สวัสดีค่ะ ตามกระทู้ค่ะ คือเราสงสัยว่าคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการประเมินงาน ใช้อะไรในการตัดสินเด็กใหม่เหล่านั้นคะ
> หน้าตา รูปร่าง บุคลิค ความสามารถ ฯลฯ
เคยมีบ้างไหมคะ ที่เอาความรู้สึกส่วนตัวมาตัดสิน เรื่องเชื้อชาติ ศาสนา หน้าตา
เพราะเราเป็นคนหนึ่งที่โดนไม่ผ่านงานมา 2 ครั้งในระยะเวลา 3 เดือนค่ะ บอกก่อนว่าเราหน้าตาค่อยไม่ค่อยสวย เพื่อนชอบแซวว่าทำหน้าดุ หน้านิ่ง
ครั้งแรก เข้าไปทำเป็นคนเสิร์ฟน้ำให้ผู้บริหารในบริษัทใหญ่ในไทยที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก หมายความว่าในบริษัทมีคนหลากหลายเขื้อชาติ ศาสนารวมกัน ส่วนใหญ่จะเป็นคนอินเดีย ศาสนาฮินดู เราเป็นมุสลิมค่ะ ซึ่งเราถามก่อนว่าคลุมหัวได้ไหม ก่อนรับปากรับงานหลังสำภาษณ์ผ่าน ทางบริษัทบอกว่าได้ ไม่มีปัญหา ทำๆไปได้เดือนกว่า คนที่ดูแลเรา กับหัวหน้างานถามว่าถอดผ้าคลุมได้ไหม เราบอกไม่ได้ค่ะด้วยท่าทีที่ยืดหยัดว่าถอดไม่ได้จริงๆ ซึ่งพวกเขาถามซ้ำๆอยู่ 2-3 ครั้ง เป็นช่วงๆ จนเรารู้สึกอึดอัด ทำอะไรไม่ถูกเพราะเหมือนถูกจับตามองอยู่ตลอด และสุดท้ายก่อนถึงระยะเวลากำหนดผ่านโปร ช่วงกลางเดือน หัวหน้างานก็เรียกคุย (เรา และรุ่นพี่อีกคนที่สวมผ้าคลุมเหมือนกันก็โดนเรียก) บอกว่าให้ทำถึงพรุ่งนี้ และวันที่เหลือให้กลับไปที่บริษัทต้นสังกัด ขอเป็นสแปร์ที่ที่ยังว่างจนถึงสิ้นเดือนนี้ และบังคับให้เซ็นใบลาออก *เรา 2 คน เป็น outsource ค่ะ* โดยเหตุผลที่ไม่ผ่านงาน บอกว่านายประเมินไม่ผ่าน เพราะที่นี่บริษัทคนอินเดีย ฮินดูเยอะ นายไม่ชอบให้สวมผ้าคลุม แล้วแขกต่างชาติเยอะ กลัวเสียภาพลักษณ์ ถ้าอยากทำต่อต้องถอดผ้าคลุมออก "ไม่ใช่ทำตัวเป็นแกะดำ" เราถามกลับว่าทำไมตอนรับเข้ามาไม่บอกคลุมไม่ได้ เขาบอกเพราะตอนนั้นอยากให้ลองงานก่อนว่าทำได้ไหม
วินาทีนั้น คือเหมือนโดนฟ้าผ่าตรงอก พูดอะไรไม่ออก เจ็บ เราเข้าใจค่ะว่าคุณไม่ชอบ แต่คุณควรตัดปัญหาตั้งแต่ต้นด้วยการปฏิเสธเรา 2 คน ตั้งแต่แรก เพราะอย่างนี้มันเสียเวลากัน 2 ฝ่าย เราก็มีความฝันที่ต้องทำ คุณก็มีธุรกิจที่ต้องเดิน
ที่เรากล้าถามคำถามข้างบนเพราะเราสัมผัสได้ชัดเจนมากๆ เพราะ เรากับรุ่นพี่ โดนไล่ออกพร้อมๆกัน คลุมหัวเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ก็มีหลายคนที่โดนไม่ผ่านงาน เพราะความไม่ชอบของหัวหน้างานเรา
ครั้งที่สอง เราทำเป็น Receptionist ที่บริษัทแถวสุขุมวิท เราเป็นมุสลิมคลุมหัวคนเดียวในชั้น ทำไปสักพักได้ยินมาลางๆว่าลูกค้าเปรียบเทียบเรื่องหน้าตากับคนที่ทำในตำแหน่งเดียวกันที่อยู่อีกที่หนึ่ง ซึ่งเราก็เริ่มไม่สบายใจ พอมาวันนี้ เดือนกว่า ทางหัวหน้างานโทรมาบอกเราว่าลูกค้าบอกเราไม่ผ่านงาน ให้ทำอีก 3 วันและกลับบริษัทต้นสังกัด ซึ่งก่อนหน้าไม่เคยเตือนหรือให้ใบประเมินอะไรเลย แน่นอนการอยู่หน้าฟร้อนท์เป็นเหมือนหน้าตาบริษัทอีกเช่นเคย แต่ถ้าบริษัทไม่โอเคก็ไม่ควรรับเราตั้งแต่แรก ปฏิเสธตั้งแต่เห็นหน้าโปรไฟล์เราเลยจะรู้สึกว่าแฟร์กว่านี้
เรายังสงสัยว่า ทั้งคนที่เคยไม่ผ่านงานมีความรู้สึกหรือเซ้นส์แบบเดียวกันหรือเปล่า ว่ามันถูกตัดสินจากความรู้สึกของคนในบริษับ ไม่ได้ตามกฏเกณฑ์ทุกข้อที่บริษัทตั้งขึ้นมา? และคนที่เคยเป็นผู้ประเมินพนักงานหรือหัวหน้า เคยกันไหมที่ใช้ความรู้กสึกส่วนตัวในการตัดสิน?
ทั้งนี้ทั้งนั้น เราอาจคิดมากไปเอง เราแค่รู้สึกท้อที่โดนอะไรแบบนี้บ่อยๆ แต่ใครก็ตามที่โดนไม่ผ่านงานแบบเรา ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตาม สู้ๆนะคะ A bad day is not a bad life ขอบคุณค่ะ
ถามถึงคนประเมินงาน ใช้อะไรในการตัดสิน?
สวัสดีค่ะตามกระทู้ค่ะ คือเราสงสัยว่าคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการประเมินงาน ใช้อะไรในการตัดสินเด็กใหม่เหล่านั้นคะ> หน้าตา รูปร่าง บุคลิค ความสามารถ ฯลฯ
เคยมีบ้างไหมคะ ที่เอาความรู้สึกส่วนตัวมาตัดสิน เรื่องเชื้อชาติ ศาสนา หน้าตา
เพราะเราเป็นคนหนึ่งที่โดนไม่ผ่านงานมา 2 ครั้งในระยะเวลา 3 เดือนค่ะ บอกก่อนว่าเราหน้าตาค่อยไม่ค่อยสวย เพื่อนชอบแซวว่าทำหน้าดุ หน้านิ่ง
ครั้งแรก เข้าไปทำเป็นคนเสิร์ฟน้ำให้ผู้บริหารในบริษัทใหญ่ในไทยที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก หมายความว่าในบริษัทมีคนหลากหลายเขื้อชาติ ศาสนารวมกัน ส่วนใหญ่จะเป็นคนอินเดีย ศาสนาฮินดู เราเป็นมุสลิมค่ะ ซึ่งเราถามก่อนว่าคลุมหัวได้ไหม ก่อนรับปากรับงานหลังสำภาษณ์ผ่าน ทางบริษัทบอกว่าได้ ไม่มีปัญหา ทำๆไปได้เดือนกว่า คนที่ดูแลเรา กับหัวหน้างานถามว่าถอดผ้าคลุมได้ไหม เราบอกไม่ได้ค่ะด้วยท่าทีที่ยืดหยัดว่าถอดไม่ได้จริงๆ ซึ่งพวกเขาถามซ้ำๆอยู่ 2-3 ครั้ง เป็นช่วงๆ จนเรารู้สึกอึดอัด ทำอะไรไม่ถูกเพราะเหมือนถูกจับตามองอยู่ตลอด และสุดท้ายก่อนถึงระยะเวลากำหนดผ่านโปร ช่วงกลางเดือน หัวหน้างานก็เรียกคุย (เรา และรุ่นพี่อีกคนที่สวมผ้าคลุมเหมือนกันก็โดนเรียก) บอกว่าให้ทำถึงพรุ่งนี้ และวันที่เหลือให้กลับไปที่บริษัทต้นสังกัด ขอเป็นสแปร์ที่ที่ยังว่างจนถึงสิ้นเดือนนี้ และบังคับให้เซ็นใบลาออก *เรา 2 คน เป็น outsource ค่ะ* โดยเหตุผลที่ไม่ผ่านงาน บอกว่านายประเมินไม่ผ่าน เพราะที่นี่บริษัทคนอินเดีย ฮินดูเยอะ นายไม่ชอบให้สวมผ้าคลุม แล้วแขกต่างชาติเยอะ กลัวเสียภาพลักษณ์ ถ้าอยากทำต่อต้องถอดผ้าคลุมออก "ไม่ใช่ทำตัวเป็นแกะดำ" เราถามกลับว่าทำไมตอนรับเข้ามาไม่บอกคลุมไม่ได้ เขาบอกเพราะตอนนั้นอยากให้ลองงานก่อนว่าทำได้ไหม
วินาทีนั้น คือเหมือนโดนฟ้าผ่าตรงอก พูดอะไรไม่ออก เจ็บ เราเข้าใจค่ะว่าคุณไม่ชอบ แต่คุณควรตัดปัญหาตั้งแต่ต้นด้วยการปฏิเสธเรา 2 คน ตั้งแต่แรก เพราะอย่างนี้มันเสียเวลากัน 2 ฝ่าย เราก็มีความฝันที่ต้องทำ คุณก็มีธุรกิจที่ต้องเดิน
ที่เรากล้าถามคำถามข้างบนเพราะเราสัมผัสได้ชัดเจนมากๆ เพราะ เรากับรุ่นพี่ โดนไล่ออกพร้อมๆกัน คลุมหัวเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ก็มีหลายคนที่โดนไม่ผ่านงาน เพราะความไม่ชอบของหัวหน้างานเรา
ครั้งที่สอง เราทำเป็น Receptionist ที่บริษัทแถวสุขุมวิท เราเป็นมุสลิมคลุมหัวคนเดียวในชั้น ทำไปสักพักได้ยินมาลางๆว่าลูกค้าเปรียบเทียบเรื่องหน้าตากับคนที่ทำในตำแหน่งเดียวกันที่อยู่อีกที่หนึ่ง ซึ่งเราก็เริ่มไม่สบายใจ พอมาวันนี้ เดือนกว่า ทางหัวหน้างานโทรมาบอกเราว่าลูกค้าบอกเราไม่ผ่านงาน ให้ทำอีก 3 วันและกลับบริษัทต้นสังกัด ซึ่งก่อนหน้าไม่เคยเตือนหรือให้ใบประเมินอะไรเลย แน่นอนการอยู่หน้าฟร้อนท์เป็นเหมือนหน้าตาบริษัทอีกเช่นเคย แต่ถ้าบริษัทไม่โอเคก็ไม่ควรรับเราตั้งแต่แรก ปฏิเสธตั้งแต่เห็นหน้าโปรไฟล์เราเลยจะรู้สึกว่าแฟร์กว่านี้
เรายังสงสัยว่า ทั้งคนที่เคยไม่ผ่านงานมีความรู้สึกหรือเซ้นส์แบบเดียวกันหรือเปล่า ว่ามันถูกตัดสินจากความรู้สึกของคนในบริษับ ไม่ได้ตามกฏเกณฑ์ทุกข้อที่บริษัทตั้งขึ้นมา? และคนที่เคยเป็นผู้ประเมินพนักงานหรือหัวหน้า เคยกันไหมที่ใช้ความรู้กสึกส่วนตัวในการตัดสิน?
ทั้งนี้ทั้งนั้น เราอาจคิดมากไปเอง เราแค่รู้สึกท้อที่โดนอะไรแบบนี้บ่อยๆ แต่ใครก็ตามที่โดนไม่ผ่านงานแบบเรา ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตาม สู้ๆนะคะ A bad day is not a bad life ขอบคุณค่ะ