ความเดิมตอนที่แล้ว https://ppantip.com/topic/42075032

ตื่นแต่เช้า ลง Subway หน้าโรงแรม เอาบัตร Subway 24 hr. ที่กดมาเมื่อวานออกมาใช้ เมื่อเราสอดบัตรเข้าสถานี ให้รับบัตรกลับมาด้วย หลังบัตรก็จะพิมพ์เวลาที่หมดอายุเอาไว้ด้วย

อย่าทำหายเด็ดขาด ไม่งั้นต้องซื้อใหม่อย่างเดียว

สถานที่แรกที่เราจะไปคือ คลอง Meguro เหมือนเมื่อคืนเลย แต่วันนี้เราจะไปเก็บบรรยากาศในตอนกลางวันกัน

นั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่ Naka-Mekuro Station เหมือนเมื่อคืนเลยค่ะ ออกจากสถานีเดินไปทางริมคลอง แล้วเลี้ยวซ้าย ตามแผนที่ไป 

เดินประมาณ 1 กิโล แต่ระหว่างทางก็จะได้แวะถ่ายรูปคลอง Mekuro ตอนกลางวันไปด้วย

ปีนี้ซากุระบานเร็วจริงๆ มีใบออกมาแซมแล้ว แต่ก็ยังสวยอยู่

เดินถ่ายรูปไปเพลินๆก็จะถึงอีกจุดหมายหลัก คือที่นี่เลย Starbuck Reserve Roastery 

เราไปเช้า ยังไม่ต้องจองคิวค่ะ เข้าได้เลย ชมด้านในกัน

ข้างในมีทั้งหมด 4 ชั้น รายละเอียดสามารถดูได้ในเว็บไซต์ https://www.starbucksreserve.com/en-us/locations/tokyo

ที่นั่งระเบียงด้านนอกต้องจองก่อนเท่านั้นถึงจะนั่งได้ วิวแบบนี้เลย

ใครจะดื่มกาแฟให้สั่งที่ชั้น 1 ส่วนชาสั่งชั้น 2 ระหว่างต่อแถวพนักงานจะให้เราแสกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดูเมนูก่อน

 สั่งที่เค้าท์เตอร์จ่ายเงินได้ทั้งเงินสดและบัตรเครดิต ช่วงซากุระก็จะมีเมนูพิเศษเฉพาะช่วงนี้ รับของแล้วก็หาที่นั่งว่างๆด้านใน

จากนั้นเดินต่อไปที่ Onibus Coffee เดินตามแผนที่ไปเลยจ้า

เป็นคาเฟ่เล็กๆ น่ารักๆ อยู่ติดรางรถไฟ คนญี่ปุ่นเองก็มาถ่ายรูปที่นี่เยอะเหมือนกัน

สั่งนมร้อน 500 เยน แล้วขึ้นไปนั่งด้านบน ดูรถไฟผ่านไปผ่านมาอย่างใกล้ชิด

จากนั้นเดินกลับไปนั่ง Subway ต่อมาที่สถานี  Asakusa ออก Exit 3 แต่ก่อนไปวัดแวะกินเทมปุระร้านดังก่อน

ร้าน Aoi Marushin เดินเลยทางเข้าวัดไปตามแผนที่

ถึงแล้ว หน้าร้าน Aoi Marushin

เข้าไปจะเจอคุณลุง Reception ก่อนนะคะ ลุงถามชื่อและให้นั่งรอคิวก่อน ถึงคิวแล้วคุณลุงจะเรียกให้เรากดลิฟต์ขึ้นไปชั้นบน

เมนูอาหาร

เราสั่งมาคนละ Set ได้ประมาณนี้

ความอร่อยสำหรับเราว่าก็ธรรมดานะ ปกติ ยังไม่ว๊าวอ่ะ ค่าเสียหาย 6200 เยน

เดินย้อนกลับไปวัด Asakusa ซึ่งหมู่มวลมหาประชาชน พากันมารวมตัวมูเตลูอยู่ที่นี่

แวะซื้อเครื่องรางยมทูต

และแน่นอนว่า นักจ้องเที่ยวอย่างเราต้องไปร้านไอศรีมชาเขียวในตำนาน ดิฉันไปมาแล้ว แต่รอคิวนานมากกก

เลยตัดสินใจกินไอศรีมชาเขียวโมจิในวัดละกัน ราคา 670 เยน อร่อยดี

ออกจากวัด เดินย้อนกลับมาข้างหน้า เลี้ยวซ้ายกลับไปเดินจนสุดก็จะเจอริมแม่น้ำ 

ไปถ่ายรูปริมแม่น้ำ Sumida กัน

ด้วยความที่เวลายังเหลือ เราก็ไปต่อ Kumachan Café นั่งรถไฟใต้ดินไปที่สถานี Shibuya แล้วเปิด Google Map Search ว่า Kumachan Onsen เพราะด้านล่างจะเป็นคาเฟ่ ส่วนด้านบนเป็นชาบูหมีคุมะ

สั่งไอศรีมกันจ้า

ร้านเล็กๆไม่ใหญ่ หาที่นั่งตามสบาย เรานั่งในซุ้มบ้านไม้ มีผ้าปิดเป็นส่วนตัว

จากนั้นตอนเย็นเรานั่ง Subway ไปลงสถานีอูเอโนะ แล้วเดินไปที่ JR Ueno เพื่อไปรับบัตร JR Wide Pass จากตู้อัตโนมัติ แต่ไม่สำเร็จ เพราะเรากดไม่ถูก จะอธิบายให้เจ้าหน้าที่ที่ Information Center ฟังเค้าก็บอกแค่ว่าเค้าเตอร์ JR ปิดไปแล้ว ให้มาพบเจ้าหน้าที่ใหม่วันพรุ่งนี้ คือแบบไม่รู้จะทำยังไง 

เสียเวลาเป็นชั่วโมง แต่ไม่เป็นไรเราเริ่มใช้บัตรพรุ่งนี้ พรุ่งนี้ตื่นๆเช้าๆแล้วมาพบเจ้าหน้าที่ใหม่ดีกว่า (วิธีรับตั๋วจากตู้ย้อนกลับไปดู Day 1)

หลังจากนั้นเลยเดินไปกินข้าวหน้าปลาไหลเตาถ่านร้านดัง ในตลาดอะเมโยโกะ 

ชื่อร้าน Nadai Unatoto เดินตาม Google Map ไปเลย คิวยาววววว ยืนรอกันขาแข็งเลยทีเดียว

หลังจากยืนรอเกือบ1ชั่วโมงก็ถึงคิวเข้าร้านแล้ว ดูเมนูกันเลยจ้า ราคาไม่แรง

อาหารมาแล้ว ของเราสั่ง 960 เยน เพิ่มไข่อีก 110 เยน

แต่ก็อร่อยคุ้มค่าแก่การรอคอย อร่อย เกลี้ยงไม่มีเหลือ ค่าเสียหายทั้งหมด 2430 เยน

ทานอาหารเสร็จเดินเล่นในตลาด Ameyoko นิดหน่อยแล้วก็นั่ง Subway กลับที่ Naka-Okachimachi กลับโรงแรมกันจ้า