตัดขา ตัดคอ ฉีกปากแผลให้กว้าง หั่นเป็นชิ้นๆ หรือสับให้ละเอียด ตูทำได้หมดแหละ"
"ตูก็พอรู้เรื่องเบสิคว่ะ" ไอ้รอนพูด "ทายาแดง ป้ายยาหม่อง ราดทิงเจอร์ แปะพลาสเตอร์ อะไรพวกเนี้ย"
แล้วไอ้นุ้ยก็หันมาทางผม
"กำลังคุยเพลินๆ ไอ้หล่อดันเอาความซวยมาฝากพวกตูด้วย"
ผมยืดอกพูด
"ช่วยไม่ได้ นอกจากหล่อแล้ว ตูดันยังใจกว้างยังกับเส้นศูนย์สูตร"
ไอ้นุ้ยทำหน้าเหยียด
"เอ็งรู้จักเส้นศูนย์สูตรด้วยเหรอะ รู้มั้ยมันอยู่ตรงไหน"
ผมตอบอย่างรวดเร็ว
"ไอ้โง่เอ๊ย มันก็อยู่ข้างๆเส้นหนึ่งสูตรน่ะสิ"
ขบวนกวนก๊วนเกรียน : ตอน รวมมิตรที่(ไม่ได้)คิดถึง
เย็นวันเสาร์ พวกผมนัดเตะบอลกันที่สนามใต้ทางด่วนตามปกติ หลังเลิก ไอ้เก้าถามขึ้นว่า
"ไอ้หล่อ เอ็งจะไปงานโรงเรียนมั้ยวะ"
( คือ เพื่อนกันมักเรียกกันเป็นฉายาตามลักษณะเด่นที่เห็นได้ชัด อย่าง ไอ้เหยิน ไอ้สิว ไอ้หงอก ไอ้แหว่ง ไอ้บอด ไอ้เป๋ ไอ้ด้วน ไงล่ะ
แล้วตัวผมมันดันหน้าตาดีอย่างเห็นได้ชัด เพื่อนๆก็เลยเรียกว่า 'ไอ้หล่อ' หรือ 'ไอ้โคตรหล่อ' อย่างนี้แหละ
...อย่าทำหน้าเหมือนไม่เชื่อกันสิ...
ผมคนเขียนนะ ไม่เชื่อผม คุณจะไปเชื่อใครได้ ผมเขียนอะไรไป ก็เชื่อๆไปเถอะ เอาตามนั้นนะ )
โรงเรียนมัธยมที่พวกเราจบมา ครบรอบ 60 ปี เลยร่อนการ์ดเชิญศิษย์เก่าทุกคนไปร่วมงาน
ผมก็ตอบว่า
"ไม่ว่ะ ขี้เกียจ"
ไอ้เก้าย้ำ
"เฮ้ย โรงเรียนแซยิดเลยนะเว้ย แซยิด แซยิด"
"เอาไว้ครบรอบสองร้อยปีก่อน ตูไปแน่"
"เหอะ เอ็งอยู่ถึงเหรอ"
"แน่นอน ตูเป็นเหมือนไอทีวี ต่อให้ตายยังไง ก็มีพวกกบฏปลุกชีพให้ฟื้นขึ้นมาเองแหละ"
ไอ้นุ้ยตอบว่า
"ตูไม่ว่างว่ะ เดี๋ยวต้องไปถ่ายละคร"
"เรื่องอะไรวะ"
"เรื่องของตู"
ไอ้นวยก็บอกว่า
"ตูก็ไม่ไปว่ะ ต้องไปเยี่ยมไอ้รอน"
พวกเราถามทันที
"ไอ้รอนเป็นไรวะ"
"มันเข้าโรงบาล"
ไอ้นุ้ยเลยด่า
"ไอ้... ตูก็ถามอยู่ว่าไอ้รอนไม่มาเหรอ ปากอมอะไรไว้วะ"
"ยังไงก็จะไปหลังเตะบอลเสร็จอยู่แล้ว รีบบอกไป เดี๋ยวพวกเอ็งก็ลืม บอกตอนนี้แหละ ทีเดียว"
นี่คือเหตุผลของไอ้นวย และมันมีเหตุผลอยู่นะ ที่มันถูกเรียกว่าไอ้นวย ทั้งที่ชื่อจริงของมันคือ 'นฤนาท'
"เอ็งนี่มัน สมกับเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเรายืนหยัดได้จริงๆ" ไอ้นุ้ยว่า
ไม่ได้ชมอะไรหรอก สิ่งที่ใช้ยืนหยัด ก็ ส้นเท้า น่ะสิ
ดังนั้น พวกเรา อันได้แก่ ผม ไอ้นุ้ย ไอ้บอม ไอ้เก้า และไอ้นวย จึงรีบเปลี่ยนเสื้อ แล้วขึ้นรถไปหาไอ้รอน
ที่โรงพยาบาล
ไอ้รอนนอนดูทีวีอยู่ ตอนที่พวกเราเข้าไปในห้อง ไอ้รอนมันเบิกตาโพลงมองมาทางพวกเรา
ไอ้เก้าตรงเข้าไปหาไอ้รอน เอื้อมมือไปปิดเปลือกตาให้อย่างอ่อนโยน
"ไปดีเถอะนะ เพื่อนรัก"
แน่นอน ไอ้รอนลืมตาขึ้นมาจ้องไอ้เก้า ไอ้เก้าก็ปิดเปลือกตาให้มันอีกครั้ง
"สู่สุคติได้แล้ว อย่าห่วงอะไรทางนี้เลย"
ไอ้รอนถอนหายใจ
"เอ็งเล่นแต่มุกเนี้ย ไม่เบื่อบ้างเหรอวะ"
ไอ้เก้าตอบ
"เบื่อทำไม มุกคลาสสิค"
ว่าแล้ว ก็ลูบปิดเปลือกตาไอ้รอนอีกครั้ง
"ในที่สุด เอ็งก็มีวันนี้"
ไอ้รอนถลึงตามอง ไอ้เก้าร้อง
"ตูนึกแล้ว คนอย่างเอ็งต้องนอนตายตาไม่หลับ นึกถึงพระอรหันต์ไว้สิ"
แล้วไอ้เก้าก็จะปิดตาไอ้รอนอีก
คราวนี้ไอ้รอนเอื้อมมือไปข้างเตียง ทำท่าจะหยิบแก้วน้ำ
"จะกินน้ำเหรอ เดี๋ยวตูหยิบให้" ไอ้บอมเข้าไปช่วย
"เปล่าตูจะเอามาขว้างหน้าไอ้มารดาเครื่องบินเจ็ทนี่"
"อย่าเลย เดี๋ยวแก้วแตก ลำบากคนกวาด เอารองเท้าตูดีกว่า"
ไอ้เก้ารีบกระโดดโหยงไปถึงประตู
ไอ้นุ้ยก็เริ่มทักทาย
"ว่างมากเหรอ มานอนโรงบาลทำไมวะ"
"นอนแล้วผิดมาตรา 112 รึไง ตูมารักษาความหล่อว่ะ มีมากเกินจนเดินถนนไม่ได้แล้ว"
"อืม ตูว่าหมอให้ยาเกินขนาดแล้วนะ บอกหมอให้ลดยาลงหน่อย หน้าเอ็งมันอุบาทว์พอแล้ว"
หลังจากไอ้บอมช่วยปรับเตียงให้ไอ้รอนขึ้นมานั่ง จะได้คุยกันถนัด ผมก็ถามไอ้รอนว่า
"ตกลงเอ็งเป็นอะไรวะ"
ไอ้รอนตอบสั้นๆ
"ไส้ติ่ง"
"เป็นไส้ติ่งเหรอ ได้เงินเดือนเท่าไหร่"
"ไอ้... ไส้ติ่งไม่ใช่อาชีพโว้ย ไม่ได้เงินเดือน"
"แล้วเผือกไปเป็นทำไม ไม่ลาออกวะ"
"ลาออกแล้วตูจะอยู่ยังไง บ้านราคา 50 ล้าน ตูต้องผ่อน ยังมีรถลัมโบอีก 4 คันอีก"
ไอ้เก้าเข้ามาถาม
"แล้วได้ผ่ารึเปล่าวะ"
"ตัดไปแล้ว"
"ตัดทำไม"
"ไส้ติ่งเหลือตูเยอะ เลยตัดเล่น มีอะไรมั้ย"
"ได้เก็บไว้หรือเปล่า"
"เก็บหาพระบิดาเอ็งเรอะ"
"เอาไปบริจาคให้คนพิการขาดไส้ติ่ง"
"เอ็งว่างนัก ก็เอาของเอ็งไปบริจาคสิ"
ไอ้นุ้ยเข้าไปคุยด้วย
"อย่างนี้เอ็งก็พิการ ไม่ครบสามสิบสองแล้วสิ"
"สามสิบสองมีอะไรบ้างวะ"
"ก็มีสาม กับ สอง ไง"
"เอ็งลืม สิบ ไปหรือเปล่า"
"เขาว่ากินอะไรบำรุงอันนั้น แบบนี้เอ็งก็ต้องกินไส้ติ่งเยอะๆนะ ไส้ติ่งจะได้แข็งแรง"
"เหรอ ส่วนเอ็งนี่คงไม่เคยกินสมองเลยใช่มั้ย"
ไอ้นวยเข้ามาแจม
"ไอ้พวกนี้ รบกวนคนป่วยอยู่ได้ แถมมา ก็ไม่รู้จักซื้อของมาเยี่ยมอีกต่างหาก"
ไอ้รอนถามอย่างคาดหวัง
"อะไรวะ"
ไอ้นวยหยิบออกมาจากระเป๋ากางเกง
"ซุปไก่"
"เอาให้พระบิดาเอ็งรับประทานเถอะ"
ไอ้รอนปัดมือไอ้นวยที่ยื่นกล่องคนอร์ก้อนให้มัน
"หรือจะเอาแบบผง"
"เอาให้พระมารดาเอ็งสิ"
ไอ้นุ้ยก็ว่า
"เหลือเชื่อเลย ไส้ติ่งแตก เอ็งยังไม่ตาย"
"ขนาด กกต.ยังกล้ามีชีวิตอยู่ ตูจะตายทำไมวะ"
"ไม่มีใครมาเยี่ยมเลยรึ"
"พี่ตูมาเฝ้าตอนตูผ่าตั้งแต่วานซืน พรุ่งนี้ก็ได้ออกแล้ว ตูอยู่คนเดียวได้ เลยให้กลับก่อน ปอยเปตเอ๊ย สงสัยก่อนนอนไม่ได้สวดมนต์ สัมภเวสีถึงแห่มากันเต็มแบบนี้"
"พรุ่งนี้เอ็งจะไปแล้วหรือ พวกตูก็ทันดูใจก่อนเอ็งจะจากไปเลยน่ะสิ"
"ตูยังไม่ตายเว้ย อยากโดนฟ้องมาตรา 112 มั้ย"
"เสียดาย นึกว่าจะมีเพื่อนตายสักคน ใจคอเอ็งจะเป็นเพื่อนกินอย่างเดียวเหรอ"
"เอ็งก็ตายสิ จะได้มาเป็นเพื่อนตายของตู"
"ไม่ไหวว่ะ คนอย่างตูตายยาก"
"ถ้าเอ็งตายยากนัก ตูจะฆ่าเอ็งให้ตายอย่างทรมาน จะจับเอ็งขังไว้ในห้องแล้วเปิดรายการคืนความสุขวนซ้ำทั้งวันให้เอ็งดูจนตายทั้งเป็นเลย เอามั้ย"
"แล้วเอ็งอยากหัวใจวายตายโดยตำรวจหรือหมอหาสาเหตุไม่ได้มั้ย"
"เอ็งจะทำไรตู"
"ตูจะชวนเอ็งไปปล่อยปลา"
แล้วไอ้รอนก็ถามไอ้เก้า
"เอ็งล่ะ เมื่อไหร่จะตาย"
"เหอะ ตูทำพินัยกรรมไว้แล้ว ถ้าตูตายเมื่อไหร่ให้ยื่นคำร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ"
"ศาลรัฐธรรมนูญช่วยอะไรได้วะ"
"ขนาดนายกยังต่ออายุให้อยู่เกิน 8 ปีได้ ทำไมจะต่ออายุให้ตูไม่ได้วะ เอานายมีชัยไปเป็นพยานด้วย ศาลรัฐธรรมนูญจะได้วินิจฉัยว่าตูยังไม่มีความจำเป็นต้องตาย ควรรอให้ทางลูกรังหมดไปจากประเทศซะก่อน"
จังหวะนั้นมีคนเปิดประตูเข้ามา เป็นไอ้หวิน
มันตกใจที่เห็นพวกเราอยู่กันเต็มห้อง
จนไอ้นุ้ยเริ่มทัก
"เมียเอ็ง เค้าเปิดกระสอบปล่อยเอ็งออกมาแล้วเหรอ"
"ตูออกมาตั้งนานแล้วเว้ย วันนั้นยังเห็นเอ็งคาบไก่ลงน้ำ จะไปจับหางลากขึ้นมาก็ไม่ทัน"
ผมถามไอ้หวินว่า
"เอ็งมาคนเดียวเหรอ"
"ตูมาทั้งบ้าน"
"แล้วเพื่อนสะใภ้กับหลานๆๆล่ะ"
ไอ้หวินมีลูก 3 คน
"ไปบ้านยาย ไม่งั้นตูจะได้ออกมาเหรอ"
"แล้วเผือกบอกมาทั้งบ้าน"
"ก็ทั้งบ้านมีตูอยู่คนเดียวเนี่ย"
ไอ้นวยก็ถามว่า
"เอ็งรู้ได้ไงวะ ว่าไอ้รอนเข้าโรงบาล"
"ตูก็โทรคุยกับไอ้รอนน่ะสิ"
"ทีตูโทรหาเอ็งดันโทรไม่ติด"
"น่าจะเป็นตอนที่แบตหมด โทรศัพท์เป็นไรไม่รู้เดี๋ยวนี้ชาร์จเป็นวัน ใช้ได้ไม่ถึงสองชั่วโมง"
"สงสัยแบตเสื่อม" ไอ้บอมให้ความเห็น
"เอาไปลอดราวตากกางเกงในมารึเปล่า" ไอ้เก้าถาม
"เอาไปรดน้ำมนต์แล้วให้หลวงพ่อเจิมใหม่สิ" ไอ้นุ้ยแนะนำ
"ตูยังต้องคบพวกเอ็งด้วยเหรอวะเนี่ย ไอ้พวกอาวุธด้ามยาวปลายแหลม (หอก) "
"เอ็งมันก็แท่งสามเหลี่ยมฐานกลมปลายแหลมล่ะวะ (กรวย) "
ไอ้หวินหันมาทักผม
"ไง ไอ้หล่อ ยังเหมือนเดิมนะ"
"งั้นๆแหละ เดือนนึงตูก็หล่อแค่ 35 วัน"
"ยังไงวะ"
ผมยักคิ้ว
"หล่อเกิน"
"ลองไม่หายใจดูสิจะได้หล่อตาย"
"เอ็งก็อย่าตายล่ะกัน เดี๋ยวจะอุบาทว์ตาย"
"ใครจะหล่อเหมือนเอ็ง เดี๋ยวนี้หน้าใสกว่าเดิมอีก เปลี่ยนมาใช้กีวี่สูตรใหม่เหรอ"
"ดีกว่าหน้าเอ็งที่ปล่อยหยาบกร้าน นี่ถอดรองเท้าเดินมากใช่มั้ย"
"ด่าเมียตูได้ แต่ห้ามว่าหน้าตูโว้ย พูดงี้ ซักฝุ่นมั้ย"
ผมรีบยกมือห้าม
"ถ้าจะต่อยตู ต่อยไอ้นวยแทนดีกว่า"
"เอ็งเป็นตะขอเหรอ เอาตูเข้าไปเกี่ยวทำไมวะ"
และแล้ว ไอ้อิ๊บก็มา
"โอ้โห สลอน"
"ตั้งแต่ใบกระท่อมถูกกฎหมายนี่ เอ็งขยันมาเจอเพื่อนจังนะ" ไอ้นุ้ยทัก
"เหมือนมันเพิ่งเปลี่ยนถ่านใหม่" ไอ้บอมบอก
"เออ กลายเป็นมาจัดงานรวมรุ่นที่นี่แทน" ผมว่า
"ปีหน้า ใครจะผ่าอะไรดีวะ" ไอ้รอนถาม
"เอ็งละกัน ผ่าหมาออกจากปากอีกซักรอบ" ไอ้นุ้ยตอบ
"ผ่าเท้าตูออกจากปากเอ็งก็ดีนะ"
"อยากไส้ติ่งแตกอีกมั้ย"
"ตูผ่าไปแล้ว ไม่มีให้แตกแล้วโว้ย"
"เดี๋ยวตูบริจาคให้ ตูไม่ได้ใช้อยู่แล้ว"
"เออ บอกหมอว่าอย่าตัดผิดล่ะ ไส้ติ่งอันที่อยู่ข้างใน ไม่ใช่ข้างนอก อย่าเอาผิดอันมาใส่ให้ตูล่ะ เดี๋ยวจะเผลอเพราะเห็นเล็กๆเหมือนกัน"
ไอ้หวินถามไอ้อิ๊บว่า
"มาไงวะ"
"เพื่อนกำลังจะตายทั้งคน ตูก็ต้องมาดูใจวาระสุดท้ายสิ"
ว่าแล้วไอ้อิ๊บก็เข้ามาปิดเปลือกตาไอ้รอนอย่างอ่อนโยน
"หลับให้สบายนะ ตูจะดูแลทางนี้เอง"
ผมขัด
"มุกนี้ ไอ้เก้าเล่นไปแล้วเว้ย"
ไอ้อิ๊บเสียดาย
"ว้า ไม่น่ามาช้าเลย"
ไอ้รอนถอนหายใจ
"ถ้าตูมีปืนซักกระบอกนะ ตอนนี้ต้องกำลังไปซื้อลูกปืนอยู่"
"ทำไมวะ"
"เพราะตูคงยิงเอ็งหมดแม็กไปแล้ว"
"ถ้าอยากยิงใคร เอ็งไปยิงสวะดีกว่า จะได้ชื่อว่าเป็นวีรบุรุษด้วย"
ไอ้บอมพูดขึ้นมา
"ถ้าไอ้พลมาด้วยคงฮามาก"
"ช่วงนี้มันไม่ว่างหรอก เดินสายบนหลวงพ่ออยู่" ไอ้นวยบอก
"บนเรื่องอะไรวะ" ไอ้รอนถาม
"ขอพระช่วยให้มันมีลูก"
"ทำไม จะให้พระช่วยมีเพศสัมพันธ์กับเมียมันรึไง ไม่กลัวลูกออกมาหัวโล้นเรอะ"
"เอ็งนี่น้า มีเพื่อนอย่างเอ็งนี่อุ่นใจ ต่อให้ต้องตกนรกไป ได้เจอเอ็งแน่นอน"
ผมเสริมว่า
"มิน่า ไส้ติ่งแตกถึงยังไม่ตาย เขาว่ากันว่าคนดีมักอายุสั้น คนอยู่ได้นาน"
ไอ้รอนยังเถียง
"ตูก็คนดีโว้ย"
"เอ็งมีอะไรดีวะ"
"..................................................................................................................................ตูเคยใส่เสื้อสีเหลือง"
"ตรุ๋ย คิดตั้งนาน นึกได้แค่นี้ ไม่บอกว่าเคยเป่านกหวีดด้วยล่ะวะ"
ไอ้รอนแค่นเสียง
"ถ้าตูเคยเป่านกหวีด ตูคงไม่มีหน้าไปเจอใครหรอก เอาหน้าจุ่มโถส้วมตายดีกว่า"
"อย่าทำแบบนั้นกับโถส้วมผู้บริสุทธิ์สิ หน้าเอ็งไม่เหมาะกับมันหรอก" ไอ้นุ้ยท้วง
"แล้วหน้ามันเหมาะกับอะไรวะ" ไอ้บอมถาม
"แลคตาซิด" ไอ้นุ้ยตอบ
ไอ้เก้าพูดว่า
"ให้ความรู้ดีมาก สมกับที่เรียนหมอมา"
ไอ้นวยถามว่า
"มันไปเรียนหมอตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ"
ไอ้นุ้ยก็ถาม
"ตูไปเรียนหมอตั้งแต่เมื่อไหร่วะ"
ไอ้เก้าว่า
"ก็ที่งานแต่งไอ้พลไง มันไปร่วมงานเลี้ยงรุ่นของพวกหมอมาไม่ใช่เหรอ"
ไอ้อิ๊บพูด
"ตูก็ว่าจะถาม พวกเอ็งเข้าไปทำไมได้ตั้งนานวะ"
ไอ้นุ้ยตอบ
"ก็คุยอะไรไปเรื่อยเปื่อย ว่างก็หยิบของกิน แต่เดี๋ยวนี้หมอผู้หญิงแต่ละคน สวยๆทั้งนั้นเลยว่ะ"
ไอ้อิ๊บยังถาม
"พวกเค้าเป็นประกาศนียบัตรการแพทย์นะเว้ย พวกเอ็งจะคุยกับเค้ารู้เรื่องเหรอ พูดไม่กี่คำก็โดนจับได้แล้วมั้ง"
"ตูมีความรู้โว้ย" ไอ้นุ้ยว่า "โดยเฉพาะเรื่องการผ่าตัด ให้ตัดแขน ตัดขา ตัดคอ ฉีกปากแผลให้กว้าง หั่นเป็นชิ้นๆ หรือสับให้ละเอียด ตูทำได้หมดแหละ"
"ตูก็พอรู้เรื่องเบสิคว่ะ" ไอ้รอนพูด "ทายาแดง ป้ายยาหม่อง ราดทิงเจอร์ แปะพลาสเตอร์ อะไรพวกเนี้ย"
แล้วไอ้นุ้ยก็หันมาทางผม
"กำลังคุยเพลินๆ ไอ้หล่อดันเอาความซวยมาฝากพวกตูด้วย"
ผมยืดอกพูด
"ช่วยไม่ได้ นอกจากหล่อแล้ว ตูดันยังใจกว้างยังกับเส้นศูนย์สูตร"
ไอ้นุ้ยทำหน้าเหยียด
"เอ็งรู้จักเส้นศูนย์สูตรด้วยเหรอะ รู้มั้ยมันอยู่ตรงไหน"
ผมตอบอย่างรวดเร็ว
"ไอ้โง่เอ๊ย มันก็อยู่ข้างๆเส้นหนึ่งสูตรน่ะสิ"