เราทำงานอยู่เอกชนแห่งหนึ่งในเชียงใหม่
หลังจากจบมาก็ได้งานทำที่นี่ เพราะงานตรงสาย เเละให้เงินเดือนค่อนข้างสูงกว่าที่อื่น จนตอนนี้ก็ทำงานที่นี่เข้าสู่ปีที่4 แต่ก็ยังไม่มีเพื่อนที่สนิทเลยสักคน คนที่เคมีตรงกันจริงๆเค้ามาแปปๆก็ย้ายไป บางทีคนอื่นจะมองว่าสนิทกับคนนั้นคนนี้ แต่จริงๆแล้ว คนที่สามารถปรึกษาเรื่องสวนตัวได้ หรือสนิทจริงๆไม่มีเลย สังคมเพื่อนร่วมงาน เหมือนพวกเขาจะรักกันดี แต่ลับหลังนินทาว่าร้ายน่ากลัวชะมัด จนไม่กล้าจะเปิดใจสนิทกับใคร อีกส่วนหนึ่งเราก็เข้ากับคนยาก
จนตอนนี้เพื่อนที่ทำงานเริ่มที่จะมาแอดเฟสบุ๊คทีละคนสองคน แต่พอรับ เขาก็ไม่เคยที่จะมากดไลค์ มาเม้นแสดงความยินดีอะไร แต่พอลงสตอรี่จะมาดูตลอด เราเริ่มรู้สึกอึดอัด จนเราลบเพื่อนออก แล้วมาแซะเราว่าลบกูหรอ !!!
เราต้องทนอยู่เพราะภาระที่บ้าน แต่ข้อดีคือได้อยู่กับครอบครัว และตอนนี้จิตใจเริ่มไม่แข็งแรงพอที่จะรับมือกับเรื่องที่เจอ จนเป็นโรคซึมเศร้า
ไม่มีความสุขกับการทำงาน ไม่มีเพื่อนที่ทำงาน
หลังจากจบมาก็ได้งานทำที่นี่ เพราะงานตรงสาย เเละให้เงินเดือนค่อนข้างสูงกว่าที่อื่น จนตอนนี้ก็ทำงานที่นี่เข้าสู่ปีที่4 แต่ก็ยังไม่มีเพื่อนที่สนิทเลยสักคน คนที่เคมีตรงกันจริงๆเค้ามาแปปๆก็ย้ายไป บางทีคนอื่นจะมองว่าสนิทกับคนนั้นคนนี้ แต่จริงๆแล้ว คนที่สามารถปรึกษาเรื่องสวนตัวได้ หรือสนิทจริงๆไม่มีเลย สังคมเพื่อนร่วมงาน เหมือนพวกเขาจะรักกันดี แต่ลับหลังนินทาว่าร้ายน่ากลัวชะมัด จนไม่กล้าจะเปิดใจสนิทกับใคร อีกส่วนหนึ่งเราก็เข้ากับคนยาก
จนตอนนี้เพื่อนที่ทำงานเริ่มที่จะมาแอดเฟสบุ๊คทีละคนสองคน แต่พอรับ เขาก็ไม่เคยที่จะมากดไลค์ มาเม้นแสดงความยินดีอะไร แต่พอลงสตอรี่จะมาดูตลอด เราเริ่มรู้สึกอึดอัด จนเราลบเพื่อนออก แล้วมาแซะเราว่าลบกูหรอ !!!
เราต้องทนอยู่เพราะภาระที่บ้าน แต่ข้อดีคือได้อยู่กับครอบครัว และตอนนี้จิตใจเริ่มไม่แข็งแรงพอที่จะรับมือกับเรื่องที่เจอ จนเป็นโรคซึมเศร้า