ทนายอั๋น เตรียมยื่น กกต. สอบสวน เรืองไกร เข้าข่ายแจ้งความเท็จหรือไม่
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7709581
ทนายอั๋น เตรียมเดินทางไปยื่น กกต. เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง เรืองไกร เข้าข่ายแจ้งความเท็จ แสดงหลักฐานอันเป็นเท็จหรือไม่ ปม หุ้นไอทีวี
วันที่ 12 มิ.ย.2566 นาย
ภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ “
คนรุ่นใหม่ ประชาธิปไตยบริสุทธิ์” ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
“
วันจันทร์ ที่ 12 มิถุนายน 2566 เวลาประมาณ 14.30 น. #ทนายอั๋น บุรีรัมย์ จะยื่นขอให้ กกต.สอบสวนข้อเท็จจริง กรณีคำร้องของนายเรืองไกร เข้าข่ายแจ้งความเท็จ ตาม พรป.สส.61 มาตรา 143 หรือไม่ ด้วยการแจ้ง/แสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ”
กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากนาย
เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ มีการร้องเรียน กกต. เรื่องการถือหุ้นสื่อ หรือ หุ้นไอทีวี ของนาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเตดนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล กระทั่งเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา นาย
พิธาได้มีการโอนหุ้นดังกล่าวออกไปแล้ว
ต่อมา รายการข่าว 3 มิติ ได้มีการเปิดคลิปวิดีโอการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี ซึ่งได้รับข้อมูลมาจากหนึ่งในผู้ถือหุ้นไอทีวี ที่เข้าร่วมประชุมสามัญประจำปี ผู้ถือหุ้นไอทีวี เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 เพื่อให้ตรวจสอบว่า บันทึกการประชุมที่มีการเผยแพร่เป็นเอกสาร ไม่ตรงกับการประชุมที่มีการถ่ายทอดผ่านอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีการบันทึกเป็นคลิปวิดีโอไว้
ดูใครจะติดคุกบ้าง ทนายเดชา ตอบปมคดีหุ้นไอทีวีทำหลักฐานเท็จใครรับผิดบ้าง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7709620
ให้รู้ถึงความอัปยศของอนุรักษ์นิยมเผด็จการบางคน ไปดูกันต่อว่าใครจะติดคุกบ้าง ทนายเดชา ตอบปมคดีหุ้นไอทีวีทำหลักฐานเท็จใครต้องรับผิดบ้าง?
วันที่ 12 มิ.ย.66 ทนาย
เดชา กิตติวิทยานันท์ โพสต์คลิปตอบปมร้อนแรงหลังมีคลิปประชุมหุ้นไอทีวีมีการตอบในที่ประชุมว่ายังทำสื่ออยู่หรือไม่ คำตอบที่ได้ไม่ตรงกับเอกสารหลักฐานที่มีการเผยแพร่ก่อนหน้านี้ กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากตอนนี้ว่า
โดย ทนาย
เดชา กล่าวว่า ไฟล์วิดีโอ ของ แยม ฐปณีย์ ชัดเจนว่าประธานที่ประชุมตอบคำถามผู้ถือหุ้นไอทีวีว่าไอทีวีไม่ได้ประกอบธุรกิจ เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับรายงานการประชุมบริษัทไอทีวี ขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิง รายงานการประชุมบอกประกอบธุรกิจสื่อ คำพูดประธานในที่ประชุม มีภาพพร้อมเสียง มีไฟล์วิดีโอ ประชุมผ่านอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ได้ประกอบธุรกิจสื่อแล้ว เท่ากับว่ามีการทำรายงานการประชุมอันเป็นเท็จ
คนที่เกี่ยวข้องไม่ว่าประธานที่ประชุม คนรับรองรายงานการประชุม กรรมการผู้สอบทานและแก้ไข ก็คงต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย ซึ่งมีบทลงโทษตาม พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด มาตรา 94 และมีบทลงโทษตามมาตรา 216 เกี่ยวกับการลงข้อความเท็จ หรือการไม่ลงข้อความสำคัญ ในเอกสารบริษัท จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้มีเอกสารหลุดรอดออกมาเกี่ยวกับการเลิกจ้าง ตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค.2550 ซึ่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ไอทีวี เลิกจ้างพนักงานทั้งหมด ไม่สามารถทำธุรกิจอะไรได้แล้ว เพราะสำนักนายกฯ ได้ทำการบอกเลิกสัญญาการเผยแพร่รายการโทรทัศน์ หลักฐานมัดแน่นหมดเลย
ยังมีมาตรา 215 เกี่ยวกับความรับผิดของคนที่รับผิดชอบในการดำเนินการของบริษัทมหาชน ไปดูกันต่อว่าใครจะติดคุกบ้าง รวมทั้งนักร้องที่ไปร้องเรียนเท็จ ก็ต้องโดนด้วย และโดนเพิกถอนสิทธิด้วยเหมือนกัน ตามพระราชบัญญัติประกอบและธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาตรา 143 วรรคสาม ถ้าไปแจ้งความเท็จกับ กกต. จำคุก 7 -10 ปี และโทษปรับ รวมทั้งเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง 20 ปี
“
#ช่วยกันแชร์ครับ #คดีหุ้นไอทีวีทำหลักฐานเท็จใครต้องรับผิดบ้าง เช่นกรรมการบริษัทผู้รับรองรายงานการประชุมผู้เผยแพร่รายงานการประชุมผู้ส่ง รายงานการประชุมให้กับนักร้องไปร้องเรียนเท็จกับคณะกรรมการการเลือกตั้งทุกคนล้วนเป็นทีมเดียวกันทั้งหมดดังนั้นทุกคน
คือตัวการร่วมกันกระทำความผิดต้องติดคุกกันถ้วนหน้า ทั้งประมวลกฎหมายอาญาพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พระราชบัญญัติประกอบและธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาตรา 143 วรรคสาม สอบถามข้อมูลได้ที่ 081-6161425 หรือ 02-9485700 เห็นว่าดีมีประโยชน์ช่วยกระจายข่าวไปยังพี่น้องประชาชนให้รู้ถึงความอัปยศของอนุรักษ์นิยมเผด็จการบางคนบางท่าน ที่ต้องการอยู่ในอำนาจต่อไปทำทุกอย่างเพื่อตัวเองอยู่ในอำนาจ”
ทนาย
เดชา ยังโพสต์ด้วยว่า “
ไฟล์คลิปวิดีโอ เป็นพยาน อิเล็กทรอนิกส์ และพยานวัตถุ มีความน่าเชื่อถือมากว่า รายงานการประชุม ที่เป็นพยานเอกสาร”
https://www.facebook.com/dechalaw/posts/pfbid033aZgYoP2wuVSS1fR5ffhw8ucBpiutusRX5dThM4gSuBjXsFp1NN4vVxEARBiEohGl
https://www.facebook.com/dechalaw/posts/pfbid0KaCP2hu3PDjyZoaxoYoaydPxZgoxNpkhNwQKeTETmme6NFfxjcv9aLZA32rC1tj2l
ที่แรก! เปิดใจ ‘แยม ฐปนีย์’ 7 วันทุ่มเจาะปมไอทีวี เคลียร์ประเด็น’ตัดต่อคลิป’ ยันไม่เข้าข้างใคร
https://www.matichon.co.th/heading-news/news_4024528
ที่แรก! เปิดใจ ‘แยม ฐปนีย์’ 7 วันทุ่มเจาะปมไอทีวี เคลียร์ประเด็น’ตัดต่อคลิป’ ยันไม่เข้าข้างใคร
จากกรณีที่รายการข่าว 3 มิติ ทางช่อง 3 โดย
ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าว 3 มิติ ได้ออกมาเปิดคลิปการประชุมผู้ถือ หุ้นไอทีวี ที่จัดประชุมขึ้นเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด วันที่ 12 มิถุนายน
ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ให้สัมภาษณ์ มติชนออนไลน์ ว่า หลังจากที่ ข่าวสามมิติเปิดเรื่องนี้ออกไป ปรากฏว่า มีโทรศัพท์ เข้ามา
สอบถามตนจำนวนมาก ทั้งนี้ ยืนยันว่า ข่าวทั้งหมดนั้น ไม่ได้เกิดจากความเอนเอียง หรือ เข้าข้างฝ่ายไหนทั้งสิ้น แต่เกิดจากการตั้งข้อสังเกต การสืบค้นข้อมูล และอยากจะหาความจริงของตัวเองตามสัญชาตญาณของผู้สื่อข่าวคนหนึ่งทั้งหมด
“
หลังจากที่คุณพิธา ได้ออกมาโพสต์ว่า มีความพยายามที่จะปลุกชีพ ไอทีวี แยมก็เริ่มคิดที่จะทำเรื่องนี้ทันที เพราะ แยมเองเป็นนักข่าวไอทีวีเก่า และติดตามความเคลื่อนไหวเรื่องนี้มาตลอด แต่ทำไม ไม่ได้รู้เรื่องนี้เลย โดยเริ่มเจาะข่าวนี้ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน ได้คุยกับพี่จอย หรือ จาตุรงค์ สุขเอียด บรรณาธิการข่าวสามมิติ และเริ่มเจาะข้อมูลเรื่องนี้ หาข้อมูลสืบค้นเรื่องหุ้น จากอินเตอร์เน็ต เข้าไปดูที่ตึกเอ็มไทย ทาวเวอร์ ที่ตั้งของไอทีวี ตอนนั้นจึงได้รู้ว่า ชั้น 22 เป็นที่ตั้งของ อินทัช ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของไอทีวีด้วย”
ฐปนีย์ กล่าว
ฐปนีย์ กล่าวกับมติชนออนไลน์ ด้วยว่า สำหรับคลิปที่ได้มานั้น คลิปเต็มๆมี 3 นาที ตนเอาไปลงในช่องข่าว เดอะ รีพอร์ตเตอร์ เต็มๆทั้ง 3 นาทีเลย ไม่มีการตัดออกใดๆทั้งสิ้น ส่วนที่เอามาออกในข่าวสามมิตินั้น ตัดมาประมาณ 1 นาที ซึ่งยืนยันว่า ไม่มีการตกแต่งหรือตัดต่อเพื่อให้ออกมาให้เป็นคุณแก่ใคร แต่เป็นส่วนหนึ่งจากใน 3 นาที ที่เป็นคลิปเต็มๆจริงๆ
“
ข่าวเป็นอย่างไรก็เป็นแบบนั้น แยมไม่เคยติดต่อสัมภาษณ์แม้กระทั่งคุณพิธา หรือใครๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เกิดจากการสืบค้นข้อมูลจากการตั้งคำถาม จากข้อสังเกต และข้อมูลที่มีอยู่เท่านั้นเอง”
ฐปนีย์
JJNY : ทนายอั๋นเตรียมยื่นกกต.สอบเรืองไกร│ทนายเดชา ตอบปมคดีหุ้นไอทีวี│ที่แรก! เปิดใจ ‘แยม ฐปนีย์’│ไข่ไก่แพง! พ่อค้าเผยแพง
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7709581
ทนายอั๋น เตรียมเดินทางไปยื่น กกต. เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง เรืองไกร เข้าข่ายแจ้งความเท็จ แสดงหลักฐานอันเป็นเท็จหรือไม่ ปม หุ้นไอทีวี
วันที่ 12 มิ.ย.2566 นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ “คนรุ่นใหม่ ประชาธิปไตยบริสุทธิ์” ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
“วันจันทร์ ที่ 12 มิถุนายน 2566 เวลาประมาณ 14.30 น. #ทนายอั๋น บุรีรัมย์ จะยื่นขอให้ กกต.สอบสวนข้อเท็จจริง กรณีคำร้องของนายเรืองไกร เข้าข่ายแจ้งความเท็จ ตาม พรป.สส.61 มาตรา 143 หรือไม่ ด้วยการแจ้ง/แสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ”
กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ มีการร้องเรียน กกต. เรื่องการถือหุ้นสื่อ หรือ หุ้นไอทีวี ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเตดนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล กระทั่งเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา นายพิธาได้มีการโอนหุ้นดังกล่าวออกไปแล้ว
ต่อมา รายการข่าว 3 มิติ ได้มีการเปิดคลิปวิดีโอการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี ซึ่งได้รับข้อมูลมาจากหนึ่งในผู้ถือหุ้นไอทีวี ที่เข้าร่วมประชุมสามัญประจำปี ผู้ถือหุ้นไอทีวี เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 เพื่อให้ตรวจสอบว่า บันทึกการประชุมที่มีการเผยแพร่เป็นเอกสาร ไม่ตรงกับการประชุมที่มีการถ่ายทอดผ่านอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีการบันทึกเป็นคลิปวิดีโอไว้
ดูใครจะติดคุกบ้าง ทนายเดชา ตอบปมคดีหุ้นไอทีวีทำหลักฐานเท็จใครรับผิดบ้าง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7709620
ให้รู้ถึงความอัปยศของอนุรักษ์นิยมเผด็จการบางคน ไปดูกันต่อว่าใครจะติดคุกบ้าง ทนายเดชา ตอบปมคดีหุ้นไอทีวีทำหลักฐานเท็จใครต้องรับผิดบ้าง?
วันที่ 12 มิ.ย.66 ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ โพสต์คลิปตอบปมร้อนแรงหลังมีคลิปประชุมหุ้นไอทีวีมีการตอบในที่ประชุมว่ายังทำสื่ออยู่หรือไม่ คำตอบที่ได้ไม่ตรงกับเอกสารหลักฐานที่มีการเผยแพร่ก่อนหน้านี้ กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากตอนนี้ว่า
โดย ทนายเดชา กล่าวว่า ไฟล์วิดีโอ ของ แยม ฐปณีย์ ชัดเจนว่าประธานที่ประชุมตอบคำถามผู้ถือหุ้นไอทีวีว่าไอทีวีไม่ได้ประกอบธุรกิจ เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับรายงานการประชุมบริษัทไอทีวี ขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิง รายงานการประชุมบอกประกอบธุรกิจสื่อ คำพูดประธานในที่ประชุม มีภาพพร้อมเสียง มีไฟล์วิดีโอ ประชุมผ่านอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ได้ประกอบธุรกิจสื่อแล้ว เท่ากับว่ามีการทำรายงานการประชุมอันเป็นเท็จ
คนที่เกี่ยวข้องไม่ว่าประธานที่ประชุม คนรับรองรายงานการประชุม กรรมการผู้สอบทานและแก้ไข ก็คงต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย ซึ่งมีบทลงโทษตาม พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด มาตรา 94 และมีบทลงโทษตามมาตรา 216 เกี่ยวกับการลงข้อความเท็จ หรือการไม่ลงข้อความสำคัญ ในเอกสารบริษัท จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้มีเอกสารหลุดรอดออกมาเกี่ยวกับการเลิกจ้าง ตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค.2550 ซึ่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ไอทีวี เลิกจ้างพนักงานทั้งหมด ไม่สามารถทำธุรกิจอะไรได้แล้ว เพราะสำนักนายกฯ ได้ทำการบอกเลิกสัญญาการเผยแพร่รายการโทรทัศน์ หลักฐานมัดแน่นหมดเลย
ยังมีมาตรา 215 เกี่ยวกับความรับผิดของคนที่รับผิดชอบในการดำเนินการของบริษัทมหาชน ไปดูกันต่อว่าใครจะติดคุกบ้าง รวมทั้งนักร้องที่ไปร้องเรียนเท็จ ก็ต้องโดนด้วย และโดนเพิกถอนสิทธิด้วยเหมือนกัน ตามพระราชบัญญัติประกอบและธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาตรา 143 วรรคสาม ถ้าไปแจ้งความเท็จกับ กกต. จำคุก 7 -10 ปี และโทษปรับ รวมทั้งเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง 20 ปี
“#ช่วยกันแชร์ครับ #คดีหุ้นไอทีวีทำหลักฐานเท็จใครต้องรับผิดบ้าง เช่นกรรมการบริษัทผู้รับรองรายงานการประชุมผู้เผยแพร่รายงานการประชุมผู้ส่ง รายงานการประชุมให้กับนักร้องไปร้องเรียนเท็จกับคณะกรรมการการเลือกตั้งทุกคนล้วนเป็นทีมเดียวกันทั้งหมดดังนั้นทุกคน
คือตัวการร่วมกันกระทำความผิดต้องติดคุกกันถ้วนหน้า ทั้งประมวลกฎหมายอาญาพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พระราชบัญญัติประกอบและธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาตรา 143 วรรคสาม สอบถามข้อมูลได้ที่ 081-6161425 หรือ 02-9485700 เห็นว่าดีมีประโยชน์ช่วยกระจายข่าวไปยังพี่น้องประชาชนให้รู้ถึงความอัปยศของอนุรักษ์นิยมเผด็จการบางคนบางท่าน ที่ต้องการอยู่ในอำนาจต่อไปทำทุกอย่างเพื่อตัวเองอยู่ในอำนาจ”
ทนายเดชา ยังโพสต์ด้วยว่า “ไฟล์คลิปวิดีโอ เป็นพยาน อิเล็กทรอนิกส์ และพยานวัตถุ มีความน่าเชื่อถือมากว่า รายงานการประชุม ที่เป็นพยานเอกสาร”
https://www.facebook.com/dechalaw/posts/pfbid033aZgYoP2wuVSS1fR5ffhw8ucBpiutusRX5dThM4gSuBjXsFp1NN4vVxEARBiEohGl
https://www.facebook.com/dechalaw/posts/pfbid0KaCP2hu3PDjyZoaxoYoaydPxZgoxNpkhNwQKeTETmme6NFfxjcv9aLZA32rC1tj2l
ที่แรก! เปิดใจ ‘แยม ฐปนีย์’ 7 วันทุ่มเจาะปมไอทีวี เคลียร์ประเด็น’ตัดต่อคลิป’ ยันไม่เข้าข้างใคร
https://www.matichon.co.th/heading-news/news_4024528
ที่แรก! เปิดใจ ‘แยม ฐปนีย์’ 7 วันทุ่มเจาะปมไอทีวี เคลียร์ประเด็น’ตัดต่อคลิป’ ยันไม่เข้าข้างใคร
จากกรณีที่รายการข่าว 3 มิติ ทางช่อง 3 โดย ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าว 3 มิติ ได้ออกมาเปิดคลิปการประชุมผู้ถือ หุ้นไอทีวี ที่จัดประชุมขึ้นเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด วันที่ 12 มิถุนายน ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ให้สัมภาษณ์ มติชนออนไลน์ ว่า หลังจากที่ ข่าวสามมิติเปิดเรื่องนี้ออกไป ปรากฏว่า มีโทรศัพท์ เข้ามา
สอบถามตนจำนวนมาก ทั้งนี้ ยืนยันว่า ข่าวทั้งหมดนั้น ไม่ได้เกิดจากความเอนเอียง หรือ เข้าข้างฝ่ายไหนทั้งสิ้น แต่เกิดจากการตั้งข้อสังเกต การสืบค้นข้อมูล และอยากจะหาความจริงของตัวเองตามสัญชาตญาณของผู้สื่อข่าวคนหนึ่งทั้งหมด
“หลังจากที่คุณพิธา ได้ออกมาโพสต์ว่า มีความพยายามที่จะปลุกชีพ ไอทีวี แยมก็เริ่มคิดที่จะทำเรื่องนี้ทันที เพราะ แยมเองเป็นนักข่าวไอทีวีเก่า และติดตามความเคลื่อนไหวเรื่องนี้มาตลอด แต่ทำไม ไม่ได้รู้เรื่องนี้เลย โดยเริ่มเจาะข่าวนี้ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน ได้คุยกับพี่จอย หรือ จาตุรงค์ สุขเอียด บรรณาธิการข่าวสามมิติ และเริ่มเจาะข้อมูลเรื่องนี้ หาข้อมูลสืบค้นเรื่องหุ้น จากอินเตอร์เน็ต เข้าไปดูที่ตึกเอ็มไทย ทาวเวอร์ ที่ตั้งของไอทีวี ตอนนั้นจึงได้รู้ว่า ชั้น 22 เป็นที่ตั้งของ อินทัช ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของไอทีวีด้วย” ฐปนีย์ กล่าว
ฐปนีย์ กล่าวกับมติชนออนไลน์ ด้วยว่า สำหรับคลิปที่ได้มานั้น คลิปเต็มๆมี 3 นาที ตนเอาไปลงในช่องข่าว เดอะ รีพอร์ตเตอร์ เต็มๆทั้ง 3 นาทีเลย ไม่มีการตัดออกใดๆทั้งสิ้น ส่วนที่เอามาออกในข่าวสามมิตินั้น ตัดมาประมาณ 1 นาที ซึ่งยืนยันว่า ไม่มีการตกแต่งหรือตัดต่อเพื่อให้ออกมาให้เป็นคุณแก่ใคร แต่เป็นส่วนหนึ่งจากใน 3 นาที ที่เป็นคลิปเต็มๆจริงๆ
“ข่าวเป็นอย่างไรก็เป็นแบบนั้น แยมไม่เคยติดต่อสัมภาษณ์แม้กระทั่งคุณพิธา หรือใครๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เกิดจากการสืบค้นข้อมูลจากการตั้งคำถาม จากข้อสังเกต และข้อมูลที่มีอยู่เท่านั้นเอง” ฐปนีย์