สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
เท่าที่เคยทำงานที่อเมริกาเหมือนกันนะคะ
- น้อยมากนะที่เขาจะสร้างความสัมพันธ์นอกเวลางาน กลางวันก็เอาสลัดมากินกันที่โต๊ะตัวเอง น้อยคนมากจะออกไปนั่งกินด้วยกันเป็นกลุ่ม เพราะเขาถือว่าเขามาทำงานแล้วก็ไป อยู่ออฟฟิศก็ไม่ค่อยเม้าท์มอยกัน เพราะฉะนั้นอย่าไปใส่ใจถ้าเขาไม่มาคุยกับเราหรือใส่ใจความเป็นอยู่ของเรา อยากได้อะไรต้องพูดตรงๆ
- มีเหมือนกันคนที่จริงใจ แต่หลายคนคือคุยเมื่อต้องขอความร่วมมือจากเรา พอหมดเรื่องแล้วบางทีทำเหมือนเราเป็นอากาศธาตุ ยกเว้นบริษัทเล็กๆ ที่อยู่กันแบบครอบครัว เจอกันตามโถงทางเดินก็จะมีทักทาย หรือถ้าคุณเป็นระดับบิ๊กในองค์กร แนะนำว่าให้เริ่มจากคุยกับพวกต่างชาติเหมือนกัน เขาจะเข้าใจหัวอกและเป็นมิตรกว่า (ส่วนใหญ่ที่เจอนะ)
- บางทีถ้าภาษาเราไม่ดี สื่อสารไม่ออก เขาก็อาจตีความเป็นว่าเราพูดไม่รู้เรื่องหรือโง่... คนแบบนี้มีบ้าง แต่ถือว่าเป็นพวกที่ไม่ professional
- กิจกรรมนอกงาน คนที่นั่นเขาค่อนข้างเปิดกับการไปทำกิจกรรมร่วมกับคนแปลกหน้านะ อย่างดิฉันก็เคยไปเข้าคลาสทำอาหารฝรั่ง คลาสจัดดอกไม้ ไปเดินป่าระยะสั้นแบบหนึ่งวัน เจอแต่คนแปลกหน้า เจอหลายครั้งก็สนิทคุยกันโปกฮา ถ่ายรูปกันราวเพื่อนสนิท แต่... ไม่เคยใช้ชีวิตนอกคลาสร่วมกัน ไม่มีเบอร์ติดต่อส่วนตัว แนะนำว่าให้ลองหากิจกรรมทำดูค่ะ เช่นดูในเว็บ Meetup เลือกดูว่ามีกิจกรรมอะไรที่ใกล้บ้าน คือพวกนี้เขาก็ไปกันคนเดียวหรือสองคน เพราะฉะนั้น เราไปยิ้มๆ พูดด้วยไม่กี่ประโยคก็โอเคค่ะ คุยเล็กน้อยสัพเพเหระ น้ำลายจะได้ไม่บูด
- ถ้าช่วงวีคเอนด์แนะนำให้ถือโอกาสไปเที่ยวค่ะ ไปต่างเมืองดู ถ้าไม่มีรถก็อาจเช่าแค่หนึ่งวัน ราคาไม่แพงนัก หรือถ้าอยู่เมืองใหญ่มีพวกทัวร์หนึ่งวันก็ทำดู
เพิ่งไปได้เดือนกว่า ยังมีหลายอย่างไม่คุ้นชิน อย่าเพิ่งท้อค่ะ และอย่าเพิ่งเอามาใส่ใจไปคิดจนเครียดว่าคนเขาไม่อยากคบเรา สักพักจะดีขึ้นค่ะ ถ้าเพื่อนร่วมงานไม่มายุ่งกับเราก็คือปกติของคนที่นู่นค่ะ หาอย่างอื่นทำของเราเองคลายเครียด เผื่อจะได้เจอเพื่อนใหม่บ้าง
- น้อยมากนะที่เขาจะสร้างความสัมพันธ์นอกเวลางาน กลางวันก็เอาสลัดมากินกันที่โต๊ะตัวเอง น้อยคนมากจะออกไปนั่งกินด้วยกันเป็นกลุ่ม เพราะเขาถือว่าเขามาทำงานแล้วก็ไป อยู่ออฟฟิศก็ไม่ค่อยเม้าท์มอยกัน เพราะฉะนั้นอย่าไปใส่ใจถ้าเขาไม่มาคุยกับเราหรือใส่ใจความเป็นอยู่ของเรา อยากได้อะไรต้องพูดตรงๆ
- มีเหมือนกันคนที่จริงใจ แต่หลายคนคือคุยเมื่อต้องขอความร่วมมือจากเรา พอหมดเรื่องแล้วบางทีทำเหมือนเราเป็นอากาศธาตุ ยกเว้นบริษัทเล็กๆ ที่อยู่กันแบบครอบครัว เจอกันตามโถงทางเดินก็จะมีทักทาย หรือถ้าคุณเป็นระดับบิ๊กในองค์กร แนะนำว่าให้เริ่มจากคุยกับพวกต่างชาติเหมือนกัน เขาจะเข้าใจหัวอกและเป็นมิตรกว่า (ส่วนใหญ่ที่เจอนะ)
- บางทีถ้าภาษาเราไม่ดี สื่อสารไม่ออก เขาก็อาจตีความเป็นว่าเราพูดไม่รู้เรื่องหรือโง่... คนแบบนี้มีบ้าง แต่ถือว่าเป็นพวกที่ไม่ professional
- กิจกรรมนอกงาน คนที่นั่นเขาค่อนข้างเปิดกับการไปทำกิจกรรมร่วมกับคนแปลกหน้านะ อย่างดิฉันก็เคยไปเข้าคลาสทำอาหารฝรั่ง คลาสจัดดอกไม้ ไปเดินป่าระยะสั้นแบบหนึ่งวัน เจอแต่คนแปลกหน้า เจอหลายครั้งก็สนิทคุยกันโปกฮา ถ่ายรูปกันราวเพื่อนสนิท แต่... ไม่เคยใช้ชีวิตนอกคลาสร่วมกัน ไม่มีเบอร์ติดต่อส่วนตัว แนะนำว่าให้ลองหากิจกรรมทำดูค่ะ เช่นดูในเว็บ Meetup เลือกดูว่ามีกิจกรรมอะไรที่ใกล้บ้าน คือพวกนี้เขาก็ไปกันคนเดียวหรือสองคน เพราะฉะนั้น เราไปยิ้มๆ พูดด้วยไม่กี่ประโยคก็โอเคค่ะ คุยเล็กน้อยสัพเพเหระ น้ำลายจะได้ไม่บูด
- ถ้าช่วงวีคเอนด์แนะนำให้ถือโอกาสไปเที่ยวค่ะ ไปต่างเมืองดู ถ้าไม่มีรถก็อาจเช่าแค่หนึ่งวัน ราคาไม่แพงนัก หรือถ้าอยู่เมืองใหญ่มีพวกทัวร์หนึ่งวันก็ทำดู
เพิ่งไปได้เดือนกว่า ยังมีหลายอย่างไม่คุ้นชิน อย่าเพิ่งท้อค่ะ และอย่าเพิ่งเอามาใส่ใจไปคิดจนเครียดว่าคนเขาไม่อยากคบเรา สักพักจะดีขึ้นค่ะ ถ้าเพื่อนร่วมงานไม่มายุ่งกับเราก็คือปกติของคนที่นู่นค่ะ หาอย่างอื่นทำของเราเองคลายเครียด เผื่อจะได้เจอเพื่อนใหม่บ้าง
แสดงความคิดเห็น
ทำงานอยู่ต่างประเทศ เครียดและเหนื่อยมากๆ
ไหนจะเรื่องวัฒนธรรมบางอย่างของเค้าที่เราไม่ค่อยเข้าใจ เพื่อนร่วมงานก็ไม่ค่อยเปิดใจยอมรับ เหมือนเค้าจะเหยียดเราด้วยซ้ำ
ทำงานไม่มีความสุขเลย ปรึกษาเรื่องงานกันใครก็ไม่ได้ เคยระบายให้ครอบครัวฟัง เค้าก็ได้แต่ให้กำลังใจ ตอนนี้เครียดและกดดันมาก
เพราะเจอปัญหาสะสมทุกวัน ผมกลัวว่าตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้าเสียก่อน อยากจะปรึกษาจิตแพทย์ที่นี่ ก็ไม่เก่งเรื่องภาษาอีก ไม่รู้จะปรึกษาใครดี
เลยอยากให้เพื่อนๆที่เคยเจอปัญหาแบบเดียวกันกับผม แล้วค้นพบทางออก ช่วยชี้แนะให้หน่อยครับ