เสื้อแดง ขู่ 'ลุงตู่' มีเบื้องหลัง แค่ด้อมส้มไม่พอ เจอแน่ทุกสีเสื้อ คาดโหวตนายกฯ สว.ส่วนใหญ่ไม่ออกเสียง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7761165
ขอนแก่น คนเสื้อแดงชม “ลุงตู่” วางมือจากการเมือง คอยให้กำลังใจคนรุ่นใหม่สร้างประเทศ ขู่มีเบื้องลึกเบื้องหลัง ไม่แค่ด้อมส้ม แต่ทุกสีเสื้อออกมาหมด ระบุโหวต นายกฯ คาด สว.ส่วนใหญ่ไม่ออกเสียง
12 ก.ค. 66 – ผศ.
พรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษาเครือข่ายคนเสื้อแดงภาคอีสาน เปิดเผยว่า ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศวางมือจากการเมือง โดยส่วนตัวยินดีและยกย่องในน้ำใจชายชาติทหาร รู้แพ้ รู้ชนะ และรู้ว่าควรจะถอย ซึ่งขอเป็นกำลังใจให้ลุงตู่เป็นคนแก่คนหนึ่งที่อยู่ที่บ้าน และคอยให้กำลังใจกับคนรุ่นใหม่ที่จะขึ้นมาสร้างประเทศ
“
ชื่นชมบทบาท พล.อ.ประยุทธ์จบลงแบบนี้ และถ้าออกจากบ้านในค่ายทหารก็ยิ่งจะชื่นชมอีกระดับหนึ่ง เพราะทุกคนไม่ว่าใครก็ตาม จากสูงสุดต้องกลับสู่สามัญชนเป็นธรรมดา จึงจะรู้ว่า รสชาติของชีวิตแต่ละคนนั้นลำบากขนาดไหน
แต่ถ้ายังไม่ถอยออกมาจากหอคอยงาช้างในค่ายทหาร มองความทุกข์ของประชาชนไม่ออก ซึ่งก็ขอพูดแบบฟันธงเลยว่า ยอมลงตอนนี้ถือว่า จบสวย แต่ถ้ายังมีเบื้องลึกเบื้องหลัง สามป. ยังไม่ยอมวางมือ ดื้อที่จะบริหารประเทศต่อไป ประชาชนที่ออกมาจะไม่ใช่แค่ม็อบดอมส้มอย่างเดียว แต่จะเป็นทุกสีเสื้อ ทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ จะออกมา
เพราะทุกคนได้รับผลกระทบมา 8-9 ปี จากการบริหารงานของทหารมามากพอแล้ว เพราะฉะนั้นอย่าคิดมาบริหารต่อ ซี่งในเรื่องนี้ขอให้จบด้วยดีและขอให้เห็นแก่ชาติบ้านเมือง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน อย่าเห็นแก่พรรคพวก หยุดแค่นี้คุณก็กินไม่หมด ขอให้เห็นแก่บ้านเมือง ชื่อเสียงของประเทศจะได้สงบ และจะได้เดินต่อไปไปข้างหน้าเพื่อพบกับนานาประเทศได้”
ผศ.
พรรณวดี กล่าวต่ออีกว่า การโหวตเลือก นายกรัฐมนตรี ที่จะถึงนี้ บทบาท ของ ส.ว. แต่ละท่าน ล้วนแต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ได้รับการยอมรับในแต่ละบทบาทวิชาชีพ แต่ละท่านก็จะมีสิ่งที่ยึดในใจนั่นก็คือ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใครที่คิดจะต้องก็เหมือนกับไม่ถูกต้อง ซึ่งเราก็เข้าใจในหัวอก แต่ในส่วนที่โหวตให้กับ นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นั้น เข้าใจว่าทุกคนยึดในหลักกติกาว่า ต้องเป็นอย่างไร
“
ได้ติดตามผลของการประชุมของกกต.ก็ยังมีเรื่องคุณสมบัติของคุณพิธา ที่ทำให้ทาง ส.ว.แต่ละท่าน อาจจะข้องใจ อาจจะไม่มีความเชื่อมั่นในการที่จะโหวตรับหรือไม่รับก็เลยเชื่อว่าทาง ส.ว.จะโหวตไม่ออกเสียง เพื่อเป็นการเซฟตัวเอง เพราะหากเลือกโหวตให้คุณพิธาได้ แต่ทางกกต. ทำการตรวจสอบมีการสอบสวนแล้ว คุณสมบัติไม่มีทาง ส.ว. ที่เลือกคุณพิธา ก็จะมีผลกระทบตามมา ซึ่งในจุดนี้ก็เข้าใจและเท่าที่มองในตอนนี้ส่วนใหญ่จะเลือกไม่ออกเสียง”
ผศ.
พรรณวดี กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากวันที่ 14 พ.ค.ที่จะถึงนี้เป็นชัยชนะของฝ่ายประชาธิปไตยที่เอาชนะเผด็จการได้อย่างราบคาบ ฝ่ายเผด็จการแพ้ฝ่ายประชาชนคือประชาธิปไตย แต่ในเวลานี้คนส่วนใหญ่ไปเน้นเพียงพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย
ทั้งที่ในวันนี้ชัดเจนแล้วว่า ฝ่ายประชาธิปไตยมีทั้งหมด 8 พรรคการเมืองที่จะร่วมกันแตะมือกันให้มั่นคง และเดินหน้าเพื่อตั้งรัฐบาล และพรรคก้าวไกลก็อย่าคิดว่าเด่นมาก อย่าคิดว่าเป็นเสียงส่วนมากของประชาชน ซึ่งมองดูแล้วหากมองด้วยใจคนเป็นกลาง ก็จะบอกว่ามันไม่ใช่
“
ดอมส้มเองก็พยายามจะปล่อยข่าวว่า ตัวเองเป็นเสียงส่วนใหญ่ เป็นเสียงส่วนมาก ซึ่งไม่ถูก เพียงแต่ว่าคนส่วนมากที่เลือกมาจะคอยดูการทำงานของพรรคก้าวไกล เมื่อได้รับโอกาส จะสามารถทำให้ถึงจุดมุ่งหมาย เป้าหมายของพี่น้องที่รอดูอยู่ได้หรือไม่ หากก้าวไกลล้มกลางคัน ผิดพลาดด้วยคุณสมบัติหรืออะไรที่หลากหลายในขณะนี้ ก็จะทำให้ประชาชนผิดหวังส่วนหนึ่ง
แต่ยังมีอีก 7 พรรคที่ยังสามารถเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแทนได้ การแข่งขันเลือกตั้งตัดสินไปแล้วว่า จะให้หรือไม่ให้ใคร เราควรเคารพความคิดเห็นที่แตกต่าง
ซึ่งเป็นหลักสากลในหลักประชาธิปไตย แต่เมื่อไหร่ที่คุณไม่เคารพสิ่งเหล่านี้ คุณจะไม่เห็นความสำคัญของเสียงส่วนน้อยเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเราก็จะอยู่กันแบบไม่สงบ
เพราะฉะนั้นเรื่องของการจัดตั้งรัฐบาลควรเน้นว่าเป็นเรื่องของ 8 พรรคการเมือง ไม่ใช่ของก้าวไกล หรือไม่ใช่ของเพื่อไทย พรรคใดพรรคหนึ่ง จนเกิดการเสี้ยมกัน”
การเมืองเดือด #กกตมีไว้ทำไม คัมแบ็กขึ้นเทรนด์ฮิตทวิต หลังมีมติสอย ‘พิธา’ พ้นส.ส.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4075358
การเมืองเดือด #กกตมีไว้ทำไม คัมแบ็กขึ้นเทรนด์ฮิตทวิต หลังมีมติสอย ‘พิธา’ พ้นส.ส.
เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ภายหลังจากที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกเอกสารเผยแพร่ ผลการประชุมกกต. ซึ่งมีการพิจารณาวาระสำคัญ และมีมติ กกต. ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยสมาชิกภาพส.ส. ของ นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน)
มีเหตุ “สิ้นสุด” ลงตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) นั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในสังคมออนไลน์ ได้วิพากษ์วิจารณ์ต่อประเด็นดังกล่าวในวงกว้าง โดยเฉพาะในข้อกรณีที่ว่า การมีมติครั้งนี้ทางนายพิธา หรือพรรคก้าวไกล ยังไม่มีโอกาสได้ชี้แจงข้อเท็จจริง บ้างก็ตั้งข้อสังเกตว่า พิธาเป็น ส.ส.มา 4 ปีแล้วแต่เพิ่งขาดคุณสมบัติ
ส่งผลให้ #กกตมีไว้ทำไม ซึ่งเคยครองอันดับเทรนด์ฮิตในทวิตเตอร์มาแล้วหลายครั้ง หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก กลับมาติดเทรนด์ฮอตในทวิตเตอร์อีกครั้ง
ขณะเดียวกัน แฮชแท็กเกี่ยวกับการเมือง ต่างยกแผงทะยานขึ้นเทรนด์ฮิตในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น
#นายกพิธา #โหวตนายก และ
#ประชุมสภา
“สมชัย” เหน็บ กกต. “หาทำจริงๆ” หลังมีมติส่งศาล รธน. ฟัน “พิธา” พ้นส.ส.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4075671
“สมชัย” เหน็บ กกต. “หาทำจริงๆ” หลังมีมติส่งศาล รธน. ฟัน “พิธา” พ้นส.ส.
ภายหลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพส.ส.ของนาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกลสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 ( 3 )ประกอบมาตรา 101 ( 6 )หรือไม่จากเหตุมีชื่อถือครองหุ้นสื่อบริษัทไอทีวีจำกัดมหาชนจำนวน 42,000 หุ้น รวมทั้งมีคำขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ไว้จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย หลังใช้เวลากว่า 3 วัน ซึ่งนาย
อิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต.ได้ลงนามในคำร้องและมอบหมายให้เจ้าหน้าที่สำนักงานฯนำไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญทันทีนั้น
ล่าสุดนาย
สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต. ได้โพสต์ข่าวเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว พร้อมระบุข้อความสั้นๆ ว่า “หาทำจริง ๆ”
JJNY : เสื้อแดงขู่'ตู่' แค่ด้อมส้มไม่พอ เจอแน่ทุกสีเสื้อ│#กกตมีไว้ทำไม│“สมชัย”เหน็บกกต.“หาทำจริงๆ”│เอกชนจวกเชือด“พิธา”
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7761165
ขอนแก่น คนเสื้อแดงชม “ลุงตู่” วางมือจากการเมือง คอยให้กำลังใจคนรุ่นใหม่สร้างประเทศ ขู่มีเบื้องลึกเบื้องหลัง ไม่แค่ด้อมส้ม แต่ทุกสีเสื้อออกมาหมด ระบุโหวต นายกฯ คาด สว.ส่วนใหญ่ไม่ออกเสียง
12 ก.ค. 66 – ผศ.พรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษาเครือข่ายคนเสื้อแดงภาคอีสาน เปิดเผยว่า ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศวางมือจากการเมือง โดยส่วนตัวยินดีและยกย่องในน้ำใจชายชาติทหาร รู้แพ้ รู้ชนะ และรู้ว่าควรจะถอย ซึ่งขอเป็นกำลังใจให้ลุงตู่เป็นคนแก่คนหนึ่งที่อยู่ที่บ้าน และคอยให้กำลังใจกับคนรุ่นใหม่ที่จะขึ้นมาสร้างประเทศ
“ชื่นชมบทบาท พล.อ.ประยุทธ์จบลงแบบนี้ และถ้าออกจากบ้านในค่ายทหารก็ยิ่งจะชื่นชมอีกระดับหนึ่ง เพราะทุกคนไม่ว่าใครก็ตาม จากสูงสุดต้องกลับสู่สามัญชนเป็นธรรมดา จึงจะรู้ว่า รสชาติของชีวิตแต่ละคนนั้นลำบากขนาดไหน
แต่ถ้ายังไม่ถอยออกมาจากหอคอยงาช้างในค่ายทหาร มองความทุกข์ของประชาชนไม่ออก ซึ่งก็ขอพูดแบบฟันธงเลยว่า ยอมลงตอนนี้ถือว่า จบสวย แต่ถ้ายังมีเบื้องลึกเบื้องหลัง สามป. ยังไม่ยอมวางมือ ดื้อที่จะบริหารประเทศต่อไป ประชาชนที่ออกมาจะไม่ใช่แค่ม็อบดอมส้มอย่างเดียว แต่จะเป็นทุกสีเสื้อ ทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ จะออกมา
เพราะทุกคนได้รับผลกระทบมา 8-9 ปี จากการบริหารงานของทหารมามากพอแล้ว เพราะฉะนั้นอย่าคิดมาบริหารต่อ ซี่งในเรื่องนี้ขอให้จบด้วยดีและขอให้เห็นแก่ชาติบ้านเมือง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน อย่าเห็นแก่พรรคพวก หยุดแค่นี้คุณก็กินไม่หมด ขอให้เห็นแก่บ้านเมือง ชื่อเสียงของประเทศจะได้สงบ และจะได้เดินต่อไปไปข้างหน้าเพื่อพบกับนานาประเทศได้”
ผศ.พรรณวดี กล่าวต่ออีกว่า การโหวตเลือก นายกรัฐมนตรี ที่จะถึงนี้ บทบาท ของ ส.ว. แต่ละท่าน ล้วนแต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ได้รับการยอมรับในแต่ละบทบาทวิชาชีพ แต่ละท่านก็จะมีสิ่งที่ยึดในใจนั่นก็คือ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใครที่คิดจะต้องก็เหมือนกับไม่ถูกต้อง ซึ่งเราก็เข้าใจในหัวอก แต่ในส่วนที่โหวตให้กับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นั้น เข้าใจว่าทุกคนยึดในหลักกติกาว่า ต้องเป็นอย่างไร
“ได้ติดตามผลของการประชุมของกกต.ก็ยังมีเรื่องคุณสมบัติของคุณพิธา ที่ทำให้ทาง ส.ว.แต่ละท่าน อาจจะข้องใจ อาจจะไม่มีความเชื่อมั่นในการที่จะโหวตรับหรือไม่รับก็เลยเชื่อว่าทาง ส.ว.จะโหวตไม่ออกเสียง เพื่อเป็นการเซฟตัวเอง เพราะหากเลือกโหวตให้คุณพิธาได้ แต่ทางกกต. ทำการตรวจสอบมีการสอบสวนแล้ว คุณสมบัติไม่มีทาง ส.ว. ที่เลือกคุณพิธา ก็จะมีผลกระทบตามมา ซึ่งในจุดนี้ก็เข้าใจและเท่าที่มองในตอนนี้ส่วนใหญ่จะเลือกไม่ออกเสียง”
ผศ.พรรณวดี กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากวันที่ 14 พ.ค.ที่จะถึงนี้เป็นชัยชนะของฝ่ายประชาธิปไตยที่เอาชนะเผด็จการได้อย่างราบคาบ ฝ่ายเผด็จการแพ้ฝ่ายประชาชนคือประชาธิปไตย แต่ในเวลานี้คนส่วนใหญ่ไปเน้นเพียงพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย
ทั้งที่ในวันนี้ชัดเจนแล้วว่า ฝ่ายประชาธิปไตยมีทั้งหมด 8 พรรคการเมืองที่จะร่วมกันแตะมือกันให้มั่นคง และเดินหน้าเพื่อตั้งรัฐบาล และพรรคก้าวไกลก็อย่าคิดว่าเด่นมาก อย่าคิดว่าเป็นเสียงส่วนมากของประชาชน ซึ่งมองดูแล้วหากมองด้วยใจคนเป็นกลาง ก็จะบอกว่ามันไม่ใช่
“ดอมส้มเองก็พยายามจะปล่อยข่าวว่า ตัวเองเป็นเสียงส่วนใหญ่ เป็นเสียงส่วนมาก ซึ่งไม่ถูก เพียงแต่ว่าคนส่วนมากที่เลือกมาจะคอยดูการทำงานของพรรคก้าวไกล เมื่อได้รับโอกาส จะสามารถทำให้ถึงจุดมุ่งหมาย เป้าหมายของพี่น้องที่รอดูอยู่ได้หรือไม่ หากก้าวไกลล้มกลางคัน ผิดพลาดด้วยคุณสมบัติหรืออะไรที่หลากหลายในขณะนี้ ก็จะทำให้ประชาชนผิดหวังส่วนหนึ่ง
แต่ยังมีอีก 7 พรรคที่ยังสามารถเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแทนได้ การแข่งขันเลือกตั้งตัดสินไปแล้วว่า จะให้หรือไม่ให้ใคร เราควรเคารพความคิดเห็นที่แตกต่าง
ซึ่งเป็นหลักสากลในหลักประชาธิปไตย แต่เมื่อไหร่ที่คุณไม่เคารพสิ่งเหล่านี้ คุณจะไม่เห็นความสำคัญของเสียงส่วนน้อยเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเราก็จะอยู่กันแบบไม่สงบ
เพราะฉะนั้นเรื่องของการจัดตั้งรัฐบาลควรเน้นว่าเป็นเรื่องของ 8 พรรคการเมือง ไม่ใช่ของก้าวไกล หรือไม่ใช่ของเพื่อไทย พรรคใดพรรคหนึ่ง จนเกิดการเสี้ยมกัน”
การเมืองเดือด #กกตมีไว้ทำไม คัมแบ็กขึ้นเทรนด์ฮิตทวิต หลังมีมติสอย ‘พิธา’ พ้นส.ส.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4075358
การเมืองเดือด #กกตมีไว้ทำไม คัมแบ็กขึ้นเทรนด์ฮิตทวิต หลังมีมติสอย ‘พิธา’ พ้นส.ส.
เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ภายหลังจากที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกเอกสารเผยแพร่ ผลการประชุมกกต. ซึ่งมีการพิจารณาวาระสำคัญ และมีมติ กกต. ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยสมาชิกภาพส.ส. ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน)
มีเหตุ “สิ้นสุด” ลงตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) นั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในสังคมออนไลน์ ได้วิพากษ์วิจารณ์ต่อประเด็นดังกล่าวในวงกว้าง โดยเฉพาะในข้อกรณีที่ว่า การมีมติครั้งนี้ทางนายพิธา หรือพรรคก้าวไกล ยังไม่มีโอกาสได้ชี้แจงข้อเท็จจริง บ้างก็ตั้งข้อสังเกตว่า พิธาเป็น ส.ส.มา 4 ปีแล้วแต่เพิ่งขาดคุณสมบัติ
ส่งผลให้ #กกตมีไว้ทำไม ซึ่งเคยครองอันดับเทรนด์ฮิตในทวิตเตอร์มาแล้วหลายครั้ง หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก กลับมาติดเทรนด์ฮอตในทวิตเตอร์อีกครั้ง
ขณะเดียวกัน แฮชแท็กเกี่ยวกับการเมือง ต่างยกแผงทะยานขึ้นเทรนด์ฮิตในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น #นายกพิธา #โหวตนายก และ #ประชุมสภา
“สมชัย” เหน็บ กกต. “หาทำจริงๆ” หลังมีมติส่งศาล รธน. ฟัน “พิธา” พ้นส.ส.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4075671
“สมชัย” เหน็บ กกต. “หาทำจริงๆ” หลังมีมติส่งศาล รธน. ฟัน “พิธา” พ้นส.ส.
ภายหลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพส.ส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกลสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 ( 3 )ประกอบมาตรา 101 ( 6 )หรือไม่จากเหตุมีชื่อถือครองหุ้นสื่อบริษัทไอทีวีจำกัดมหาชนจำนวน 42,000 หุ้น รวมทั้งมีคำขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ไว้จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย หลังใช้เวลากว่า 3 วัน ซึ่งนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต.ได้ลงนามในคำร้องและมอบหมายให้เจ้าหน้าที่สำนักงานฯนำไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญทันทีนั้น
ล่าสุดนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต. ได้โพสต์ข่าวเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว พร้อมระบุข้อความสั้นๆ ว่า “หาทำจริง ๆ”