สมศาลาริมน้ำ16 จบจริง
เกสรบอกว่าเธอไม่เคยเห็นหน้าค่าตาสตรีนางนั้นมาก่อนก็จริง แต่ในยามนั้นตัวหล่อนก็เหมือนคนกำลังจมน้ำ คว้าอะไรได้ก็เกาะเอาไว้ก่อน อีกอย่างหญิงสาวอยู่ในสภาวะหวาดกลัวจนคิดอ่านอะไรไม่ออก
เธอรีบพุ่งตัวไปหลบข้างหลังผู้หญิงคนนั้น ถึงแม้ไม่ได้เชื่อสนิทใจว่าหล่อนจะมีวิธีทำให้รอดพ้นภัยได้อย่างไร แต่ก็ปลงใจแล้วว่าอย่างเลวร้ายที่สุดก็คือถูกจับตัวร่วมชะตากรรมกับสตรีแปลกหน้าทั้งคู่หลังจากนั้นจะเป็นอย่างไรก็สุดแต่ชะตากรรม
ปรากฎว่าชายฉกรรจ์ราวๆหกคนที่วิ่งตามมา ถลันผ่านจุดที่เกสรยืนตัวสั่นระริกอยู่ไปอย่างไม่เหลียวมอง มีเสียงชายคนหนึ่งที่ฟังดูแล้าน่าจะเป็นผู้นำ ร้องเอะอะสั่งการด้วยน้ำเสียงที่มีความตระหนกไม่น้อย แต่ดูจากท่าทีแล้ว กลุ่มคนที่มีเจตนาคร่ากุมตัวหล่อนด้วยจุดประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ได้สำเหนียกเลยว่าเป้าหมายยืนอยู่ตรงนี้
หลังจากการค้นหาอย่างอุตลุดผ่านไปชั่วหม้อข้าวเดือด บุคคลที่เห็นชัดเจนว่าเป็นหัวโจกมีอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยงอย่างหนัก ระคนกับความหวาดหวั่นถึงผลที่จะตามมา
“ฉิบ… คืนนี้ กูล่ออีนางเกสรเป็นเมียไม่สำเร็จ พี่ชายมันที่เป็นตำรวจเอากูตายห่าแน่ อย่างน้อยถ้ากูได้เป็นผัวน้องสาวมันก็ยังพอคุยกันได้“
บรรดาลูกน้องมีท่าทีเลิ่กลั่กไปตามๆกัน ทุกคนกวาดสายตาไปทุกหนทุกแห่งเท่าที่จะทำได้ เกสรสาบานได้ว่ามีสามถึงสี่ครั้งที่พวกมันหันมาในทิศทางที่หล่อนกับสตรีผู้เป็นปริศนาผู้นั้นยืนอยู่ หากแต่ดวงตาทุกคู่มองทะลุผ่านไป ราวกับร่างของหล่อนโปร่งใสไม่สะท้อนแสง
เกสรใจหายใจคว่ำทุกครั้งที่เหล่าวายร้ายมองมา แต่ท่าทางที่พวกมันเหมือนดูต้นไม้ก้อนหินที่อยู่ข้างหลังเสียมากกว่า ทำให้หล่อนเกิดศรัทธาขึ้นมาทันที สตรีนางนั้นเสมือนว่ารู้ เธอเบือนหน้าให้เห็นครึ่งเสี้ยวก่อนส่ายน้อยๆ เป็นเชิงว่าอย่าส่งเสียง
ในที่สุดกลุ่มคนเหล่านั้นก็จำใจต้องไป เพราะอยู่ๆหญิงสาวก็หายไปต่อหน้าต่อตา อยู่ต่อไปก็ค้นหาไม่เจอแถมเลยเวลาที่เกสรควรจะกลับถึงบ้านอีก ทางครอบครัวที่เป็นผู้มีอิทธิพลทางท้องถิ่นต้องพลิกแผ่นดินสวนออกตามหาแน่นอน
เมื่อเหล่าผู้ประสงค์ร้ายจากไป สตรีผู้ลึกลับนางนั้นก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นจับจิต แต่พอฟังออกว่าเธอมีเจตนาดี
“เกสร เธอจะไปเส้นทางกลับบ้านไม่ได้แล้ว เพราะพวกคนที่ดักฉุดเธอจะไปดักซุ่มอยู่แถวนั้น เธอจะไปทางบ้านคนรักเธอก็ไม่ได้อีกเช่นกัน เพราะมีพวกมันแยกไปดักเธอไว้อีกทาง แต่อย่าห่วงไปเลยเธอจงไปหลบที่ศาลาริมน้ำประจำหมู่บ้าน อยู่ที่นั่นเธอจะปลอดภัยทุกประการ ฉันรับรอง”
ศาลาริมน้ำ3 (จบบริบูรณ์) โดย Furryjit
เกสรบอกว่าเธอไม่เคยเห็นหน้าค่าตาสตรีนางนั้นมาก่อนก็จริง แต่ในยามนั้นตัวหล่อนก็เหมือนคนกำลังจมน้ำ คว้าอะไรได้ก็เกาะเอาไว้ก่อน อีกอย่างหญิงสาวอยู่ในสภาวะหวาดกลัวจนคิดอ่านอะไรไม่ออก
เธอรีบพุ่งตัวไปหลบข้างหลังผู้หญิงคนนั้น ถึงแม้ไม่ได้เชื่อสนิทใจว่าหล่อนจะมีวิธีทำให้รอดพ้นภัยได้อย่างไร แต่ก็ปลงใจแล้วว่าอย่างเลวร้ายที่สุดก็คือถูกจับตัวร่วมชะตากรรมกับสตรีแปลกหน้าทั้งคู่หลังจากนั้นจะเป็นอย่างไรก็สุดแต่ชะตากรรม
ปรากฎว่าชายฉกรรจ์ราวๆหกคนที่วิ่งตามมา ถลันผ่านจุดที่เกสรยืนตัวสั่นระริกอยู่ไปอย่างไม่เหลียวมอง มีเสียงชายคนหนึ่งที่ฟังดูแล้าน่าจะเป็นผู้นำ ร้องเอะอะสั่งการด้วยน้ำเสียงที่มีความตระหนกไม่น้อย แต่ดูจากท่าทีแล้ว กลุ่มคนที่มีเจตนาคร่ากุมตัวหล่อนด้วยจุดประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ได้สำเหนียกเลยว่าเป้าหมายยืนอยู่ตรงนี้
หลังจากการค้นหาอย่างอุตลุดผ่านไปชั่วหม้อข้าวเดือด บุคคลที่เห็นชัดเจนว่าเป็นหัวโจกมีอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยงอย่างหนัก ระคนกับความหวาดหวั่นถึงผลที่จะตามมา
“ฉิบ… คืนนี้ กูล่ออีนางเกสรเป็นเมียไม่สำเร็จ พี่ชายมันที่เป็นตำรวจเอากูตายห่าแน่ อย่างน้อยถ้ากูได้เป็นผัวน้องสาวมันก็ยังพอคุยกันได้“
บรรดาลูกน้องมีท่าทีเลิ่กลั่กไปตามๆกัน ทุกคนกวาดสายตาไปทุกหนทุกแห่งเท่าที่จะทำได้ เกสรสาบานได้ว่ามีสามถึงสี่ครั้งที่พวกมันหันมาในทิศทางที่หล่อนกับสตรีผู้เป็นปริศนาผู้นั้นยืนอยู่ หากแต่ดวงตาทุกคู่มองทะลุผ่านไป ราวกับร่างของหล่อนโปร่งใสไม่สะท้อนแสง
เกสรใจหายใจคว่ำทุกครั้งที่เหล่าวายร้ายมองมา แต่ท่าทางที่พวกมันเหมือนดูต้นไม้ก้อนหินที่อยู่ข้างหลังเสียมากกว่า ทำให้หล่อนเกิดศรัทธาขึ้นมาทันที สตรีนางนั้นเสมือนว่ารู้ เธอเบือนหน้าให้เห็นครึ่งเสี้ยวก่อนส่ายน้อยๆ เป็นเชิงว่าอย่าส่งเสียง
ในที่สุดกลุ่มคนเหล่านั้นก็จำใจต้องไป เพราะอยู่ๆหญิงสาวก็หายไปต่อหน้าต่อตา อยู่ต่อไปก็ค้นหาไม่เจอแถมเลยเวลาที่เกสรควรจะกลับถึงบ้านอีก ทางครอบครัวที่เป็นผู้มีอิทธิพลทางท้องถิ่นต้องพลิกแผ่นดินสวนออกตามหาแน่นอน
เมื่อเหล่าผู้ประสงค์ร้ายจากไป สตรีผู้ลึกลับนางนั้นก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นจับจิต แต่พอฟังออกว่าเธอมีเจตนาดี
“เกสร เธอจะไปเส้นทางกลับบ้านไม่ได้แล้ว เพราะพวกคนที่ดักฉุดเธอจะไปดักซุ่มอยู่แถวนั้น เธอจะไปทางบ้านคนรักเธอก็ไม่ได้อีกเช่นกัน เพราะมีพวกมันแยกไปดักเธอไว้อีกทาง แต่อย่าห่วงไปเลยเธอจงไปหลบที่ศาลาริมน้ำประจำหมู่บ้าน อยู่ที่นั่นเธอจะปลอดภัยทุกประการ ฉันรับรอง”