1

        กันต์เปิดซองเอกสารที่แมสเซนเจอร์นำมาส่งให้ ข้างในมีเอกสารปึกใหญ่ ซึ่งคือบทละครเรื่องใหม่ตามที่ผู้จัดการส่วนตัวของเขาแจ้งมาก่อนหน้านี้ ชายหนุ่มนั่งอ่านคร่าวๆ ไปได้สักพักก็ถอนหายใจยาว วางกระดาษปึกนั้นลงอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก ไม่อยากจะอ่านต่อเลย แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทร. ไปหาคนที่ส่งเอกสารให้เขา

      “สวัสดีครับพี่บี ผมได้รับบทละครแล้วนะ อ่านไปได้เกือบครึ่ง”

      “เป็นไง โอเคไหม”

      เขาถอนหายใจก่อนตอบแบบเกรงใจว่า “ไม่ค่อย...”

     “อ่านให้จบก่อนซิ บทละครเรื่องนี้แปลงมาจากนิยายขายดีเชียวนะ พี่เชื่อว่านอกจากแฟนละครของกันต์แล้ว ยังพ่วง FC จากหนังสือนิยายอีกด้วย
เรตติ้งน่าจะกระฉูดอีกครั้ง”

     “ผมเคยรู้เรื่องนิยายนี้มาบ้างครับ เรื่องราวเข้มข้นดีก็จริง แต่ปัญหามันอยู่ที่ผมต้องเล่นบทซ้ำๆ เดิมๆ มันไม่มีพัฒนาการ ผมอยากเปลี่ยนบทบ้าง”

     “ก่อนหน้านี้คุณก็เล่นบทบู๊มาแล้ว เรื่องนี้ก็มีต่อสู้นะ”

     “ผมอยากเล่นดราม่า แบบบีบคั้นอารมณ์ ผมเชื่อว่าผมสามารถทำให้ผู้ชมน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัวเลยนะครับ”

     “เรียกว่าอยากได้กล่องมากกว่าเงิน”

     “พอได้กล่องแล้วเงินก็ตามมาไม่ใช่รึครับ”

     “พี่เข้าใจนะ แต่ตอนนี้บทที่กันต์ต้องการ ยังไม่ผู้จัดละครรายไหนอยากทำ ถ้ากันต์จะรอบทที่ว่า พี่ก็ยังตอบไม่ได้ว่าจะต้องรอไปอีกนานแค่ไหน อาจจะนานเป็นปี”  ซึ่งละไว้ในฐานที่เข้าใจว่า มันหมายถึงการขาดรายได้ของนักแสดงและเปอร์เซ็นต์ที่ผู้จัดการจะได้รับ

      ซึ่งชายหนุ่มเข้าใจเรื่องนี้ดี รู้สึกเกรงใจขึ้นมาบ้างจนไม่อยากตัดเยื่อใยเสียทีเดียว

      “เอาเป็นว่าขอไปคิดดูก่อนได้ไหมครับ แล้วผมจะให้คำตอบภายในอาทิตย์นี้”

      กันต์วางหูไปแล้วลุกขึ้นไปยืนริมหน้าต่างของคอนโดมิเนียมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา จากเพนเฮ้าส์ชั้นที่ 20 ทำให้เขามองเห็นวิวแม่น้ำไปไกลจนถึงปากน้ำในวันที่อากาศสดใส 

      ตั้งแต่เขาขึ้นแท่นรับบทพระเอกในละครโทรทัศน์มาแล้ว 4 เรื่อง ทำให้เขามีรายได้และเงินเก็บในอัตราที่น่าพอใจ มันทำให้เขาสามารถมีรถหรู มีคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ และโดยเฉพาะสองเรื่องหลังที่บทบาทของเขาสร้างกระแสความนิยมอย่างล้นหลามจนอัตราค่าตัวต่อตอนของเขาขึ้นมาถึงระดับแสนบาท

      บทบาทอะไรน่ะหรือ....บทสาวประเภทสอง 

      ใบหน้าที่หล่อเหลาออกแนวพระเอกเกาหลีและผิวขาวละเอียดนั้น เมื่อช่างแต่งหน้าแปลงให้เขาเป็นผู้หญิง เขาจึงออกมาสวยกว่าผู้หญิงแท้ๆ บางคน แถมเขายังแสดงได้สมบทบาทเพราะเขาใช้เวลาไปคลุกคลีกับสาวประเภทสองเพื่อศึกษาวิถีชีวิตและลักษณะท่าทางเพื่อให้เขาเลียนแบบได้สมจริง

      มันทำให้เรตติ้งละครเรื่องดังกล่าวพุ่งแรงแซงหน้าละครหลังข่าวทุกช่อง แฟนคลับที่มีอยู่เดิมยิ่งจะถูกใจเขามากขึ้น แถมยังได้แฟนคลับใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก เป็นปรากฎการณ์ที่ทั้งผู้จัดละครและผู้จัดการส่วนตัวของเขาไม่คาดคิดมาก่อน  

      การออกไปโชว์ตัวทั้งงาน event และรายการโทรทัศน์ เขาจะต้องแต่งตัวเป็นสาวประเภทสองอย่างในละคร พร้อมกับท่าทางสะดีดสะดิ้งเรียกเสียงฮาจากผู้ชม

      และความสำเร็จนี้ทำให้ค่ายละครเข้ามาติดต่อเขาพร้อมกับบทสาวประภทสองที่หวังจะโกยความนิยมเช่นเดียวกับเรื่องแรก ซึ่งผลงานเรื่องที่สองก็ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม โดยนักวิจารณ์หลายคนให้เครดิตว่าเป็นเพราะความสามารถของเขามากกว่าตัวบทละครหรือผู้จัด หรือแม้แต่ผู้กำกับการแสดงก็ออกปากชม

      ‘ได้กันต์มาเล่น รู้ฝีมืออยู่แล้ว ไม่ต้องหลายเทค’

      แถมเขายังเสนอความคิดในการปรับปรุงบทละครให้ แซ่บ ถูกใจผู้ชมยิ่งขึ้น เป็นความสามารถที่ทีมงานทุกต้องยอมรับ
 

       ชายหนุ่มเดินกลับมาหยิบปึกกระดาษที่เป็นบทละครเรื่องใหม่ขึ้นมาอ่านอีกครั้ง นี่เป็นเรื่องที่สามแล้วที่เขาจะต้องรับบทสาวประเภทสองที่ต้อง
ปลอมตัวเข้าไปสืบคดีในหอหญิง แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ ที่เขาต้องปลอมเป็นผู้หญิง ไม่ต้องทั้งเรื่อง แต่ภาพของมันคือเขาต้องแสดงเป็นสาวประเภทสองเหมือนเรื่องก่อนๆ อยู่ดี

      นึกถึงข้อความของเหล่าบรรดาแฟนคลับของเขาที่เข้ามาคุยผ่านโลกโซเชียล คนเหล่านี้เริ่มติดที่จะเรียกชื่อเขาว่า สายสุดา ตามตัวละครเรื่องที่เขา
โด่งดัง แล้วไปๆ มาๆ ก็ถูกแปลงเป็น กันต์สุดา กลายเป็นชื่อฮิตติดปากทั้งเหล่าแฟนคลับและสื่อสายบันเทิงไปแล้ว

      จริงอยู่ที่เขาโด่งดังเพราะบทกะเทย แต่เขาก็อยากแสดงความสามารถด้านอื่นด้วย ไม่ใช่แค่ว่าแต่งกะแทยแล้วสวยกว่าผู้หญิงจริง หรือเพราะเขา
สะดีดสะดิ้งเก่ง เขาคิดว่าดาราชายคนไหนก็เล่นบทนี้ได้ไม่ยาก เขาจึงอยากพิสูจน์ฝีมือว่าเขาสามารถแสดงบทอื่นได้  เช่น บทดราม่าที่ดึงอารมณ์ผู้ชมให้หัวเราะหรือร้องไห้ไปกับเขาได้ และเขาอยากได้บทนั้น

     เพราะเคยมีดาราชายที่โด่งดังชั่วข้ามคืนด้วยการแสดงบทดราม่าจนทำให้ผู้ชมน้ำตาร่วงมาแล้ว เป็นฉากประทับใจที่ผู้ชมละครต่างกล่าวขวัญกันมายาวนานไม่เคยลืม นั่นคือความสามารถของนักแสดงที่เขาอยากทำอยากพิสูจน์ฝีมือให้ทุกคนเห็น 

      แต่หากเขายังตามกระแส เล่นบทเดิมๆ เพียงเพื่อกอบโกยเรตติ้งหรือเงินทองต่อไปแล้ว คนจะติดภาพลักษณ์นั้น... ภาพลักษณ์ที่อาจแกะไม่หลุด
และนั่นคือการฆ่าตัวตายทางอาชีพการแสดงอย่างช้าๆ เพราะเมื่อมีบทละครดีๆ ผู้จัดจะมองข้ามเขาไปเพราะคิดว่าเขาแสดงได้เพียงบทกะเทย ซึ่งแนวโน้มกำลังจะเป็นแบบนั้น เพราะที่ผ่านมาเริ่มมีโฆษณามาติดต่อโดยให้เขาแสดงบทกะเทยในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ ซึ่งเขาปฎิเสธไปว่าคิวไม่ว่าง

       นึกถึงพี่บี หรือ ศุภเดช ผู้จัดการส่วนตัวของเขาที่ตอนนี้ขึ้นแท่นเป็นผู้จัดการดาราที่ฮอตที่สุดเพราะมีดาราในสังกัดที่ค่าตัวแพงเกินตอนละแสนบาททุกคน เขาเคยพูดจาทำความเข้าใจกับพี่บีมาแล้วครั้งหนึ่งรวมถึงครั้งนี้ ว่าเขาต้องการบทบาทใหม่ในละครเรื่องต่อไป แต่ดูเหมือนพี่บีจะเกรงใจผู้จัดละครรายนี้ที่เป็นเครือญาติกับเจ้าของช่องสถานีโทรทัศน์เพราะบทละครในมือเขาตอนนี้ไม่ได้ตอบความต้องการเขาแม้แต่น้อย