สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่าเหตุการณ์ที่เล่านี้เป็นเพียงเหตุการณ์และประสบการณ์ที่เราเจอระหว่างการเดินทางเท่านั้น ซึ่งหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะคะ 🙏🙏
🙏
- ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมาเรามีโอกาสได้ไปเที่ยวมาเลเซีย 4 คืน 5 วัน (2-6 มิ.ย. 2566) การเดินทางในครั้งนี้ไม่มีแพลนอะไรมาก มีแค่พาสปอร์ตหนึ่งเล่มกับเงินในกระเป๋านิดหน่อย ส่วนภาษานั้นจัดว่าอยู่ในเลเวลต่ำ 5555
-------------------------------------------
พร้อมแล้วก็ไปพบการเดินทางในแบบที่ #พระเจ้าไม่เคยรักฉัน กันเลยจ้าาา ^^
- เมื่อวันหยุดพร้อม เงินพร้อม ก็กดตั๋วโลดดดด โดยเราใช้การจองตั๋วเครื่องบินจากบุรีรัมย์-ดอนเมือง และดอนเมือง-กัวลาลัมเปอร์ (เราคิดว่าประหยัดและดีที่สุดแล้ว) เนื่องจากสนามบินที่บ้านเรายังไม่ใช่สนามบินนานาชาติ และตั๋วแบบบินตรงค่อนข้างแพง ใกล้วันเดินทางแล้วแอบเช็คสภาพอากาศสักหน่อย
โอ้โหหห!!! พยากรณ์อากาศบอกว่า ฝน ฝน ฝน แล้วก็ฝน ! #พระเจ้าไม่เคยรักฉัน💗
1 วันก่อนออกเดินทาง ได้รับ mail จากสายการบิน Economy สีแดง ว่าเครื่องดีเลย์ ครึ่งชม. ก็ยังดีที่ดีเลย์แค่ครึ่งชม. - -" #พระเจ้าไม่เคยรักฉัน💗
-------------------------------------------
วันที่ 1 ของการเดินทาง (2 มิ.ย. 2566)
เลิกงานปุ๊บก็พุ่งตัวไปสนามบินปั๊บ ในส่วนนี้จะไม่ขอเล่ารายละเอียดการเดินทางนะคะ เราจะว๊าปไปที่กัวลาลัมเปอร์เล้ยยย ซึ่งเราไปถึงสนามบินกัวลาลัมเปอร์ เวลา 00.45 น. ตรงดิ่งไปที่ ตม. ซึ่งมีเค้าเตอร์เยอะมาก แต่เปิดเพียงแต่ 3-4 เค้าเตอร์เท่านั้น อาจจะเพราะค่อนข้างดึกแล้วมั่ง (เวลาที่โน่นเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชม.)
จากงัวเงียขี้ตาอยู่ก็ตื่นทันที เมื่อเจ้าหน้าที่ตม.กวักมือเรียกเรา จากนั้นเราก็ถอดแมสและฉีกยิ้มสวยๆให้พี่เจ้าหน้าที่ แต่,,,พี่เจ้าหน้าที่ไม่อ่อนโยนต่อเราเลยเด้อ 🙈🙈 คำถามแรกที่เจอ ฟังไม่ออกเลยจ้า เจ้าหน้าที่พูดเร็วมาก แถมเป็นภาษาอังกฤษที่ออกสำเนียงฮินดี ซึ่งเราจับใจความไม่ได้เลย ได้แต่ ห้ะๆ ๆ เจ้าหน้าที่ก็ถามเราใหม่ เราจับใจความได้ว่า มาทำอะไรที่นี่ ? เราก็ตอบไปว่ามาเที่ยว และคำถามที่ 2 ก็ตามมา จับใจความได้ว่ามากับใคร ? เราก็ตอบไปว่ามากับแฟน 2 คน พี่เจ้าหน้าที่ก็ชี้ไปที่แฟนเราว่าใช่คนนั้นมั้ย เราก็พยักหน้า
ซึ่งตอนนั้น แฟนเรา ผ่านตม.ไปเรียบร้อยแล้ว และคำถามที่ 3 ก็ตามมาอีก เราจับใจความได้ว่า มากี่วัน ? เราก็ตอบไป ว่ามา 4 วัน แถมบอกชื่อที่พักโรงแรมให้พร้อมเลย คิดว่าจะจบแค่นั้น ไม่ค่ะ!!! ยังมีคำถามที่ 4 และ 5 ตามมาอีก ถามว่า มีแพลนไปเที่ยวไหนบ้าง ? เราก็ตอบไปว่าเราจะไป Genting highland คำถามที่ 5 ถามเราว่ามีตั๋วเครื่องบินกลับมั้ย ? เราทนไม่ไหวละเพราะนานและหลายคำถามเหลือเกิน ไอ่เราก็ฟังไม่ค่อยออกด้วย เวลาตอบก็งูๆปลาๆไป เลยตัดสินใจเอาเอกสารที่แฟนเราปริ้นให้ยื่นให้เจ้าหน้าที่ไปเลย เจ้าหน้าที่เปิดดูเอกสารพลิกไปมาแล้วก็ปั๊มพาสปอร์ตให้เรา พร้อมกับยิ้มมุมปากให้เราหนึ่งที แล้วพูดว่า Welcome to Malaysia , Have a nice trip เราจับใจความได้ประมาณนี้
วินาทีนั้นเราคิดในใจ
ร อ ด แล้วเว้ยกู!!!! หลุดจากตม.มาได้ แฟนก็แซวใหญ่เลยค่ะว่าถามอะไรขนาดนั้น เพราะนางโดนถามแค่คำถามเดียวเอง ก็เพราะ #พระเจ้าไม่เคยรักฉัน💗 จากนั้น ก็เรียกแกร็บเข้าที่พักเลยจ้า เพราะรู้สึกว่าตอนนั้นขวัญเสียละ 5555!!
คืนแรกเราพักที่ My Hotel @ KL Sentral ราคาสบายกระเป๋าและอยู่ใกล้กับ KL Sentral ที่เป็นจุดเชื่อมต่อการการเดินทางเพราะพรุ่งนี้เช้าเราต้องนั่งบัสไปที่ Genting highland แต่เช้า🌞
-------------------------------------------
วันที่ 2 ของการเดินทาง (3 มิ.ย. 2566)
เราเดินจากโรงแรมไปที่ KL Sentral ระหว่างทางก็เห็นบันไดเลื่อนที่คุ้นตา ขอหยุดแชะภาพซะหน่อย📸📸
บัสขึ้นไป Genting เวลา 10.00 น. ยังพอมีเวลา เราสองคนเลยหาอะไรรองท้องกัน และการสื่อสารที่ไม่เก่งของเราชี้ๆ จิ้มๆไป ก็ได้น้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋มาอย่างละชุด บริการรับ-ส่งของรถบัสจะอยู่ชั้นล่างสุด ซึ่งเราไม่แน่ใจว่ามันคือชั้นใต้ดินหรือเปล่า
- 09.45 น. บัสมาแล้วค่าาาา 🚌🚌 ยื่น QR Code ให้พนักงานแล้วเดินขึ้นรถแบบสวยๆได้เลย เวลา 10.00 น. บัสก็ล้อหมุนทันที ซึ่งในความคิดเราคือเค้าตรงเวลามากนะ เราเลือกที่นั่งติดหน้าต่างและแฟนนั่งติดริมทางเดิน นั่งรถไปสักพัก รู้สึกว่าแดดส่องและร้อนมาก เราเลยเลื่อนผ้าม่านเพื่อกันแดด☀️ นั่นละฮะ ผ้าม่านตรงเรามันผืนเล็กไป ไม่สามารถปิดช่องกระจกได้หมด ในขณะที่ทุกที่นั่งริมหน้าต่างผ้าม่านพอดีกับกระจกเป๊ะ #พระเจ้าไม่เคยรักฉัน💗 ซึ่งเราจะใช้เวลาเดินทางขึ้นไปที่ Genting Highland ประมาณ 2 ชั่วโมง เมืองบนภูเขาที่มีแหล่งช้อปปิ้งมอลล์ คาสิโน สวนสนุก สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และยังเป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมในวันหยุดของชาวมาเลเซียและเพื่อนบ้านอีกด้วย
โดยเราเลือกพักที่ Resort World จำนวน 2 คืน เพราะช่วงที่กดจองห้องพักนั้นเห็นราคาแล้วมันอดใจไม่ไหวจริงๆ
- เมื่อรถบัสพาเรามาถึงจุดจอดรถที่ Awana SkyWay เราก็ต่อ Shuttle bus ไป Resort World ได้เลย โดย Shuttle bus จะมีเป็นรอบๆ
พอถึง Resort World แฟนเราเลยลองถามพนักงานว่าสามารถเช็คอินได้เลยหรือเปล่า (เพราะดูจากแอปบอกว่าสามารถเช็คอินได้เลย) พนักงานก็พ้นอังกฤษสำเนียงฮินดีเพื่อจัดการเรา 5555 ซึ่งแน่นอนเราก็ฟังไม่ออก จับใจความไม่ค่อยได้ ได้แต่ ห้ะ ห้ะๆ ๆ เหมือนเดิม จากนั้นก็เรียกสติและช่วยกันฟังว่าเค้าพูดกับเราว่าไง สรุปคร่าวๆได้ว่า เริ่มเช็คอินได้บ่ายสาม แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถเข้าห้องได้เลย อาจจะต้องรอให้ทำความสะอาดห้องเสร็จก่อน เพราะช่วงหยุดเสาร์อาทิตย์คนค่อนข้างเยอะ เราจึงฝากกระเป๋าไว้และรีบไปนั่งกระเช้าเพื่อขึ้นไปที่ Genting Sky worlds
มาขึ้นกระเช้าในช่วงที่ตรงกับวันเสาร์ เวลาเกือบๆจะบ่ายสอง ซึ่งแน่นอนค่าาาา เราก็ต้องสู้กับเหล่ามวลมหาประชาชน เราไปสองคนจึงได้นั่งกระเช้าร่วมกับคนอื่น ๆ และคนอื่น ๆ ที่ ว่าน่าจะมีเชื้อสายอินเดีย เพราะกลิ่นตัวแรงมาก เอาง่ายๆว่าขมคอเลย #พระเจ้าไม่เคยรักฉัน💗 (เราไม่ได้มีเจตนาบูลลี่เรื่องกลิ่นตัวแต่อย่างใด เราแค่ไม่คุ้นเคยและไม่ชินกับกลิ่นแบบนี้เท่านั้นเอง) เราทนกับกลิ่นนี้ประมาณ 10 นาที กระเช้าก็ถึงจุดหมายของเราแล้ว เย้!!!
Genting Sky worlds ^^ สวนสนุกบนยอดเขาที่มีทั้งแบบในร่มและกลางแจ้ง เราไปถึงค่อนข้างจะเย็นแล้วเลยเลือกที่จะเดินเล่นสวนสนุกในร่ม (Skytropolis) แต่,,,ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ลองไปเสี่ยงดวงดูสักตั้ง #คาสิโนจ๋าพี่มาแล้ว ขออนุญาตเข้าคาสิโน ไปปั่นสล็อตแปป🎰 🎰 🎰
และ #พระเจ้าไม่เคยรักฉัน💗 เหมือนเดิมค่ะ ผิดหวังซ้ำๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก 5555 5 ดีที่ยังเรียกสติกลับคืนมาได้ ก้าวขาออกจากคาสิโนก็พบว่าตะวันได้ลับขอบฟ้าไปเรียบร้อยแล้ว เราเลยตัดสินใจกินมื้อเย็นกันที่นั่นและตบท้ายด้วยซอฟโยเกิร์ตจากร้าน lloa llao เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง
อิ่มแล้วพร้อมสู้กับเหล่ามวลมหาประชาชนที่กำลังจะกลับลงไปยังจุด Awana SkyWay ซึ่งภาพในหัวเราก่อนที่จะขึ้นกระเช้าได้วาดฝันไว้ว่า ต้องได้ถ่ายรูปสวยๆ แวะเก็บภาพและทำบุญ ที่วัด Chin Swee Cave ^^ แต่ #พระเจ้าไม่เคยรักฉัน💗 ฝนตกลงมาอย่างหนักหน่วงมาก มองไม่เห็นวิวอะไรทั้งนั้น และวัดก็ปิดไปตั้งแต่เวลา 19.00 น. แล้ว แต่ที่เราอยู่ในกระเช้าตอนนั้นเป็นเวลา 20.00 น. ก็ต้องรับสภาพไปค่ะ เพราะไม่ได้เช็คตั้งแต่แรกว่าวัดปิดกี่โมง🙊
------ เดี๋ยวมาต่อนะคะ ------
[CR] มาเลเซีย 4 คืน 5 วัน แบบที่พระเจ้าไม่เคยรักฉัน
- ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมาเรามีโอกาสได้ไปเที่ยวมาเลเซีย 4 คืน 5 วัน (2-6 มิ.ย. 2566) การเดินทางในครั้งนี้ไม่มีแพลนอะไรมาก มีแค่พาสปอร์ตหนึ่งเล่มกับเงินในกระเป๋านิดหน่อย ส่วนภาษานั้นจัดว่าอยู่ในเลเวลต่ำ 5555
-------------------------------------------
พร้อมแล้วก็ไปพบการเดินทางในแบบที่ #พระเจ้าไม่เคยรักฉัน กันเลยจ้าาา ^^
- เมื่อวันหยุดพร้อม เงินพร้อม ก็กดตั๋วโลดดดด โดยเราใช้การจองตั๋วเครื่องบินจากบุรีรัมย์-ดอนเมือง และดอนเมือง-กัวลาลัมเปอร์ (เราคิดว่าประหยัดและดีที่สุดแล้ว) เนื่องจากสนามบินที่บ้านเรายังไม่ใช่สนามบินนานาชาติ และตั๋วแบบบินตรงค่อนข้างแพง ใกล้วันเดินทางแล้วแอบเช็คสภาพอากาศสักหน่อย
โอ้โหหห!!! พยากรณ์อากาศบอกว่า ฝน ฝน ฝน แล้วก็ฝน ! #พระเจ้าไม่เคยรักฉัน💗
1 วันก่อนออกเดินทาง ได้รับ mail จากสายการบิน Economy สีแดง ว่าเครื่องดีเลย์ ครึ่งชม. ก็ยังดีที่ดีเลย์แค่ครึ่งชม. - -" #พระเจ้าไม่เคยรักฉัน💗
-------------------------------------------
วันที่ 1 ของการเดินทาง (2 มิ.ย. 2566)
เลิกงานปุ๊บก็พุ่งตัวไปสนามบินปั๊บ ในส่วนนี้จะไม่ขอเล่ารายละเอียดการเดินทางนะคะ เราจะว๊าปไปที่กัวลาลัมเปอร์เล้ยยย ซึ่งเราไปถึงสนามบินกัวลาลัมเปอร์ เวลา 00.45 น. ตรงดิ่งไปที่ ตม. ซึ่งมีเค้าเตอร์เยอะมาก แต่เปิดเพียงแต่ 3-4 เค้าเตอร์เท่านั้น อาจจะเพราะค่อนข้างดึกแล้วมั่ง (เวลาที่โน่นเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชม.)
จากงัวเงียขี้ตาอยู่ก็ตื่นทันที เมื่อเจ้าหน้าที่ตม.กวักมือเรียกเรา จากนั้นเราก็ถอดแมสและฉีกยิ้มสวยๆให้พี่เจ้าหน้าที่ แต่,,,พี่เจ้าหน้าที่ไม่อ่อนโยนต่อเราเลยเด้อ 🙈🙈 คำถามแรกที่เจอ ฟังไม่ออกเลยจ้า เจ้าหน้าที่พูดเร็วมาก แถมเป็นภาษาอังกฤษที่ออกสำเนียงฮินดี ซึ่งเราจับใจความไม่ได้เลย ได้แต่ ห้ะๆ ๆ เจ้าหน้าที่ก็ถามเราใหม่ เราจับใจความได้ว่า มาทำอะไรที่นี่ ? เราก็ตอบไปว่ามาเที่ยว และคำถามที่ 2 ก็ตามมา จับใจความได้ว่ามากับใคร ? เราก็ตอบไปว่ามากับแฟน 2 คน พี่เจ้าหน้าที่ก็ชี้ไปที่แฟนเราว่าใช่คนนั้นมั้ย เราก็พยักหน้า ซึ่งตอนนั้น แฟนเรา ผ่านตม.ไปเรียบร้อยแล้ว และคำถามที่ 3 ก็ตามมาอีก เราจับใจความได้ว่า มากี่วัน ? เราก็ตอบไป ว่ามา 4 วัน แถมบอกชื่อที่พักโรงแรมให้พร้อมเลย คิดว่าจะจบแค่นั้น ไม่ค่ะ!!! ยังมีคำถามที่ 4 และ 5 ตามมาอีก ถามว่า มีแพลนไปเที่ยวไหนบ้าง ? เราก็ตอบไปว่าเราจะไป Genting highland คำถามที่ 5 ถามเราว่ามีตั๋วเครื่องบินกลับมั้ย ? เราทนไม่ไหวละเพราะนานและหลายคำถามเหลือเกิน ไอ่เราก็ฟังไม่ค่อยออกด้วย เวลาตอบก็งูๆปลาๆไป เลยตัดสินใจเอาเอกสารที่แฟนเราปริ้นให้ยื่นให้เจ้าหน้าที่ไปเลย เจ้าหน้าที่เปิดดูเอกสารพลิกไปมาแล้วก็ปั๊มพาสปอร์ตให้เรา พร้อมกับยิ้มมุมปากให้เราหนึ่งที แล้วพูดว่า Welcome to Malaysia , Have a nice trip เราจับใจความได้ประมาณนี้
วินาทีนั้นเราคิดในใจ ร อ ด แล้วเว้ยกู!!!! หลุดจากตม.มาได้ แฟนก็แซวใหญ่เลยค่ะว่าถามอะไรขนาดนั้น เพราะนางโดนถามแค่คำถามเดียวเอง ก็เพราะ #พระเจ้าไม่เคยรักฉัน💗 จากนั้น ก็เรียกแกร็บเข้าที่พักเลยจ้า เพราะรู้สึกว่าตอนนั้นขวัญเสียละ 5555!!
คืนแรกเราพักที่ My Hotel @ KL Sentral ราคาสบายกระเป๋าและอยู่ใกล้กับ KL Sentral ที่เป็นจุดเชื่อมต่อการการเดินทางเพราะพรุ่งนี้เช้าเราต้องนั่งบัสไปที่ Genting highland แต่เช้า🌞
-------------------------------------------
วันที่ 2 ของการเดินทาง (3 มิ.ย. 2566)
เราเดินจากโรงแรมไปที่ KL Sentral ระหว่างทางก็เห็นบันไดเลื่อนที่คุ้นตา ขอหยุดแชะภาพซะหน่อย📸📸
บัสขึ้นไป Genting เวลา 10.00 น. ยังพอมีเวลา เราสองคนเลยหาอะไรรองท้องกัน และการสื่อสารที่ไม่เก่งของเราชี้ๆ จิ้มๆไป ก็ได้น้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋มาอย่างละชุด บริการรับ-ส่งของรถบัสจะอยู่ชั้นล่างสุด ซึ่งเราไม่แน่ใจว่ามันคือชั้นใต้ดินหรือเปล่า
- 09.45 น. บัสมาแล้วค่าาาา 🚌🚌 ยื่น QR Code ให้พนักงานแล้วเดินขึ้นรถแบบสวยๆได้เลย เวลา 10.00 น. บัสก็ล้อหมุนทันที ซึ่งในความคิดเราคือเค้าตรงเวลามากนะ เราเลือกที่นั่งติดหน้าต่างและแฟนนั่งติดริมทางเดิน นั่งรถไปสักพัก รู้สึกว่าแดดส่องและร้อนมาก เราเลยเลื่อนผ้าม่านเพื่อกันแดด☀️ นั่นละฮะ ผ้าม่านตรงเรามันผืนเล็กไป ไม่สามารถปิดช่องกระจกได้หมด ในขณะที่ทุกที่นั่งริมหน้าต่างผ้าม่านพอดีกับกระจกเป๊ะ #พระเจ้าไม่เคยรักฉัน💗 ซึ่งเราจะใช้เวลาเดินทางขึ้นไปที่ Genting Highland ประมาณ 2 ชั่วโมง เมืองบนภูเขาที่มีแหล่งช้อปปิ้งมอลล์ คาสิโน สวนสนุก สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และยังเป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมในวันหยุดของชาวมาเลเซียและเพื่อนบ้านอีกด้วย
โดยเราเลือกพักที่ Resort World จำนวน 2 คืน เพราะช่วงที่กดจองห้องพักนั้นเห็นราคาแล้วมันอดใจไม่ไหวจริงๆ
- เมื่อรถบัสพาเรามาถึงจุดจอดรถที่ Awana SkyWay เราก็ต่อ Shuttle bus ไป Resort World ได้เลย โดย Shuttle bus จะมีเป็นรอบๆ
พอถึง Resort World แฟนเราเลยลองถามพนักงานว่าสามารถเช็คอินได้เลยหรือเปล่า (เพราะดูจากแอปบอกว่าสามารถเช็คอินได้เลย) พนักงานก็พ้นอังกฤษสำเนียงฮินดีเพื่อจัดการเรา 5555 ซึ่งแน่นอนเราก็ฟังไม่ออก จับใจความไม่ค่อยได้ ได้แต่ ห้ะ ห้ะๆ ๆ เหมือนเดิม จากนั้นก็เรียกสติและช่วยกันฟังว่าเค้าพูดกับเราว่าไง สรุปคร่าวๆได้ว่า เริ่มเช็คอินได้บ่ายสาม แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถเข้าห้องได้เลย อาจจะต้องรอให้ทำความสะอาดห้องเสร็จก่อน เพราะช่วงหยุดเสาร์อาทิตย์คนค่อนข้างเยอะ เราจึงฝากกระเป๋าไว้และรีบไปนั่งกระเช้าเพื่อขึ้นไปที่ Genting Sky worlds
มาขึ้นกระเช้าในช่วงที่ตรงกับวันเสาร์ เวลาเกือบๆจะบ่ายสอง ซึ่งแน่นอนค่าาาา เราก็ต้องสู้กับเหล่ามวลมหาประชาชน เราไปสองคนจึงได้นั่งกระเช้าร่วมกับคนอื่น ๆ และคนอื่น ๆ ที่ ว่าน่าจะมีเชื้อสายอินเดีย เพราะกลิ่นตัวแรงมาก เอาง่ายๆว่าขมคอเลย #พระเจ้าไม่เคยรักฉัน💗 (เราไม่ได้มีเจตนาบูลลี่เรื่องกลิ่นตัวแต่อย่างใด เราแค่ไม่คุ้นเคยและไม่ชินกับกลิ่นแบบนี้เท่านั้นเอง) เราทนกับกลิ่นนี้ประมาณ 10 นาที กระเช้าก็ถึงจุดหมายของเราแล้ว เย้!!!
Genting Sky worlds ^^ สวนสนุกบนยอดเขาที่มีทั้งแบบในร่มและกลางแจ้ง เราไปถึงค่อนข้างจะเย็นแล้วเลยเลือกที่จะเดินเล่นสวนสนุกในร่ม (Skytropolis) แต่,,,ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ลองไปเสี่ยงดวงดูสักตั้ง #คาสิโนจ๋าพี่มาแล้ว ขออนุญาตเข้าคาสิโน ไปปั่นสล็อตแปป🎰 🎰 🎰
และ #พระเจ้าไม่เคยรักฉัน💗 เหมือนเดิมค่ะ ผิดหวังซ้ำๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก 5555 5 ดีที่ยังเรียกสติกลับคืนมาได้ ก้าวขาออกจากคาสิโนก็พบว่าตะวันได้ลับขอบฟ้าไปเรียบร้อยแล้ว เราเลยตัดสินใจกินมื้อเย็นกันที่นั่นและตบท้ายด้วยซอฟโยเกิร์ตจากร้าน lloa llao เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง
อิ่มแล้วพร้อมสู้กับเหล่ามวลมหาประชาชนที่กำลังจะกลับลงไปยังจุด Awana SkyWay ซึ่งภาพในหัวเราก่อนที่จะขึ้นกระเช้าได้วาดฝันไว้ว่า ต้องได้ถ่ายรูปสวยๆ แวะเก็บภาพและทำบุญ ที่วัด Chin Swee Cave ^^ แต่ #พระเจ้าไม่เคยรักฉัน💗 ฝนตกลงมาอย่างหนักหน่วงมาก มองไม่เห็นวิวอะไรทั้งนั้น และวัดก็ปิดไปตั้งแต่เวลา 19.00 น. แล้ว แต่ที่เราอยู่ในกระเช้าตอนนั้นเป็นเวลา 20.00 น. ก็ต้องรับสภาพไปค่ะ เพราะไม่ได้เช็คตั้งแต่แรกว่าวัดปิดกี่โมง🙊
------ เดี๋ยวมาต่อนะคะ ------
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้