ตามชื่อกระทู้นะครับ ผมเดินทางจากกรุงทพ ไป โตเกียว โดยใช้บริการสายการบิน Asiana Airlines เส้นทาง กรุงเทพสุวรรณภูมิไปยังโซลอินชอน( BKK-ICN)และต่อ โซลกิมโปไปโตเกียวฮาแนะดะ( GMP-HND) สาเหตุเพราะ 1.ราคาถูก (ถูกอย่างไรเดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง) และ 2.อยากสัมผัสอากาศหนาว –10 องศา ของเกาหลี เพราะมีเวลาเดินเที่ยวในตัวเมืองประมาณ 12ชั่วโมง (เครื่องแลนด์ที่อินขอน 6โมงเช้า ขึ้นเครื่องที่กิมโปอีกทีตอน 2ทุ่ม)
มาดูหัวข้อแรกครับ เรื่อง ราคา
ปกติผมเดินทางไปญีปุ่นค่อนข้างบ่อยครับ จะใช้บริการกับเจ้าจำปีขวัญใจชาวไทยมาตลอด (แต่มีครั้งหนึ่งต้องไปกับ Koreanair เพราะตั๋วของเจ้าจำปีราคาพุ่งสูงเหมือนเดินทางไปยุโรป) แต่มารอบนี้ต้องใช้บริการAsiana Airlines ซึ่งเป็นครั้งแรก และAsiana Airlines กับ เจ้าจำปี ราคาตั๋วโดยสารจะสูสีกันครับ เนื่องจากอยู่ในระดับตลาดเดียวกันและอยู่กลุ่มดาว5แฉกเหมือนกันอีกด้วย
ปกติทั้งสองสายการบิน ตั๋วเดินทางไป-กลับ จะอยู่ที่ประมาณ 23000 – 48000 บาท ขอไม่นับตั๋วซุปเปอร์โปรของเจ้าป้าที่ราคา 20000 บาท นะครับเพราะตั๋วเป็นควาส V,W สะสมไมลไม่ได้ 100% ซึ่งมันมีความสำคัญกับคนที่ต้องสะสมไมล์ครับ
ตั๋วที่ผมเลือกซื้อเป็นตั๋วเดินทางแบบขาเดียว หรือศัพท์เทคนิคเรียกว่า one way trip เดินทางของคืนวันที่ 2 มกราคม 2558 (วันที่ 3 – 4 ไม่ได้ เพราะราคาโหดมาก) ก่อนซื้อผมได้ทำการลิสสายการบินแต่ละสาย พร้อมราคา (ทั้ง การบินไทย, ANA, OZ, EVA, Air China, Singaporeair) สรุปท้ายสุดมาได้ Asiana ครับ ราคาอยู่ที่ 15,155 บาท (การบินไทย 20,625บาท โคเรียน 17,268บาท คาเท่ 14,870บาท) เป็นราคาที่ซื้อก่อนวันเดินทาง เกือบ 6 เดือน และซื้อจาก Expedia อีกต่างหาก (ณ เวลานั้น Expedia ให้ราคาถูกว่าหน้าเวป Asiana อยู่ประมาณ 500บาท) ซึ่งปกติแล้ว Asiana จะขายตั๋วเดินทางขาเดียวอยู่ที่ 16,000-23,000 บาท (เจ้าจำปีเริ่มต้นที่ 20,000 บาท) ได้มาเรียบร้อยแล้วตั๋วราคาประหยัด รอเดินทาง
สาเหตุข้อที่ 2 อยากสัมผัสอากาศ -10
จริงๆแล้ว เมื่อมาถึงอินชอนแล้วก็สามรารถต่อเครื่องเข้าโตเกียวได้เลย มีวันละตั้งหลายไฟต์ และราคาถูกกว่า 15,155 บาทอีกหน่อย แต่ไม่เลือกครับ อยากแวะกินบิมบิมบับที่เมียงดงซักหน่อย จีงเป็นเหตุให้ต้องเลือกไฟต์นี้ มาถึงโซลอินชอน 6โมง เข้าเมืองไปเดินเที่ยว แล้วขึ้นเครื่องที่กิมโปอีกทีตอน2ทุ่ม
เกริ่นมาซะยาว มาเริ่มเดินทางกันเลยครับ ....
เริ่มต้นผมเชคอินที่สนามบินเชียงใหม่ เดินทางไปยังกรุงเทพ ด้วยการบินไทยตัวแม่ ทำการเชคกระเป๋าทรูไปยังโซลอินชอลได้เลย เชคอินรับบัตรโดยสารมาหนึ่งใบ เชียงใหม่-กรุงเทพ (ของการบินไทย) ส่วน กรุงเทพ-อินชอน จะจอมาเชคอินอีกทีที่กรุงเทพ เพราะจะเข้าไปในเมืองกินข้าวเย็นกับเพื่อนๆ ส่วนกระเป๋าลงที่โซลเลยไม่เอาออกมาจากสนามบินสุวรรณภูมิ
หลังจากไปสังสรร เฮฮากับเพื่อนแล้วก็ได้เวลากลับมาที่สนามบินสุวรรณภูมือีกครั้งเพื่อเดินทางต่อ
เคาท์เตอร์เชคอิน Asiana Airlines ไม่ได้ถ่ายมาให้เห็นนะครับ ขอบรรยายบรรยากาศแทนละกัน คืนวันที่ 2 มกราคม 2558 คนก็ค่อยข้างเยอะครับ แถวเชคอินชั้นประหยัดมีคนต่อคิวพอสมควร และจากที่สังเกตแล้วว่าถ้าต่อคิวนี้ อีกประมาณ 20นาที น่าจะถึงคิวเรา ส่วนชั้นธุรกิจ ไม่มีคนต่อคิวเลย จึงเป็นโอกาสดีที่จะมาเชคอินช่องชั้นธุรกิจ โดยการโชว์บัตรเบ่งสีทองที่มีรูปดอกจำปีด้านบนซ้ายของบัตร พร้อมเหตุผลว่า ต่อคิวยาวแล้วจะหงุดหงิด (เหตุผลนั้นพูดเล่นครับ ไม่ได้พูดจริง)
ผม : ไปโซลครับ กระเป๋าโหลดมาแล้วจากเชียงใหม่
พนักงานก็ทำการเชคอินให้ปกติ
ผม : ที่นั่งผมเลขอะไรครับ (ผมพร้อมเปิดแอพ Seatguru ไปด้วย)
พนักงาน : จองมาแล้วนะคะ 23K ติดหน้าต่างค่ะ
ผม : อยากได้ติดทางเดินครับ มีประมาณตรงไหนบ้าง
พนักงาน : ติดทางเดินวันนี้เต็มค่ะ
ผม : ที่นั่ง ....(จำไม่ได้ว่าพูดตำแหน่งไหน). ว่างไหมครับ
พนักงาน : ติด ประตูฉุกเฉิน เต็มหมดเลยค่ะ
ผม : เดี๋ยวซักครู่นะครับ ขอเลือกดูก่อนครับ ....(แล้วก้มหน้าดู seatguru เลือกที่นั่งดีๆ) แล้วติดหน้าต่างที่ไหนจะอยู่หน้าๆบ้างครับ
ซักพัก พนักงานของ Asiana Airlines เธอคนนี้ใส่ชุดสีน้ำตาลกากี แบบฟอร์มของสายการบิน ก็เข้ามาหาพอดี สอบถามกับพนักงานที่กำลังเชคอินให้ผมว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า พนักงานเชคอินตอบไปว่าจะขอที่นั่ง พนักงานในชุดAsiana Airlines ก็เอาบัตรเบ่งของผมไปดูพร้อมกับกดไปที่เครื่องคอมฯอีกเครื่องเพื่อปล่อยที่นั่ง
พนักงานเชคอิน : ได้แล้วคะตั๋ว เป็นที่นั่ง J ติดริมทางเดิน แถวแรกเลยค่ะ ..... (พร้อมกับบอกเวลาเดินทางเวลาบอดิ้ง และเกจ)
ผม : ครับ ขอบคุณครับ
พอเดินจากตรงนั้น ผมก็นึกในใจว่า แถว J มันไม่ติดทางเดิน มันอยู่ตรงกลางไม่ใช่เหรอ แต่ก็ไม่ได้ท้วงติงอย่างได้ กลัวโดนด่าครับว่าเรื่องมากจริง เลยปล่อยเลยตามเลยไป มุ่งหน้าไปยังจุดแสกนสัมภาระและผ่าน ตม (ถ้าถือพาสปอตต่างชาติจะผ่าน ตม นานมาก คนเยอะจริงๆ ส่วนพาสปอตไทย ผ่านเครื่องสบายๆ) มีเวลาอีก 2ชั่วโมงก่อนเรียกขึ้นเครื่อง ขอแวะอาบน้ำซักหน่อย เพราะจะได้อาบอีกทีก็นู้น ค่ำของคืนพรุ้งนี้เลย จึงขอใช้บริการห้องอาบน้ำของ Royal Silk Lounge ของการบินไทย สบู่ยาสระผมหอมดีครับผม อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยหาอะไรทานซักหน่อย คนเยอะมากครับในเลาช หาที่นั่งแล้ว ได้บะหมี่ไก่ มารองท้อง
พอถึงเวลา Boarding ก็เดินไปขึ่นเครื่องตามปกติ การเดินทางโดยเครื่องบิน 747 ครับ เจ้าหน้าที่จะประกาศเชิญผู้โดยสารที่มีตั๋วราคาแพง ผู้โดยสารอาวุโส ผู้โดยสารที่ป่วย ผู้โดยสารเดินทางด้วยเด็กเล็กขึ้นก่อน ส่วนผู้โดยสารบัตรเบ่งต่างๆเชิญตามอัธยาศัย ผมก็นั่งรอครับรอให้แถวมันสั้นลงก่อน ยืนต่อคิวนานไม่ดี ปวดขา อายุก็ใช่จะน้อยๆแล้ว
เมื่อเข้ามาบนเครื่องครับ พนักงาน บอกเดินตรงไปเลี้ยวซ้าย พอเลี้ยวเข้าไป โอ้วแม่เจ้า ชั้นธุรกิจ เดินหาเลขที่นั่ง พอเจอแล้วก็เทียบเลขดูแล้วดูอีก ดูแล้วดูอีก เป็น 5-6 รอบ บางทีนั่งๆอยู่ๆก็ลุกมาดูใหม่ว่านั่งถูกไหม กลัวหน้าแตก ที่นั่งที่ได้เป็นริมทางเดินจริง แถวแรกจริง ตามที่พนักงานบอก แต่เป็นแถวแรกของชั้นธุรกิจ ในหัวคิดแต่ว่า “ทำไงดี พนักงานจะบริการเราไหม เพราะเราซื้อตั๋วชั้นประหยัดราคาถูกมากมาบิน แล้วยังได้อัพเกรดอีก” ตื่นเต้นมากกว่าดีใจครับ ทำอะไรไม่ค่อยถูก ตลอดทั้งไฟต์ ผ้าห่มผมยังไม่กล้าแกะออกจากถุง หนังก็ไม่กล้าดู ตอนบริการเครื่องดิ่มก็ไม่รับ จะรับก็ตอนกินข้าว ขอแค่น้ำเปล่า (ไม่กล้าขอโค้ก) กลัวจะเกินงบของเขา
เท่าที่เกิดมาไม่ใช่ไม่เคยนั่งชั้นธุรกิจนะครับ เคยนั่งประมาณ 5-6 ไฟต์ต่างประเทศไปญี่ปุ่นของเจ้าจำปี แบบซื้อจ่ายเงิน และชั้นเฟิส 3-4ไฟต์ไปต่างประเทศไปญีปุ่น ด้วยตั๋วแลกไมล์สะสม(ให้ซื้อเองคงไม่มีปัญญา)
หลังจากบินไฟต์นี้ของ Asiana Airlines แล้วจะขอสรุปและเปรียบกับเจ้าจำปีที่รักของคนไทย นะครับ วิเคราะห์ตามความเห็นของผมนะครับ ไม่ใช่ว่า ทางนั้นให้อัพเกรดมาก็จะอวย ยกยอกันไปนะครับ (Asiana Airlines อย่าโกรดผมนะครับ อย่าแบคลิสผมหล่ะ) ตามเนื้อผ้าเลยละกัน
1. เมื่อขึ้นเครื่อง พนักงาน จะกล่าวทักทายกับผู้โดยสารชั้นธุรกิจทุกคนหลังจากนั่งประจำที่แล้ว จุดนี้ป้าเอื้องของเราไม่มีนะครับ (รู้สึกว่าเมื่อก่อนเคยมี) แต่ป้าเอื้องเรามี welcome drink มาแทน ส่วน Asiana Airlines ไม่มี welcome drink ครับ (เสริม . การบินไทย ถ้าเดินทางชั้นธุรกิจ พนักงานจะไม่มีทักทายผู้โดยสารรายคนหลังนั่งกระจำที่ครับ แต่ถ้าเดินทางชั้นประหยัดเป็นผู้โดยสารเป็นสมาชิกบัตรทองของการบินไทย พนักงานจะเข้าไปทักทายและถามอาหารที่ต้องการจะรับประทาน เมื่อถึงเวลาเสริฟอาหาร ของผู้โดนสารบัตรทองจะได้รับก่อนผู้โดยสารท่านอื่น แต่ทั้งนี้นั้น ผมก็ไม่กล้ากินก่อนชาวบ้านอยู่ดี)
2. หลังจากเครื่องขึ้น บริการผ้าแผ่นบางๆเหมือนชั้นประหยัดป้าม่วง(ร้อนหรือเปล่าไม่รู้)บรรจุในซองพลาสติก ในขณะที่เจ้าป้าการบินไทยบริการผ้าร้อนชิ้นใหญ่กว่า
3. การบริการอาหาร Asiana Airlines จะบริการอาหาร ไฟต์ BKK-ICN แค่ครั้งเดียว เพราะบินแค่ 4 ชั่วโมงกว่า แต่เจ้าจำปี มีบริการเยอะอาหารเยอะกว่านิดหน่อย
4. เมื่อเครื่องบินอยู่เจอชั้นบรรยากาศแปรปรวน สัญญาณรัดเข็มขัดดังขึ่น พนักงานAsiana Airlines จะเดินมาที่จุดหน้าแถวแล้วเดินตามทางพร้อมพูดให้รัดเข็มขัดและทำท่าประกอบ ส่วนจ้าวจำปีมีการประกาศออกเสียงเท่านั้น
ที่เทียบได้และสังเหตุมามีเท่านี้ครับ
เดินทางครั้งนี้ผมน่าจะเป็นคนไทยคนเดียวบนชั้นธุรกิจครับ ตอนแรก แอร์ ชาวเกาหลีมาให้บริการก่อน แต่พอนางรู้ตัวว่าผมไม่ใช่คนเกาหลี นางจึงจัดแอร์คนไทยมาดูแลผมแทน การได้อัพเกรดนี้อาจเป็นเพราะที่นั่งขั้นธุรกิจไม่เต็ม ก็ได้ แต่ถือว่าโชคดีมาก ไม่ได้เป็นสมาชิกบัตรสะสมแต้มอะไรเลยของAsiana Airlines แต่ก็ได้อัพเกรดมา (ในขณะที่การบินไทยของเรา ผมขึ้นชั้นธุรกิจทีไรเห็นคนเต็มทุกที่นั่งตลอดเลย สงสัยการบินไทยจะขายตั๋วชั้นธุรกิจได้ดี ได้รับความนิยม คนขึ้นเยอะตลอด จึงไม่เคยได้ฟรีอัพเกรดบ้างเลย)
มีต่ออีกนิดครับ หลังจากเดินเที่ยวในโซลมาซักพัก ก็ถึงเวลามาขึ้นเครื่องที่กิมโปครับ
ทำการเชคอินผ่านเครื่อง แล้วไปโหลดกระเป๋า เมื่อเชคอินแล้ว ก็เหลือบๆไปเห็น Lounge ของ Asiana Airlines ใกล้จุดที่เชคอิน แต่ยังไม่เข้าไป คิดว่าข้างในหลังผ่าน ตม ไปน่าจะมี แต่ปรากฏว่า หลังจากผ่าน ตม เช้าไปแล้วมันไม่มีLounge ครับ หรือเราเดินหาไม่เจอ จึงไปถามพนักงานของสายการบินแถวๆนั้น นางบอกว่า Lounge อยู่ด้านนอกก่อนผ่าน ตม ด้านในไม่มี แต่คุณก็กลับออกไปไม่ได้แล้ว ตอนนั้นผมหิวข้าวมาก ทั้งวันมีสตาบักที่ในกรุงโซลลงท้องไปแค่แก้วเดียวคิดว่าจะมาฝากท้องที่นี่เลย (มาเกาหลีด้วยงบน้อยแค่ พันกว่าบาท หมดไปกับค่า รถบัส รถไฟ ฝากกระเป๋า กินสตาบัก) พนักงานเห็นคงสงสารจึงเอาคูปองกินน้ำขนมให้ 10000วอน ไปใช้กับร้านกาแฟบริเวณนั้นไปแทน ทีนี้ผมก็อิ่มเลย
สรุปนะครับ การเดินทางครั้งนี้ผมประทับใจครับ ขอบคุณ Asiana ที่ให้อัพเกรดขึ้นมา แต่ถ้าให้ผมต้องซื้อตั๋วชั้นธุรกิจผมคงไม่เอาครับ แต่ถ้าให้เลือกใช้บริการอีกทีละก็ Asiana airlines ก็จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกนะครับ เช่น ถ้า รูท อเมริกา (JFK, SFO, ORD) คงจะใช้บริการแน่นอน เพราะถูกกว่า ANA SQ (ในกลุ่มดาวเหมือนกัน)
ขอบคุณครับที่ติดตามชม อ่านยากหน่อยนะครับ มือใหม่ยังหัดเขียนเว้นบรรทัดยังไม่ค่อยเป็น
[CR] ส้มหล่น ! . . . เดินทางกับ Asiana Airlines ครั้งแรกก็ได้ฟรีอัพเกรดจากชั้นประหยัดสู่ชั้นธุรกิจ
มาดูหัวข้อแรกครับ เรื่อง ราคา
ปกติผมเดินทางไปญีปุ่นค่อนข้างบ่อยครับ จะใช้บริการกับเจ้าจำปีขวัญใจชาวไทยมาตลอด (แต่มีครั้งหนึ่งต้องไปกับ Koreanair เพราะตั๋วของเจ้าจำปีราคาพุ่งสูงเหมือนเดินทางไปยุโรป) แต่มารอบนี้ต้องใช้บริการAsiana Airlines ซึ่งเป็นครั้งแรก และAsiana Airlines กับ เจ้าจำปี ราคาตั๋วโดยสารจะสูสีกันครับ เนื่องจากอยู่ในระดับตลาดเดียวกันและอยู่กลุ่มดาว5แฉกเหมือนกันอีกด้วย
ปกติทั้งสองสายการบิน ตั๋วเดินทางไป-กลับ จะอยู่ที่ประมาณ 23000 – 48000 บาท ขอไม่นับตั๋วซุปเปอร์โปรของเจ้าป้าที่ราคา 20000 บาท นะครับเพราะตั๋วเป็นควาส V,W สะสมไมลไม่ได้ 100% ซึ่งมันมีความสำคัญกับคนที่ต้องสะสมไมล์ครับ
ตั๋วที่ผมเลือกซื้อเป็นตั๋วเดินทางแบบขาเดียว หรือศัพท์เทคนิคเรียกว่า one way trip เดินทางของคืนวันที่ 2 มกราคม 2558 (วันที่ 3 – 4 ไม่ได้ เพราะราคาโหดมาก) ก่อนซื้อผมได้ทำการลิสสายการบินแต่ละสาย พร้อมราคา (ทั้ง การบินไทย, ANA, OZ, EVA, Air China, Singaporeair) สรุปท้ายสุดมาได้ Asiana ครับ ราคาอยู่ที่ 15,155 บาท (การบินไทย 20,625บาท โคเรียน 17,268บาท คาเท่ 14,870บาท) เป็นราคาที่ซื้อก่อนวันเดินทาง เกือบ 6 เดือน และซื้อจาก Expedia อีกต่างหาก (ณ เวลานั้น Expedia ให้ราคาถูกว่าหน้าเวป Asiana อยู่ประมาณ 500บาท) ซึ่งปกติแล้ว Asiana จะขายตั๋วเดินทางขาเดียวอยู่ที่ 16,000-23,000 บาท (เจ้าจำปีเริ่มต้นที่ 20,000 บาท) ได้มาเรียบร้อยแล้วตั๋วราคาประหยัด รอเดินทาง
สาเหตุข้อที่ 2 อยากสัมผัสอากาศ -10
จริงๆแล้ว เมื่อมาถึงอินชอนแล้วก็สามรารถต่อเครื่องเข้าโตเกียวได้เลย มีวันละตั้งหลายไฟต์ และราคาถูกกว่า 15,155 บาทอีกหน่อย แต่ไม่เลือกครับ อยากแวะกินบิมบิมบับที่เมียงดงซักหน่อย จีงเป็นเหตุให้ต้องเลือกไฟต์นี้ มาถึงโซลอินชอน 6โมง เข้าเมืองไปเดินเที่ยว แล้วขึ้นเครื่องที่กิมโปอีกทีตอน2ทุ่ม
เกริ่นมาซะยาว มาเริ่มเดินทางกันเลยครับ ....
เริ่มต้นผมเชคอินที่สนามบินเชียงใหม่ เดินทางไปยังกรุงเทพ ด้วยการบินไทยตัวแม่ ทำการเชคกระเป๋าทรูไปยังโซลอินชอลได้เลย เชคอินรับบัตรโดยสารมาหนึ่งใบ เชียงใหม่-กรุงเทพ (ของการบินไทย) ส่วน กรุงเทพ-อินชอน จะจอมาเชคอินอีกทีที่กรุงเทพ เพราะจะเข้าไปในเมืองกินข้าวเย็นกับเพื่อนๆ ส่วนกระเป๋าลงที่โซลเลยไม่เอาออกมาจากสนามบินสุวรรณภูมิ
หลังจากไปสังสรร เฮฮากับเพื่อนแล้วก็ได้เวลากลับมาที่สนามบินสุวรรณภูมือีกครั้งเพื่อเดินทางต่อ
เคาท์เตอร์เชคอิน Asiana Airlines ไม่ได้ถ่ายมาให้เห็นนะครับ ขอบรรยายบรรยากาศแทนละกัน คืนวันที่ 2 มกราคม 2558 คนก็ค่อยข้างเยอะครับ แถวเชคอินชั้นประหยัดมีคนต่อคิวพอสมควร และจากที่สังเกตแล้วว่าถ้าต่อคิวนี้ อีกประมาณ 20นาที น่าจะถึงคิวเรา ส่วนชั้นธุรกิจ ไม่มีคนต่อคิวเลย จึงเป็นโอกาสดีที่จะมาเชคอินช่องชั้นธุรกิจ โดยการโชว์บัตรเบ่งสีทองที่มีรูปดอกจำปีด้านบนซ้ายของบัตร พร้อมเหตุผลว่า ต่อคิวยาวแล้วจะหงุดหงิด (เหตุผลนั้นพูดเล่นครับ ไม่ได้พูดจริง)
ผม : ไปโซลครับ กระเป๋าโหลดมาแล้วจากเชียงใหม่
พนักงานก็ทำการเชคอินให้ปกติ
ผม : ที่นั่งผมเลขอะไรครับ (ผมพร้อมเปิดแอพ Seatguru ไปด้วย)
พนักงาน : จองมาแล้วนะคะ 23K ติดหน้าต่างค่ะ
ผม : อยากได้ติดทางเดินครับ มีประมาณตรงไหนบ้าง
พนักงาน : ติดทางเดินวันนี้เต็มค่ะ
ผม : ที่นั่ง ....(จำไม่ได้ว่าพูดตำแหน่งไหน). ว่างไหมครับ
พนักงาน : ติด ประตูฉุกเฉิน เต็มหมดเลยค่ะ
ผม : เดี๋ยวซักครู่นะครับ ขอเลือกดูก่อนครับ ....(แล้วก้มหน้าดู seatguru เลือกที่นั่งดีๆ) แล้วติดหน้าต่างที่ไหนจะอยู่หน้าๆบ้างครับ
ซักพัก พนักงานของ Asiana Airlines เธอคนนี้ใส่ชุดสีน้ำตาลกากี แบบฟอร์มของสายการบิน ก็เข้ามาหาพอดี สอบถามกับพนักงานที่กำลังเชคอินให้ผมว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า พนักงานเชคอินตอบไปว่าจะขอที่นั่ง พนักงานในชุดAsiana Airlines ก็เอาบัตรเบ่งของผมไปดูพร้อมกับกดไปที่เครื่องคอมฯอีกเครื่องเพื่อปล่อยที่นั่ง
พนักงานเชคอิน : ได้แล้วคะตั๋ว เป็นที่นั่ง J ติดริมทางเดิน แถวแรกเลยค่ะ ..... (พร้อมกับบอกเวลาเดินทางเวลาบอดิ้ง และเกจ)
ผม : ครับ ขอบคุณครับ
พอเดินจากตรงนั้น ผมก็นึกในใจว่า แถว J มันไม่ติดทางเดิน มันอยู่ตรงกลางไม่ใช่เหรอ แต่ก็ไม่ได้ท้วงติงอย่างได้ กลัวโดนด่าครับว่าเรื่องมากจริง เลยปล่อยเลยตามเลยไป มุ่งหน้าไปยังจุดแสกนสัมภาระและผ่าน ตม (ถ้าถือพาสปอตต่างชาติจะผ่าน ตม นานมาก คนเยอะจริงๆ ส่วนพาสปอตไทย ผ่านเครื่องสบายๆ) มีเวลาอีก 2ชั่วโมงก่อนเรียกขึ้นเครื่อง ขอแวะอาบน้ำซักหน่อย เพราะจะได้อาบอีกทีก็นู้น ค่ำของคืนพรุ้งนี้เลย จึงขอใช้บริการห้องอาบน้ำของ Royal Silk Lounge ของการบินไทย สบู่ยาสระผมหอมดีครับผม อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยหาอะไรทานซักหน่อย คนเยอะมากครับในเลาช หาที่นั่งแล้ว ได้บะหมี่ไก่ มารองท้อง
พอถึงเวลา Boarding ก็เดินไปขึ่นเครื่องตามปกติ การเดินทางโดยเครื่องบิน 747 ครับ เจ้าหน้าที่จะประกาศเชิญผู้โดยสารที่มีตั๋วราคาแพง ผู้โดยสารอาวุโส ผู้โดยสารที่ป่วย ผู้โดยสารเดินทางด้วยเด็กเล็กขึ้นก่อน ส่วนผู้โดยสารบัตรเบ่งต่างๆเชิญตามอัธยาศัย ผมก็นั่งรอครับรอให้แถวมันสั้นลงก่อน ยืนต่อคิวนานไม่ดี ปวดขา อายุก็ใช่จะน้อยๆแล้ว
เมื่อเข้ามาบนเครื่องครับ พนักงาน บอกเดินตรงไปเลี้ยวซ้าย พอเลี้ยวเข้าไป โอ้วแม่เจ้า ชั้นธุรกิจ เดินหาเลขที่นั่ง พอเจอแล้วก็เทียบเลขดูแล้วดูอีก ดูแล้วดูอีก เป็น 5-6 รอบ บางทีนั่งๆอยู่ๆก็ลุกมาดูใหม่ว่านั่งถูกไหม กลัวหน้าแตก ที่นั่งที่ได้เป็นริมทางเดินจริง แถวแรกจริง ตามที่พนักงานบอก แต่เป็นแถวแรกของชั้นธุรกิจ ในหัวคิดแต่ว่า “ทำไงดี พนักงานจะบริการเราไหม เพราะเราซื้อตั๋วชั้นประหยัดราคาถูกมากมาบิน แล้วยังได้อัพเกรดอีก” ตื่นเต้นมากกว่าดีใจครับ ทำอะไรไม่ค่อยถูก ตลอดทั้งไฟต์ ผ้าห่มผมยังไม่กล้าแกะออกจากถุง หนังก็ไม่กล้าดู ตอนบริการเครื่องดิ่มก็ไม่รับ จะรับก็ตอนกินข้าว ขอแค่น้ำเปล่า (ไม่กล้าขอโค้ก) กลัวจะเกินงบของเขา
เท่าที่เกิดมาไม่ใช่ไม่เคยนั่งชั้นธุรกิจนะครับ เคยนั่งประมาณ 5-6 ไฟต์ต่างประเทศไปญี่ปุ่นของเจ้าจำปี แบบซื้อจ่ายเงิน และชั้นเฟิส 3-4ไฟต์ไปต่างประเทศไปญีปุ่น ด้วยตั๋วแลกไมล์สะสม(ให้ซื้อเองคงไม่มีปัญญา)
หลังจากบินไฟต์นี้ของ Asiana Airlines แล้วจะขอสรุปและเปรียบกับเจ้าจำปีที่รักของคนไทย นะครับ วิเคราะห์ตามความเห็นของผมนะครับ ไม่ใช่ว่า ทางนั้นให้อัพเกรดมาก็จะอวย ยกยอกันไปนะครับ (Asiana Airlines อย่าโกรดผมนะครับ อย่าแบคลิสผมหล่ะ) ตามเนื้อผ้าเลยละกัน
1. เมื่อขึ้นเครื่อง พนักงาน จะกล่าวทักทายกับผู้โดยสารชั้นธุรกิจทุกคนหลังจากนั่งประจำที่แล้ว จุดนี้ป้าเอื้องของเราไม่มีนะครับ (รู้สึกว่าเมื่อก่อนเคยมี) แต่ป้าเอื้องเรามี welcome drink มาแทน ส่วน Asiana Airlines ไม่มี welcome drink ครับ (เสริม . การบินไทย ถ้าเดินทางชั้นธุรกิจ พนักงานจะไม่มีทักทายผู้โดยสารรายคนหลังนั่งกระจำที่ครับ แต่ถ้าเดินทางชั้นประหยัดเป็นผู้โดยสารเป็นสมาชิกบัตรทองของการบินไทย พนักงานจะเข้าไปทักทายและถามอาหารที่ต้องการจะรับประทาน เมื่อถึงเวลาเสริฟอาหาร ของผู้โดนสารบัตรทองจะได้รับก่อนผู้โดยสารท่านอื่น แต่ทั้งนี้นั้น ผมก็ไม่กล้ากินก่อนชาวบ้านอยู่ดี)
2. หลังจากเครื่องขึ้น บริการผ้าแผ่นบางๆเหมือนชั้นประหยัดป้าม่วง(ร้อนหรือเปล่าไม่รู้)บรรจุในซองพลาสติก ในขณะที่เจ้าป้าการบินไทยบริการผ้าร้อนชิ้นใหญ่กว่า
3. การบริการอาหาร Asiana Airlines จะบริการอาหาร ไฟต์ BKK-ICN แค่ครั้งเดียว เพราะบินแค่ 4 ชั่วโมงกว่า แต่เจ้าจำปี มีบริการเยอะอาหารเยอะกว่านิดหน่อย
4. เมื่อเครื่องบินอยู่เจอชั้นบรรยากาศแปรปรวน สัญญาณรัดเข็มขัดดังขึ่น พนักงานAsiana Airlines จะเดินมาที่จุดหน้าแถวแล้วเดินตามทางพร้อมพูดให้รัดเข็มขัดและทำท่าประกอบ ส่วนจ้าวจำปีมีการประกาศออกเสียงเท่านั้น
ที่เทียบได้และสังเหตุมามีเท่านี้ครับ
เดินทางครั้งนี้ผมน่าจะเป็นคนไทยคนเดียวบนชั้นธุรกิจครับ ตอนแรก แอร์ ชาวเกาหลีมาให้บริการก่อน แต่พอนางรู้ตัวว่าผมไม่ใช่คนเกาหลี นางจึงจัดแอร์คนไทยมาดูแลผมแทน การได้อัพเกรดนี้อาจเป็นเพราะที่นั่งขั้นธุรกิจไม่เต็ม ก็ได้ แต่ถือว่าโชคดีมาก ไม่ได้เป็นสมาชิกบัตรสะสมแต้มอะไรเลยของAsiana Airlines แต่ก็ได้อัพเกรดมา (ในขณะที่การบินไทยของเรา ผมขึ้นชั้นธุรกิจทีไรเห็นคนเต็มทุกที่นั่งตลอดเลย สงสัยการบินไทยจะขายตั๋วชั้นธุรกิจได้ดี ได้รับความนิยม คนขึ้นเยอะตลอด จึงไม่เคยได้ฟรีอัพเกรดบ้างเลย)
มีต่ออีกนิดครับ หลังจากเดินเที่ยวในโซลมาซักพัก ก็ถึงเวลามาขึ้นเครื่องที่กิมโปครับ
ทำการเชคอินผ่านเครื่อง แล้วไปโหลดกระเป๋า เมื่อเชคอินแล้ว ก็เหลือบๆไปเห็น Lounge ของ Asiana Airlines ใกล้จุดที่เชคอิน แต่ยังไม่เข้าไป คิดว่าข้างในหลังผ่าน ตม ไปน่าจะมี แต่ปรากฏว่า หลังจากผ่าน ตม เช้าไปแล้วมันไม่มีLounge ครับ หรือเราเดินหาไม่เจอ จึงไปถามพนักงานของสายการบินแถวๆนั้น นางบอกว่า Lounge อยู่ด้านนอกก่อนผ่าน ตม ด้านในไม่มี แต่คุณก็กลับออกไปไม่ได้แล้ว ตอนนั้นผมหิวข้าวมาก ทั้งวันมีสตาบักที่ในกรุงโซลลงท้องไปแค่แก้วเดียวคิดว่าจะมาฝากท้องที่นี่เลย (มาเกาหลีด้วยงบน้อยแค่ พันกว่าบาท หมดไปกับค่า รถบัส รถไฟ ฝากกระเป๋า กินสตาบัก) พนักงานเห็นคงสงสารจึงเอาคูปองกินน้ำขนมให้ 10000วอน ไปใช้กับร้านกาแฟบริเวณนั้นไปแทน ทีนี้ผมก็อิ่มเลย
สรุปนะครับ การเดินทางครั้งนี้ผมประทับใจครับ ขอบคุณ Asiana ที่ให้อัพเกรดขึ้นมา แต่ถ้าให้ผมต้องซื้อตั๋วชั้นธุรกิจผมคงไม่เอาครับ แต่ถ้าให้เลือกใช้บริการอีกทีละก็ Asiana airlines ก็จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกนะครับ เช่น ถ้า รูท อเมริกา (JFK, SFO, ORD) คงจะใช้บริการแน่นอน เพราะถูกกว่า ANA SQ (ในกลุ่มดาวเหมือนกัน)
ขอบคุณครับที่ติดตามชม อ่านยากหน่อยนะครับ มือใหม่ยังหัดเขียนเว้นบรรทัดยังไม่ค่อยเป็น