นี่เป็นการรีวิวครั้งแรกของ จขกท.  

ทริปครั้งนี้มีจำนวนผู้ร่วมเดินทางทั้งหมด 6คน : ชาย 1  หญิง 4  เด็กหญิง(4ขวบ) 1

สำหรับข้อมูล

      ที่พัก การเดินทาง สถานทีท่องเที่ยว ได้ศึกษาหาข้อมูลจาก  facebook กลุ่ม กลุ่มคนชอบตะลอนเที่ยวญี่ปุ่น  รวมพลคนไปเที่ยวญี่ปุ่น    Pantip และ google ครับ

เริ่มต้น การเดินทางครั้งนี้ เดินทางจาก

สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบินไทย TG560  เดินทาง เวลา 7.45 น. ถึงสนามบิน Noi bai เวลา 9.35 น.ใช้เวลาเดินทาง  1 ชั่วโมง 50 นาที

สนามบิน Noi bai ,ฮานอย เวียดนาม

เดินทางออกจากสนามบิน  Noi bai ด้วยสายการบิน  ANA  NH 858 เวลา 15.05 น. มาถึงสนามบิน ฮาเนดะ  เวลา 22.15 น.(ตามเวลาท้องถิ่น)
******ข้าวแกงกะหรี่กุ้งถือว่าอร่อยใช้ได้เลยครับ********

ออกจากสนามบิน ฮาเนดะ ไปยังที่พัก ด้วย รถไฟขบวน Monorail  มาลงที่สถานีhamamatsucho  แล้วเดินทางทางตามgoogle map ไปเลยครับ

Day 1  ( 7 เมษายน 62 ) : พักที่  Hotel Mystays Premier Hamamatsucho
Day 2  ( 8 เมษายน 62)  : ตลาดปลา Tsukiji(เก่า), ตลาด Amelyoko Ueno,Chidorigafuchi 
            ออกเดินทางที่พัก  ไปสถานีDimon ขึ้นรถไฟใต้ดิน สาย Edo line เพียง 5 นาทีเดินต่อไปก็หน่อยก็ถึงตลาดปลา
ที่นี่ผู้คนก็ยังคึกคัก และ ของกินสดๆก็มีมากมายเช่นกัน
การจ่ายเงินต้องเอาบิลไปจ่ายที่แคชเชียร์ และวางเงินไว้ในถาดเลยครับ
****ข้อควรระวัง:   บางที่ร้านที่มีพนักงานหลายคนคนที่รับ order กับ คนเสิร์ฟ เป็นคนละคนกัน เราต้องตรวจสอบของที่สั่งให้ดีครับเพราะอาจจะตกหล่น
หรือได้ของไม่ครบ
กลับจากตลาดปลา เราก็ย้ายกระเป๋าไปฝากที่พักแห่งใหม่กัน  คืนนี้เราจะพักกันที่  Hotel Owl tokyo ซึ่งอยู่ใกล้ JR Nippori 
หลังจากฝากกระเป๋าเสร็จก็ ไปช้อปปิ้งที่ตลาด Amelyoko Ueno กันต่อ
ที่นี่ก็จะเต็มไปด้วยสินค้ามากมาย  ทั้งของสด ของแห้ง กระเป๋าเสื้อผ้า ตู้คีบตุ๊กตา ฯลฯ
ตอนเย็นจาก Ueno พวกเราก็เดินทางมาชมซากุระ อย่างจริงๆจังๆ เป็นที่แรก  ณ  Chidorigafuchi 
 หลังจากนั้นก็กลับที่พักกัน
Day 3 ( 9 เมษายน 62) : Edo wonderland , สถานีคินุกาว่า

เดินทางจากสถานี JR Nippori ไปลงที่สถานี Ueno  นั่งShinkansen จากสถานี Uneno ไปลงสถานี JR nikko 

(บนรถไฟเราสามารถนำอาหารขึ้นไปรับประทานได้ และยังมี free wifi และที่ชาร์จแบตมือถือให้ด้วยครับ)

พอมาถึง สถานี JR nikko ออกจากสถานีรถไฟมาให้เดินเลี้ยวไปทางซ้ายมือ  จะมีจุดรอรถบัส(ฟรี)ที่จะไป Edo Wonderland (ตัวรถจะเป็นรูปนินจาพร้อม)
ซึ่งจะมีเป็นรอบตามตาราง (ใกล้กับจุดจอด Taxi)
 
หลังจากมาถึงให้แวะดูรอบรถบัสที่หน้าEdo wonderlandก่อน เพื่อจะได้กะเวลาเที่ยวได้ถูก  (ที่นี่มีจุดล๊อคเกอร์ฝากกระเป๋าด้วยนะครับ)
ก่อนเข้าให้ซื้อตั๋วตรงทางเข้าก่อน


หลังจากได้ตั๋วเสร็จ ก็เดินเข้าไปเลยครับ
จะมีคนแต่งชุดโบราณรอรับอยู่ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกับการดื่มด่ำกับบรรยากาศสมัยเอโดะ

ที่นี่เขามีให้เช่าชุดด้วยครับ มีชุดหลากหลาย ราคาก็แตกต่างกันไปตามฐานะ 
ถ้าอยากเปลี่ยนชุดก็ให้รีบตัดสินใจนะครับ เพราะบางทีคนจะเยอะและการเปลี่ยนชุดก็ใช้เวลาค่อนข้างนาน

สำหรับ จขกท..รอบก่อนแต่งชุดซามูไรเวลาเข้าบ้านนินจายังสะดวกหน่อย
รอบนี้ลองเปลี่ยนเป็นชุดชาวบ้านยอมรับว่าเดินลำบากมากครับ
ค่อยๆเดินสโลว์ไลฟ์ไปตามถนน ขึ้นสะพานก็ลำบาก

ภายในสถานที่แห่งนี้จะถูกเซ็ตเป็นเมืองโบราณยุคเอโดะ
มีทั้งร้านค้า อาหารโบราณ  ศิลปะ การละเล่น
เยอะดีครับ

 
หลังจากเที่ยวเสร็จ กว่ารถจะมาอีกประมาณ 1ชั่วโมงก็เลยพาคณะไปเที่ยวที่ สถานีคินุกาวา
(ซึ่งเคยมาเมื่อปีก่อนตอนใบไม้เปลี่ยนสี) มาถึงก็ลงแช่เท้าที่หน้าสถานีเลย


จากนั้นก็เดินไปเที่ยวเรื่อยๆ พึ่งรู้ว่าที่นี่เขาก็มีถนนสายซากุระเหมือนกัน


มาจุดที่เคยดูใบไม้เปลี่ยนสี

ขากลับขึ้นรถไฟ มาลง ที่สถานี โทบุ-นิกโก แล้วจะไปต่อ JR เพื่อกลับ Ueno ปรากฏว่า
รอบที่กำลังจะกลับ รถไฟดีเลย์ ตอนแรกเจ้าหน้าที่แจ้งว่าประมาณชั่วโมง

พวกเราคิดว่าก็น่าจะรอกันได้ พอรอไปสักพักคนต่างชาติที่จะกลับเขาก็โวยวายกันใหญ่ เจ้าหน้าที่ก็อธิบายเป็นกลุ่มๆไป China  Korea English ตามภาษาของแต่ละชาติไป(ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่สถานีให้ความใส่ใจริงๆ)

จับใจความได้ว่าเวลาอาจจะเลื่อนออกไปอีก ได้ประสานรถไฟให้แล้ว
เพราะเฉพาะนั้นใครมีตั๋ว  JR tokyp wide pass ขอให้ไปขึ้นตั๋วที่สถานี โทบุ นิกโก้ ไปถึง Shijuku ฟรี
รถจะออกภายใน 6 นาทีได้ยินอย่างนั้น ก็สะบัดต่อไม่รอแล้วนะ วิ่งกันไปเลยครับ
ไปถึงยื่น JR Tokyo wide pass เจ้าหน้าที่ออกตั๋วให้ วิ่งไปชานชลากันอีก ขึ้นรถปุ๊บรถออกปั๊บค่อยไปตามหาที่นั่ง
จากนั้นก็หลับจนถึงปลายทางก่อนเข้าที่พัก
คืนนี้ลองเชคพยากรณ์สภาพอากาศที่GALA YUZAWA ดูพบว่าตอนเช้าจะมีฝนตก และหิมะตกตอนเย็นวันที่10และเช้าวันที่
11 เมษายน 62 แอบเสียดายเล็กน้อยว่าจะไม่เจอตอนหิมะตก เพราะไป-กลับ ภายในวันนั้น

Day 4 : (10 เมษายน 62) GALA YUZAWA , KARUIZAWA

             เดินทางจากที่พัก ไปยังสถานี JR UENO หลังจากขึ้นรถไปพอถึงสถานี Jomo koken  หิมะตกลงมาเต็มเลยครับ
 ภูเขาทั้งเขาขาวโพลนไปด้วยหิมะ ตื่นเต้น ตื่นตา มากครับ พอถึงสถานี Echico  Yuzawa หิมะหยุดตก รู้สึกเสียใจนิดหน่อยครับ
พอมาถึง สถานี GALA  YUZAWA ก็ตรงไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์เลยครับ
ที่นี่เขาก็มีแพคเกจให้เลือกหลายอย่างครับทั้ง
Gondola สกี สโนว์บอร์ด ถาดเลื่อน  ส่วนทีมของเราเลือก Gondola+รถบัส (ไป-กลับ)ไร่สตอเบอรี่
ส่วนเครื่องเล่นสกีหิมะต่างๆ เราสามารถเช่าแยกก็ได้

 ระหว่างที่เข้าแถวเพื่อจะเช่าอุปกรณ์ ฝนก็ตกลงมาเศร้าเลยครับ

คิดกันว่าจะเอาไงกันดี ก็อาจจะขึ้นGondola ไปชมวิวเฉยๆ

ต่อแถวสักพักแฟนมาบอกครับว่า หิมะตกแล้ว พวกเราก็เช่าถาดเลื่อนมา 1 อัน 1,000 เยน

(การเช่าถาดเลื่อนใช้พาสปอตประกอบ จะได้ใบเสร็จมาพื่อให้ไปรับถาดเลื่อนที่ลานข้างบน)

หลังจากขึ้น Gondola ระหว่างทางสวยมาก

หิมะโปรยปราย มองต้นไม้ ภูเขา ขาวไปหมด หยั่งกะอยู่ในนิยายเลย ความรู้สึกตอนนั้น

ดีต่อใจมากๆ พอไปถึงก็ไปรับถาดเลื่อน แล้วก็ไปเล่นเลย เราไปถึงเป็นกลุ่มที่ 2

คนไม่เยอะก็เลยเล่นกันสนุกหน่อยถาดเลื่อน1อันเล่นกันทั้งกลุ่ม

แค่ได้มาสัมผัสหิมะก็ดีใจสุดๆละครับ


สำหรับวันนี้ ลานสกีเปิดเฉพาะช่วงเช้าเพราะตอนบ่ายพายุจะเข้า
หลังจากเล่นเสร็จก็หาอะไรกินกันแถวนั้นครับ ราคาไม่แพงมีให้เลือกหลากหลาย 

ลงจากเขามาก็ขึ้นรถบัสที่จุดจอด เพื่อไปไร่สตอเบอรี่ต่อ

ที่นี่เขามีขายตามขนาดบรรจุภัณฑ์โดยที่เราสามารถเก็บเองได้

หรือ จะทานแบบบุฟเฟ่ท์ก็ได้ 1 ชั่วโมง  ถ้าเลือกอย่างหลังจะต้องรีบตัดสินใจครับ

เพราะเดี๋ยวรถบัสจะมารับเราตามรอบเวลาแล้วเราจะกินไม่ทัน

กลับจากไร่สตอเบอรี่ขึ้นรถบัสมาลงสถานี  GALA Yuzawa แล้วนั่งบัสไปต่อที่ สถานี Echigo-Yuzawa เพื่อขึ้น Shinkansen ไปลงสถานี Karuizawa  ที่นี่เราได้สัมผัสกับหิมะอีกครั้ง หิมะที่ตกในเมือง เมืองทั้งเมืองเต็มไปด้วยหิมะ  ผมกับลูกเล่นหิมะกันที่หน้า Nike shop ส่วนสาวๆก็แยกกันไปช้อปตามอัธยาศัย
เสร็จภารกิจ นั่งรถไฟกลับที่พัก