จากวีลัคมีเดีย ถึงไอทีวี กรณีศึกษาความเพี้ยนของการบังคับใช้กฎหมาย

กระทู้คำถาม
ถีบขาคู่

มันแน่นอนครับ  ว่าเป็นการใช้กฎหมายเพื่อทำลายล้างทางการเมือง
เป็นอ้างการกฎหมายเพื่อสร้างความชอบธรรม  แต่อย่างไรก็ตาม ความชอบธรรมนั้นก็ไม่เกิด
เพียงแต่เกิด "ผลทางกฎหมาย" ที่เป็นข้อบังคับให้ผู้ถูกตัดสินต้องจำเป็นต้องปฏิบัติตามและเป็นไปตามกฎหมายเท่านั้น

ไม่นับกรณียุบไทยรักไทย  จนถึง  อนาคตใหม่

วีลัคมีเดีย  ไม่ได้ทำสื่อมาสองปีแล้ว  กำลังดำเนินการปิดตัว
ไอทีวี  ไม่ได้เป็นสื่อมาเกือบยี่สิบปี

แต่ข้อเท็จจริงนี้  กลับสู้ข้อกฎหมายที่ว่า  ห้ามมีหุ้นในสื่อไม่ได้
แล้วก็ประหัตประหารทางการเมืองอย่างขัดหลักนิติรัฐไร้หลักนิติธรรม

เป็นไปได้อย่างไร  กับข้ออ้างที่ว่า  กฎหมายห้ามมีหุ้นสื่อ  เมื่อมี  ไม่ว่ากรณีใด ๆ ถือว่าผิด
มันแปลกนะ  เพราะตามหลักแล้ว  ข้อเท็จจริงย่อมสำคัญกว่ากฎหมาย  จะพิจารณาตัดสินกรณีใด ๆ ย่อมต้องอาศัยข้อเท็จจริง

ขนาดฆ่าคนตาย 
ยังต้องอาศัยข้อเท็จจริงว่า  ทำไมถึงฆ่า  เหตุเกิดอย่างไร  การฆ่านั้นมีเหตุหรือปัจจัยอะไร 
เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม  ให้ความคุ้มครองและป้องกันสิทธิเสรีภาพของบุคคลอย่างเต็มที่

แต่ในทางการเมือง 
แม้บริษัทจะกำลังปิด ไม่ได้ประกอบกิจการ  เลิกกิจการไปแล้วแต่แค่ยังไม่ได้จดเลิก  กลับบอกว่าผิดซะง่าย ๆ 

เพี้ยนเกินไป
ถีบขาคู่

.

เมื่อดูกฎหมายอาญา มาตรา 113  ที่บัญญัตไว้ว่า  

ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ
    (๑) ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ
    (๒) ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ...
ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต

กลับกลายเป็นเรื่องเล็กน้อย   ศาลรับรองการก่อกบฎว่าถูกต้อง  นิรโทษกรรม  จบ
สลิ่มรับได้  ยินดี  มองไม่เห็นความเป็นภัยต่อการปกครอง      แต่แค่หุ้นสื่อที่ไม่ได้ประกอบกิจการแล้ว  สลิ่มรับไม่ได้  ต้องรับโทษ

เพี้ยนแบบสิ้นคิด
ถีบขาคู่

.

ประเทศนี้  มีสลิ่มมากเกินไป   ทั้งในกระบวนการยุติธรรม  ทั้งในสังคมการเมือง  การศึกษา
และในบอร์ดราชดำเนินแห่งนี้
เพี้ยนฝันดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่