ตอนนี้ประชาชนกำลังคลั่งไคล้เจ้าหญิงวิมลลักษณา
การเปลี่ยนแปลงบางอย่างจึงเกิดขึ้น เช่น 
กษัตริย์หลุยส์ทรงให้เจ้าหญิงเป็นตัวแทนทั้ง 3 ฝ่ายคือ
พระราชวังวริศรา วังทั้งเจ็ด และวังดาร
ส่วนวังดารนั้น กษัตริย์หลุยส์ให้เปลี่ยนชื่อเป็นหมู่พระราชวังวริทธิ์วิคตอเรีย

เช้านี้ เจ้าหญิงเจนนิเฟอร์ได้ทูลเชิญราชินีโซเฟียและเจ้าหญิงวิมลลักษณา
เป็นการส่วนพระองค์ให้เสด็จมาที่โรงราชรถของหมู่พระราชวังวริทธิ์วิคตอเรีย
เพื่อให้ทั้งสองพระองค์ได้ชมราชรถเกริกกิติ ซึ่งถือเป็นราชรถหลวงที่เคยหายสาปสูญไป
แต่แท้จริงแล้ว ได้มีเชื้อพระวงศ์ท่านหนึ่ง ได้นำมาซ่อนไว้ที่นี่
ทั้ง 3 พระองค์จึงได้ตกลงให้ราชรถเกริกกิติเป็นราชรถที่จะมารับเจ้าหญิงวิมลลักษณา
และเจ้าชายปารีสจากโบสถ์แห่งชาติโสฬสไปยังพระราชวังดานูปหลังจากเสร็จพิธี

หลังจากนั้น ทั้ง 3 พระองค์ทรงมาดื่มพระสุธารสชาด้วยกัน
ราชินีโซเฟียทรงถามขึ้น "ทำไมในวังทั้ง 7 และหมู่พระราชวังวริทธิ์วิคตอเรียถึงได้มีแต่เจ้าชาย
ไม่ค่อยมีเจ้าหญิงเลย"
เจ้าหญิงวิมลลักษณาทรงตอบว่า "เจ้าหญิงที่เกิดมาถูกฆ่าเสียส่วนมากค่ะ"
"อ้าว ทำไมล่ะ"
"แต่ละวังอยากได้แต่เจ้าชายค่ะ เพราะหวังว่าอาจได้ขึ้นเป็นกษัตริย์"
ราชินีโซเฟียทรงไม่ถามเรื่องนี้อีก ทรงชวนคุยเรื่องอื่น
...........................................................................
เรื่องนึงที่ทำให้ประชาชนตื่นเต้นกันมาก
คือข่าวการกลับคืนสู่มาตุภูมิของเจ้าชายมฆวินทร์แห่งวังทั้ง 7
เพื่อทรงร่วมงานอภิเษกฯของเจ้าหญิงวิมลลักษณาและเจ้าชายปารีส
ทำให้จาก 6 ภราดาแห่งวังทั้ง 7 จะกลายเป็น 7 ภราดาแห่งวังทั้ง 7
และที่ทำให้น่าตื่นเต้นไปอีกก็คือวันนี้ ณ สนามบินแห่งชาติโสฬส
เวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าชายมฆวินทร์จะเสด็จถึงมาตุภูมิ
ข่าวที่แพร่สะพัดออกไปก็คือ 6 ภราดาแห่งวังทั้ง 7 จะเดินทางมารับ
เจ้าชายมฆวินทร์ด้วยตัวเอง นับเป็นการออกสื่อครั้งแรกในรอบ 9 ปี

นักข่าวและประชาชนยืนออตรงทางผ่านไปยังห้องรับรองพิเศษกันอย่างเนืองแน่น
ตั้งแต่บ่ายโมง เวลาบ่ายสี่ เริ่มมีเจ้าชายแห่งวังทั้ง 7 เสด็จมาตามลำดับดังนี้
เจ้าชายฝาง เจ้าชายโรเบิร์ต เจ้าชายฟอร์ด เจ้าชายเทซก เจ้าชายเมฆิน และเจ้าชายภูมินทร์

และแล้วก็ได้เวลามาถึงของเจ้าชายมฆวินทร์ มีการถ่ายทอดสดใน internet หลายช่อง
หลายคนดีใจที่เจ้าชายคืนสู่มาตุภูมิ เพื่อมาร่วมงานอภิเษกฯของเจ้าหญิงวิมลลักษณาและเจ้าชายปารีส
ขณะที่พระองค์เสด็จไปยังห้องรับรองพิเศษ ประชาชนจากทั้งสามประเทศคือโสฬส โชกุนโพ และหนานนูเปีย
ต่างเฝ้ารับเสด็จกันอย่างเนืองแน่น

ครั้งหนึ่ง พระองค์ทรงเคยเป็นขวัญใจของทั้งชาวโสฬส โชกุนโพและหนานนูเปีย
ณ เวลานี้เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าพระองค์ก็ยังเป็นเช่นนั้นอยู่ตราบนิรันดร์