เจ้าชายปารีสทรงรีบกลับมาที่วังทั้ง 7 แต่ไม่ทรงตรงไปที่พระราชวังโอดาน
พระองค์ตรงไปที่พระราชวังดานูปก่อน
"วิมลลักษณากลับมารึยัง"
"ยังเลยกระหม่อม"
เจ้าชายรีบวิ่งออกไปด้านนอก ตอนนั้นรถถังและทหารเต็มไปหมด
ถือเป็นรัฐประหารที่รุนแรงมากครั้งหนึ่งของโสฬส
บางถนนมีศพประชาชนนอนเกลื่อน เลือดนองไปทั่ว
เจ้าชายปารีสนึกถึงถนนวลาฟวโรรส ถนนที่ติดกับโรงเรียนของเจ้าหญิงวิมลลักษณา
พระองค์ทรงรีบวิ่งไปที่นั่น
ระหว่างทางเกิดจลาจลเป็นหย่อม ๆ เจ้าชายต้องวิ่งหลบหลีกหลายอย่าง
ตอนนั้นถึงเหตุการณ์จะน่ากลัวมาก แต่ทรงมีความห่วงใยเจ้าหญิงวิมลลักษณามากกว่าสิ่งใด
หลายครั้งต้องทรงวิ่งสวนทางกับประชาชนที่กำลังวิ่งหนีทหาร
แล้วพระองค์ทรงวิ่งไปชนทหาร ทำให้ทรงล้ม ทหารผู้นั้นเล็งปืนมาที่พระองค์
แต่ทหารอีกคนได้ห้ามไว้ "นั่นเจ้าชายปารีสนะ ระวังหน่อย"
ทหารได้หลีกทางให้เจ้าชายปารีส
"พระองค์ทรงออกมาทำไม ทรงไม่รู้เหรอว่าตอนนี้เหตุการณ์ภายนอกมันรุนแรงแค่ไหน"
"คิดว่าคงทรงตามหาเจ้าหญิงวิมลลักษณา ทางวังดานูปประกาศไปทุก ๆ ช่องทางเลย
ว่าเจ้าหญิงยังไม่ทรงกลับมาถึงวัง ถ้าใครเจอ ให้ช่วยดูแลและส่งกลับวังอย่างปลอดภัยให้ด้วย"
ตอนนั้นเจ้าชายทรงวิ่งจนลืมความเหน็ดเหนื่อย ทรงนึกถึงแต่เจ้าหญิงวิมลลักษณา
ตอนพระองค์วิ่งมาจนถึงถนนวลาฟวโรรส ตอนนั้นมีศพประชาชนเป็นจำนวนมาก
ดูเหมือนว่าทหารเพิ่งจะจากไป แต่อาจกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้
ทรงลองโทรหาเจ้าหญิงวิมลลักษณา แต่โทรไม่ติด
ทรงคิดถึงร้านกาแฟที่อยู่ตรงท้ายถนน ถ้าเจ้าหญิงวิมลลักษณาออกจากโรงเรียน
และพบว่ามีรถถังกับทหารเต็มไปหมด น่าจะทรงไปหลบตรงนั้นก่อน
เมื่อคิดได้ดังนั้น เจ้าชายทรงวิ่งไปตรงท้ายถนนทันที
ทรงรีบเข้าไปดูก่อนที่ทหารจะยกทัพกันมาอีกครั้ง
เจ้าชายทรงวิ่งมาถึงร้านกาแฟตรงท้ายถนน ตอนนั้นไม่มีใครอยู่แถวนั้น
มันเงียบมาก แต่ทรงได้ยินเสียงบางอย่าง จึงทรงเดินไปดู
และพบเจ้าหญิงวิมลลักษณาทรงหลบอยู่ใต้โต๊ะ เจ้าชายทรงดีใจมากที่เห็นเจ้าหญิงทรงปลอดภัย
"น้องหญิง พี่มาแล้วนะ เรากลับวังกันเถอะ"
ตอนนั้นเจ้าหญิงตัวสั่นมากและยังทรงนั่งนิ่ง
"พี่อยู่ตรงนี้แล้วนะ ไม่ต้องกลัว แต่เราควรไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดนะ"
เจ้าหญิงทรงค่อย ๆ ออกมา แต่ไม่ทรงกล่าวอะไรทั้งนั้น
เจ้าชายเห็นเสื้อของเจ้าหญิงขาดพอควร จึงถอดเสื้อของตัวเองให้
เจ้าหญิงทรงสวมไว้ แล้วจึงค่อย ๆ พาเดินออกจากร้านกาแฟ
และต้องพาให้ทั้งสองพระองค์ออกไปจนถึงหัวถนนวลาฟวโรรสให้ได้ก่อนพวกทหารจะกลับมาใหม่
ระหว่างเดิน จะมีศพกระจายอยู่ทั่วอาณาบริเวณ เจ้าหญิงทรงชะงักเป็นบางครั้ง
"รีบเดินเถิดน้องหญิงก่อนพวกทหารจะมากันอีก"
พอเดินไปจนถึงกลางถนน พวกทหารกองหนึ่งได้เข้ามาเก็บกวาดในวลาฟวโรรส
ตอนนั้นเจ้าหญิงตัวสั่นมาก "กอดพี่ไว้แล้วค่อย ๆ เดินนะ พี่ได้แต่ภาวนาให้พวกเขาจำเราได้"
พอทหารเห็นทั้งสองพระองค์ จึงเล็งปืนเพื่อจะเก็บกวาด แต่มีเพื่อนพวกมันทัดทานไว้
"เฮ้ย นั่นเจ้าชายปารีสแห่งโอดานนะ แล้วก็เจ้าหญิงวิมลลักษณาแห่งดานูป"
เมื่อทหารทั้งกองได้ยินเสียงเพื่อนมันตะโกนอย่างนั้น จึงเปิดทางให้
พอพ้นทหารพวกนั้น ก็จะมีศพอีกนับร้อย เจ้าหญิงวิมลลักษณาทรงเดินไม่ไหว
"น้องหญิงขี่คอพี่เลยนะ" เจ้าหญิงทรงขี่คอเจ้าชายปารีส
เจ้าชายค่อย ๆ เดินผ่านศพนับร้อยจนถึงต้นถนนวลาฟวโรรส
หลังจากนั้น ทรงวิ่งไปเรื่อย ๆ ท่ามกลางเหตุการณ์ที่กำลังบานปลายใหญ่โต
จนไปเจอนักข่าวหนุ่มของดาวพริกไทยที่ขี่มอเตอร์ไซต์มา
"เจ้าชายปารีสกับเจ้าหญิงวิมลลักษณานี่ ขึ้นมาเลย เร็ว ทรงวิ่งไม่ไหวหรอก"
เจ้าชายให้เจ้าหญิงขึ้นไปก่อน แล้วพระองค์ค่อยขึ้นไปนั่งปิดท้าย
"เจ้าหญิงเกาะเอวผมไว้ให้แน่นเลยนะครับ ส่วนเจ้าชายจับไหล่ผมให้แน่นเลย ผมจะเร่งเครื่องแล้ว"
"เดี๋ยวผมจะไปส่งที่วังดานูปนะ"
นักข่าวหนุ่มต้องหาทางไปให้ได้ ตอนนั้นบางถนนไปไม่ได้
พอเห็นถนนเส้นไหนมีทหารอยู่ เขาจะต้องเบี่ยงหลบ
เขาลัดเลาะจนมาส่งทั้งสองพระองค์ที่วังดานูปจนได้
เจ้าหน้าที่ประจำวังดานูปพาทั้งสองพระองค์ไปที่ห้องรับรองพิเศษ
หลังจากมีเจ้าหน้าที่นายหนึ่งนำเสื้อคลุมมาให้เจ้าชายปารีสเรียบร้อยแล้ว
จึงปล่อยให้ทั้งสองพระองค์อยู่กันตามลำพัง เพราะเท่าที่คนในวังได้สังเกต
เจ้าหญิงวิมลลักษณาทรงตกใจกลัวมาก และคนที่ปลอบได้ดีที่สุด
เห็นจะมีแต่เจ้าชายปารีสพระองค์เดียว
ตอนนั้น เจ้าชายปารีสนั่งอยู่ตรงข้ามกับเจ้าหญิงวิมลลักษณา เจ้าหน้าที่นำโต๊ะกลางออก
และได้เลื่อนเก้าอี้เพื่อให้สองพระองค์ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น
"ตอนนี้น้องหญิงปลอดภัยแล้วนะ"
เจ้าหญิงยังไม่ทรงกล่าวอะไร เพียงแต่ยื่นมือออกมา
เจ้าชายได้จับมือของเจ้าหญิง "พี่อยู่ตรงนี้แล้วนะ ไม่ต้องกลัว"
ดูเหมือนเจ้าหญิงดึงมือของเจ้าชายเข้ามา ทำให้เจ้าชายลุกมานั่งที่เก้าอี้ยาวตัวเดียวกัน
เจ้าชายทรงโอบไหล่เจ้าหญิงไว้ ส่วนเจ้าหญิงทรงซบไหล่เจ้าชาย ยังทรงตัวสั่นอยู่เลย
เจ้าชายปารีสจึงทรงพูดซ้ำอีกครั้งว่า "พี่อยู่ตรงนี้แล้วนะ ไม่ต้องกลัว"
วิมานมายา โดย ศักดา ตอนที่ 47 ตอนพิเศษ: เรื่องราวแห่งรักของเจ้าหญิงวิมลลักษณาและเจ้าชายปารีส ตอนที่ 1
พระองค์ตรงไปที่พระราชวังดานูปก่อน
"วิมลลักษณากลับมารึยัง"
"ยังเลยกระหม่อม"
เจ้าชายรีบวิ่งออกไปด้านนอก ตอนนั้นรถถังและทหารเต็มไปหมด
ถือเป็นรัฐประหารที่รุนแรงมากครั้งหนึ่งของโสฬส
บางถนนมีศพประชาชนนอนเกลื่อน เลือดนองไปทั่ว
เจ้าชายปารีสนึกถึงถนนวลาฟวโรรส ถนนที่ติดกับโรงเรียนของเจ้าหญิงวิมลลักษณา
พระองค์ทรงรีบวิ่งไปที่นั่น
ระหว่างทางเกิดจลาจลเป็นหย่อม ๆ เจ้าชายต้องวิ่งหลบหลีกหลายอย่าง
ตอนนั้นถึงเหตุการณ์จะน่ากลัวมาก แต่ทรงมีความห่วงใยเจ้าหญิงวิมลลักษณามากกว่าสิ่งใด
หลายครั้งต้องทรงวิ่งสวนทางกับประชาชนที่กำลังวิ่งหนีทหาร
แล้วพระองค์ทรงวิ่งไปชนทหาร ทำให้ทรงล้ม ทหารผู้นั้นเล็งปืนมาที่พระองค์
แต่ทหารอีกคนได้ห้ามไว้ "นั่นเจ้าชายปารีสนะ ระวังหน่อย"
ทหารได้หลีกทางให้เจ้าชายปารีส
"พระองค์ทรงออกมาทำไม ทรงไม่รู้เหรอว่าตอนนี้เหตุการณ์ภายนอกมันรุนแรงแค่ไหน"
"คิดว่าคงทรงตามหาเจ้าหญิงวิมลลักษณา ทางวังดานูปประกาศไปทุก ๆ ช่องทางเลย
ว่าเจ้าหญิงยังไม่ทรงกลับมาถึงวัง ถ้าใครเจอ ให้ช่วยดูแลและส่งกลับวังอย่างปลอดภัยให้ด้วย"
ตอนนั้นเจ้าชายทรงวิ่งจนลืมความเหน็ดเหนื่อย ทรงนึกถึงแต่เจ้าหญิงวิมลลักษณา
ตอนพระองค์วิ่งมาจนถึงถนนวลาฟวโรรส ตอนนั้นมีศพประชาชนเป็นจำนวนมาก
ดูเหมือนว่าทหารเพิ่งจะจากไป แต่อาจกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้
ทรงลองโทรหาเจ้าหญิงวิมลลักษณา แต่โทรไม่ติด
ทรงคิดถึงร้านกาแฟที่อยู่ตรงท้ายถนน ถ้าเจ้าหญิงวิมลลักษณาออกจากโรงเรียน
และพบว่ามีรถถังกับทหารเต็มไปหมด น่าจะทรงไปหลบตรงนั้นก่อน
เมื่อคิดได้ดังนั้น เจ้าชายทรงวิ่งไปตรงท้ายถนนทันที
ทรงรีบเข้าไปดูก่อนที่ทหารจะยกทัพกันมาอีกครั้ง
เจ้าชายทรงวิ่งมาถึงร้านกาแฟตรงท้ายถนน ตอนนั้นไม่มีใครอยู่แถวนั้น
มันเงียบมาก แต่ทรงได้ยินเสียงบางอย่าง จึงทรงเดินไปดู
และพบเจ้าหญิงวิมลลักษณาทรงหลบอยู่ใต้โต๊ะ เจ้าชายทรงดีใจมากที่เห็นเจ้าหญิงทรงปลอดภัย
"น้องหญิง พี่มาแล้วนะ เรากลับวังกันเถอะ"
ตอนนั้นเจ้าหญิงตัวสั่นมากและยังทรงนั่งนิ่ง
"พี่อยู่ตรงนี้แล้วนะ ไม่ต้องกลัว แต่เราควรไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดนะ"
เจ้าหญิงทรงค่อย ๆ ออกมา แต่ไม่ทรงกล่าวอะไรทั้งนั้น
เจ้าชายเห็นเสื้อของเจ้าหญิงขาดพอควร จึงถอดเสื้อของตัวเองให้
เจ้าหญิงทรงสวมไว้ แล้วจึงค่อย ๆ พาเดินออกจากร้านกาแฟ
และต้องพาให้ทั้งสองพระองค์ออกไปจนถึงหัวถนนวลาฟวโรรสให้ได้ก่อนพวกทหารจะกลับมาใหม่
ระหว่างเดิน จะมีศพกระจายอยู่ทั่วอาณาบริเวณ เจ้าหญิงทรงชะงักเป็นบางครั้ง
"รีบเดินเถิดน้องหญิงก่อนพวกทหารจะมากันอีก"
พอเดินไปจนถึงกลางถนน พวกทหารกองหนึ่งได้เข้ามาเก็บกวาดในวลาฟวโรรส
ตอนนั้นเจ้าหญิงตัวสั่นมาก "กอดพี่ไว้แล้วค่อย ๆ เดินนะ พี่ได้แต่ภาวนาให้พวกเขาจำเราได้"
พอทหารเห็นทั้งสองพระองค์ จึงเล็งปืนเพื่อจะเก็บกวาด แต่มีเพื่อนพวกมันทัดทานไว้
"เฮ้ย นั่นเจ้าชายปารีสแห่งโอดานนะ แล้วก็เจ้าหญิงวิมลลักษณาแห่งดานูป"
เมื่อทหารทั้งกองได้ยินเสียงเพื่อนมันตะโกนอย่างนั้น จึงเปิดทางให้
พอพ้นทหารพวกนั้น ก็จะมีศพอีกนับร้อย เจ้าหญิงวิมลลักษณาทรงเดินไม่ไหว
"น้องหญิงขี่คอพี่เลยนะ" เจ้าหญิงทรงขี่คอเจ้าชายปารีส
เจ้าชายค่อย ๆ เดินผ่านศพนับร้อยจนถึงต้นถนนวลาฟวโรรส
หลังจากนั้น ทรงวิ่งไปเรื่อย ๆ ท่ามกลางเหตุการณ์ที่กำลังบานปลายใหญ่โต
จนไปเจอนักข่าวหนุ่มของดาวพริกไทยที่ขี่มอเตอร์ไซต์มา
"เจ้าชายปารีสกับเจ้าหญิงวิมลลักษณานี่ ขึ้นมาเลย เร็ว ทรงวิ่งไม่ไหวหรอก"
เจ้าชายให้เจ้าหญิงขึ้นไปก่อน แล้วพระองค์ค่อยขึ้นไปนั่งปิดท้าย
"เจ้าหญิงเกาะเอวผมไว้ให้แน่นเลยนะครับ ส่วนเจ้าชายจับไหล่ผมให้แน่นเลย ผมจะเร่งเครื่องแล้ว"
"เดี๋ยวผมจะไปส่งที่วังดานูปนะ"
นักข่าวหนุ่มต้องหาทางไปให้ได้ ตอนนั้นบางถนนไปไม่ได้
พอเห็นถนนเส้นไหนมีทหารอยู่ เขาจะต้องเบี่ยงหลบ
เขาลัดเลาะจนมาส่งทั้งสองพระองค์ที่วังดานูปจนได้
เจ้าหน้าที่ประจำวังดานูปพาทั้งสองพระองค์ไปที่ห้องรับรองพิเศษ
หลังจากมีเจ้าหน้าที่นายหนึ่งนำเสื้อคลุมมาให้เจ้าชายปารีสเรียบร้อยแล้ว
จึงปล่อยให้ทั้งสองพระองค์อยู่กันตามลำพัง เพราะเท่าที่คนในวังได้สังเกต
เจ้าหญิงวิมลลักษณาทรงตกใจกลัวมาก และคนที่ปลอบได้ดีที่สุด
เห็นจะมีแต่เจ้าชายปารีสพระองค์เดียว
ตอนนั้น เจ้าชายปารีสนั่งอยู่ตรงข้ามกับเจ้าหญิงวิมลลักษณา เจ้าหน้าที่นำโต๊ะกลางออก
และได้เลื่อนเก้าอี้เพื่อให้สองพระองค์ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น
"ตอนนี้น้องหญิงปลอดภัยแล้วนะ"
เจ้าหญิงยังไม่ทรงกล่าวอะไร เพียงแต่ยื่นมือออกมา
เจ้าชายได้จับมือของเจ้าหญิง "พี่อยู่ตรงนี้แล้วนะ ไม่ต้องกลัว"
ดูเหมือนเจ้าหญิงดึงมือของเจ้าชายเข้ามา ทำให้เจ้าชายลุกมานั่งที่เก้าอี้ยาวตัวเดียวกัน
เจ้าชายทรงโอบไหล่เจ้าหญิงไว้ ส่วนเจ้าหญิงทรงซบไหล่เจ้าชาย ยังทรงตัวสั่นอยู่เลย
เจ้าชายปารีสจึงทรงพูดซ้ำอีกครั้งว่า "พี่อยู่ตรงนี้แล้วนะ ไม่ต้องกลัว"