เมื่อเจ้าหญิงวิมลลักษณาพระชนมายุได้ 25 ชันษา
ตอนนั้นทางวังทั้ง 7 ได้โหวตให้พระองค์ทรงเป็นตัวแทนของวังทั้ง 7
หรืออีกนัยหนึ่งอาจเรียกได้ว่าประธานบริหารถ้าเราเปรียบวังทั้ง 7 เหมือนกับ
7 บริษัทในเครือจักรพันธ์
ความวุ่นวายของสถาบันกษัตริย์ของโสฬสนั้นมีมาเป็นร้อยปีแล้ว
ส่วนใหญ่จะเกิดจากการช่วงชิงอำนาจกันเป็นใหญ่
ต่อมาก็ดูเหมือนว่าจะแตกกันออกเป็น 3 ฝ่ายใหญ่ ๆ คล้าย ๆ สามก๊ก
กษัตริย์พระองค์หนึ่งจึงดำริให้สร้างหมู่พระราชวังออกเป็น 3 ส่วน
ส่วนแรกคือวังทั้ง 7 ที่ประกอบไปด้วยพระราชวังดานูป พระราชวังโอดาน
พระราชวังสีทันดร พระราชวังลาลูป พระราชวังรามาวดี
พระราชวังโอมาดารายัณและพระราชวังโสภิตา
ส่วนที่ 2 คือวังดาร ที่ประกอบไปด้วยพระราชวังอันเดรเฟราอาน พระราชวังโซฟิสิโนโลยาน
พระราชวังอังเดรและพระราชวังอานุภาพรังสรรค์
ส่วนที่ 3 คือพระราชวังวริศรา ถึงมีแค่วังเดียว แต่เนื้อที่พอ ๆ กับวังทั้ง 7
หลังจากนั้นทั้ง 3 หมู่พระราชวังก็ไม่ค่อยจะยุ่งเกี่ยวกัน
งบประมาณก็แยกกันเด็ดขาด ปัญหาของแต่ละที่กลับเป็นการเมืองภายใน
ทุกที่มีการเมืองภายในที่ร้อนแรงพอ ๆ กันและค่อนข้างจะสลับซับซ้อน
ความจริงแล้วตอนโหวตตัวแทนของวังทั้ง 7 เจ้าชายปารีสกับเจ้าหญิงวิมลลักษณา
ได้คะแนนเท่ากัน ทางเสนาวังได้นำเรื่องนี้เรียนปรึกษาเจ้าชายปารีสว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรดี
เจ้าชายปารีสทรงแนะนำให้ปรับคะแนนให้เจ้าหญิงวิมลลักษณาได้คะแนนมากกว่าพระองค์
1 คะแนน
ที่ทรงแนะนำแบบนี้เพราะเห็นว่าเจ้าหญิงวิมลลักษณาทรงมีความเป็นผู้นำสูงกว่าพระองค์
ทรงเหมาะสมที่จะเป็นตัวแทนของวังทั้ง 7 จริง ๆ แล้วเจ้าหญิงน่าจะได้คะแนนมากกว่านี้
แต่หลายคนคงไม่เชื่อว่าสตรีจะเป็นผู้นำที่ดีได้ สังคมโสฬสยังมีลักษณะเป็นสังคมชายเป็นใหญ่
ผู้หญิงในโสฬสถูกกดขี่ไม่เว้นแต่ละวัน แล้วยังนครโสเภณีที่ชื่อว่าโรริสาที่เมืองนาคสรอีก
ทรงได้ข่าวว่าที่นั่นก็มีปัญหาร้อยแปด การมอบโอกาสให้วิมลลักษณาเป็นผู้นำหญิงของวังทั้ง 7
เจ้าชายปารีสเชื่อว่าจะมีส่วนช่วยทำให้สิทธิสตรีในโสฬสน่าจะดีขึ้นในอนาคต
เมื่อเจ้าหญิงวิมลลักษณาพระชนมายุได้ 28 ชันษา นายกกวินได้ขอเข้าเฝ้าที่พระราชวังดานูป
นายกกวินเป็นนายกได้ เกิดจากการที่นายพลชวนหักหลังนายพลเฉิน
และได้จ่ายเงินให้พวก ส.ส. กับ ส.ว. มากกว่า ทำให้นายพลเฉินไม่ได้เป็นนายกต่อ
ตอนนั้น กวินเพิ่งจะมาเป็นนายกได้ไม่นาน เขาก็สังเกตเห็นปฏิกิริยาที่ไม่ค่อยจะดีจากพวกทหาร
กวินอยากให้มีกำลังสำรองสำหรับถวายอารักขากษัตริย์ จะเข้าไปพึ่งที่พระราชวังวริศรา
ก็ไม่กล้าเพราะมีข่าวลือหนาหูว่าคนในของที่นั่นก็ร้ายกาจอยู่ไม่น้อย
ข่าวลือเรื่องการลอบปลงพระชนม์ก็มักจะลอยมาจากพระราชวังวริศรา
ทางวังดารเองก็เงียบมาก จนไม่สามารถตัดสินได้ว่าพวกเขาเป็นอย่างไร
กวินจึงเดินทางมายังวังทั้ง 7 เพื่อขอเข้าเฝ้าเจ้าหญิงวิมลลักษณา
กวินแจ้งความประสงค์ว่าอยากจะทำสนธิสัญญากับวังทั้ง 7 เรื่องการขอให้นายก
มีอำนาจในการสั่งกองกำลังทหารของวังทั้ง 7 ได้
กวินพยายามชี้แจงเหตุผลว่าทำไมเขาต้องทำเช่นนี้ และกล้าที่จะบุกมาเข้าเฝ้าเจ้าหญิง
เจ้าหญิงวิมลลักษณาทรงพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
จึงเซ็นเอกสารและยอมทำสนธิสัญญาครั้งนี้แต่โดยดี
เรื่องทราบถึงหูของเจ้าชายปารีสแห่งโอดาน เจ้าชายจึงรีบเสด็จมาที่ดานูปทันที
ตอนนั้นนายกกวินได้เดินทางกลับไปแล้ว
"ทำไมน้องหญิงถ้าไปยุ่งกับพวกมัน"
"คือ เออ หญิงคิดว่าทางนี้น่าจะช่วยปกป้องกษัตริย์หลุยส์กับราชินีโซเฟียอีกแรง"
"พี่ไม่ชอบให้น้องหญิงไปยุ่งกับพวกนักการเมืองของโสฬสเลย พวกนี้มีแต่พวกฉ้อฉลทั้งนั้น"
"แต่น้องอยากให้โอกาสนายกคนใหม่ เห็นเขาตั้งใจทำงานดี"
"แต่เวลาแค่นี้ยังพิสูจน์อะไรไม่ได้หรอก น้องหญิงควรจะอยู่ให้ห่างคนพวกนี้เอาไว้
ตอนนี้เรายังพิสูจน์ไมไ่ด้ว่ากวินเป็นหุ่นเชิดของใครรึเปล่า"
"แต่น้องเชื่อมั่นว่าเขาไม่ใช่หุ่นเชิด น้องเชื่อมั่นแบบนั้นนะคะ"
เจ้าชายปารีสไม่ได้กล่าวอะไรอีก ได้แต่จ้องหน้าเจ้าหญิง
หลังจากนั้นก็เดินจากไป
ปกติ เจ้าชายปารีสจะไปมาหาสู่เจ้าหญิงวิมลลักษณาอยู่เป็นประจำ
แต่หลังจากวันนั้นพระองค์ก็หายไปเลย เป็นเดือน เป็นปี
ที่ไม่ได้เข้ามาที่พระราชวังดานูปอีก เรื่องนี้สร้างความรันทดพระทัยให้กับเจ้าหญิงไม่น้อย
ถึงจะทรงเข้มแข็งมาก แต่ก็อดที่จะเสียพระทัยไม่ได้
ได้แต่ทรงคิดว่าเป็นไปได้ที่เจ้าชายปารีสจะไม่ทรงกลับมาอีก
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ชีวิตของเจ้าหญิงจะเป็นอย่างไร
เจ้าหญิงได้แต่ทรงสงสัยว่าชื่อ "วิมลลักษณา" ยังคงอยู่ในใจของเจ้าชายปารีสอีกหรือไม่
วิมานมายา โดย ศักดา ตอนที่ 49 ตอนพิเศษ: เรื่องราวแห่งรักของเจ้าหญิงวิมลลักษณาและเจ้าชายปารีส ตอนที่ 3
ตอนนั้นทางวังทั้ง 7 ได้โหวตให้พระองค์ทรงเป็นตัวแทนของวังทั้ง 7
หรืออีกนัยหนึ่งอาจเรียกได้ว่าประธานบริหารถ้าเราเปรียบวังทั้ง 7 เหมือนกับ
7 บริษัทในเครือจักรพันธ์
ความวุ่นวายของสถาบันกษัตริย์ของโสฬสนั้นมีมาเป็นร้อยปีแล้ว
ส่วนใหญ่จะเกิดจากการช่วงชิงอำนาจกันเป็นใหญ่
ต่อมาก็ดูเหมือนว่าจะแตกกันออกเป็น 3 ฝ่ายใหญ่ ๆ คล้าย ๆ สามก๊ก
กษัตริย์พระองค์หนึ่งจึงดำริให้สร้างหมู่พระราชวังออกเป็น 3 ส่วน
ส่วนแรกคือวังทั้ง 7 ที่ประกอบไปด้วยพระราชวังดานูป พระราชวังโอดาน
พระราชวังสีทันดร พระราชวังลาลูป พระราชวังรามาวดี
พระราชวังโอมาดารายัณและพระราชวังโสภิตา
ส่วนที่ 2 คือวังดาร ที่ประกอบไปด้วยพระราชวังอันเดรเฟราอาน พระราชวังโซฟิสิโนโลยาน
พระราชวังอังเดรและพระราชวังอานุภาพรังสรรค์
ส่วนที่ 3 คือพระราชวังวริศรา ถึงมีแค่วังเดียว แต่เนื้อที่พอ ๆ กับวังทั้ง 7
หลังจากนั้นทั้ง 3 หมู่พระราชวังก็ไม่ค่อยจะยุ่งเกี่ยวกัน
งบประมาณก็แยกกันเด็ดขาด ปัญหาของแต่ละที่กลับเป็นการเมืองภายใน
ทุกที่มีการเมืองภายในที่ร้อนแรงพอ ๆ กันและค่อนข้างจะสลับซับซ้อน
ความจริงแล้วตอนโหวตตัวแทนของวังทั้ง 7 เจ้าชายปารีสกับเจ้าหญิงวิมลลักษณา
ได้คะแนนเท่ากัน ทางเสนาวังได้นำเรื่องนี้เรียนปรึกษาเจ้าชายปารีสว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรดี
เจ้าชายปารีสทรงแนะนำให้ปรับคะแนนให้เจ้าหญิงวิมลลักษณาได้คะแนนมากกว่าพระองค์
1 คะแนน
ที่ทรงแนะนำแบบนี้เพราะเห็นว่าเจ้าหญิงวิมลลักษณาทรงมีความเป็นผู้นำสูงกว่าพระองค์
ทรงเหมาะสมที่จะเป็นตัวแทนของวังทั้ง 7 จริง ๆ แล้วเจ้าหญิงน่าจะได้คะแนนมากกว่านี้
แต่หลายคนคงไม่เชื่อว่าสตรีจะเป็นผู้นำที่ดีได้ สังคมโสฬสยังมีลักษณะเป็นสังคมชายเป็นใหญ่
ผู้หญิงในโสฬสถูกกดขี่ไม่เว้นแต่ละวัน แล้วยังนครโสเภณีที่ชื่อว่าโรริสาที่เมืองนาคสรอีก
ทรงได้ข่าวว่าที่นั่นก็มีปัญหาร้อยแปด การมอบโอกาสให้วิมลลักษณาเป็นผู้นำหญิงของวังทั้ง 7
เจ้าชายปารีสเชื่อว่าจะมีส่วนช่วยทำให้สิทธิสตรีในโสฬสน่าจะดีขึ้นในอนาคต
เมื่อเจ้าหญิงวิมลลักษณาพระชนมายุได้ 28 ชันษา นายกกวินได้ขอเข้าเฝ้าที่พระราชวังดานูป
นายกกวินเป็นนายกได้ เกิดจากการที่นายพลชวนหักหลังนายพลเฉิน
และได้จ่ายเงินให้พวก ส.ส. กับ ส.ว. มากกว่า ทำให้นายพลเฉินไม่ได้เป็นนายกต่อ
ตอนนั้น กวินเพิ่งจะมาเป็นนายกได้ไม่นาน เขาก็สังเกตเห็นปฏิกิริยาที่ไม่ค่อยจะดีจากพวกทหาร
กวินอยากให้มีกำลังสำรองสำหรับถวายอารักขากษัตริย์ จะเข้าไปพึ่งที่พระราชวังวริศรา
ก็ไม่กล้าเพราะมีข่าวลือหนาหูว่าคนในของที่นั่นก็ร้ายกาจอยู่ไม่น้อย
ข่าวลือเรื่องการลอบปลงพระชนม์ก็มักจะลอยมาจากพระราชวังวริศรา
ทางวังดารเองก็เงียบมาก จนไม่สามารถตัดสินได้ว่าพวกเขาเป็นอย่างไร
กวินจึงเดินทางมายังวังทั้ง 7 เพื่อขอเข้าเฝ้าเจ้าหญิงวิมลลักษณา
กวินแจ้งความประสงค์ว่าอยากจะทำสนธิสัญญากับวังทั้ง 7 เรื่องการขอให้นายก
มีอำนาจในการสั่งกองกำลังทหารของวังทั้ง 7 ได้
กวินพยายามชี้แจงเหตุผลว่าทำไมเขาต้องทำเช่นนี้ และกล้าที่จะบุกมาเข้าเฝ้าเจ้าหญิง
เจ้าหญิงวิมลลักษณาทรงพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
จึงเซ็นเอกสารและยอมทำสนธิสัญญาครั้งนี้แต่โดยดี
เรื่องทราบถึงหูของเจ้าชายปารีสแห่งโอดาน เจ้าชายจึงรีบเสด็จมาที่ดานูปทันที
ตอนนั้นนายกกวินได้เดินทางกลับไปแล้ว
"ทำไมน้องหญิงถ้าไปยุ่งกับพวกมัน"
"คือ เออ หญิงคิดว่าทางนี้น่าจะช่วยปกป้องกษัตริย์หลุยส์กับราชินีโซเฟียอีกแรง"
"พี่ไม่ชอบให้น้องหญิงไปยุ่งกับพวกนักการเมืองของโสฬสเลย พวกนี้มีแต่พวกฉ้อฉลทั้งนั้น"
"แต่น้องอยากให้โอกาสนายกคนใหม่ เห็นเขาตั้งใจทำงานดี"
"แต่เวลาแค่นี้ยังพิสูจน์อะไรไม่ได้หรอก น้องหญิงควรจะอยู่ให้ห่างคนพวกนี้เอาไว้
ตอนนี้เรายังพิสูจน์ไมไ่ด้ว่ากวินเป็นหุ่นเชิดของใครรึเปล่า"
"แต่น้องเชื่อมั่นว่าเขาไม่ใช่หุ่นเชิด น้องเชื่อมั่นแบบนั้นนะคะ"
เจ้าชายปารีสไม่ได้กล่าวอะไรอีก ได้แต่จ้องหน้าเจ้าหญิง
หลังจากนั้นก็เดินจากไป
ปกติ เจ้าชายปารีสจะไปมาหาสู่เจ้าหญิงวิมลลักษณาอยู่เป็นประจำ
แต่หลังจากวันนั้นพระองค์ก็หายไปเลย เป็นเดือน เป็นปี
ที่ไม่ได้เข้ามาที่พระราชวังดานูปอีก เรื่องนี้สร้างความรันทดพระทัยให้กับเจ้าหญิงไม่น้อย
ถึงจะทรงเข้มแข็งมาก แต่ก็อดที่จะเสียพระทัยไม่ได้
ได้แต่ทรงคิดว่าเป็นไปได้ที่เจ้าชายปารีสจะไม่ทรงกลับมาอีก
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ชีวิตของเจ้าหญิงจะเป็นอย่างไร
เจ้าหญิงได้แต่ทรงสงสัยว่าชื่อ "วิมลลักษณา" ยังคงอยู่ในใจของเจ้าชายปารีสอีกหรือไม่