JJNY : ‘เพื่อไทย’เดินหน้าแก้ยาเสพติด│‘สมชัย’อธิบายชัดมติกกต.│'ทนายรัชพล'แจ้งจับ'ศรีสุวรรณ'│ภัยพิบัติแล้งปราณบุรี-หัวหิน

‘ลิณธิภรณ์’ ยัน ‘เพื่อไทย’ เดินหน้าแก้ยาเสพติด ชู 4 ข้อเน้นอุดช่องว่างกฎหมาย ยึดทรัพย์ จูงใจนำจับ ดูแลผู้เสพ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4022033
 
 
  
‘ลิณธิภรณ์’ ยัน ‘เพื่อไทย’ เดินหน้าแก้ยาเสพติด ชู 4 ข้อเน้นอุดช่องว่างกฎหมาย ยึดทรัพย์ จูงใจนำจับ ดูแลผู้เสพ
 
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการและรักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า จากรายงาน World Drug Report 2022 ของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) พบว่า 10 ปีที่ผ่านมา ผู้ใช้ยาเสพติดมีแนวโน้มอายุน้อยลง เด็กและเยาวชนใช้ยาเสพติดมากกว่าผู้ใหญ่ และใช้ในปริมาณที่มากขึ้น ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่กำลังรุนแรงทั่วโลก เช่นเดียวกับในประเทศไทยปี 2564 ที่การจับกุมทั้งยาบ้าและไอซ์ยังมากที่สุดในภูมิภาคเเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยการใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านขนยาเสพติดไปประเทศปลายทางยังเป็นสถานการณ์รุนแรงอยู่ 
 
น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวต่อว่า พรรค พท.พร้อมเดินหน้าเต็มที่ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ยังคงรุนแรง ซึ่งเป็นปัญหาที่ประชาชนเฝ้ารอให้รัฐบาลใหม่เข้ามาแก้ไข เป็นอันดับ 2 รองจากปัญหาค่าครองชีพ ย้ำว่าพท.มา ยาเสพติดต้องหมดไป ด้วย 4 วิธีการดังนี้ 1.ปราบปรามผู้ผลิตและผู้ขาย อย่างเต็มรูปแบบรวมไปถึงการยึดทรัพย์ของผู้ผลิตและผู้ขายไปโฟกัสที่ผู้ค้ารายใหญ่ ทำลายอุปสรรคทางกฎหมาย โดยพรรคพท.ได้เตรียมเสนอแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายยาเสพติดให้ครอบคลุม เพื่อให้การยึดทรัพย์ของผู้ขายยาเสพติดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ป้องกันการโอนย้ายทรัพย์สินและฟอกเงินในทุกกรณีโดยการนำเอาพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปปง.จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือกฎหมายฟอกเงิน มาใช้ควบคู่กับกฎหมายยาเสพติด เพื่อเป็นช่องทางเพิ่มรายได้ภาครัฐ
 
น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวต่อว่า 2.หลักการผู้เสพคือผู้ป่วย ยังคงเป็นหลักการสำคัญที่สุดในการแก้ไขปัญหายาเสพติด เพิ่มสถานบำบัดผู้ติดยาเสพติด นำผู้เสพมาบำบัดอย่างจริงจัง สถานบำบัดจะต้องเพียงพอ เมื่อผ่านกระบวนการบำบัดฟื้นฟูแล้ว รัฐบาลก็ควรต้องจัดหางาน ทำให้ผู้ป่วยกลายเป็นผู้สร้างโอกาส สร้างรายได้แก่ครอบครัวอย่างมั่นคง 3.เพิ่มมาตรการใช้เครือข่ายภาคประชาชนในการรายงานการระบาดของยาเสพติดในชุมชน เพราะมีความเป็นกลาง ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง ประชาสัมพันธ์ จูงใจด้วยเงินนำจับตามกฎหมาย 5% โดยมีมาตรการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส และ 4.เปิดการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดน เพื่อเข้าจัดการทำลายแหล่งผลิตยาเสพติดอย่างถาวร และเข้มงวดกวดขันการลักลอบขนยาตามแนวพรมแดนในทุกช่องทาง

น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ กรณีล่าสุดที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จับกุมเรือขนไอซ์ 900 กิโลกรัม ได้กลางทะเลอ่าวไทย ที่ อ.เสม็ด จ.ระยอง ปลายทางส่งที่ประเทศออสเตรเลีย ในขณะที่ในปีงบประมาณ 2566 จนถึงปลายเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ยังจับกุมยึดไอซ์ได้ 16,000 กิโลกรัม ซึ่งปริมาณมากกว่าปีที่แล้วทั้งปี และปลายทางคือออสเตรเลีย แสดงให้เห็นว่า แม้รัฐบาลปัจจุบันจะใช้วิธีการปราบปรามจับกุมและยึดทรัพย์ผู้กระทำความผิดยังไม่เพียงพอต่อสถานการณ์การระบาดในปัจจุบัน
 
ฉะนั้น พรรคเพื่อไทยพร้อมเดินหน้าเต็มที่ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ยังคงระบาดรุนแรง และในฐานะคณะทำงานด้านการแก้ปัญหายาเสพติด ภายใต้คณะกรรมการประสานงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาลของพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค เราจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การหารือร่วมกัน เพื่อให้การแก้ปัญหายาเสพติดเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม คืนความปลอดภัยให้สังคมและคืนอนาคตให้ลูกหลานไทย” น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าว



‘สมชัย’อธิบายชัดมติกกต.ลาก ‘พิธา’ขึ้นเขียงม.151 เข้าทางส.ว.ไม่โหวตให้เป็นนายกฯ
https://www.dailynews.co.th/news/2421838/

“สมชัย” อธิบายชัด มติ กกต. ลาก “พิธา” ขึ้นเขียง ม.151 อาวุธจัดหนักกำลังลำเลียงสู่สมรภูมิสนามรบ และไม่จบแค่ปืนต่อสู้อากาศยาน 151 แต่แพ้ชนะกลับอยู่ที่ฝ่ายเสนาธิการผู้วางแผน และกลายเป็นข้ออ้าง ส.ว. ที่ตั้งใจไม่ยกมือให้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจ

จากกรณีการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา กกต. มีมติเป็นเอกฉันท์ 6 เสียง ไม่รับคำร้องกรณีนายพิธา มีคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญในการสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. จากการถือหุ้นบริษัท ไอทีวี แต่ให้รับเรื่องไว้พิจารณาเป็นความปรากฏ โดย กกต. เห็นว่าคำร้องที่ได้ยื่นมาของทั้ง 3 คน เป็นคำร้องที่ยื่นเกินระยะเวลาจะสั่งรับคำร้องไว้พิจารณา จึงเห็นควรพิจารณาสั่งไม่รับคำร้องไว้ตามระเบียบ

อย่างไรก็ตาม กรณีคำร้องดังกล่าวมีรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและพฤติการณ์และมีหลักฐานพอสมควร และมีข้อมูลเพียงพอจะสืบสวนไต่สวนต่อไปว่านายพิธาเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และรู้อยู่แล้วว่าตัวเองไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากมีลักษณะต้องห้าม แต่กลับสมัครรับเลือกตั้ง อันเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรา 42(3) และมาตรา 151 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.
 
จึงเห็นควรพิจารณาสั่งให้ดำเนินการไต่สวนเป็นกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฏ โดยคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนที่ได้รับแต่งตั้ง จะดำเนินการไต่สวนตามขั้นตอน และระยะเวลาที่กำหนดไว้ในระเบียบต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบทลงโทษ ตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. คือ จำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นกำหนดยี่สิบปี
 
เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ได้โพสต์ข้อความระบุว่า 
 
หวยออก 151 เป็นบวกหรือลบต่อพิธา

การยกคำร้องคดีถือหุ้น แต่กลับเตรียมดำเนินคดีอาญาฐานรู้ว่าขาดคุณสมบัติแต่ยังมาสมัคร ส.ส. ของพิธา นั้น เป็นบวกหรือลบ
 
1. คดีอาญานั้น ต้องฟ้องศาลอาญา ซึ่งมีกระบวนการที่ยาวนานเป็นปี และเป็นหลักประกันความยุติธรรมว่าต้องผิดจริง จึงถูกลงโทษ ไม่สามารถเอาผิดโดยง่าย แต่โทษรุนแรงกว่า เพราะมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี และตัดสิทธิทางการเมืองถึง 20 ปี
 
2. การที่ กกต. ฟ้องดำเนินคดีอาญา แม้ยังอยู่ในขั้นกระบวนการยังไม่เสร็จสิ้น แต่ก็เป็นวัตถุดิบเพียงพอ ต่อเหล่า ส.ว. ที่ตั้งใจไม่เลือกพิธาเป็นนายกฯ ไม่ยกมือให้ โดยมีข้ออ้างแบบไม่ตะขิดตะขวงใจ

3. การยกคำร้องคดีถือหุ้นสื่อ ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่ตายสนิท มีโอกาสฟื้น โดยใช้ ส.ส.  50 คน หรือ ส.ว. 25 คน  หรือยื่นโดย กกต. เอง ในฐานะความปรากฏ หลังจากการรับรอง ส.ส. โดยใช้สิทธิตามมาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญ 

4. อาวุธหนักต่าง ๆ กำลังลำเลียงสู่สมรภูมิสนามรบ และไม่จบแค่ ปืนต่อสู้อากาศยาน 151 แต่แพ้ชนะกลับอยู่ที่ฝ่ายเสนาธิการผู้วางแผน.

https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid02Y1CZy2UmNHjFSf1uCFexbzBj79LxDHZD4gA5ghQqKFtBxWjW1zkRXmCCXZNKachCl


 
เจอดอกสอง 'ทนายรัชพล' แจ้งจับ 'ศรีสุวรรณ' แอบอ้างชื่อบุคคลอื่นตั้งสมาคม
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7707797

เจอดอกสอง ‘ทนายรัชพล’ แจ้งจับ ‘ศรีสุวรรณ’ แอบอ้างชื่อบุคคลอื่นตั้งสมาคม เรียกร้องให้ยอมรับผิด หลังร้องเรียนบุคคลคนอื่นจำนวนมาก
 
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 มิ.ย.66 ที่สน.นางเลิ้ง นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ นำเอกสารเข้าพบ พ.ต.ต.นรินทร์ เฟื่องศรี สว.(สอบสวน)  สน.นางเลิ้ง เพื่อให้ตรวจสอบ นายศรีสุวรรณ จรรยา กรณีถูกอธิบดีกรมการปกครอง เพิกถอนการจัดตั้งสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยว่า เข้าข่ายในข้อหาความผิดเกี่ยวกับข้อหาปลอมแปลงเอกสาร ตามมาตรา 264 และการแจ้งความเท็จ มาตรา 137 หรือไม่
 
ทนายรัชพล เปิดเผยว่า สมาคมดังกล่าว ที่ผ่านมามีเพียงนายศรีสุวรรณออกมาเคลื่อนไหวอยู่เพียงคนเดียว โดยไม่มีคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงไม่ทราบว่ามีการนำรายชื่อบุคคลใด ที่ไม่รู้เรื่องไปแอบอ้าง เพื่อขอยื่นจดทำเบียนจัดตั้งเป็นสมาคมฯ ต่อกรมการปกครอง ดังนั้นมองว่าอาจจะมีการปลอมแปลงเอกสาร หรือลงลายมือชื่อปลอม รวมทั้งอาจเป็นการปลอมแปลงเอกสารทั้งฉบับและยังมีการนำเอกสารดังกล่าวมายื่นต่อเจ้าพนักงานกรมการปกครองจึงถือว่า เป็นการแจ้งความเท็จ โดยข้อหาแจ้งความเท็จมีอัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 6 เดือนหรือ ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
 
ส่วนข้อหาปลอมแปลงเอกสาร อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ วันนี้จึงนำเอกสาร ประกาศคำสั่งของกรมการปกครองพร้อมด้วยเอกสารแนบ มายื่นต่อพ.ต.อ.รัฐธนนท์ เอกฐิติกุลพัทธ์ ผกก.สน.นางเลิ้ง เพื่อให้มีการตรวจสอบว่า นายศรีสุวรรณเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือเข้าข่ายกับการกระทำความผิด โดยจะให้ตำรวจสืบสวนสอบสวน เกี่ยวกับพฤติกรรมและความผิดที่เคยเกิดขึ้นทั้งหมด รวมทั้งขอให้มีการเชิญตัวนายศรีสุวรรณ มาให้ปากคำ กับพนักงานสอบสวน ในฐานะผู้เคลื่อนไหวด้วย
 
ทั้งนี้ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ มีพฤติกรรมยื่นร้องเรียน ตรวจสอบองค์กร หรือบุคคลเป็นจำนวนมากนั้นไม่มีผลผูกพัน กับกรณีที่สมาคมฯ ของนายศรีสุวรรณ ถูกเพิกถอน เพราะการตรวจสอบหากพบการกระทำความผิด ก็ว่ากันไปตามกระบวนการของกฎหมาย แต่อยากทราบเหตุผลว่ากรณีที่สมาคมของนายศรีสุวรรณ ถูกเพิกถอนในครั้งนี้ กลับไม่ออกมาชี้แจง ถึงที่มาที่ไปและเหตุผล ในการถูกเพิกถอน ซึ่งหากผิดจริงก็ขอให้ออกมายอมรับผิดของการกระทำในครั้งนี้
 
อย่างไรก็ตามทนายรัชพล ยังฝากถึงประชาชนพลเมืองดีที่มีหลักฐาน หรือพบเห็นการกระทำของนายศรีสุวรรณที่เชื่อว่า เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ทั่วประเทศ โดยผู้แจ้งไม่มีความผิด
 
ทนายรัชพล ย้ำว่าการมาร้องเรียนครั้งนี้ ไม่ได้รับการว่าจ้างหรือโกรธแค้นส่วนตัว เพราะที่ผ่านมา ไม่เคยมีเรื่องบาดหมาง แต่มองว่าการกระทำดังกล่าวของนายศรีสุวรรณ ไม่ถูกต้องถึงแม้ตนเองจะไม่มาแจ้งความกรมการปกครอง ในฐานะผู้เสียหาย ก็จะต้องแจ้งความดำเนินคดีอย่างแน่นอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่