เนื่องจากกระทู้ที่ผ่านมา
" 9 ข้อสรุป: เที่ยว อิตาลี 15วัน ฉบับ Solo Backpacker ปี 2023 "
https://ppantip.com/topic/42048041?sc=7E5MTZc
ผมได้มีการพูดถึงประสบการณ์การถูกยกเลิกเที่ยวบิน โดยบทความนี้จะเขียนแยกเป็นพิเศษ เนื่องจากมีรายละเอียดพอสมควร เผื่อว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นสักวัน อาจจะเป็นประโยชน์การเดินทางกับเพื่อนๆได้ ผมขออนุญาตเริ่มเลยนะครับ
ก่อนไปผมได้ซื้อประกันการเดินทางล่วงหน้าไว้ 20วันก่อนการเดินทาง
----------------------
โดยประกันการเดินทางครั้งนี้ ผมใช้บริการของ MSIG :แบบรายเที่ยว Easy 1 (Worldwide)
เบี้ยประกัน 2,520 บาท (ระยะเวลาครอบคลุม 16 วัน)
----------------------
เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2566
ที่สนามบิน Milan Malpensa Airport, เมือง Milan, ประเทศ Italy
สายการบิน Austrian Airlines ไฟต์OS 516 เวลา 20.15 เดินทางไปยัง เวียนนา ประเทศ ออสเตรีย
----------------------
ตลอดทั้ง14วัน ของการเดินทางในประเทศอิตาลีราบรื่นดีครับ ไม่มีอะไรผิดปกติ จนมาถึงขากลับ ผมทำการเชคอิน โหลดกระเป๋ากับสายการบินเรียบร้อยแล้ว จนกระทั่งไปนั่งรอหน้าเกทเพื่อรอประกาศเรียกขึ้นเครื่อง
นั่งรอจนถึงเวลา Boarding time ก็ยังไม่เรียก รอไปอีกหน่อยก็นิ่ง จนผู้โดยสารส่วนใหญ่ทนไม่ไหว ไปยืนออหน้าเค้าเตอร์..... ผู้โดยสารหลายคนเริ่มหน้าไม่ดี ผมเองที่นั่งอยู่ เริ่มนั่งไม่ติด เลยลุกขึ้นไปฟังบ้าง
กราวด์: เราขอแจ้งให้ทราบว่า ไฟต์ของพวกคุณที่จะเดินทางไป เวียนนา ประเทศ ออสเตรีย ถูกยกเลิก......
#ผมนี่หน้าชา....ชอคไปเหมือนกัน ซึ่งถ้าไฟต์แรกถูกยกเลิก ไฟต์ต่อไปของผมอีก2ไฟต์ นั่นก็ไม่สามารถไปต่อเครื่องได้ให้ทันเวลา นั่นหมายความว่า ทั้งรูทถูกยกเลิกทั้งหมด!!!!!!!!
ต่อไปผมต้องตั้งสติ: แล้วถามกราวด์ว่าจะทำอย่างไรต่อ
1. หาทางออกจาก Departure hall ไปที่ Arrival hall เพื่อไปรับกระเป๋าคืน ตามสายพานหมายเลขที่แจ้ง
2. เมื่อได้กระเป๋าคืนแล้ว กลับไปที่ เคาน์เตอร์เชคอิน(ตอนแรกที่ปริ้นตั๋ว) เพื่อทำการเจรจา ซึ่งได้ความว่า......
คุณต้องหาตั๋วใหม่เองแล้วเรียกร้องสายการบินให้จ่ายภายหลัง!!!!!!!! (บ้าไปแล้ว) ซึ่งผมไม่โอเค ผมเคยมีประสบการณ์ต่อเครื่องไม่ทันเพราะไฟต์ดีเลมาครั้งนึงแล้ว ซึ่งสายการบินตอนนั้นรับผิดชอบจองตั๋วให้ใหม่ทั้งหมด
****จึงแจ้งพนักงานว่าผมจะไม่ไปไหนจนกว่าจะได้ตั๋วใบใหม่ซึ่งสายการบินต้องเป็นคนจัดการให้.... จากนั้นเขาก็บอกว่าได้ แต่จะต้องจัดการเคสบายเคส และพวกคุณก็ต้องต่อแถว.....
3. เวลาผ่านไป เคสต่อเคส หนึ่งเคสใช้เวลาประมาณ30นาทีโดยเฉลี่ย (ถึงคิวผม) ซึ่งประสบการณ์คราวก่อนสอนผมว่า เราต้องช่วยตัวเอง คือต้องเสริชว่าความเป็นไปได้ที่สุดที่จะเดินทาง ต้องย้ายไปสายการบินไหน และรูทไหน(ซึ่งตอนนั้นยังเหลือสายการบินของ Emirates ที่พอจะเป็นไปได้คืนนั้น) แต่พอถึงหน้างานพนักงานแจ้งว่า ที่นั่งเต็ม.....(แต่ผมแอบเห็นแถวข้างๆ แถวfirst priority เขาได้ตั๋วEmirates แบบยิ้มแย้มแจ่มใส) ทำไงได้...เรามันชนชั้นประหยัด55555+ จนในที่สุด ผมก็ตกลงกับพนักงาน ซึ่งได้ตั๋วใหม่ ซึ่งเวลาบินคือ พรุ่งนี้ และดีเลจากเดิมราว 15 ชั่วโมง!!!!!! นั่นหมายความว่า....คืนนี้ต้องหาที่นอน.....
4. จากนั้นพนักงานแจ้งให้ ผู้โดยสารไปรวมตัวกันที่เลาจ์ เพื่อจัดหาโรงแรม.... ซึ่งคืนนั้นมีไฟต์ทั้งหมด 5ไฟต์ ที่ถูกยกเลิกมาออรวมกัน #ลองคิดสภาพคนมหาศาลมาออรวมกัน แถวยาวเหยียดโดยไม่มีวี่แววว่าจะลดลงเลย จากนั้นราว2-3 ชั่วโมง ก็มีพนักงานของสายการบินนำพาผู้โดยสารขึ้นรถบัสเพื่อนไปโรงเเรม โดยเขาทำการนับแต่ละคนและคำนวนว่าห้องนั้นเพียงพอหรือไม่
5. พอถึงรถบัส ที่นั่งถูกอัดกันอย่างแน่น สัมภาระแต่ละคนถูกอัดใต้ท้องรถ โดยทุกคนต้องช่วยเหลือตัวเอง แบกกระเป๋าเป๊ใบใหญ่ เปียกโชก และเวลานั้น ราวเที่ยงคืน แต่เหตุการณ์ที่ว่าเลวร้ายนั้นยังไม่เลวร้ายที่สุด...555555
6. พอถึงโรงแรม ทุกคนต่อแถว เหลือประมาณ 5คนสุดท้าย และพนักงานแจ้งว่า #ห้องไม่พอ หากพวกคุณไม่มีใครคนใดคนหนึ่งนอนรวมกัน นั่นหมายความว่า คนสุดท้ายจะไม่ได้ห้องนอน(ซึ่งเป็นคนสูงอายุมาคนเดียว) และต้องไปหาโรงแรมใหม่ ซึ่งตอนนั้นเวลา ตี1.... ผมจึงขอพี่คนไทย2คย (บังเอิญเจอซึ่งเห็นว่าหน้าเป็นเอเชียผมเลยเข้าไปทักก่อน) กลายเป็นผู้ร่วมชะตากรรม จึงถามไปว่า เป็นไปได้ไหมที่เราจะนอนห้องเดียวกันโดยเพิ่มเตียงเสริม จากนั้นทุกคนตกลงเเละเข้าไปพักผ่อน....
7. พอเช้า.... ผมก็ทานอาหารเช้าที่โรงแรมจัดไว้ให้ พร้อมทั้งถามเกี่ยวกับการเดินทางไปยังสนามบิน ซึ่งได้ความว่า สายการบินได้เตรียม Taxi ไว้รอรับส่งแล้วตามเวลาที่ระบุ
8. จากนั้นก็เดินทางไปสนามบิน เชคอินตามตั๋วใหม่ที่ได้เมื่อคืน และที่สำคัญผมพอมีเวลาเหลือ จึงไป#ติดต่อสายการบิน Austrian Airlines เพื่อขอใบรับรองว่าไฟต์ถูกยกเลิกและใช้เป็นหลักฐานในการยื่นเครมประกันการเดินทาง
9. ผมขึ้นเครื่องตามตั๋วใหม่ ซึ่งจุดหมายที่จะไปเปลี่ยนเครื่องครั้งนี้คือ ประเทศจีน!!!!!!! ไม่นึกไม่ฝันว่าอยู่อยู่ จะได้ไปจีน5555 การเดินทางเป็นไปโดยปกติจนกระทั่งถึงจีน
ซึ่งขอบอกเลยว่าเป็นการต่อเครื่องที่ทรมานมาก เพราะสนามบินที่จีน
- ผมต้องผ่าน ตม (หาวิธีกรอกฟรอม ว่าปลอดเชื้อโควิท....เอาเน็ตที่ไหนมากรอก555)
- ทำวีซ่า Transit (6โมงเช้า เค้าเตอร์ยังไม่เปิด ไปออกะแถวคนเข้าเมืองแบบธรรมดา)
- รับกระเป๋า
- ย้ายเทอมินิล (โคตรไกล กึ่งวิ่งกึ่งเดิน)
- เชคอินใหม่ (คนเป็นแสน)
- ผ่าน ตม ใหม่ อะนนี้โชคดีหน่อย ถือฟรอมQR code อันเก่าติดมือมา)
- เชคกระเป๋าใหม่(ซึ่งค้นละเอียดมากๆ จนเขาถามไปมาว่าไอ่กระเป๋าของไท่กั๋วบอยผ่านหรือยัง ประเด็นคือแบตกล้องอันเล็กๆ ผมมีราว6ก้อน กระจายอยู่เต็มกระเป๋าใบใหญ่สภาพเต็มไปด้วยเสื้อผ้าเน่าๆราว15วัน ที่จะโหลด55555 ซึ่งปกติผมไม่เคยถูกที่ไหนเรียกตรวจเลย คราวหลังผมอาจต้องเชคให้ดีกว่านี้)
***ใช้เวลาร่วม2ชั่วโมงในการผ่านด่านที่จีน.....55555
ซึ่งผมก็ผ่านมาได้แต่เหนื่อยมาก......หลังจากนั่งเครื่องบินมาสิบกว่าชั่วโมง.....จากนั้นบินต่อไปเชียงใหม่อีก6ชั่วโมง เป็นอันจบ.... ถึงไทยสักที
.......ไว้เดี๋ยวผมมาต่อขั้นตอนการยื่นเครมสินไหมทดแทนนะครับ
รีวิวประสบการณ์ การถูกยกเลิกเที่ยวบินจากอิตาลี ตลอดจนเครม สินไหมทดแทนจากประกันการเดินทาง
https://ppantip.com/topic/42048041?sc=7E5MTZc
ผมได้มีการพูดถึงประสบการณ์การถูกยกเลิกเที่ยวบิน โดยบทความนี้จะเขียนแยกเป็นพิเศษ เนื่องจากมีรายละเอียดพอสมควร เผื่อว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นสักวัน อาจจะเป็นประโยชน์การเดินทางกับเพื่อนๆได้ ผมขออนุญาตเริ่มเลยนะครับ
ก่อนไปผมได้ซื้อประกันการเดินทางล่วงหน้าไว้ 20วันก่อนการเดินทาง
----------------------
โดยประกันการเดินทางครั้งนี้ ผมใช้บริการของ MSIG :แบบรายเที่ยว Easy 1 (Worldwide)
เบี้ยประกัน 2,520 บาท (ระยะเวลาครอบคลุม 16 วัน)
----------------------
เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2566
ที่สนามบิน Milan Malpensa Airport, เมือง Milan, ประเทศ Italy
สายการบิน Austrian Airlines ไฟต์OS 516 เวลา 20.15 เดินทางไปยัง เวียนนา ประเทศ ออสเตรีย
----------------------
ตลอดทั้ง14วัน ของการเดินทางในประเทศอิตาลีราบรื่นดีครับ ไม่มีอะไรผิดปกติ จนมาถึงขากลับ ผมทำการเชคอิน โหลดกระเป๋ากับสายการบินเรียบร้อยแล้ว จนกระทั่งไปนั่งรอหน้าเกทเพื่อรอประกาศเรียกขึ้นเครื่อง
นั่งรอจนถึงเวลา Boarding time ก็ยังไม่เรียก รอไปอีกหน่อยก็นิ่ง จนผู้โดยสารส่วนใหญ่ทนไม่ไหว ไปยืนออหน้าเค้าเตอร์..... ผู้โดยสารหลายคนเริ่มหน้าไม่ดี ผมเองที่นั่งอยู่ เริ่มนั่งไม่ติด เลยลุกขึ้นไปฟังบ้าง
กราวด์: เราขอแจ้งให้ทราบว่า ไฟต์ของพวกคุณที่จะเดินทางไป เวียนนา ประเทศ ออสเตรีย ถูกยกเลิก......
#ผมนี่หน้าชา....ชอคไปเหมือนกัน ซึ่งถ้าไฟต์แรกถูกยกเลิก ไฟต์ต่อไปของผมอีก2ไฟต์ นั่นก็ไม่สามารถไปต่อเครื่องได้ให้ทันเวลา นั่นหมายความว่า ทั้งรูทถูกยกเลิกทั้งหมด!!!!!!!!
ต่อไปผมต้องตั้งสติ: แล้วถามกราวด์ว่าจะทำอย่างไรต่อ
1. หาทางออกจาก Departure hall ไปที่ Arrival hall เพื่อไปรับกระเป๋าคืน ตามสายพานหมายเลขที่แจ้ง
2. เมื่อได้กระเป๋าคืนแล้ว กลับไปที่ เคาน์เตอร์เชคอิน(ตอนแรกที่ปริ้นตั๋ว) เพื่อทำการเจรจา ซึ่งได้ความว่า......
คุณต้องหาตั๋วใหม่เองแล้วเรียกร้องสายการบินให้จ่ายภายหลัง!!!!!!!! (บ้าไปแล้ว) ซึ่งผมไม่โอเค ผมเคยมีประสบการณ์ต่อเครื่องไม่ทันเพราะไฟต์ดีเลมาครั้งนึงแล้ว ซึ่งสายการบินตอนนั้นรับผิดชอบจองตั๋วให้ใหม่ทั้งหมด
****จึงแจ้งพนักงานว่าผมจะไม่ไปไหนจนกว่าจะได้ตั๋วใบใหม่ซึ่งสายการบินต้องเป็นคนจัดการให้.... จากนั้นเขาก็บอกว่าได้ แต่จะต้องจัดการเคสบายเคส และพวกคุณก็ต้องต่อแถว.....
3. เวลาผ่านไป เคสต่อเคส หนึ่งเคสใช้เวลาประมาณ30นาทีโดยเฉลี่ย (ถึงคิวผม) ซึ่งประสบการณ์คราวก่อนสอนผมว่า เราต้องช่วยตัวเอง คือต้องเสริชว่าความเป็นไปได้ที่สุดที่จะเดินทาง ต้องย้ายไปสายการบินไหน และรูทไหน(ซึ่งตอนนั้นยังเหลือสายการบินของ Emirates ที่พอจะเป็นไปได้คืนนั้น) แต่พอถึงหน้างานพนักงานแจ้งว่า ที่นั่งเต็ม.....(แต่ผมแอบเห็นแถวข้างๆ แถวfirst priority เขาได้ตั๋วEmirates แบบยิ้มแย้มแจ่มใส) ทำไงได้...เรามันชนชั้นประหยัด55555+ จนในที่สุด ผมก็ตกลงกับพนักงาน ซึ่งได้ตั๋วใหม่ ซึ่งเวลาบินคือ พรุ่งนี้ และดีเลจากเดิมราว 15 ชั่วโมง!!!!!! นั่นหมายความว่า....คืนนี้ต้องหาที่นอน.....
4. จากนั้นพนักงานแจ้งให้ ผู้โดยสารไปรวมตัวกันที่เลาจ์ เพื่อจัดหาโรงแรม.... ซึ่งคืนนั้นมีไฟต์ทั้งหมด 5ไฟต์ ที่ถูกยกเลิกมาออรวมกัน #ลองคิดสภาพคนมหาศาลมาออรวมกัน แถวยาวเหยียดโดยไม่มีวี่แววว่าจะลดลงเลย จากนั้นราว2-3 ชั่วโมง ก็มีพนักงานของสายการบินนำพาผู้โดยสารขึ้นรถบัสเพื่อนไปโรงเเรม โดยเขาทำการนับแต่ละคนและคำนวนว่าห้องนั้นเพียงพอหรือไม่
5. พอถึงรถบัส ที่นั่งถูกอัดกันอย่างแน่น สัมภาระแต่ละคนถูกอัดใต้ท้องรถ โดยทุกคนต้องช่วยเหลือตัวเอง แบกกระเป๋าเป๊ใบใหญ่ เปียกโชก และเวลานั้น ราวเที่ยงคืน แต่เหตุการณ์ที่ว่าเลวร้ายนั้นยังไม่เลวร้ายที่สุด...555555
6. พอถึงโรงแรม ทุกคนต่อแถว เหลือประมาณ 5คนสุดท้าย และพนักงานแจ้งว่า #ห้องไม่พอ หากพวกคุณไม่มีใครคนใดคนหนึ่งนอนรวมกัน นั่นหมายความว่า คนสุดท้ายจะไม่ได้ห้องนอน(ซึ่งเป็นคนสูงอายุมาคนเดียว) และต้องไปหาโรงแรมใหม่ ซึ่งตอนนั้นเวลา ตี1.... ผมจึงขอพี่คนไทย2คย (บังเอิญเจอซึ่งเห็นว่าหน้าเป็นเอเชียผมเลยเข้าไปทักก่อน) กลายเป็นผู้ร่วมชะตากรรม จึงถามไปว่า เป็นไปได้ไหมที่เราจะนอนห้องเดียวกันโดยเพิ่มเตียงเสริม จากนั้นทุกคนตกลงเเละเข้าไปพักผ่อน....
7. พอเช้า.... ผมก็ทานอาหารเช้าที่โรงแรมจัดไว้ให้ พร้อมทั้งถามเกี่ยวกับการเดินทางไปยังสนามบิน ซึ่งได้ความว่า สายการบินได้เตรียม Taxi ไว้รอรับส่งแล้วตามเวลาที่ระบุ
8. จากนั้นก็เดินทางไปสนามบิน เชคอินตามตั๋วใหม่ที่ได้เมื่อคืน และที่สำคัญผมพอมีเวลาเหลือ จึงไป#ติดต่อสายการบิน Austrian Airlines เพื่อขอใบรับรองว่าไฟต์ถูกยกเลิกและใช้เป็นหลักฐานในการยื่นเครมประกันการเดินทาง
9. ผมขึ้นเครื่องตามตั๋วใหม่ ซึ่งจุดหมายที่จะไปเปลี่ยนเครื่องครั้งนี้คือ ประเทศจีน!!!!!!! ไม่นึกไม่ฝันว่าอยู่อยู่ จะได้ไปจีน5555 การเดินทางเป็นไปโดยปกติจนกระทั่งถึงจีน
ซึ่งขอบอกเลยว่าเป็นการต่อเครื่องที่ทรมานมาก เพราะสนามบินที่จีน
- ผมต้องผ่าน ตม (หาวิธีกรอกฟรอม ว่าปลอดเชื้อโควิท....เอาเน็ตที่ไหนมากรอก555)
- ทำวีซ่า Transit (6โมงเช้า เค้าเตอร์ยังไม่เปิด ไปออกะแถวคนเข้าเมืองแบบธรรมดา)
- รับกระเป๋า
- ย้ายเทอมินิล (โคตรไกล กึ่งวิ่งกึ่งเดิน)
- เชคอินใหม่ (คนเป็นแสน)
- ผ่าน ตม ใหม่ อะนนี้โชคดีหน่อย ถือฟรอมQR code อันเก่าติดมือมา)
- เชคกระเป๋าใหม่(ซึ่งค้นละเอียดมากๆ จนเขาถามไปมาว่าไอ่กระเป๋าของไท่กั๋วบอยผ่านหรือยัง ประเด็นคือแบตกล้องอันเล็กๆ ผมมีราว6ก้อน กระจายอยู่เต็มกระเป๋าใบใหญ่สภาพเต็มไปด้วยเสื้อผ้าเน่าๆราว15วัน ที่จะโหลด55555 ซึ่งปกติผมไม่เคยถูกที่ไหนเรียกตรวจเลย คราวหลังผมอาจต้องเชคให้ดีกว่านี้)
***ใช้เวลาร่วม2ชั่วโมงในการผ่านด่านที่จีน.....55555
ซึ่งผมก็ผ่านมาได้แต่เหนื่อยมาก......หลังจากนั่งเครื่องบินมาสิบกว่าชั่วโมง.....จากนั้นบินต่อไปเชียงใหม่อีก6ชั่วโมง เป็นอันจบ.... ถึงไทยสักที
.......ไว้เดี๋ยวผมมาต่อขั้นตอนการยื่นเครมสินไหมทดแทนนะครับ