ความเดิมตอนที่แล้ว

วันนี้เป็นวันแรกที่จะเริ่มใช้บัตร JR Wide Pass แต่เรายังคงรับตั๋วไม่สำเร็จ ก็เลยตื่นแบบเช้ามาก เพื่อที่จะไปรอเค้าท์เตอร์ JR เปิดตอน 8 โมง แต่เราดันจองรถไฟชินกันเซ็นไปตอน 8.10 อ่ะ แต่ไม่เป็นไร ไปดูก่อน เช้านี้เราเลยใช้บัตร Subway 24 Hr. ของเมื่อวานที่ยังใช้ได้อยู่ นั่ง Subway ไปสถานีอูเอโนะ แล้วเดินไปที่ JR เราไปถึงก่อนแปดโมง เค้าท์เตอร์ก็ยังไม่เปิด เลยตัดสินใจครั้งสุดท้ายไปที่ตู้อัตโนมัติอีกครั้ง กดตามขั้นตอนที่บอกไว้ข้างต้น(ย้อนไปดูวิธีรับตั๋วที่ Day 1)  มั่วไปมั่วมา ตั๋วก็ออกมาทั้งหมดเลยจ้า ยังไม่ถึง 8.10 เลย มีเวลาเหลือ ไปซื้อขนมเอาไปกินบนรถไฟอีก นั่ง Shinkansen ยาวๆรวดเดียว ถึง Gala Yuzawa

นี่คือตั๋ว JR Wide Passและนี่บัตรจองที่นั่ง

รายละเอียดทั้งหมดของ Gala Yuzawa สามารถดูในเว็บไซต์ได้เลย มีภาษาไทยด้วย https://gala.co.jp/winter/thai/

หรือจากเพจนี้เลยhttps://www.facebook.com/galayuzawathai

(ลานสกีมีช่วงเวลาเปิดปิด อย่าลืมดูว่าช่วงที่จะไปด้วยว่าเค้าเปิดถึงวันไหน)

เนื่องจากช่วงนี้กำลังจะหมดฤดูหนาวแล้ว การแต่งตัวจริงๆแล้วไม่ต้องกันหนาวเท่าไหร่ กันแดดจะดีกว่า

 แดดแรงมาก ทากันแดดเยอะๆ หมวกแว่น แนะนำเอามาให้ครบ

ออกจากสถานีรถไฟคือถึงเลย 

จะมีเค้าท์เตอร์ขายตั๋วหลายช่องมากๆ มีเจ้าหน้าที่คนไทยด้วยนะ นี่เป็นราคาสำหรับคนที่ใช้ JR Wide Pass

ของเราไม่เล่นสกี ที่เค้าเตอร์ตรงนี้เลยจ่ายเท่านี้ 

-      ค่ากอนโดล่า 2000 เยน

-      ค่าขึ้นจุดชมวิว The Bell of love 1000 เยน

ให้บอกเจ้าหน้าที่และจ่ายเงินพร้อมกันตรงนี้เลย จากนั้นจะได้บัตรขึ้นกระเช้ามา เก็บไว้ให้ดี

ต่อไปที่จุดเช่าอุปกรณ์ จำเป็นต้องกรอกฟอร์มผ่านเว็บไซต์ ซึ่งจะมี QR Code ให้แสกนเพื่อเข้าไปกรอฏข้อมูลการเช่าอุปกรณ์

-      เช่า ถาดเลื่อนอันละ 1000 เยน เจ้าหน้าที่จะให้เป็นการ์ดไว้ก่อนเอาไปแลกถาดด้านบนอีกที

-      เช่า รองเท้า 1000 เยน เจ้าหน้าที่จะวัดไซต์ให้ ถ้าใส่แล้วไม่พอดีให้เอาไปเปลี่ยนที่จุดเปลี่ยนอุปกรณ์ได้

-      ถุงมือถุงเท้า มีขายเท่านั้น เอาไปเองได้ จะได้ไม่ต้องเสียเงิน

จากนั้นจำเป็นต้องเช่า Locker สำหรับเก็บของที่ไม่จำเป็นและรองเท้า ห้อง Locker มีหลายที่นะคะ บางห้องจะเป็นเฉพาะผู้หญิง 

บางห้องเฉพาะผู้ชาย บางห้องแบบรวม ให้ถามเจ้าหน้าที่อีกที ด้วยความที่เราไปผู้หญิง 3 คน ห้อง Locker จะอยู่บริเวณที่รับรองเท้าเลย 

หน้าห้องจะมีตู้ขายตั๋วล็อกเกอร์ 1 วัน 1000 เยน ใส่ด้วยกันได้ เปิดปิดได้ทั้งวัน

ใครมีกระเป๋าเดินทางให้ฝากไว้ข้างล่างนี้เลย ส่วนกระเป๋าหรือเป้ธรรมดาก็เอาติดตัวไปด้วยเลย 

เดี๋ยวเรามาดูกันว่านอกจากสกีและสโนบอร์ดแล้ว มีอะไรให้ทำบน Gala Yuzawa อีกบ้าง

จากนั้นก็ลุยกันเลย นั่งกระเช้ากอนโดล่า ขึ้นไปข้างบนกัน

กระเช้าจะพาเราขึ้นมาในตัวอาคาร ตรงนี้เรียกว่าอาคาร Cheers ข้างในมีร้านอาหาร จุดรับอุปกรณ์ต่างๆ และที่ขายตั๋วสำหรับกิจกรรมอื่นๆ 

ขึ้นไปอย่างแรกที่ทำคือ กินข้าวค่ะ 

เสร็จแล้ว นั่ง Chair Lift ขึ้นไปจุดชมวิว The Bell of love  

สำหรับคนที่ไม่ได้เล่นสกี จะขึ้น Chair Lift ได้ตัวเดียวเท่านั้น คือ Barouche Lift ในรูปคือทางเข้าด้านขวา

ใช้บัตรที่ได้มาในตอนแรกแสกนผ่านประตูเข้าไป

นั่ง Chair Lift ชมวิว

ถึงแล้วจ๊ะ จุดชมวิว Bell of love

เดินขึ้นไปดูเค้าเล่นสกีกัน

เสร็จแล้วกลับลงมาก็ เอาบัตรไปแลกถาดเลื่อน แล้วไปเล่นหิมะ เล่นถาดเลื่อนกัน

เล่นกันจนพอใจแล้ว ที่นี่ก็ยังมีกิจกรรมให้ทำอีกเยอะแยะ 

ต่อไปเราจะไปนั่ง Snow Mobile Sleigh กัน 

ซื้อตั๋วได้ในตัวอาคาร คนละ 1000 เยน รอบละประมาณ 15 นาที 

เค้าจะพาเราขับไปชมรอบๆ และจอดให้เราถ่ายรูป ถ่ายๆๆ แล้วก็พากลับมาส่งที่เดิมค่ะ 

นอกจากนี้ยังมี Moon Bike คล้ายๆมอเตอร์ไซต์ขี่บนหิมะ ต้องขี่เป็นกลุ่ม 3 คน และจะมีเจ้าหน้าที่นำทาง 1 คน 

อันนี้เราไม่ได้เล่นนะ แต่อ่านข้อมูลมาจากเว็บไซต์ 

ยังไม่หมดแค่นี้ หลังจากตากแดดกันจนผิวไหม้ ร่างพังแล้วก็นั่งกอนโดล่ากลับลงมาด้านล่าง

เราก็พากันมาคืนชีพที่นี่เลย มี Spa อยู่ชั้น 2 ขึ้นบันไดเลื่อนไป

มีสระว่ายน้ำ ที่มีอ่างจากุซซี่ด้านนอก และมีห้องออนเซนด้วยนะ  ค่าสระว่ายน้ำคนละ 1000 เยน มีผ้าเช็ดตัวให้1ผืน ถ้าจะเช่าชุดว่ายน้ำก็มีให้คนละ 500 เยน ส่วนเรานั้นเตรียมมาเองจากบ้าน ตั้งใจมาเลยนะ จ่ายแค่ 1000 เยน แล้วไปแช่อ่างชิวๆ อ่างน้ำนวดแรงดีมาก สบายเลย

สาวๆคนไหนห่วงเรื่องหน้า ผม เค้าก็มีห้องแต่งตัวให้ มีไดร์เป่าผม ครีมอะไรไม่รู้เต็มเลย

แต่สำหรับเราง่ายๆ แค่ไม่ต้องเอาหัวจุ่มน้ำก็พอละ

จากนั้นก็ถึงเวลาขึ้นรถไฟกลับแล้วจ้า อย่าเล่นเพลินดูเวลารถไฟด้วยล่ะ 

นั่งยาวๆกลับมาอูเอโนะ แล้วเดินไปทานอาหารเย็นที่ร้าน Isomaru Suisan สาขาอูเอโนะ 

ร้านนี้มีหลายสาขา เราเคยทานครั้งนึงแล้วตอนไปโอซาก้า คราวนี้เราจะมาแบบจัดเต็ม

ค่าเสียหาย

ยังๆ ไม่พอ ไปเดินเล่นในตลาด แวะทานเครปในตลาดอะเมโยโกะ

อิ่มพุงแล้วก็นั่ง JR ไปลงสถานี Okachimachi แล้วเดินต่อนิดนึงกลับโรงแรมจ้า

คนเขียนสู้ชีวิตมากนะ ขอบคุณที่ยังติดตามอ่านกัน

มีคำถามสงสัยถามได้นะคะ ว่างแล้วจะมาตอบ

วันนี้พอแค่นี้ก่อน ราตรีสวัสดิ์