เคอิจิ โมริ รองกรรมการผู้จัดการ และกรรมการ บริษัท เค ดี ดี ไอ คอร์เปอร์เรชัน กล่าวว่า เทเลเฮ้าส์ (Telehouse) ในเครือเคดีดีไอได้เปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยตั้งอยู่ที่ถนนพระราม 9 กรุงเทพมหานคร ครั้งนี้ใช้งบการลงทุนไปกว่า 74 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 2.5 พันล้านบาท
ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งนี้ มีพื้นที่อาคาร 9,000 ตร.ม. ทิศทางธุรกิจมุ่งที่จะเป็นศูนย์รวมในการเชื่อมต่อภายในภูมิภาคและทั่วโลก และยังเป็นดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกในประเทศไทยที่ใช้พลังงานหมุนเวียน 100%
“เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดใหม่ที่เรามุ่งขยายธุรกิจออกมา การเข้ามาอย่างเป็นทางการในไทยครั้งนี้นับเป็นแห่งที่ 3 ในภูมิภาคหวังว่าจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตให้กับธุรกิจและดิจิทัลในประเทศไทย”
เทเลเฮ้าส์ เป็นผู้นำการให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ชั้นนำระดับโลก มีสาขามากกว่า 45 แห่ง ใน 10 กว่าประเทศทั่วโลก พร้อมด้วยพันธมิตรทางธุรกิจมากกว่า 3,000 ราย ซึ่งรวมถึงผู้ให้บริการโทรคมนาคม ผู้ให้บริการมือถือ และคอนเทนต์ องค์กรต่างๆ และบริษัทที่ให้บริการทางการเงิน
จุดต่างธุรกิจมาพร้อมการให้บริการโคโลเคชั่นที่น่าเชื่อถือและยืดหยุ่น ช่วยให้องค์กรสามารถทำการตลาดและสร้างโอกาสทางธุรกิจได้เร็วมากขึ้น ผ่านการเชื่อมต่อระหว่างกันที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย
มากกว่านั้น โดดเด่นด้วยทำเลที่ตั้งใจกลางกรุง ใกล้ย่านธุรกิจ สนามบิน บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เดินทางได้สะดวก ด้านความกังวลสถานการณ์น้ำท่วมมีการศึกษาและออกแบบจนมั่นใจว่าไม่มีความเสี่ยงในส่วนนี้
วางประเทศไทยฮับ ‘CLMV’
เคน มิยาชิตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทเลเฮ้าส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า ไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพ เห็นได้จากการเติบโตของการใช้งานโมบายอินเทอร์เน็ต บริการบนดิจิทัล โดยเฉพาะการรับชมวีดิโอออนไลน์
ข้อมูลระบุว่า ประเทศไทยครองอันดับ 1 ของโลกด้านการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง อันดับ 2 โมบายเพย์เมนท์ ทั้งนิยมเล่นเกมออนไลน์ และมีการใช้โมบายบรอดแบนด์ในประมาณที่สูงมากด้วยสัดส่วนกว่า 98.7% ของการใช้งานดาต้า
อีกทางหนึ่งมีปัจจัยบวกจากที่ภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนหลายมิติ เช่นไทยแลนด์ 4.0 รวมถึงนโยบายส่งเสริมการลงทุนต่างๆ สำหรับบริษัทข้ามชาติ ต่างจากประเทศสิงคโปร์ที่ขณะนี้ภาครัฐเริ่มมีข้อจำกัดในการเข้าไปลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ ดังนั้นโอกาสการเติบโตจะมาอยู่ที่ไทยมากขึ้น
นอกจากนี้ ไทยมีข้อได้เปรียบเชิงภูมิศาสตร์ สามารถเป็นศูนย์กลางการทำตลาดในภูมิภาคอินโดจีนและใกล้เคียง ประเทศเมียนมา กัมพูชา ลาว และเวียดนาม (CLMV) ซึ่งมีประชากรรวมกว่า 245 ล้านคน
https://www.bangkokbiznews.com/tech/gadget/1069225?fbclid=IwAR0spU_-YEbAOwDeEBthh3Oq-GoxjvNiCTJA6SEQiHmIu4I4-yztOoK1Gbs
@@@ Telehouse เปิด data center ในไทย @@@
ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งนี้ มีพื้นที่อาคาร 9,000 ตร.ม. ทิศทางธุรกิจมุ่งที่จะเป็นศูนย์รวมในการเชื่อมต่อภายในภูมิภาคและทั่วโลก และยังเป็นดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกในประเทศไทยที่ใช้พลังงานหมุนเวียน 100%
“เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดใหม่ที่เรามุ่งขยายธุรกิจออกมา การเข้ามาอย่างเป็นทางการในไทยครั้งนี้นับเป็นแห่งที่ 3 ในภูมิภาคหวังว่าจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตให้กับธุรกิจและดิจิทัลในประเทศไทย”
เทเลเฮ้าส์ เป็นผู้นำการให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ชั้นนำระดับโลก มีสาขามากกว่า 45 แห่ง ใน 10 กว่าประเทศทั่วโลก พร้อมด้วยพันธมิตรทางธุรกิจมากกว่า 3,000 ราย ซึ่งรวมถึงผู้ให้บริการโทรคมนาคม ผู้ให้บริการมือถือ และคอนเทนต์ องค์กรต่างๆ และบริษัทที่ให้บริการทางการเงิน
จุดต่างธุรกิจมาพร้อมการให้บริการโคโลเคชั่นที่น่าเชื่อถือและยืดหยุ่น ช่วยให้องค์กรสามารถทำการตลาดและสร้างโอกาสทางธุรกิจได้เร็วมากขึ้น ผ่านการเชื่อมต่อระหว่างกันที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย
มากกว่านั้น โดดเด่นด้วยทำเลที่ตั้งใจกลางกรุง ใกล้ย่านธุรกิจ สนามบิน บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เดินทางได้สะดวก ด้านความกังวลสถานการณ์น้ำท่วมมีการศึกษาและออกแบบจนมั่นใจว่าไม่มีความเสี่ยงในส่วนนี้
วางประเทศไทยฮับ ‘CLMV’
เคน มิยาชิตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทเลเฮ้าส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า ไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพ เห็นได้จากการเติบโตของการใช้งานโมบายอินเทอร์เน็ต บริการบนดิจิทัล โดยเฉพาะการรับชมวีดิโอออนไลน์
ข้อมูลระบุว่า ประเทศไทยครองอันดับ 1 ของโลกด้านการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง อันดับ 2 โมบายเพย์เมนท์ ทั้งนิยมเล่นเกมออนไลน์ และมีการใช้โมบายบรอดแบนด์ในประมาณที่สูงมากด้วยสัดส่วนกว่า 98.7% ของการใช้งานดาต้า
อีกทางหนึ่งมีปัจจัยบวกจากที่ภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนหลายมิติ เช่นไทยแลนด์ 4.0 รวมถึงนโยบายส่งเสริมการลงทุนต่างๆ สำหรับบริษัทข้ามชาติ ต่างจากประเทศสิงคโปร์ที่ขณะนี้ภาครัฐเริ่มมีข้อจำกัดในการเข้าไปลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ ดังนั้นโอกาสการเติบโตจะมาอยู่ที่ไทยมากขึ้น
นอกจากนี้ ไทยมีข้อได้เปรียบเชิงภูมิศาสตร์ สามารถเป็นศูนย์กลางการทำตลาดในภูมิภาคอินโดจีนและใกล้เคียง ประเทศเมียนมา กัมพูชา ลาว และเวียดนาม (CLMV) ซึ่งมีประชากรรวมกว่า 245 ล้านคน
https://www.bangkokbiznews.com/tech/gadget/1069225?fbclid=IwAR0spU_-YEbAOwDeEBthh3Oq-GoxjvNiCTJA6SEQiHmIu4I4-yztOoK1Gbs