รักพิทักษ์ใจ (3)

กระทู้สนทนา


Chalun Ch


               บทที่ 3 เพราะใจสั่งไป

เมื่อคืนกลับมาจากมิตติ้งฉันนอนหลับไปอย่างมีความฝัน ใช่... ฉันฝันถึงพี่ซันพี่ชายของพี่แซนผู้ชายหล่อมาดเท่และมีความดุดันผสมผสานอย่างลงตัว อย่าหาว่าฉันบ้าเลยนะก็เมื่อคืนพี่ซันดันอยากมาอยู่ในฝันของฉันเอง

พอนึกถึงฝันเมื่อคืนและเรื่องเมื่อวานตอนช่วงหัวค่ำ ใบหน้าของพี่ซันก็วนเวียนอยู่แต่ในหัวของฉันตลอดเวลา สลัดทิ้งยังไงก็ไม่ยอมลบไปเสียที มันอัดอั้นในใจ มันอยากระบาย ถ้าจะไประบายในแหล่งโซเชียลยอดฮิตที่มีคนรู้จักมักคุ้นมากมายอยู่ในนั้น เพื่อน ๆ อีกทั้งคุณพ่อคุณแม่ของฉันต้องรู้แน่ พวกท่านทั้งสองเชยเสียที่ไหน พลันสมองก็นึกถึงเว็บบอร์ดขึ้นมา

เออ... ฉันเป็นสมาชิกเว็บบอร์ดนี่นา แม้พ่อกับแม่ของฉันจะเปิดเข้ามาเจอก็ไม่มีทางรู้ว่าเป็นฉันแน่

'888999 : ทุกคนคะคือเราแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอยู่ค่ะ จะทำยังไงคะให้เขารู้ว่าเราชอบเขาอยู่ แต่ว่าเขาดูไม่สนใจเราเลยนะ จะทำยังไงให้เขาสนใจเราบ้างคะ'

ตอนนี้ฉันกำลังสวมบทบาทเป็นนังแพมใจร่านอยู่ จะให้ทำอย่างไรได้ก็พี่ซันยังวนเวียนอยู่ในหัวสมองและหัวใจของฉันตลอดเวลา เปิดเข้าเว็บบอร์ดและตั้งกระทู้ถามเรื่องหัวใจ ก็หวังว่าจะมีโค้ชหรือผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบานเรื่องความรักมาให้คำแนะนำบ้าง

'บอกตรง ๆ ไปเลยค่ะ กล้าได้กล้าเสีย' ความคิดเห็นแรกมาเร็วมาก ทำอย่างนั้นไม่ได้ ฉันไม่กล้า... ไม่กล้าที่จะยอมรับความผิดหวัง ถ้าพี่ซันปฏิเสธแถมยังหัวเราะเยาะเด็กอย่างฉันอีกล่ะ จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

'เขาไม่สนคุณหรอกครับ ถ้าเขาสนใจคุณเขาแสดงออกให้รู้นานแล้ว' น้ำตาของฉันแทบเล็ด คนใจร้าย ไม่ให้กำลังใจแล้วยังซ้ำเติมกันอีก ฉันอ่านความคิดเห็นที่สองที่ตามมาอย่างรวดเร็ว

ความคิดเห็นของคนที่เข้ามาแนะนำซึ่งมีเกือบสิบคนได้ กูรูผู้รู้รอบทั้งนั้น ฉันนั่งอ่านคำแนะนำของแต่ละคนจนไปสะดุดเข้ากับความคิดเห็นของบุคคลหนึ่ง

'ไปเจอเขาสิคะ แกล้งบังเอิญเจอบ้าง ตั้งใจบ้าง ไปเจอเขาบ่อย ๆ เดี๋ยวเขาก็สนใจคุณเองแหละ แต่ไม่การันตีนะว่าจะใช้ได้ผลกับเขาคนนั้นไหม'

ฉันฉุกคิดกับความเห็นนี้ นั่นน่ะสิต้องเจอบ่อย ๆ จะได้ค่อย ๆ ทำความสนิททีละนิด ๆ แต่ว่าคนอย่างพี่ซันเหรอจะสนใจคนอย่างฉัน ระดับนักธุรกิจไฟแรง แถมแฟนคนล่าสุดก็เป็นถึงระดับนางงามจักรวาล 'หันมามองอี่แพมสิ มีอะไรดี'

แต่ช่างเถอะ ไม่ลองไม่รู้ ลองดูสักตั้ง ทำไมความคิดกับมโนสำนึกของฉันมันย้อนแย้งกันอย่างนี้

เมื่อเห็นด้วยกับความคิดเห็นนั้นฉันก็รีบลุกจากที่นอนอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะไปบ้านของพี่แซน ฉันตั้งใจจะไปหาพี่แซนโดยไม่ให้รู้ล่วงหน้า เกรงว่าถ้าโทรไปนัดก่อนอาจจะไม่ได้เจอกับพี่ซันก็ได้ หรือถ้าไปแบบไม่ได้นัดแบบนี้ก็อาจจะไม่ได้เจอเหมือนกัน ฉันประเมินดูแล้วไปแบบไม่นัดไว้มีสิทธิ์ที่จะบังเอิญได้เจอมากกว่า
....

มาถึงหน้าบ้านของพี่แซนไม่ทันจะได้กดกริ่งเรียกคนในบ้านประตูรั้วก็ถูกเปิดออกด้วยระบบอัตโนมัติ มีรถเก๋งขับออกมากระจกมืดทึบจึงทำให้มองไม่เห็นว่าคนข้างในเป็นใคร

รถคันที่ว่าค่อย ๆ วิ่งเข้ามาจอดใกล้ ๆ ฉัน 'พี่แซนเหรอ' แต่รถไม่คุ้นเลย ฉันว่าฉันพอจะจำรถคันของพี่แซนได้หรือว่าจะเป็น 'พี่ซัน' พอเดาอย่างนั้นหัวใจก็เต้นตูมตามหลุดออกมาจากอก คนในรถลดกระจกลงและทำเอาฉันแข้งขาอ่อนแทบเป็นลมล้มพับลงตรงนี้ สิ่งที่เดาเป็นจริง 'พี่ซัน' จริง ๆ ด้วย

พี่ซันลดกระจกลงดวงตาสีนิลมองมาที่ฉันไม่วางตาอีกทั้งใบหน้าเข้มที่เรียบนิ่งยิ่งทำให้ดูไม่ออกเลยว่าตอนนี้คนมองกำลังคิดอะไรอยู่

"พะ...พี่ซันสวัสดีค่ะ" ฉันยกมือไหว้กล่าวสวัสดีเจ้าของบ้านยิ้ม ๆ ด้วยอาการใจสั่น มือไม้ก็สั่นไปด้วยทั้งที่ตั้งใจจะมาพบหน้าเขาไหงพอเจอจริง ๆ ดันทำตัวไม่ถูก

สังเกตว่าคิ้วเข้มของพี่ซันขมวดเข้าหากันนิดหน่อย "แซนไม่อยู่ ออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้ว" พี่ซันกล่าวทั้งที่ฉันยังไม่ได้ถามเลย

"อ่อ...อ๋อ...ค่ะ พี่แซนไม่อยู่" ฉันประหม่าเหลือเกินที่ได้พูดคุยกับพี่ซันอีก เมื่อคืนเราได้คุยกันแล้วแต่ไม่กี่คำจากนั้นพี่ซันก็ขอกลับ ส่วนวันนี้ได้คุยกันอีกก็คงจะไม่กี่คำเหมือนเดิม "งั้นแพมกลับเลยแล้วกัน" ฉันไม่รู้จะไปต่อยังไง พี่ซันเองก็คงจะคิดว่าฉันกับพี่แซนเป็นเพื่อนสนิทกันภาษาอะไรทำไมจะไปจะมาหาสู่กันไม่โทรถามก่อน

พี่ซันกวาดสายตามองรอบ ๆ แวบเดียวแล้วก็ถามฉัน "เธอมายังไง" คงเพราะไม่เห็นรถจอดอยู่สักคัน

"แท็กซี่ค่ะ"

"จะไปไหนต่อ" คนมาดเท่ในรถถามห้วน ๆ จำเป็นต้องจริงจังเฉียบขาดขนาดนี้ไหม ยิ้มบ้างก็ได้ นี่ไม่ใช่ใครอื่น นี่คือเพื่อนน้องสาวเอง

คนหล่อน่ากลัวว่ะ... ฉันค้อนในใจ หล่อซะเปล่าคำพูดไม่หวานหูเอาเสียเลย

"ถามว่าจะไปไหนต่อ แซนไม่อยู่บ้าน กว่าจะกลับมาคงค่ำ ๆ จะกลับเลยมั้ย ฉันจะไปส่ง"

"เอ๋... พะ...พี่ซันว่าไงนะคะ" รับรู้ได้เลยว่าเสียงของฉันสั่นมาก ปากสั่น แขนขาสั่นไปหมดแล้ว คนหล่อจะไปส่ง

"หูตึงเหรอ ฉันถามว่าจะไปไหนต่อมั้ยหรือจะกลับบ้านจะไปส่ง" พี่ซันย้ำ "ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะทำไม่ดีกับเธอหรอก เห็นว่าไม่ได้ขับรถมาเอง แซนก็ไม่อยู่ ก็แค่จะไปส่งในฐานะเพื่อนน้องสาว"

เอ้า! ไหงมาว่าฉันอย่างนี้ ยังไม่ได้คิดอะไรเลย และก็นั่นน่ะสิ คนอย่างฉันขนาดโจรยังไม่คิดอยากจะข่มขืนเลย แล้วเทพบุตรเลือกได้อย่างพี่ซันเหรอจะแตะต้อง

อ้าว... คิดอะไรบ้า ๆ เนี่ยนังแพม! อยากให้พี่ซันทำแบบนั้นหรือไง จะรักจะชอบแค่ไหนเรื่องแบบนั้นก็อยากให้เกิดขึ้นเพราะความรักทั้งสองฝ่ายไม่ใช่แค่ความใคร่ อยากแต่งงาน อยากมีครอบครัวที่อบอุ่น ฉันเผลอส่งสายตาค้อนให้พี่ซันแล้วโดนสายตาดุดันจ้องกลับมา จนทำให้ฉันต้องสั่นไหวและยอมนั่งรถไปด้วย

"ไป...แพมจะไปหาพี่เนยต่อค่ะ" สมองจะบอกว่ากลับบ้านแต่ปากดันบอกว่าจะไปหาพี่เนย ตุลยดาเสียนี่ อะไรของฉันก็ไม่รู้

"งั้นก็ขึ้นมา" พี่ซันสั่ง ฉันเดินไปเปิดประตูหลังแล้วก็โดนพี่ซันดุอีก คนหล่อดุเก่งชะมัด "แพมฉันไม่ได้เป็นคนขับรถให้เธอนะ มานั่งฝั่งนี้" ฉันยิ้มแหย ๆ ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะให้นั่งตรงไหน พี่ซันบอกให้ฉันไปนั่งเบาะฝั่งตรงข้ามคนขับ จากนั้นเขาก็พาฉันไปส่งหาพี่เนยที่บ้าน

ระหว่างที่นั่งรถไปด้วยกันมีแต่ความเงียบที่กำลังทำหน้าที่ของมันอย่างขมักเขม้น ฉันลอบมองใบหน้าคมที่มีส่วนคล้ายกับพี่แซนอยู่บ้าง สำคัญคือมองมุมไหนก็ดูดีไปหมด 'คนหล่ออ่ะเนอะ มองมุมไหนก็หล่อ'

เหมือนคนที่ฉันแอบมองจะรู้ตัวและจงใจให้ฉันแอบมองได้เต็มที่ยังไงยังงั้น เพราะพี่ซันไม่คิดจะบังเอิญหันมาสบตาหรือปะทะเข้ากับสายตาของฉันเหมือนในนิยายรัก ๆ เลย ต่างคนต่างเงียบไม่คิดจะเอ่ยอะไรออกมาสักคำ จะอย่างไรก็ช่างเถอะตอนนี้หัวใจของฉันกำลังพองฟูที่สุด

"พี่ซันจะไปธุระไม่ใช่เหรอคะ แล้วมาส่งแพมแบบนี้จะไม่เสียเวลาเหรอคะ" ฉันเริ่มเกรงใจขึ้นมานิดหน่อย แม้จะแอบชอบใจอยู่บ้างก็ยังเกรงใจเขาอยู่ดี

"ฉันแค่จะเข้าบริษัทน่ะ ไม่ได้มีธุระสำคัญอะไร พอดีเห็นว่าเธอไม่มีรถกลับก็เลยอยากไปส่ง แต่เธอดันจะไปบ้านยัยเนยต่อไม่ยอมกลับบ้านตัวเอง เหงาเหรอ" คนหน้านิ่งหันมามองฉันแวบเดียวก็กลับไปมองทางอีก

"ค่ะเหงา... แพมอยู่แต่บ้านไม่มีอะไรทำ เพราะแพมยังไม่ได้ทำงาน แต่ว่าอีกไม่นานก็จะได้งานแล้วค่ะ ที่เมื่อวานเราไปมิตติ้งกันก็เนื่องจากว่าแพมได้งานทำล่ะค่ะ พี่แซนได้เล่าให้พี่ซันฟังมั้ย" ฉันบอกไปตามตรง

"อือ... วันหลังถ้าจะมาหาแซนก็ควรจะโทรคุยกันก่อนนะจะได้ไม่มาเสียเวลาแบบนี้" นี่ฉันกำลังโดนพี่ซันสอนอยู่ใช่มั้ย ก็ไม่ได้อยากมาหาพี่แซนนี่ อยากมาหาคนที่กำลังสอนอยู่ตอนนี้ต่างหาก "แล้วนี่จะไปหายัยเนยโทรบอกหรือยัง ทะเล่อทะล่าไปเดี๋ยวก็ไม่เจอกันอีก

เพี๊ยะ!!

รู้สึกเหมือนหน้ากำลังแตกระแหงออกเป็นเสี่ยง ๆ ยังไงไม่รู้

"เอ่อ... โทรบอกแล้วค่ะ พี่ซันไม่ต้องห่วง" ความจริงยังไม่ได้โทรเลย ไม่ได้จะไปหาพี่เนยด้วยซ้ำ และไม่คิดว่าแผนการจะออกมาแบบนี้ ไม่คิดว่าจะได้นั่งรถออกมาด้วย ฉันกะแค่ว่าได้เจอหน้าพูดคุยด้วยไม่กี่คำเท่านั้น ทว่าผลลัพธ์จะว่าคุ้มก็คงคุ้ม

"ก็ดี"

จากนั้นความเงียบก็เข้าปกคลุมอีกรอบพี่ซันไม่ถามอะไรฉันอีก และฉันเองก็ไม่ชวนเขาคุย สักพักก็ถึงบ้านของพี่เนย ก่อนจะถึงฉันทำเป็นโทรหาพี่เนยและพูดเนียน ๆ ไป โชคดีที่พี่เนยอยู่บ้าน หน้าบาง ๆ ของฉันเลยไม่แตกรอบสอง

"ขอบคุณที่มาส่งแพมค่ะพี่ซัน" ฉันกล่าวขอบคุณคนที่มาส่ง ส่วนพี่ซันผงกศีรษะให้นิดหน่อยก่อนจะขับรถจากไป ฉันยืนยิ้มมองรถของพี่ซันจากไปจนสุดสายตา
....

"แกว่าไงนะแพม ใครมาส่งแก" พี่เนยอุทานด้วยความตกใจ

"พี่เนยจะตกใจทำไมเนี่ย ก็บอกว่าพี่ซันมาส่ง" พี่เนยจ้องมองฉันด้วยเครื่องหมายคำถามเต็มหน้า "ก็แพมไปหาพี่แซนที่บ้าน แต่พี่แซนไม่อยู่ แล้วพี่ซันจะไปบริษัทพอดีเขาก็เลยมาส่งแพมหาพี่เนยด้วย ก็แค่นั้น"

พี่เนยยิ้มเยาะเหมือนกำลังพิจารณาอะไรบางอย่างจากใบหน้าของฉัน "แพมจริง ๆ แล้วแกไม่ได้จะไปหาไอ้แซนใช่มั้ย แต่แกตั้งใจจะไปเจอพี่ซัน"

เดาได้ตรงเป๊ะ! แต่ใครจะยอมรับ "จะบ้าเหรอพี่เนย ใครจะไปหาพี่ซัน อีกอย่างมีเหตุผลอะไรที่แพมต้องไปหาพี่ซัน รู้จักกันก็ไม่ เพิ่งจะรู้จักกันเมื่อวานเอง พี่เนยน่ะใส่ร้ายแพมตลอด" ฉันทำเป็นมองค้อนพี่สาวทางสังคม กลบเกลื่อนไม่ให้เจอพิรุธ

"เหรอ... เมื่อวานฉันเห็นแกมองพี่ซันตาเป็นมันเชียว ถ้าจับพี่ซันยัดเข้าปากเขี้ยว ๆ แล้วกลืนลงท้องได้แกคงทำไปนานแล้วเมื่อวานน่ะ มองเขาซะ"

เอ้า! ฉันรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองกำลังร้อนผ่าวอีกแล้ว พี่เนยจะดูคนเก่งเกินไปแล้ว "พี่เนยจะบ้าเหรอ"

พี่เนยหัวเราะ "แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วย"

"แพมหน้าแดงเหรอ" ฉันยกมือขึ้นมาแตะสองข้างแก้ม ทำแก้มพอง ๆ ตลก ๆ

"แจ๋เลยล่ะ นี่แพมแกบอกฉันมาตรง ๆ เลยนะว่าแกชอบพี่ซันใช่มั้ย แบบรักแรกพบอะไรงี้ แบบคนนี้ใช่เลยใช่มั้ย ชายในฝันว่างั้น เพราะฉันไม่เคยเห็นแกเสียอาการแบบนี้เลยแพม อยู่ใกล้ผู้ชายทั้งหล่อทั้งไม่หล่อมานักต่อนักก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร แต่พออยู่ใกล้พี่ซันฉันว่าแกเสียอาการมากว่ะ"

สุดท้ายฉันต้องยอมรับกับพี่เนยว่า "ก็นิดหน่อยค่ะ ก็พี่ชายของพี่แซนเขาหล่อเท่เข้มขรึมดี แพมก็เลยปลื้มเฉย ๆ คนหล่อใครจะไม่ปลื้มล่ะ"

"แน่ใจนะว่าแค่ปลื้ม ไม่ได้แอบคิดไปไกลถึงขั้นเป็นแฟนกัน แต่งงานกันไปนู่นน่ะ"

"พี่เนย! ใครจะไปกล้าคิดล่ะ พี่ซันเขาออกจะเพอร์เฟค ต่างกับแพมทุกอย่าง หน้าที่การงาน สังคม และก็ เอ่อ... อายุอีก" พูดเองเจ็บจี๊ดเองเมื่อคิดตามสิ่งที่พูด มันคือความจริง พี่ซันห่างกับฉันตั้งสิบหกปี เป็นคุณพ่อได้เลย แถวต่างจังหวัดบ้านของคุณย่าอายุสิบหกแต่งงานมีลูกกันแล้ว ไหนจะฐานะทางครอบครัวอีก

แม้พี่แซนจะรับฉันได้ เป็นเพื่อนสนิทกัน แต่จะให้มาเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัวทางพ่อแม่ญาติพี่น้องวงค์ตระกูลคงไม่ยอมรับในตัวของฉันหรอก ครอบครัวไม่มีตังค์นามสกุลไม่ดังคนรวยที่ไหนจะอยากเกี่ยวดองด้วย

"แล้วใครบอกว่ารักกันไม่ได้ล่ะ อีกอย่างฉันเชื่อว่าพี่ซันไม่แคร์เรื่องอย่างนั้นถ้าเขารักใครสักคนจริง ๆ"

"แฟนเก่าพี่ซันเป็นถึงนางงามเลยนะคะ ดูอย่างแพมสิ"

"ไม่ลองไม่รู้ แกก็ลองจีบเขาก่อนสิ ฉันกับไอ้แซนจะเอาใจช่วย" พี่เนยดูเชียร์ฉันออกหน้าออกตาเหลือเกิน แต่ในคำเชียร์มันดูแปลก ๆ ทำไมต้องให้ฉันไปจีบผู้ชายก่อน ทว่าไม่ลองก็ไม่รู้

"ไม่ค่ะ.... แพมแค่ปลื้มพี่ซัน ไม่ได้ถึงขั้นอยากเป็นแฟนสักหน่อย" อย่างไรก็ขอปฏิเสธไว้ก่อน

"จริงเหรอ" พี่เนยทำหน้าประชดได้น่าหมั่นไส้มาก ๆ ฉันพยักหน้าจริงจังแม้ในใจจะบอกว่า 'ไม่จริงค่ะ' ก็ตาม "ตามใจ มีคนมาคว้าพี่ซันไปก่อนช่วยไม่ได้นะ"

"เลิกพูดเรื่องพี่ซันเถอะ พี่เนยมาติวแพมหน่อยว่าไปสัมภาษณ์ควรทำยังไง" ฉันเปลี่ยนเรื่องคุย ไม่อยากพูดถึงพี่ซันอีกแล้ว

วันนี้ตลอดทั้งวันฉันขลุกตัวอยู่ที่บ้านของพี่เนยจนเย็น พี่เนยติวข้อมูลต่าง ๆ การตอบคำถาม การเตรียมตัวสำหรับเป็นผู้สื่อข่าว และอื่น ๆ อีกหลายเรื่อง นับว่าการออกจากบ้านวันนี้ไม่เปล่าประโยชน์ กลับได้รับประโยชน์กลับมาเต็ม ๆ แถมยังคุ้มแสนคุ้มอีกด้วยสำหรับบางเรื่อง

'888999 : คุณเคยอยู่ใกล้ ๆ คนที่แอบปลื้มสองต่อสองมั้ยคะ รู้สึกยังไง ทำตัวยังไงกัน ปล.ไม่ใช่อยู่ในที่ลับตาคนนะคะ อยู่กลางแจ้งนี่แหละแต่อยู่ใกล้เขา'

ฉันกลับมาตั้งกระทู้พูดคุยเรื่องความรักในเว็บบอร์ดอีกเช่นเดิม

จบบท
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่